48 กลเม็ด เคล็ดลับคนทำงาน สู่ความเป็นผู้นำ ใช้ได้จริงหรือไม่ อันนี้พอดีมีเพื่อนมาปรึกษาเรื่องงานแล้วส่งมาให้ดูค่ะ บางข้อมีคนในองค์กรบางองค์กรใหญ่ ๆ นำมาใช้จริง ๆ และในข้อนั้น นี่แหละทำให้เพื่อนของเรา และคนในแผนกเอือมระอา และเบื่อที่ไม่อยากร่วมงานด้วยค่ะ โดยที่ตัวใหญ่ ๆ ขององค์กรนั้นเห็นชอบ มองและพอใจในพรรคพวกของเค้าเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ไม่เห็นหัว พนง. คนอื่น ๆ น้อง ๆ ที่จบใหม่ คนทำงานองค์กรเอกชนลองทายดูกันค่ะ ว่าข้อไหน และคุณมีความคิดเห็นยังไงกับข้อเหล่านี้บ้าง เตรียมตัวตั้งรุกและรับกันยังไง ในบางข้อคะ
1. อย่าทำตัวเด่นเกินเจ้านาย
พยายามทำให้เจ้านายรู้สึกว่าเหนือกว่า ต้องพยายามเอาใจ และสร้างความประทับใจเจ้านาย อย่าพยายามแสดงความเก่งกาจของตนเองเหนือเจ้านาย ซึ่งอาจจะได้รับผลที่ตรงกันข้าม นั่นคือ การหวาดระแวง และไม่ไว้วางใจ ต้องทำให้เจ้านายรู้สึกเหมือนว่า ตัวเขานั้นฉลาดกว่าที่เขาเป็น แล้วคุณก็จะก้าวเข้าสู่อำนาจที่ต้องการ
2. อย่าเชื่อใจเพื่อนฝูงมากนัก เรียนรู้วิธีการใช้ศัตรู
ระวังเพื่อนฝูงเอาไว้ เพื่อนอาจจะหักหลังเอาได้ง่ายๆ เนื่องจากความริษยา เพื่อนฝูงจะกลายเป็นศัตรูหรือไม่ช่วยเหลือคุณได้ แต่คุณสามารถนำ (จ้าง) อดีตศัตรูมาทำงาน ซึ่งก็จะมีความซื่อสัตย์มากกว่าเพื่อนฝูง เพราะคุณรู้ว่า อดีตศัตรูนั้นเป็นอย่างไร และอดีตศัตรูก็ต้องการพิสูจน์อะไรบางอย่าง แน่นอนว่า คุณควรพยายามระวังเพื่อนให้มากกว่าศัตรู ถ้าคุณไม่มีศัตรู ก็ควรพยายามทำให้มี
3. ปกปิดเจตนา หรือความตั้งใจ
พยายามทำให้ทุกคนสับสน งุนงงกับการกระทำของคุณโดยไม่ยอมบ่งบอกเจตนาที่แท้จริง ถ้าหากทุกคนไม่ทราบว่า คุณกำลังทำอะไรอยู่ พวกนั้นก็จะไม่เตรียมพร้อมในการป้องกัน พยายามนำพวกนั้นไปสู่ทิศทางที่ผิดพลาด ปกปิดพวกนั้นให้อยู่ในความคลุมเครือไม่ชัดเจน และเมื่อพวกนั้นทราบเจตนาที่แท้จริงของคุณ ก็สายเกินไปแล้ว
4. พยายามพูดให้น้อย
เมื่อใดก็ตามที่คุณคิดว่า จะพยายามสร้างความประทับใจด้วยคำพูด ยิ่งพูดมากเท่าใด คุณก็ยิ่งธรรมดามากขึ้นเท่านั้น และอำนาจการควบคุมของคุณก็จะยิ่งลดน้อยลง เมื่อคุณคิดที่จะพูดเรื่องไร้สาระ มันก็จะกลายเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าคุณพยายามทำให้มันคลุมเครือ ไม่เปิดเผย บุคคลที่มีอำนาจจะสร้างความประทับใจ และคุกคามผู้อื่นโดยการพูดน้อย ยิ่งพูดมากเท่าใด ยิ่งแสดงความเขลาออกมา
