เมื่อหลายสัปดาก่อนได้ดูละครญี่ปุ่นเรื่องนี้ค่ะ "Satsujin Hensachi 70" เป็นละครภาคพิเศษที่เราจับตามองมานานนน
เนื่องด้วยภาพโปสเตอร์ที่ชวนสะดุดใจแบบนี้....
พอเห็นปุ๊ปสมองส่วนของการมโนก็เริ่มทำงานทันที ฮี่ๆ
แต่ว่า...พอหลังจากที่ดูเรื่องนี้จบ ไม่ได้จิ้นอย่างที่คิด (แต่บางฉากก็อดคิดไม่ได้) แต่กลับเป็นละครที่เสียดสีค่านิยมการศึกษาญี่ปุ่นแบบสุดๆ ก่อนอื่นขอเล่าเรื่องย่อแบบคร่าวๆ ของเรื่องนี้ก่อนล่ะกันนะคะ
เรื่องย่อ
เรื่องของเรื่องมันเริ่มต้นจาก "มิยาฮาร่ะ เคสุเกะ" (ฮารุมะ มิอุระ) ชายหนุ่มผู้มีความฝันที่อยากจะสอบเข้าโทได
หรือมหาวิทยาลัยโตเกียว ครั้งนี้เป็นการสอบครั้งที่3 ของเขาแล้ว ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องสอบผ่านให้ได้
แต่แล้วก็เกิดปัญหาขึ้นมาเสียก่อน เขาดันนอนเพลิน ตื่นสาย ตื่นเวลานี้ไปไม่ทันแน่ๆ
เคนสุเกะจึงตัดสินใจส่งอีเมลข่มขู่มหาวิทยาลัยว่า มีคนวางระเบิด ทางมหาวิทยาลัยก็ตื่นตกใจ พาคนสอบออกมา
นอกตึกกันหมด ด้วยความโกลาหล แต่พอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วไม่เจออะไร เลยให้กลับเข้าไปสอบใหม่ได้ ทำให้เคสุเกะสามารถทำตัวเนียนๆ
เข้าไปสอบได้ ในที่สุดเคสุเกะก็เข้าสอบโทไดครั้งที่3 ได้ทัน และยิ่งไปกว่านั้นเขาสอบผ่านเสียด้วย!
ทั้งพ่อ และแฟนสาวต่างก็ดีใจกับความสำเร็จแต่หลังจากวันนั้นก็มีเหตุการณ์อันน่าสะพรึงกลัวตามมา
จู่ๆ ก็มีชายปริศนาคนหนึ่งเข้ามาในชีวิตเขา และพยายามคุกคามเขาทุกฝีก้าว...
ความน่าสนใจของเรื่องนี้
- ดำเนินเรื่องแบบภาพยนตร์
ละครภาคพิเศษเรื่องนี้จะเน้นดำเนินเรื่องด้วยภาพเป็นส่วนใหญ่ บทพูดไม่ค่อยเยอะมาก แถมบางช่วงของละครออกแนวเงียบเลยค่ะ
ความเงียบนี่เองเป็นส่วนที่ทำให้ละครเรื่องนี้มีกลิ่นไอของความน่ากลัว วิเวกวังเวงชอบกล และด้วยความที่ไม่มีบทพูดอะไรมาก
เหมือนเป็นโอกาสให้คนดูมีส่วนร่วม ได้คิด และวิเคราห์เนื้อเรื่องไปเองด้วย
-ความคลุมเครือของเรื่อง
เรื่องนี้จะไม่บอกอะไรที่ชัดๆ ค่ะ บางทีดูๆ ไปก็จะงงนิดๆ ว่า ทำไมเรื่องมันไปไวจัง
นางผู้หญิงคนนี้เป็นใคร โผล่มาจากไหน จริงๆ ความรวดเร็วในการดำเนินเรื่องไม่ใช่เหตุผลที่ว่า
ละครญี่ปุ่นเดินเรื่องเร็วนะคะ แต่เป็นการเดินเรื่องที่เกิดจากความจงใจ เพื่อจะแอบบอกใบ้ปริศนาอะไรบางอย่างในเรื่องนี้
- ชายปริศนา
ตัวละครสำคัญของเรื่องนี้อีกคนหนึ่งก็คือ ฮิโรชิ ทานากะ (ยู ชิโรตะ) ชายหนุ่มที่มาคุกคามเคนสุเกะนั่นแหละค่ะ
ฉากเปิดตัวมาก็จิตแล้ว ส่งสายตาแปลกๆ หลังจากที่เคนสุเกะสอบติดพี่แกก็เล่นติดตามทุกฝีก้าว ข่มขู่ว่ารู้เรื่องเกี่ยวกับแกทุกอย่างเลยนะ
