เราควรให้เงินที่บ้านทุกครั้งที่เค้าขอมั้ยคะ?

เรากับที่บ้าน (ครอบครัว พ่อแม่ อยู่ ตจว) ค่อนข้างจะมีปัญหาสะสมกันมานานหลายปีแล้ว
ตั้งแต่เราจบมหาลัย (ปัจจุบันเรา 33 นะคะ) เราไม่ค่อยได้กลับบ้าน ไม่ค่อยได้คุยกัน แต่ส่งเงินให้เค้าใช้บ้าง

เมื่อตอนที่เราไปทำงาน ตปท รายได้ดีมาก เราไปอยู่ 3 ปี เรียนโทไปด้วยทำงานไปด้วย ส่งเงินให้ที่บ้านเดือนละ 2-300k
ตั้งแต่ 2005 ให้เงินที่บ้านอยู่แบบนั้นจนเกือบ 3 ปี คิดว่าเค้าจะเก็บเงินไว้ให้เรา แต่พอเรากลับมาไทย หมดค่ะ เค้าใช้กันจนหมดไม่มีเหลือ
เสียใจ แต่ไม่รู้จะทำยังไง สมัยเรียนตรี เค้าก็ไม่ได้ส่งเราเรียน เราหาเงินส่งตัวเองเรียนจนจบ .. พอเราไปต่อโทเราก็หาเงินเรียนเองอีก
ส่งเงินกลับมาให้เค้าเพราะคิดว่าเค้าจะเก็บไว้เป็นทุนรอนใช้กันในครอบครัว แต่ก็หมด
(ที่บ้านไม่ได้เล่นการพนันนะคะ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าใช้กันยังไง)

เรากลับมาไทยก็มาตั้งต้นเก็บเงินใหม่ ตั้งแต่ 2008 เราไม่คุยกับที่บ้านอีกเลยอยู่หลายปี ส่งเงินให้บ้างแต่ไม่มากมายเหมือนก่อน
อาจะเดือนละ หมื่น 2 หมื่น 3 หมื่น ตามอารมณ์เรา ส่งบ้างไม่ส่งบ้าง แล้วแต่อารมณ์อีกเหมือนกัน

จนปี 2012 เรากลับบ้านอีกครั้ง ไม่มีคำถามว่าเราไปอยู่ไหนมา สุขสบายมั้ย กินอิ่มนอนหลับยังไงบ้าง
แต่วันแรกที่เรากลับไป เค้าบอกว่าอยากได้บ้าน 2.3 ล้าน เราก็แบบ .. คิดว่าเราทำอาชีพอะไรกัน ถึงได้เอาแต่พูดเรื่องเงินจังเลย - -"

ตั้งแต่วันนั้นเราก็เฟดตัวออกมาอีก จนถึงเมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่แล้ว เราติดต่อน้องชายเราไปทาง fb
เพราะตามส่องแล้วเห็นว่าเค้าเข้ามาเรียนมหาลัยในกทม เป็นห่วงเรื่องค่าใช้จ่าย ก็ถามเค้าว่าที่บ้านให้เงินเค้าใช้ยังไง
เค้าบอกว่าแม่ให้สัปดาห์ละ 2 พัน พ่อให้สัปดาห์ละพัน รวมกันเดือนนึงก็ประมาณ 12000 ไม่รวมค่าห้องที่เค้าเช่าอยู่
เราคุยแต่กับน้อง ไม่คุยกับที่บ้าน เพราะรู้ว่าถ้าคุยเยอะ ก็จะมีเรื่องเงินที่แยะตามไปด้วย ไม่อยากให้ตัวเองเพลียกับที่บ้านมากไปกว่านี้
คือที่จริงเรากับที่บ้านมีปัญหาเรื่องเงินกันเยอะกว่านี้มาก แต่ก็เป็นอดีตไปหมดแล้ว ขอเล่าที่ปัจจุบันละกัน รื้อฟิ้นอดีต เราจะเครียดอีก

เมื่อต้นเดือนแม่คงโอนค่าห้องเช่ามาให้น้องชายแล้วไม่พอหรือไงไม่รู้ แม่เลยบอกเค้าว่าให้มาขอที่เรา เราก็ให้น้องไป 2 พัน
ที่บ้านเราก็ถามน้องตลอด 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าทำไมเราไม่โทรไปคุยกับที่บ้าน เราก็ฝากบอกไปว่า เราไม่อยากคุย
เดี๋ยวก็จะมีเรื่องเงินเข้ามาอีก เราเบื่อแล้ว

