รวบแล้ว! ลูกจ้างเขมรเตะทรายไล่นักท่องเที่ยวพัทยา ตร.ชี้เป็นคลิปเก่า-เล็งจับคนเผยแพร่

อืมมม จะจับคนเอาคลิปมาเผยแพร่ข้อหาทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศเสื่อมเสีย จริงๆเหรอคะ



เนื้อข่าว

ศูนย์ข่าวศรีราชา – เมืองพัทยาประสานตำรวจตามเด็กร่มเตียงเตะทรายไล่นักท่องเที่ยวริมหาดเกาะล้าน พบเป็นลูกจ้างเขมร ทำตามนายจ้างสั่ง ด้านตำรวจเผยเป็นคลิปเก่าปี 56 เตรียมล่าตัวคนเผยแพร่คลิปดำเนินคดี เหตุทำเสื่อมเสียชื่อเสียงประเทศ
       
       จากกรณีที่มีการเผยแพร่วิดีโอคลิปชายวัยรุ่นซึ่งเป็นผู้ประกอบการร่มเตียงชายหาด แสดงพฤติกรรมเถื่อนเตะทรายไล่นักท่องเที่ยวสาวชาวต่างชาติที่กำลังปูผ้านั่งเล่นบนชายหาดนวล บ้านเกาะล้าน หมู่ 7 ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นจุดที่ชายคนดังกล่าวให้บริการกางร่มเตียง จนมีการแชร์ภาพและเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมและเป็นการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศอย่างรุนแรงในขณะนี้
       
           ล่าสุดในช่วงบ่ายวันนี้ (6 ก.ย.) นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา ได้ประสานไปยัง พล.ต.ต.ธเนตร์ พิณเมืองงาม ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เพื่อขยายผลติดตามจับกุมชายที่ก่อเหตุดังกล่าวมาดำเนินคดี ก่อนนำกำลังรุดไปยังหาดนวล ชุมชนบ้านเกาะล้าน เพื่อควบคุมตัวนายปึ้ง สัญชาติกัมพูชา อายุ 28 ปี ลูกจ้างของผู้ประกอบการร่มเตียงและเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าว และนำตัวมาสอบสวนพร้อมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน หลังมีกระแสข่าวในด้านลบอย่างครึกโครม
       
            จากการสอบสวนนายปึ้ง ทราบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคม 2556 ซึ่งนักท่องเที่ยวสาวชาวรัสเซีย ได้เข้ามาปูผ้านั่งอาบแดดบริเวณชายหาด ทำให้นายชาลี หรือ แป๊ะ เจ้าของและผู้ให้บริการร่มเตียงใช้ให้นายปึ้ง ลูกจ้างชาวกัมพูชา ไปไล่นักท่องเที่ยวเพื่อให้เข้ามานั่งในเตนท์ผ้าใบที่ตนเปิดให้บริการ แต่นักท่องเที่ยวไม่ยินยอม นายปึ้งจึงเตะทรายเข้าใส่จนมีปากเสียงกัน กระทั่งนักท่องเที่ยวทนไม่ไหวลุกออกจากบริเวณดังกล่าว
       
            พล.ต.ต.ธเนศ พิณเมืองงาม ผบก.ภ.จว.ชลบุรี กล่าวว่าเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นนานแล้ว แต่ก็ถือเป็นความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ซึ่งในเบื้องต้นได้สอบสวนนายปึ้ง กระทั่งทราบว่าเข้ามาทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงดำเนินคดีในส่วนของการเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ทำการโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุก 5 ปี
       
       ส่วนการก่อเหตุกับนักท่องเที่ยว ถือเป็นคดีเกี่ยวกับการข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายแก่ชีวิตและเสรีภาพที่มีโทษจำคุก 3 ปีนั้น เป็นเรื่องที่กระทำได้ลำบากเนื่องจากไม่มีเจ้าทุกข์และเหตุผ่านมานานหลายเดือนแล้ว
       
       อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะขยายผลดำเนินคดีในส่วนของคนที่นำภาพดังกล่าวมาเผยแพร่ในเครือข่ายสังคมออนไลน์ ในข้อหาทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศเสื่อมเสีย ซึ่งจะได้มีการประสานไปยังกระทรวงไอซีทีเพื่อติดตามตัวต่อไป
       
           ด้านนายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา กล่าวว่าปัญหาการกระทบกระทั่งกันระหว่างผู้ประกอบการกับนักท่องเที่ยวเกิดขึ้นบ่อยครั้ง แต่กรณีของนายปึ้งถือว่ารุนแรงและเกิดความเสียหาย แต่สาเหตุที่ไม่ดำเนินการเพราะไม่มีเจ้าทุกข์มาแจ้งความจึงทำให้ปัญหาคาราคาซังจนมีการนำภาพไปโพสต์ลงในเวปไซด์ต่างๆ
       
       “อย่างไรก็ตามเมืองพัทยา ก็มีมาตรการควบคุมผู้ประกอบการร่มเตียงอย่างเคร่งครัดอยู่แล้ว แต่อาจมีหลงหูหลงตาไปบ้าง ซึ่งจากนี้ในวันจันทร์ที่ 8 กันยายนนี้เมืองพัทยาจะร่วมกับอำเภอบางละมุง ลงพื้นที่ตรวจสอบผู้ประกอบการบนเกาะล้านต่อไป”นายรณกิจกล่าว
       
           มีรายงานว่า กรณีที่เกิดเหตุถือเป็นเรื่องปกติในเมืองพัทยา โดยเฉพาะกรณีของผู้ประกอบการชายหาดที่มักมีปัญหากับนักท่องเที่ยว อาทิ กรณีของเรือเจ๊ตสกีที่มักข่มขู่ขูดรีดค่าเสียหายจากเรือที่ประสบเหตุเกินความเป็นจริง ซึ่งปัจจุบันเมืองพัทยายังไม่มีแนวทางการแก้ไขที่เป็นรูปธรรม รวมทั้งความไม่เป็นระเบียบของร่มเตียงชายหาดทั้ง 3 แห่งของเมืองพัทยาที่มีการจัดตั้งเตียงเกินพื้นที่ขอบเขต ที่ผ่านมาพบว่ามีการร้องเรียนผ่านศูนย์รับเรื่องร้องเรียนเมืองพัทยาเป็นจำนวนมาก

ข่าวจาก http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9570000102418 ค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 11
คนเผยแพร่คลิปโดนจับ เพราะทำให้ภาพลักษณ์เสื่อมเสีย งั้นตำรวจก็ควรโดนเหมือนกันเพราะละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งที่รู้ว่าเรื่องแบบนี้มีมานานจนคนคิดว่าเรื่องปกติ ต้องรอเจ้าทุกข์มาแจ้งถึงจะไปไล่จับ ทีเวลาตอนจับบ่อนหรือจับอะไรที่ได้หน้าใหญ่ๆนี่วิ่งไปหาถึงที่ Facepalm
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่