แถมตามติดเคนสุเกะไปทุกที่ จนทำให้เคนสุเกะแทบคลั่ง และเป็นที่น่าแปลกใจว่าทำไมฮิโรชิถึงรู้ว่าเคนสุเกะจะไปอยู่ที่ไหน
ทำไมถึงอ่านใจได้ว่าเคนสุเกะจะทำอะไร และทำไมถึงต้องตามติดขนาดนี้ คำตอบของเรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าที่คิดค่ะ เป็นอะไรที่น่าติดตาม
- คำใบ้ในเรื่อง
เรื่องนี้จะเต็มไปด้วยปริศนาค่ะ ถ้าเราดูๆ ไป เราจะสงสัยว่าทำไมเคนสุเกะมันถึงต้องเอาจริงเอาจังกับการเข้ามหาวิทยาลัยขนาดนี้
ตัวละครที่เข้ามาทำร้ายเคนสุเกะต้องการอะไรกันแน่ ทั้งๆ ที่ทำตามทุกอย่าง ทำไมถึงเริ่มข่มขู่หนักเข้า แล้วฮิโรชิแท้จริงแล้วคือใคร
และในเรื่องจะค่อยๆ แทรกฉากเรื่องราวในอดีตของเคนสุเกะค่ะ ที่ถูกแม่ชอบดุบ่อยๆ และทิ้งเขาไว้ให้อยู่กับพ่อกันแค่ 2 คน
ซึ่งเรื่องราวในอดีตของเคนสุเกะก็จะเป็นตัวบอกคำตอบของเรื่องราวในเรื่องนี้ด้วย และเวลาดู ขอแนะนำว่าเราต้องสังเกต
จุดต่างๆ ไว้ให้มาก เพราะมันคือคำตอบของเรื่องที่ซ่อนไว้อยู่ เช่น ฉากนี้...
เป็นฉากที่เคนสุเกะวิ่งเข้าไปขโมยพวกสารเคมีในมหาวิทยาลัยค่ะ โดยไปกับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนที่ชวนเขาเข้าไป
และในช่วงที่กำลังขโมยก็ถูกยามจับได้ ทั้งคู่ก็เลยรีบวิ่งหนี แต่...ทำไมยามกลับเห็นคนแค่คนเดียว...
- ข้อคิดในเรื่อง
- มุมมืดของมนุษย์
ละครเรื่องนี้ทำให้เราเห็นถึงความปั่นป่วนในจิตใจของตัวละครอย่างเคนสุเกะ ชายหนุ่มที่พยายามที่จะอัพเกรดชีวิตของตัวเองให้ดูดี
ทั้งสอบเข้ามหาวิทยาลัยดีๆ และพยายามทำตัวให้ดี แต่จริงๆ แล้วในเบื้องลึกเขามีความชั่วร้ายแอบแฝงอยู่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ถือว่า
เป็นความเลวร้ายเสมอไป แต่มันเป็นเรื่องปกติที่มนุษย์เราจะคิดไป หรือรู้สึกเช่นนั้นได้ เช่น เราอยากมีชีวิตในแบบตัวเอง
แต่บางทีก็ไม่กล้าทำ เพราะสังคมมองว่าไม่ดี ขัดต่อค่านิยมของสังคม
แต่ในอีกด้านหนึ่ง ในชีวิตที่เราอยากจะเป็นจริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร แต่เพื่อให้คนมองว่าดี เราจึงต้องทำอะไรบางอย่างลงไป
เป็นการสร้างภาพลักษณ์ให้ตัวเอง โดยลืมตัวตนที่แท้จริงของตัวเองว่าจริงๆ แล้วเราเป็นคนอย่างไร ผลสุดท้ายมันจึงทำให้เกิด
ความน่ากลัวของสังคมคือ ทุกคนใส่หน้ากากเข้าหากัน ไม่แสดงความตรงไปตรงมาของจิตใจ แม้แต่กับตัวเอง
จนผลสุดท้ายคนที่แย่ก็คือเรา ไม่ใช่ใคร
"ในโลกนี้มี 3 ทางเลือกให้เดิน ทางที่ถูก ทางที่ผิด และทางที่แกเลือกเอง"
- ความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับเรื่องภายนอกเสมอไป
