พี่สาวแม่เอาพื้นที่ไปเซ้งกับบุคคลภายนอก โดยที่แม่ไม่ทราบทำอย่างไรดีคะ (แม่เครียดมากจนไม่สบายไปแล้วค่ะ)

กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของหนูนะคะ อยากได้คำปรึกษา แนะนำ เพราะแม่เครียดเรื่องที่มาก เข้าเรื่องเลยนะคะ

         เรื่องมีอยู่ว่า แม่หนูเขามีที่ของขายอยู่ที่หนึ่ง ซึ่งจับจองมานานแล้ว ขายมาตั้งแต่แรกเริ่มตอนที่ยังไม่เคยมีใครขายเลย ที่นี้เป็นที่ของการเคหะเป็นพื้นที่เปล่าซึ่งบุคคลที่ไปจับจองหรือสร้างร้าน(ก่อปูน)ขึ้นมาถือว่าบุกรุกพื้นที่ของการเคหะ แต่ว่าคนแถวนั้นก็บุกรุกพื้นที่กันหมด แต่พื้นที่ของแม่หนูแค่ตั้งเต็นท์ขึ้นมาเฉยๆแล้วมีการเอาหินมาลง ซึ่งประเด็นนี้ไม่เกี่ยวน่ะค่ะ แต่ท้าวความให้ฟังว่า ไม่ใช่ที่ๆมีโฉนดมีชื่อ ต่อมาป้า (ซึ่งเป็นพี่สาวแท้ๆของแม่) ได้มาจากต่างจังหวัด แม่ก็ให้ที่ขายของ ให้ขายเรื่อยมา แต่ก็จะพูดอยู่เสมอว่าห้ามเอาไปขายให้คนอื่นเพราะให้ญาติพี่น้องขายเอาไว้ทำมาหากิน เพราะอีกล็อคนึงก็ให้ป้าขายหมูปิ้งอยู่(เต็นท์ใหญ่ตั้งเต็นเดียวแต่แบ่งซ้ายขวา ทางซ้ายให้ป้า อ. (นามสมมุติ) ขายหมูปิ้ง
ทางขวาให้ป้า ก. (นามสมมุติ) ขายหมูสะเต๊ะ ) ซึ่งไฟที่ร้านเราลากมาจากบ้าน แล้วเก็บค่าไฟกับทั้งสองเจ้า