5. พยายามทำ และรักษาชื่อเสียง
ชื่อเสียงเป็นสิ่งสำคัญต่ออำนาจ ชื่อเสียงประการเดียวเท่านั้น สามารถทำให้เกิดการคุกคาม และชัยชนะ ถ้าเสียชื่อเสียงแล้ว คุณก็จะอยู่ในสภาพล่อแหลม และอาจถูกคุกคามรอบด้าน พยายามสร้างชื่อเสียงที่ไม่สามารถลบล้างได้ พยายามตื่นตัวเสมอต่อการถูกคุกคาม และทำให้ไม่พ่ายแพ้ก่อนที่สิ่งเหล่านั้นจะเกิดขึ้น ขณะเดียวกันให้พยายามทำลายศัตรู โดยการทำลายชื่อเสียงของคนเหล่านั้น จากนั้นก็ปล่อยให้คนอื่นหรือสาธารณชนบดขยี้ศัตรู
6. แสดงตนเองให้เป็นที่สนใจอย่างมีค่าทั้งสิ้น
ทุกๆ สิ่งถูกตัดสินด้วยการกระทำ สิ่งที่เห็นบางครั้งอาจจะไม่มีค่า คุณอย่าพยายามทำตัวให้หายไปจากสภาพแวดล้อมหรือฝูงชน ซึ่งก็มักจะถูกลืมในที่สุด พยายามอยู่ในจุดที่ถูกมองเห็นซึ่งก็จะมีคุณค่าทุกครั้ง พยายามทำตนให้เป็นที่ต้องใจ มีเสน่ห์ โดยการปรากฏตัว มีสีสัน และดูลึกลับ กว่าผู้อื่นที่ขาดรสนิยม และขาดความกล้า
7. ให้คนอื่นทำงานให้แก่คุณ แต่คุณต้องเป็นผู้ได้รับประโยชน์
ใช้ความฉลาด ความรู้และการทำงานของผู้อื่นเพื่อให้งานของคุณบรรลุเป้าหมาย ซึ่งไม่เพียงแต่จะประหยัดเวลา และพลังงานที่มีค่าของคุณเท่านั้น ยังทำให้คุณดูเหมือนเป็นบุคคลที่ทรงประสิทธิภาพ และรวดเร็ว ซึ่งท้ายที่สุด คนที่ช่วยงานคุณก็อาจจะถูกลืมไป แต่ตัวคุณเองจะเป็นผู้ที่ถูกกล่าวถึงตลอดไป อย่าทำอะไรก็ตาม ที่คนอื่นก็สามารถทำให้คุณได้
8. ทำให้คนอื่นต้องมาหาคุณ อาจต้องใช้เหยื่อล่อถ้าหากจำเป็น
เมื่อใดก็ตามที่คุณสามารถบังคับให้คนอื่นกระทำงาน คุณจะเป็นผู้ควบคุม ซึ่งจะเป็นการดีมากถ้าหากทำให้ศัตรูต้องมาหาคุณ พยายามขัดขวางความก้าวหน้าของพวกนั้น ล่อลวงด้วยสิ่งของ จากนั้นก็ลงมือทำลาย คุณก็จะเป็นคนที่เหนือกว่า
9. เอาชนะด้วยการกระทำ ไม่ใช่การโต้เถียง
การเอาชนะด้วยการโต้เถียงไม่ใช่ชัยชนะที่เด็ดขาด เนื่องจากนำไปสู่ความไม่พอใจ ซึ่งก็จะก่อตัวขึ้น และไม่มีวันสิ้นสุด จะมีพลังหรือดีกว่ามาก ถ้าหากทำให้คนอื่นเห็นด้วยกับคุณในการกระทำโดยไม่ต้องบอกกล่าว ทำโดยการแสดงตัวอย่าง สาธิต ไม่ใช่การอธิบายให้เข้าใจ
10. หลีกเลี่ยงคนที่ไม่มีความสุขและโชคร้าย
คุณอาจจะตายได้โดยอยู่กับคนที่โศกเศร้า อารมณ์ต่างๆ สามารถแพร่เชื้อระบาดได้เหมือนโรคร้าย คุณอาจจะรู้สึกว่า คุณได้ช่วยเหลือคนที่ใกล้จมน้ำตาย แต่คุณก็อาจจะตายไปด้วย คนโชคร้ายอาจจะทำตนให้โชคร้ายเอง ซึ่งก็จะนำภัยมาสู่ตัวคุณ ดังนั้นจึงควรจะอยู่ในหมู่คนที่มีความสุขและโชคดี