พอดูเรื่องนี้จบ จะได้ข้อสรุปว่า มันเป็นละครที่พยายามเสียดสีค่านิยมการศึกษาของญี่ปุ่น หรือเรื่องความนิยมการสอบเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดัง
เพราะเชื่อว่าจะทำให้ชีวิตดีขึ้นในทุกๆ ด้าน แต่สิ่งที่คิดว่าดีนี่แหละค่ะ บางทีมันก็ทำร้ายชีวิตคนคนหนึ่งได้ โดยไม่อาจได้คืน
เอาแค่ประเด็นแรกๆ ที่จับได้จากการดูเรื่องนี้ใน10 นาทีแรกเลยว่า ค่านิยมสอบเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดัง มันทำให้เด็กคนหนึ่ง
ถึงกับยอมก่อเหตุอาชญากรรม ข่มขู่ว่ามีการวางระเบิดเลยทีเดียว
"ที่นี่น่ะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ไอ้พวกขยะที่คิดว่าตนเองเหนือกว่าคนอื่น สำหรับพวกนั้นแล้ว ระดับการศึกษา อาชีพ รายได้
และความเป็นเลิศ คือสิ่งที่พวกนั้นกำหนดความแตกต่างไว้ แล้วก็ขีดเส้นไว้รวบรวมพวกเดียวกันเอง และกันคนอื่นออกไป"
มหาวิทยาลัยที่หลายคนต่างดิ้นรนวิ่งเข้าหา บางครั้งคนเราก็อาจไม่รู้เหตุผลด้วยซ้ำว่าทำไมตัวเองต้องดิ้นรนขนาดนั้น
ทำไปตามกระแสสังคมที่บังคับว่าเราต้องทำหรือเปล่า ฉากนี้เหมือนทำให้เราได้หยุดคิดถึงอะไรบางอย่างได้เลยล่ะค่ะ
"ชาติกำเนิด การศึกษา รายได้ การที่ใช้สิ่งที่เห็นจากภายนอกมาเป็นตัวตัดสินว่าเหนือกว่า
การที่คนไม่มีสิ่งเหล่านี้แล้วกลายเป็นคนไร้ค่าแล้วยังจะมีความหวังหลงเหลือในสังคมนี้อีกหรือ"
สุดท้าย อยากจะสรุปถึงสิ่งที่ละครเรื่องนี้พยายามจะบอกคนดูก็คือ "อย่าเคร่งเครียดที่จะเข้าโตไดมาก เดี๋ยวชีวิตจะพังอย่างไม่รู้ตัว !"
แก่นเรื่องของเรื่องนี้ก็จะทำให้รู้ค่ะว่าทำไมเรื่องนี้ถึงชื่อว่า "Satsujin Hensachi 70" หรือ "Murder Standard Score 70 "
พวกคะแนนสอบ มหาวิทยาลัย การศึกษานี่แหละค่ะ แม้ว่าเป็นส่วนที่ทำให้ชีวิตดีขึ้น แต่เอาจริงเอาจังกับมันมากไป มันก็คือ "ฆาตกร" ดีดีนี่เอง
จบแล้วจ้าาาา ใครอยากรู้ว่าคำตอบของเรื่องนี้คืออะไร "ฮิโรชิ" คือใครกันแน่ และมันเสียดสีค่านิยมการศึกษาอย่างไร
ต้องติดตามในละครเรื่อง "Satsujin Hensachi 70" ค่ะ สุดท้ายนี้ขอบคุณเพื่อนๆ ที่ทุกคนเข้ามาอ่านกันนะคะ
ปล.1ดูซับไทยได้ที่บ้าน Dark-Dramas ตามลิงก์นี้เลยยยhttp://www.dark-dramas.com/2014/07/satsujin-hensachi-70.html
ปล.2ใครอยากติดตามเรื่องราวดีดีเกี่ยวกับละครญี่ปุ่น บทความเกี่ยวกับบันเทิงญี่ปุ่น
หรืออยากจะมาเม้าท์มอยเกี่ยวกับละครญี่ปุ่นก็แวะมาที่เพจ Sakura Dramas ได้เลยค่าาา >>>https://www.facebook.com/sakuradramas
[Review J-Drama] Satsujin Hensachi 70 เสียดสีค่านิยมการศึกษาของญี่ปุ่น และมุมมืดของมนุษย์
เนื่องด้วยภาพโปสเตอร์ที่ชวนสะดุดใจแบบนี้....
