เมื่อวันเสาร์ที่ 6 กันยายน ดิฉันไปเดินซื้อของที่ตลาดวังหลังซึ่งอยู่บริเวณแถวๆ ท่าน้ำพรานนกถนนศิริราชกับถนนอรุณอัมรินทร์ ดิฉันเดินตั้งแต่ท่าน้ำไปจนทะลุถึงปากซอยถนนอรุณอัมรินท์ ซอย 22 ที่มีวินมอเตอร์ไซค์ ดิฉันมองไปที่ฟุตปาธตรงข้ามวินฯ เห็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ (ฝรั่งสาว) นั่งอยู่คนเดียวบนพื้นฟุตปาธด้วยสีหน้าเคร่งเครียดกระสับกระส่ายและกังวลพร้อมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูสลับกัน
ดิฉันเดินผ่านเธอขึ้นไปทาง รพ ศิริราชแล้วเดินย้อนกลับไปตรงที่เธอนั่งอีกครั้งเพื่อจะถามว่าเธอมีอะไรให้ช่วยหรือเปล่า แต่พอเดินกลับมาถึงจุดที่เธอนั่งได้เห็นเธอลุกขึ้นยืนพร้อมกับได้ยินเสียงจากวินฯ เฮ้ เฮ้ ยู ยู ในใจดิฉันนึกตำหนิเหล่าวินฯ ว่าจะแซวอะไรเธอหรืออะไร แต่กลับกลายเป็นว่าพี่วินฯ คนหนึ่งยกเก้าอี้ที่เขานั่งให้เธอนั่ง (ขอโทษตรงนี้ด้วยที่มีอคติ)
ดิฉันเลยเดินเข้าไปถามเธอว่า
เกิดอะไรขึ้นเหรอ
หลงทางหรือเปล่า
หิวน้ำไหม (เยื้องปากซอยมีเซเว่นกะว่าจะเดินไปซื้อให้)
เธอตอบกลับมาว่า เพื่อนชายของเธอเดินไปหาห้องน้ำแต่เขาหายไปนานมากจนเธอกังวลเพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น (ถ้าไม่ใช่คนคุ้นเคยแถวนั้นจะไม่รู้ว่าห้องน้ำสาธารณะอยู่ตรงไหนเพราะมันอยู่ข้างในค่อนไปทางท่าเรือ นอกจากจะเดินเข้าไปในศิริราชซึ่งก็ไม่รู้ว่าต่างชาติจะรู้หรือเปล่า)
ดิฉันก็เลยถามต่อว่า ต้องการให้ช่วยอะไรไหม
เธอบอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวเธอจะนั่งคอยอยู่ตรงนี้ต่อไป
ดิฉันถามจนแน่ใจว่าเธอไม่ต้องการความช่วยเหลือและอยู่ตรงนั้นได้จริงๆ แล้วก็เดินออกมา จากนั้นอีกพักใหญ่ๆ ดิฉันเดินย้อนกลับไปดูเธออีกครั้งก็ไม่เห็นเธอแล้วเข้าใจว่าเพื่อนชายของเธอคงกลับไปหาเธอแล้ว
ที่เขียนมานี้เพราะนึกผิดอยู่ในใจถึงอคติที่เคยมีต่อพี่วินฯ ทั้งหลาย แต่พอได้เจอเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้คิดได้ว่าหลายๆ คนก็คงไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดทุกๆ ที่มีคนดีมีน้ำใจอยู่เสมอแม้ว่าเขาเหล่านั้นจะไม่สามารถใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารถามไถ่ได้ แต่เขาก็สังเกตได้จากอาการและสีหน้าของนักท่องเที่ยวคนนั้นว่าคงต้องการความช่วยเหลือ และสิ่งที่เขาช่วยได้คือลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วหยิบยื่นเก้าอี้ตัวนั้นให้เธอนั่งเพื่อให้เธอสบายตัวขี้นแม้จะไม่สามารถรู้ว่าเธอนั่งคอยอะไรก็ตาม
