กรุงเทพฯ 26 ส.ค. - ธ.ก.ส.พร้อมปล่อยสินเชื่อช่วยชาวสวนยาง วงเงิน 15,000 ล้านบาท รวมทั้งมีมาตรการสนับสนุนการแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้ยางพารา วงเงิน 5,000 ล้านบาท
นายสมศักดิ์ กังธีระวัฒน์ รองผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกมาตรการแก้ไขปัญหายางพาราทั้งระบบ ในส่วนของ ธ.ก.ส.ได้ออกมาตรการเสริมสภาพคล่องและสนับสนุนการแปรรูปที่เกี่ยวเนื่องกับ ธ.ก.ส. ดูแลเป็นวงเงินช่วยเหลือ 15,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการเติมสภาพคล่องให้กลุ่มสหกรณ์ หรือสถาบันเกษตรกร จำนวน 700 แห่ง วงเงิน 10,000 ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 แต่ให้สถาบันเกษตรกรจ่ายเพียงร้อยละ 1 ส่วนอีกร้อยละ 3 รัฐบาลรับภาระชดเชยให้ เพื่อลดภาระให้กับกลุ่มเกษตรกร
ส่วนมาตรการสนับสนุนการแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้ยางพารานั้น เตรียมวงเงินรองรับ 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 3,500 ล้านบาท ใช้สำหรับการจัดซื้อเครื่องจักรอุปกรณ์ใหม่ คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.5 สถาบันเกษตรกรจ่ายรับภาระเพียงร้อยละ 0.1 โดยมีภาครัฐให้การอุดหนุนดอกเบี้ยร้อยละ 3 ส่วนที่เหลือร้อยละ 0.4 เป็นการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนายางพารา หาก คสช.อนุมัติจะเริ่มปล่อยกู้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2557 เป็นต้นไป
สำหรับแนวทางการช่วยเหลือดังกล่าว ถือเป็น 2 มาตรการใน 8 แนวทางการแก้ไขปัญหายางพาราทั้งระบบ ในส่วนของธนาคารรัฐมีธนาคารออมสินร่วมปล่อยกู้อีก 15,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในการสนับสนุนการแปรรูปอีกทางหนึ่ง มาตรการช่วยเหลือทางการเงินทั้งหมดรวม 30,000 ล้านบาท ส่วนแนวทางแก้ปัญหาด้านอื่น เน้นลดพื้นที่การปลูกลงด้วยการโค่นยาง 100,000 ไร่/ปี เป็นต้น เมื่อให้สินเชื่อสนับสนุนการแปรรูป คาดว่าสามารถดึงยางออกจากระบบได้ไม่ต่ำกว่า 200,000 ตัน. - สำนักข่าวไทย
♨ ธ.ก.ส.พร้อมปล่อยสินเชื่อช่วยชาวสวนยาง วงเงิน 15,000 ล้านบาท ♨
นายสมศักดิ์ กังธีระวัฒน์ รองผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกมาตรการแก้ไขปัญหายางพาราทั้งระบบ ในส่วนของ ธ.ก.ส.ได้ออกมาตรการเสริมสภาพคล่องและสนับสนุนการแปรรูปที่เกี่ยวเนื่องกับ ธ.ก.ส. ดูแลเป็นวงเงินช่วยเหลือ 15,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการเติมสภาพคล่องให้กลุ่มสหกรณ์ หรือสถาบันเกษตรกร จำนวน 700 แห่ง วงเงิน 10,000 ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 แต่ให้สถาบันเกษตรกรจ่ายเพียงร้อยละ 1 ส่วนอีกร้อยละ 3 รัฐบาลรับภาระชดเชยให้ เพื่อลดภาระให้กับกลุ่มเกษตรกร
ส่วนมาตรการสนับสนุนการแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้ยางพารานั้น เตรียมวงเงินรองรับ 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 3,500 ล้านบาท ใช้สำหรับการจัดซื้อเครื่องจักรอุปกรณ์ใหม่ คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.5 สถาบันเกษตรกรจ่ายรับภาระเพียงร้อยละ 0.1 โดยมีภาครัฐให้การอุดหนุนดอกเบี้ยร้อยละ 3 ส่วนที่เหลือร้อยละ 0.4 เป็นการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนายางพารา หาก คสช.อนุมัติจะเริ่มปล่อยกู้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2557 เป็นต้นไป
สำหรับแนวทางการช่วยเหลือดังกล่าว ถือเป็น 2 มาตรการใน 8 แนวทางการแก้ไขปัญหายางพาราทั้งระบบ ในส่วนของธนาคารรัฐมีธนาคารออมสินร่วมปล่อยกู้อีก 15,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในการสนับสนุนการแปรรูปอีกทางหนึ่ง มาตรการช่วยเหลือทางการเงินทั้งหมดรวม 30,000 ล้านบาท ส่วนแนวทางแก้ปัญหาด้านอื่น เน้นลดพื้นที่การปลูกลงด้วยการโค่นยาง 100,000 ไร่/ปี เป็นต้น เมื่อให้สินเชื่อสนับสนุนการแปรรูป คาดว่าสามารถดึงยางออกจากระบบได้ไม่ต่ำกว่า 200,000 ตัน. - สำนักข่าวไทย