พอเห็นปุ๊ปสมองส่วนของการมโนก็เริ่มทำงานทันที ฮี่ๆ
แต่ว่า...พอหลังจากที่ดูเรื่องนี้จบ ไม่ได้จิ้นอย่างที่คิด (แต่บางฉากก็อดคิดไม่ได้) แต่กลับเป็นละครที่เสียดสีค่านิยมการศึกษาญี่ปุ่นแบบสุดๆ ก่อนอื่นขอเล่าเรื่องย่อแบบคร่าวๆ ของเรื่องนี้ก่อนล่ะกันนะคะ
เรื่องย่อ
เรื่องของเรื่องมันเริ่มต้นจาก "มิยาฮาร่ะ เคสุเกะ" (ฮารุมะ มิอุระ) ชายหนุ่มผู้มีความฝันที่อยากจะสอบเข้าโทได
หรือมหาวิทยาลัยโตเกียว ครั้งนี้เป็นการสอบครั้งที่3 ของเขาแล้ว ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องสอบผ่านให้ได้
แต่แล้วก็เกิดปัญหาขึ้นมาเสียก่อน เขาดันนอนเพลิน ตื่นสาย ตื่นเวลานี้ไปไม่ทันแน่ๆ
เคนสุเกะจึงตัดสินใจส่งอีเมลข่มขู่มหาวิทยาลัยว่า มีคนวางระเบิด ทางมหาวิทยาลัยก็ตื่นตกใจ พาคนสอบออกมา
นอกตึกกันหมด ด้วยความโกลาหล แต่พอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วไม่เจออะไร เลยให้กลับเข้าไปสอบใหม่ได้ ทำให้เคสุเกะสามารถทำตัวเนียนๆ
เข้าไปสอบได้ ในที่สุดเคสุเกะก็เข้าสอบโทไดครั้งที่3 ได้ทัน และยิ่งไปกว่านั้นเขาสอบผ่านเสียด้วย!
ทั้งพ่อ และแฟนสาวต่างก็ดีใจกับความสำเร็จแต่หลังจากวันนั้นก็มีเหตุการณ์อันน่าสะพรึงกลัวตามมา
จู่ๆ ก็มีชายปริศนาคนหนึ่งเข้ามาในชีวิตเขา และพยายามคุกคามเขาทุกฝีก้าว...
ความน่าสนใจของเรื่องนี้
- ดำเนินเรื่องแบบภาพยนตร์
ละครภาคพิเศษเรื่องนี้จะเน้นดำเนินเรื่องด้วยภาพเป็นส่วนใหญ่ บทพูดไม่ค่อยเยอะมาก แถมบางช่วงของละครออกแนวเงียบเลยค่ะ
ความเงียบนี่เองเป็นส่วนที่ทำให้ละครเรื่องนี้มีกลิ่นไอของความน่ากลัว วิเวกวังเวงชอบกล และด้วยความที่ไม่มีบทพูดอะไรมาก
เหมือนเป็นโอกาสให้คนดูมีส่วนร่วม ได้คิด และวิเคราห์เนื้อเรื่องไปเองด้วย
-ความคลุมเครือของเรื่อง
เรื่องนี้จะไม่บอกอะไรที่ชัดๆ ค่ะ บางทีดูๆ ไปก็จะงงนิดๆ ว่า ทำไมเรื่องมันไปไวจัง
นางผู้หญิงคนนี้เป็นใคร โผล่มาจากไหน จริงๆ ความรวดเร็วในการดำเนินเรื่องไม่ใช่เหตุผลที่ว่า
ละครญี่ปุ่นเดินเรื่องเร็วนะคะ แต่เป็นการเดินเรื่องที่เกิดจากความจงใจ เพื่อจะแอบบอกใบ้ปริศนาอะไรบางอย่างในเรื่องนี้
- ชายปริศนา
ตัวละครสำคัญของเรื่องนี้อีกคนหนึ่งก็คือ ฮิโรชิ ทานากะ (ยู ชิโรตะ) ชายหนุ่มที่มาคุกคามเคนสุเกะนั่นแหละค่ะ
ฉากเปิดตัวมาก็จิตแล้ว ส่งสายตาแปลกๆ หลังจากที่เคนสุเกะสอบติดพี่แกก็เล่นติดตามทุกฝีก้าว ข่มขู่ว่ารู้เรื่องเกี่ยวกับแกทุกอย่างเลยนะ