แม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยแต่ดิฉันถือว่านั่นคือน้ำใจที่ออกมาจากใจที่อยากช่วยเหลือเท่าที่พวกเขาจะทำได้ ขอบคุณพี่วินฯ ปากซอยอรุณอัมรินทร์ 22 ซอยตลาดวังหลัง
น้ำใจเล็กๆ ของพี่วินฯ ปากซอยอรุณอัมรินทร์ 22 (ซอยตลาดวังหลัง) ที่มีต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ดิฉันเดินผ่านเธอขึ้นไปทาง รพ ศิริราชแล้วเดินย้อนกลับไปตรงที่เธอนั่งอีกครั้งเพื่อจะถามว่าเธอมีอะไรให้ช่วยหรือเปล่า แต่พอเดินกลับมาถึงจุดที่เธอนั่งได้เห็นเธอลุกขึ้นยืนพร้อมกับได้ยินเสียงจากวินฯ เฮ้ เฮ้ ยู ยู ในใจดิฉันนึกตำหนิเหล่าวินฯ ว่าจะแซวอะไรเธอหรืออะไร แต่กลับกลายเป็นว่าพี่วินฯ คนหนึ่งยกเก้าอี้ที่เขานั่งให้เธอนั่ง (ขอโทษตรงนี้ด้วยที่มีอคติ)
ดิฉันเลยเดินเข้าไปถามเธอว่า
เกิดอะไรขึ้นเหรอ
หลงทางหรือเปล่า
หิวน้ำไหม (เยื้องปากซอยมีเซเว่นกะว่าจะเดินไปซื้อให้)
เธอตอบกลับมาว่า เพื่อนชายของเธอเดินไปหาห้องน้ำแต่เขาหายไปนานมากจนเธอกังวลเพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น (ถ้าไม่ใช่คนคุ้นเคยแถวนั้นจะไม่รู้ว่าห้องน้ำสาธารณะอยู่ตรงไหนเพราะมันอยู่ข้างในค่อนไปทางท่าเรือ นอกจากจะเดินเข้าไปในศิริราชซึ่งก็ไม่รู้ว่าต่างชาติจะรู้หรือเปล่า)
ดิฉันก็เลยถามต่อว่า ต้องการให้ช่วยอะไรไหม
เธอบอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวเธอจะนั่งคอยอยู่ตรงนี้ต่อไป
ดิฉันถามจนแน่ใจว่าเธอไม่ต้องการความช่วยเหลือและอยู่ตรงนั้นได้จริงๆ แล้วก็เดินออกมา จากนั้นอีกพักใหญ่ๆ ดิฉันเดินย้อนกลับไปดูเธออีกครั้งก็ไม่เห็นเธอแล้วเข้าใจว่าเพื่อนชายของเธอคงกลับไปหาเธอแล้ว
ที่เขียนมานี้เพราะนึกผิดอยู่ในใจถึงอคติที่เคยมีต่อพี่วินฯ ทั้งหลาย แต่พอได้เจอเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้คิดได้ว่าหลายๆ คนก็คงไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดทุกๆ ที่มีคนดีมีน้ำใจอยู่เสมอแม้ว่าเขาเหล่านั้นจะไม่สามารถใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารถามไถ่ได้ แต่เขาก็สังเกตได้จากอาการและสีหน้าของนักท่องเที่ยวคนนั้นว่าคงต้องการความช่วยเหลือ และสิ่งที่เขาช่วยได้คือลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วหยิบยื่นเก้าอี้ตัวนั้นให้เธอนั่งเพื่อให้เธอสบายตัวขี้นแม้จะไม่สามารถรู้ว่าเธอนั่งคอยอะไรก็ตาม
แม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยแต่ดิฉันถือว่านั่นคือน้ำใจที่ออกมาจากใจที่อยากช่วยเหลือเท่าที่พวกเขาจะทำได้ ขอบคุณพี่วินฯ ปากซอยอรุณอัมรินทร์ 22 ซอยตลาดวังหลัง