แล้วก็มีเข้ามาจริงๆ วันนี้ตอนเย็น พ่อเราฝากบอกน้องชายมาให้ถามเราว่าขอยืมเงินได้มั้ย พ่อจะไปดูงานอินโดฯ ขอยืมเงิน 3 หมื่น
เราก็ถามน้องว่าจะเอาวันไหน น้องบอกว่าพ่อจะเอาวันนี้ ตอนนี้ เดี๋ยวนี้ เราก็เฮ๊ย อะไรมันจะขนาดนั้น
เลยบอกไปว่าถ้าเป็นสัปดาห์หน้าอ่ะได้ วันนี้ไม่ได้หรอก ที่บ้านก็ฝากบอกน้องมาว่า สัปดาห์หน้าก็ได้นะ ..
ให้เลขบัญชีแม่มาเสร็จสรรพ เราก็ถามไปว่าที่บอกว่ายืมนี่คือ จะคืนเมื่อไหร่ เค้าบอกว่าคืนแน่ ภายในปีนี้แหล่ะ
เราก็เลยตัดปัญหาว่า ถ้างั้นไม่ต้องคืนหรอก เพราะรู้นิสัยว่าเค้าไม่คืนแน่นอน

ตอนนี้คิดๆ ทบทวนเรื่องครอบครัวตัวเองซ้ำไปซ้ำมา คุยกับแฟนว่า สงสัยเราต้องเฟดตัวเองออกจากครอบครัวอีกครั้งหรือเปล่า
แต่เราก็ห่วงน้อง อยู่กรุงเทพค่าใช้จ่ายมันเยอะ เราเลยกะว่าจะโอนค่าขนมให้น้องสัปดาห์ละ 1000 เพิ่มจากที่พ่อกับแม่ให้เค้า
รวมแล้วเดือนนึงจากพ่อ / แม่ และเราเค้าจะได้ 16000 หวังว่าเค้าคงอยู่ได้ และเราคงจะห่างจากที่บ้านซะ(อีกแล้วสินะ)

ปีหน้าพ่อเราจะเกษียณ คงได้เงินราวๆ 4 ล้าน เราก็บอกให้เค้าเก็บไว้ลงทุน ทำอะไรที่สามารถเก็บกินไปได้ตลอดชีวิต
เพราะเงินบำนาญของพ่อเดือนนึงคงไม่ได้มากมายอะไร .. แม่เราก็ออกแนวอยากได้นั่นได้นี่ อยากได้รถใหม่ อยากได้บ้านเพิ่ม ที่ดินเพิ่ม
เราบอกให้เปิด 7-11 แถวบ้าน เพราะในอำเภอที่เค้าอยู่ ยังไม่มี 7-11 เลย เค้าก็ไม่ทำ บอกว่าขี้เกียจ เหนื่อย เราเองก็เหนื่อยจะพูด - -"
ลืมบอก .. ว่าพ่อเราเป็นข้าราชการ c8 ค่ะ จะเกษียณกันยาปีหน้าแล้ว แต่เป็นข้าราชการตงฉินนะ ไม่มีเงินทองอะไรมากมาย
มีแต่ความมั่นคงเรื่องค่ารักษาพยาบาลและเงินบำนาญหลังเกษียณ

ร่ายยาวมาตั้งนาน ที่จะถามคือ คิดว่าเราทำถูกมั้ยที่จะหยุดให้เงินที่บ้านแต่เพียงเท่านี้ เรารู้ว่าอาจทำไม่ได้จริงในอนาคต
เพราะเดี๋ยวพอเค้ามีค่าใช้จ่ายฉุกเฉินจำเป็นอะไร ก็จะขอผ่านมาทางน้องชายเรามาอยู่ดี .. พอได้ยินได้ฟังเราสงสาร เราก็จะให้เค้าอีก
แต่เดือนละ 3 หมื่น 5 หมื่น เราว่ามันเยอะไปมั้ย เราเองก็เหนื่อยกับชีวิตตัวเองมากพออยู่แล้ว T T

...


tag ศาลา เพราะเป็นปัญหาชีวิต (เรา)
tag สีลม เพราะอยากฟังความเห็นของคนทำงานที่ต้องส่งเงินให้ที่บ้านค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่