แถมตามติดเคนสุเกะไปทุกที่ จนทำให้เคนสุเกะแทบคลั่ง และเป็นที่น่าแปลกใจว่าทำไมฮิโรชิถึงรู้ว่าเคนสุเกะจะไปอยู่ที่ไหน
ทำไมถึงอ่านใจได้ว่าเคนสุเกะจะทำอะไร และทำไมถึงต้องตามติดขนาดนี้ คำตอบของเรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าที่คิดค่ะ เป็นอะไรที่น่าติดตาม
- คำใบ้ในเรื่อง
เรื่องนี้จะเต็มไปด้วยปริศนาค่ะ ถ้าเราดูๆ ไป เราจะสงสัยว่าทำไมเคนสุเกะมันถึงต้องเอาจริงเอาจังกับการเข้ามหาวิทยาลัยขนาดนี้
ตัวละครที่เข้ามาทำร้ายเคนสุเกะต้องการอะไรกันแน่ ทั้งๆ ที่ทำตามทุกอย่าง ทำไมถึงเริ่มข่มขู่หนักเข้า แล้วฮิโรชิแท้จริงแล้วคือใคร
และในเรื่องจะค่อยๆ แทรกฉากเรื่องราวในอดีตของเคนสุเกะค่ะ ที่ถูกแม่ชอบดุบ่อยๆ และทิ้งเขาไว้ให้อยู่กับพ่อกันแค่ 2 คน
ซึ่งเรื่องราวในอดีตของเคนสุเกะก็จะเป็นตัวบอกคำตอบของเรื่องราวในเรื่องนี้ด้วย และเวลาดู ขอแนะนำว่าเราต้องสังเกต
จุดต่างๆ ไว้ให้มาก เพราะมันคือคำตอบของเรื่องที่ซ่อนไว้อยู่ เช่น ฉากนี้...
เป็นฉากที่เคนสุเกะวิ่งเข้าไปขโมยพวกสารเคมีในมหาวิทยาลัยค่ะ โดยไปกับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนที่ชวนเขาเข้าไป
และในช่วงที่กำลังขโมยก็ถูกยามจับได้ ทั้งคู่ก็เลยรีบวิ่งหนี แต่...ทำไมยามกลับเห็นคนแค่คนเดียว...
- ข้อคิดในเรื่อง
- มุมมืดของมนุษย์
ละครเรื่องนี้ทำให้เราเห็นถึงความปั่นป่วนในจิตใจของตัวละครอย่างเคนสุเกะ ชายหนุ่มที่พยายามที่จะอัพเกรดชีวิตของตัวเองให้ดูดี
ทั้งสอบเข้ามหาวิทยาลัยดีๆ และพยายามทำตัวให้ดี แต่จริงๆ แล้วในเบื้องลึกเขามีความชั่วร้ายแอบแฝงอยู่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ถือว่า
เป็นความเลวร้ายเสมอไป แต่มันเป็นเรื่องปกติที่มนุษย์เราจะคิดไป หรือรู้สึกเช่นนั้นได้ เช่น เราอยากมีชีวิตในแบบตัวเอง
แต่บางทีก็ไม่กล้าทำ เพราะสังคมมองว่าไม่ดี ขัดต่อค่านิยมของสังคม
แต่ในอีกด้านหนึ่ง ในชีวิตที่เราอยากจะเป็นจริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร แต่เพื่อให้คนมองว่าดี เราจึงต้องทำอะไรบางอย่างลงไป
เป็นการสร้างภาพลักษณ์ให้ตัวเอง โดยลืมตัวตนที่แท้จริงของตัวเองว่าจริงๆ แล้วเราเป็นคนอย่างไร ผลสุดท้ายมันจึงทำให้เกิด
ความน่ากลัวของสังคมคือ ทุกคนใส่หน้ากากเข้าหากัน ไม่แสดงความตรงไปตรงมาของจิตใจ แม้แต่กับตัวเอง
จนผลสุดท้ายคนที่แย่ก็คือเรา ไม่ใช่ใคร
- ความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับเรื่องภายนอกเสมอไป