11. เรียนรู้วิธีการที่คนอื่นต้องพึ่งพาคุณ
หากคุณต้องการอิสระเสรี คุณจะต้องเป็นบุคคลที่จำเป็นและต้องการสำหรับผู้อื่น ถ้าหากคนอื่นต้องพึ่งพาคุณมากเท่าใด คุณก็จะเป็นอิสระมากเท่านั้น ทำให้คนรอบข้างตัวคุณรู้สึกว่ามีความสุข และมั่งคั่ง แล้วคุณก็ไม่มีอะไรต้องหวาดกลัว แต่คุณต้องไม่สอนพวกนั้นจนหมด เพื่อให้พวกนั้นอยู่ไม่ได้ ถ้าขาดคุณ
12. ใช้ความซื่อสัตย์และความใจกว้างที่เลือกสรรแล้ว เพื่อทำให้เหยื่อตายใจ
ความจริงใจและความซื่อสัตย์เพียงครั้งเดียวจะปกปิดความไม่ซื่อสัตย์หลาย ๆ ครั้งได้ การแสดงความซื่อสัตย์ที่เปิดเผย และความใจกว้างจะทำให้พวกคนเหล่านั้นลดการระวังป้องกันลง ในทันทีที่ความซื่อสัตย์ที่คุณเลือกสรรนั้นทะลวงผ่านเกราะป้องกันแล้ว คุณสามารถที่จะลวงและควบคุมคนเหล่านั้นได้ตามใจหวัง เหมือนเหตุการณ์ม้าไม้ของโทรจัน ที่ใช้เพื่อวัตถุประสงค์เดียวกัน
13. เมื่อคุณต้องการขอความช่วยเหลือ ต้องกระทำเหมือนคนเหล่านั้นจะได้รับประโยชน์ อย่าต้องใช้การขอความกรุณาหรือการขอบคุณ
ถ้าคุณจำเป็นที่ต้องพึ่งพามิตรคนใดคนหนึ่งให้ช่วยเหลือ อย่าได้กล่าวถึงเรื่องที่คุณเคยช่วยเหลือพวกเขาในอดีตหรือการกระทำดีที่ผ่านมา พวกนั้นจะหาทางปฏิเสธ ดังนั้นควรจะร้องขอบุคคลเหล่านั้นโดยการอ้างถึงประโยชน์ที่พวกเขาจะได้รับ และเน้นสัดส่วนที่เขาจะได้จากสัดส่วนทั้งหมด พวกเขาก็อยากที่จะทำเมื่อรู้ว่าจะได้รับประโยชน์ตอบแทน
14. ปฏิบัติตนเองเหมือนเพื่อน แต่ทำงานงานเหมือนสายลับ
การรู้เกี่ยวกับศัตรูเป็นสิ่งสำคัญ ใช้สายลับรวบรวมข่าวสารอันมีค่า ก็จะทำให้คุณก้าวไปอีกขั้นหนึ่ง ทางที่ดีคุณควรจะเป็นสายลับเสียเอง ในการเข้าสังคมที่สุภาพเรียบร้อย เรียนรู้วิธีการค้นหาและตรวจสอบ ถามคำถามโดยอ้อมเพื่อให้บุคคลเผยจุดอ่อนและวัตถุประสงค์ การทำงานเป็นสายลับเป็นศิลปะที่ควรทำทุกโอกาส และทุกเมื่อ
15. ทำลายศัตรูอย่างสิ้นซาก
ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ในอดีตเช่น โมเสส ทราบดีว่า ศัตรูที่อยู่ในอาการหวาดผวา ตื่นตระหนกต้องทำลายให้สิ้นซาก (บางครั้งคนเหล่านั้นได้เรียนรู้ความยากลำบาก) ถ้าหากเศษไฟยังมีเชื้อเหลืออยู่ ไม่ว่าจะเล็กน้อยเพียงใด วันหนึ่งข้างหน้าก็อาจลุกเป็นไฟได้อีก ซึ่งก็ทำให้คุณต้องสูญเสียหนักกว่าเดิม การทำลายศัตรูครึ่ง ๆ กลาง ๆ ศัตรูก็อาจจะฟื้นคืนกลับและหาทางล้างแค้น ดังนั้นจงทำลายศัตรูทั้งร่างกายและจิตวิญญาณ
[[[48 กลเม็ด]]] เคล็ดลับคนทำงาน ใช้ได้จริง???