         ต่อมาป้า ก. ได้เอาพื้นที่ที่เป็นสิทธิ์ครอบครองของแม่ (เรียกแบบนี้รึเปล่าไม่ทราบนะคะ คือเป็นสิทธิ์พื้นที่ของแม่แต่ไม่มีโฉลดนั่นแหละเป็นพื้นที่เปล่าของการเคหะที่คนค้าขายเขาใช้ทำมาหากินกันแถวนั้น)
ไปเซ้งสิทธิขายของให้บุคคลภายนอก เป็นราคาหนึ่งแสนบาท โดยที่เราไม่เคยรู้เรื่องมาก่อนเลย พอเรารู้อีกทีทางบุคคลภายนอกก็จะเอาช่างมาก่อเป็นร้านแล้ว จึงเพิ่งมารู้ ได้ความว่า เขาไปบอกกับทางนู้นว่าที่นี่เป็นของเขา เขาประกาศเซ้งสิทธิ และได้ทำสัญญากัน มีชื่อ ป้าก. และคนที่มาเซ้ง และมีชื่อพยานในการจ่ายเงิน ซึ่งเป็นคนข้างร้าน (และเขาได้ยืนยันกับคนมาเซ้งว่า ที่ตรงนี้เป็นของป้าก. จริงๆ และได้เซ็นสัญญากัน ) พอวันที่เขาเอาอิฐ เอาปูนมาลง มีคนไปบอกกับแม่หนู แม่จึงรีบวิ่งมาดูและคัดค้านบอกว่าทำอะไร เขาก็บอกตามที่กล่าวมา คือได้เซ้งสิทธิมาจากป้า ก. เลยจะเข้ามาทำร้าน
แม่เลยบอกว่าไม่ได้นี่มันไม่ใช่ที่ของเขา เป็นร้านของเรา แต่ให้เขามาอาศัยขายแค่นั้นเอง เขาไม่เคยบอกเราซักนิดว่าเขาเซ้ง แล้วเราก็เตือนอยู่เป็นประจำว่าห้ามเซ้งเพราะนี่ที่เรา(ของแม่)ถ้าไม่ขายก็คืนที่เรามา ห้ามเอาไปเซ้งต่อเพราะที่ทำมาหากิน เอาไว้ต่อชีวิต ที่เแม่พูดแบบนั้นเพราะแม่เคยได้ข่าวจากหลายๆร้านว่าเขาเคยประกาศเซ้งมาแล้วหลายครั้งแต่ยังไม่เคยมีใครมาเซ้ง พอแม่ไปพูดกับป้าก. ป้าแกก็บอกว่า "กูไม่ขายหรอก กูไม่เซ้งให้ใครหรอก"
แต่อยู่ดีๆก็มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น แล้วทางนั้นก็ไม่รู้จะทำยังไง คือตอนแรกเขาจะลงให้ได้ แต่แม่เราบอกไม่ให้ลง ให้ไปเอาป้ามายืนยัน เขาเลยบอกว่าเขามีสัญญา พอเขาโทรไปหาป้า ก็โทรไม่ติด เลขหมายไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งก่อนเกิดเรื่องนี้ป้าก.เขาหายไปจากเครือญาติพี่น้องเลยหายไปได้ร่วมๆ3-4เดือน แล้วอยู่ๆเรื่องนี้ก็เกิดขึ้น ทางผู้เซ้ง จึงไปแจ้งกับทางตำรวจประมาณว่า เขาเซ้งที่จากป้า ก.มา(มีหนังสือสัญญา ชื่อเขา-ชื่อป้าก.) แต่เราเป็นผู้คัดค้านไม่ให้เขาเข้าสร้างร้าน ซึ่งเหมือนว่าทางเราก็อ้างเป็นเจ้าของร้านเหมือนกัน เขาจะให้ตำรวจไปไล่เบี้ยถามเอาจากป้า ก. ว่าเป็นที่จริงๆของป้าก. รึเปล่า (เพราะตอนนี้ติดต่อไม่ได้) แล้วถ้าป้าก.ยืนยันว่าเป็นที่ของแกจริงๆแล้วจึงจะมาไล่เบี้ยกับเรา ประมาณนี้ค่ะ และผู้เซ้งยังบอกว่าเขาเชื่อโดยสุจริตว่าป้าก.เป็นเจ้าของที่จริงๆ เพราะมิเตอร์น้ำที่ร้านเป็นชื่อเขา ซึ่งตอนตั้งมิเตอร์น้ำ ตอนแรกจะตั้งแค่มิเตอร์เดียวใช้ร่วมกันสองร้านค่ะ แต่ป้าก.แกเสนอว่าอยากตั้งสองมิเตอร์จะได้ไม่แย่งกันใช้ แม่เราจึงยินยอมให้ตั้งสองมิเตอร์ โดยมิเตอร์ฝั่งหมูปิ้งเป็นชื่อแม่หนู และมิเตอร์ฝั่งหมูสะเต๊ะ เป็นชื่อป้าก. เขาเลยเอาตรงนี้มายืนยันว่านี่เป็นที่ของป้าก. แต่คนเก่าแก่ที่นี่จะรู้ดีว่าที่ตรงนั้นเป็นของแม่ของหนู

คำถามคะ
1. แม่กับหนูจะทำอย่างไรต่อจากนี้ไปคะ
2. แล้วถ้าเขาทั้งสามคนคือ ป้าก. คนเซ้ง และลุงข้างร้าน เขาบอกว่าที่นี่เป็นที่ของเขา ได้ทำสัญญาเซ้งกันเป็นหนังสือถูกต้องแล้ว เขาต้องการสร้างร้านแต่เราไม่ให้เข้ามา จะเกิดอะไรขึ้นค่ะ
3. แล้วถ้าเขาตัดเหล็กร้านที่เรากั้นไว้เข้ามาเลย เราจะทำอย่างไรดีค่ะ
4. เราจะค้านอย่างไรค่ะโดยที่เราไม่ต้องเสียที่ตรงนั้นไป

   คือตอนนี้ทางเขาพยายามหาพยานหลักฐานทุกอย่างเพื่อมายันว่าเป็นที่ของ ป้าก.ค่ะ (ทางหนูกับแม่ก็กลัวเขาจะรวมหัวกันเอาที่ไป) ทำอย่างไรดีค่ะ
สุดท้ายนี้หนูอาจจะพิมพ์ผิดพิมพ์ถูกไปบ้าง เรียบเรียงคำไม่เข้าใจไปบ้าง ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยน่ะค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกและตอนนี้แม่กับหนูเครียดมาก
ถ้าอย่างไรมีท่านทนายหรือผู้รู้มาตอบกระทู้นี้จะเป็นพระคุณมากค่ะ ขอขอบคุณมากคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่