พอดูเรื่องนี้จบ จะได้ข้อสรุปว่า มันเป็นละครที่พยายามเสียดสีค่านิยมการศึกษาของญี่ปุ่น หรือเรื่องความนิยมการสอบเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดัง
เพราะเชื่อว่าจะทำให้ชีวิตดีขึ้นในทุกๆ ด้าน แต่สิ่งที่คิดว่าดีนี่แหละค่ะ บางทีมันก็ทำร้ายชีวิตคนคนหนึ่งได้ โดยไม่อาจได้คืน
เอาแค่ประเด็นแรกๆ ที่จับได้จากการดูเรื่องนี้ใน10 นาทีแรกเลยว่า ค่านิยมสอบเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดัง มันทำให้เด็กคนหนึ่ง
ถึงกับยอมก่อเหตุอาชญากรรม ข่มขู่ว่ามีการวางระเบิดเลยทีเดียว
"ที่นี่น่ะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ไอ้พวกขยะที่คิดว่าตนเองเหนือกว่าคนอื่น สำหรับพวกนั้นแล้ว ระดับการศึกษา อาชีพ รายได้
และความเป็นเลิศ คือสิ่งที่พวกนั้นกำหนดความแตกต่างไว้ แล้วก็ขีดเส้นไว้รวบรวมพวกเดียวกันเอง และกันคนอื่นออกไป"
มหาวิทยาลัยที่หลายคนต่างดิ้นรนวิ่งเข้าหา บางครั้งคนเราก็อาจไม่รู้เหตุผลด้วยซ้ำว่าทำไมตัวเองต้องดิ้นรนขนาดนั้น
ทำไปตามกระแสสังคมที่บังคับว่าเราต้องทำหรือเปล่า ฉากนี้เหมือนทำให้เราได้หยุดคิดถึงอะไรบางอย่างได้เลยล่ะค่ะ
"ชาติกำเนิด การศึกษา รายได้ การที่ใช้สิ่งที่เห็นจากภายนอกมาเป็นตัวตัดสินว่าเหนือกว่า
การที่คนไม่มีสิ่งเหล่านี้แล้วกลายเป็นคนไร้ค่าแล้วยังจะมีความหวังหลงเหลือในสังคมนี้อีกหรือ"
สุดท้าย อยากจะสรุปถึงสิ่งที่ละครเรื่องนี้พยายามจะบอกคนดูก็คือ "อย่าเคร่งเครียดที่จะเข้าโตไดมาก เดี๋ยวชีวิตจะพังอย่างไม่รู้ตัว !"
แก่นเรื่องของเรื่องนี้ก็จะทำให้รู้ค่ะว่าทำไมเรื่องนี้ถึงชื่อว่า "Satsujin Hensachi 70" หรือ "Murder Standard Score 70 "
พวกคะแนนสอบ มหาวิทยาลัย การศึกษานี่แหละค่ะ แม้ว่าเป็นส่วนที่ทำให้ชีวิตดีขึ้น แต่เอาจริงเอาจังกับมันมากไป มันก็คือ "ฆาตกร" ดีดีนี่เอง
จบแล้วจ้าาาา ใครอยากรู้ว่าคำตอบของเรื่องนี้คืออะไร "ฮิโรชิ" คือใครกันแน่ และมันเสียดสีค่านิยมการศึกษาอย่างไร
ต้องติดตามในละครเรื่อง "Satsujin Hensachi 70" ค่ะ สุดท้ายนี้ขอบคุณเพื่อนๆ ที่ทุกคนเข้ามาอ่านกันนะคะ
ปล.1ดูซับไทยได้ที่บ้าน Dark-Dramas ตามลิงก์นี้เลยยยhttp://www.dark-dramas.com/2014/07/satsujin-hensachi-70.html
ปล.2ใครอยากติดตามเรื่องราวดีดีเกี่ยวกับละครญี่ปุ่น บทความเกี่ยวกับบันเทิงญี่ปุ่น
หรืออยากจะมาเม้าท์มอยเกี่ยวกับละครญี่ปุ่นก็แวะมาที่เพจ Sakura Dramas ได้เลยค่าาา >>>https://www.facebook.com/sakuradramas