1. อย่าทำตัวเด่นเกินเจ้านาย
พยายามทำให้เจ้านายรู้สึกว่าเหนือกว่า ต้องพยายามเอาใจ และสร้างความประทับใจเจ้านาย อย่าพยายามแสดงความเก่งกาจของตนเองเหนือเจ้านาย ซึ่งอาจจะได้รับผลที่ตรงกันข้าม นั่นคือ การหวาดระแวง และไม่ไว้วางใจ ต้องทำให้เจ้านายรู้สึกเหมือนว่า ตัวเขานั้นฉลาดกว่าที่เขาเป็น แล้วคุณก็จะก้าวเข้าสู่อำนาจที่ต้องการ
2. อย่าเชื่อใจเพื่อนฝูงมากนัก เรียนรู้วิธีการใช้ศัตรู
ระวังเพื่อนฝูงเอาไว้ เพื่อนอาจจะหักหลังเอาได้ง่ายๆ เนื่องจากความริษยา เพื่อนฝูงจะกลายเป็นศัตรูหรือไม่ช่วยเหลือคุณได้ แต่คุณสามารถนำ (จ้าง) อดีตศัตรูมาทำงาน ซึ่งก็จะมีความซื่อสัตย์มากกว่าเพื่อนฝูง เพราะคุณรู้ว่า อดีตศัตรูนั้นเป็นอย่างไร และอดีตศัตรูก็ต้องการพิสูจน์อะไรบางอย่าง แน่นอนว่า คุณควรพยายามระวังเพื่อนให้มากกว่าศัตรู ถ้าคุณไม่มีศัตรู ก็ควรพยายามทำให้มี
3. ปกปิดเจตนา หรือความตั้งใจ
พยายามทำให้ทุกคนสับสน งุนงงกับการกระทำของคุณโดยไม่ยอมบ่งบอกเจตนาที่แท้จริง ถ้าหากทุกคนไม่ทราบว่า คุณกำลังทำอะไรอยู่ พวกนั้นก็จะไม่เตรียมพร้อมในการป้องกัน พยายามนำพวกนั้นไปสู่ทิศทางที่ผิดพลาด ปกปิดพวกนั้นให้อยู่ในความคลุมเครือไม่ชัดเจน และเมื่อพวกนั้นทราบเจตนาที่แท้จริงของคุณ ก็สายเกินไปแล้ว
4. พยายามพูดให้น้อย
เมื่อใดก็ตามที่คุณคิดว่า จะพยายามสร้างความประทับใจด้วยคำพูด ยิ่งพูดมากเท่าใด คุณก็ยิ่งธรรมดามากขึ้นเท่านั้น และอำนาจการควบคุมของคุณก็จะยิ่งลดน้อยลง เมื่อคุณคิดที่จะพูดเรื่องไร้สาระ มันก็จะกลายเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าคุณพยายามทำให้มันคลุมเครือ ไม่เปิดเผย บุคคลที่มีอำนาจจะสร้างความประทับใจ และคุกคามผู้อื่นโดยการพูดน้อย ยิ่งพูดมากเท่าใด ยิ่งแสดงความเขลาออกมา
5. พยายามทำ และรักษาชื่อเสียง
ชื่อเสียงเป็นสิ่งสำคัญต่ออำนาจ ชื่อเสียงประการเดียวเท่านั้น สามารถทำให้เกิดการคุกคาม และชัยชนะ ถ้าเสียชื่อเสียงแล้ว คุณก็จะอยู่ในสภาพล่อแหลม และอาจถูกคุกคามรอบด้าน พยายามสร้างชื่อเสียงที่ไม่สามารถลบล้างได้ พยายามตื่นตัวเสมอต่อการถูกคุกคาม และทำให้ไม่พ่ายแพ้ก่อนที่สิ่งเหล่านั้นจะเกิดขึ้น ขณะเดียวกันให้พยายามทำลายศัตรู โดยการทำลายชื่อเสียงของคนเหล่านั้น จากนั้นก็ปล่อยให้คนอื่นหรือสาธารณชนบดขยี้ศัตรู
6. แสดงตนเองให้เป็นที่สนใจอย่างมีค่าทั้งสิ้น
ทุกๆ สิ่งถูกตัดสินด้วยการกระทำ สิ่งที่เห็นบางครั้งอาจจะไม่มีค่า คุณอย่าพยายามทำตัวให้หายไปจากสภาพแวดล้อมหรือฝูงชน ซึ่งก็มักจะถูกลืมในที่สุด พยายามอยู่ในจุดที่ถูกมองเห็นซึ่งก็จะมีคุณค่าทุกครั้ง พยายามทำตนให้เป็นที่ต้องใจ มีเสน่ห์ โดยการปรากฏตัว มีสีสัน และดูลึกลับ กว่าผู้อื่นที่ขาดรสนิยม และขาดความกล้า
7. ให้คนอื่นทำงานให้แก่คุณ แต่คุณต้องเป็นผู้ได้รับประโยชน์
ใช้ความฉลาด ความรู้และการทำงานของผู้อื่นเพื่อให้งานของคุณบรรลุเป้าหมาย ซึ่งไม่เพียงแต่จะประหยัดเวลา และพลังงานที่มีค่าของคุณเท่านั้น ยังทำให้คุณดูเหมือนเป็นบุคคลที่ทรงประสิทธิภาพ และรวดเร็ว ซึ่งท้ายที่สุด คนที่ช่วยงานคุณก็อาจจะถูกลืมไป แต่ตัวคุณเองจะเป็นผู้ที่ถูกกล่าวถึงตลอดไป อย่าทำอะไรก็ตาม ที่คนอื่นก็สามารถทำให้คุณได้
8. ทำให้คนอื่นต้องมาหาคุณ อาจต้องใช้เหยื่อล่อถ้าหากจำเป็น
เมื่อใดก็ตามที่คุณสามารถบังคับให้คนอื่นกระทำงาน คุณจะเป็นผู้ควบคุม ซึ่งจะเป็นการดีมากถ้าหากทำให้ศัตรูต้องมาหาคุณ พยายามขัดขวางความก้าวหน้าของพวกนั้น ล่อลวงด้วยสิ่งของ จากนั้นก็ลงมือทำลาย คุณก็จะเป็นคนที่เหนือกว่า
9. เอาชนะด้วยการกระทำ ไม่ใช่การโต้เถียง
การเอาชนะด้วยการโต้เถียงไม่ใช่ชัยชนะที่เด็ดขาด เนื่องจากนำไปสู่ความไม่พอใจ ซึ่งก็จะก่อตัวขึ้น และไม่มีวันสิ้นสุด จะมีพลังหรือดีกว่ามาก ถ้าหากทำให้คนอื่นเห็นด้วยกับคุณในการกระทำโดยไม่ต้องบอกกล่าว ทำโดยการแสดงตัวอย่าง สาธิต ไม่ใช่การอธิบายให้เข้าใจ
10. หลีกเลี่ยงคนที่ไม่มีความสุขและโชคร้าย
คุณอาจจะตายได้โดยอยู่กับคนที่โศกเศร้า อารมณ์ต่างๆ สามารถแพร่เชื้อระบาดได้เหมือนโรคร้าย คุณอาจจะรู้สึกว่า คุณได้ช่วยเหลือคนที่ใกล้จมน้ำตาย แต่คุณก็อาจจะตายไปด้วย คนโชคร้ายอาจจะทำตนให้โชคร้ายเอง ซึ่งก็จะนำภัยมาสู่ตัวคุณ ดังนั้นจึงควรจะอยู่ในหมู่คนที่มีความสุขและโชคดี
11. เรียนรู้วิธีการที่คนอื่นต้องพึ่งพาคุณ
หากคุณต้องการอิสระเสรี คุณจะต้องเป็นบุคคลที่จำเป็นและต้องการสำหรับผู้อื่น ถ้าหากคนอื่นต้องพึ่งพาคุณมากเท่าใด คุณก็จะเป็นอิสระมากเท่านั้น ทำให้คนรอบข้างตัวคุณรู้สึกว่ามีความสุข และมั่งคั่ง แล้วคุณก็ไม่มีอะไรต้องหวาดกลัว แต่คุณต้องไม่สอนพวกนั้นจนหมด เพื่อให้พวกนั้นอยู่ไม่ได้ ถ้าขาดคุณ
12. ใช้ความซื่อสัตย์และความใจกว้างที่เลือกสรรแล้ว เพื่อทำให้เหยื่อตายใจ
ความจริงใจและความซื่อสัตย์เพียงครั้งเดียวจะปกปิดความไม่ซื่อสัตย์หลาย ๆ ครั้งได้ การแสดงความซื่อสัตย์ที่เปิดเผย และความใจกว้างจะทำให้พวกคนเหล่านั้นลดการระวังป้องกันลง ในทันทีที่ความซื่อสัตย์ที่คุณเลือกสรรนั้นทะลวงผ่านเกราะป้องกันแล้ว คุณสามารถที่จะลวงและควบคุมคนเหล่านั้นได้ตามใจหวัง เหมือนเหตุการณ์ม้าไม้ของโทรจัน ที่ใช้เพื่อวัตถุประสงค์เดียวกัน
13. เมื่อคุณต้องการขอความช่วยเหลือ ต้องกระทำเหมือนคนเหล่านั้นจะได้รับประโยชน์ อย่าต้องใช้การขอความกรุณาหรือการขอบคุณ
ถ้าคุณจำเป็นที่ต้องพึ่งพามิตรคนใดคนหนึ่งให้ช่วยเหลือ อย่าได้กล่าวถึงเรื่องที่คุณเคยช่วยเหลือพวกเขาในอดีตหรือการกระทำดีที่ผ่านมา พวกนั้นจะหาทางปฏิเสธ ดังนั้นควรจะร้องขอบุคคลเหล่านั้นโดยการอ้างถึงประโยชน์ที่พวกเขาจะได้รับ และเน้นสัดส่วนที่เขาจะได้จากสัดส่วนทั้งหมด พวกเขาก็อยากที่จะทำเมื่อรู้ว่าจะได้รับประโยชน์ตอบแทน
14. ปฏิบัติตนเองเหมือนเพื่อน แต่ทำงานงานเหมือนสายลับ
การรู้เกี่ยวกับศัตรูเป็นสิ่งสำคัญ ใช้สายลับรวบรวมข่าวสารอันมีค่า ก็จะทำให้คุณก้าวไปอีกขั้นหนึ่ง ทางที่ดีคุณควรจะเป็นสายลับเสียเอง ในการเข้าสังคมที่สุภาพเรียบร้อย เรียนรู้วิธีการค้นหาและตรวจสอบ ถามคำถามโดยอ้อมเพื่อให้บุคคลเผยจุดอ่อนและวัตถุประสงค์ การทำงานเป็นสายลับเป็นศิลปะที่ควรทำทุกโอกาส และทุกเมื่อ
15. ทำลายศัตรูอย่างสิ้นซาก
ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ในอดีตเช่น โมเสส ทราบดีว่า ศัตรูที่อยู่ในอาการหวาดผวา ตื่นตระหนกต้องทำลายให้สิ้นซาก (บางครั้งคนเหล่านั้นได้เรียนรู้ความยากลำบาก) ถ้าหากเศษไฟยังมีเชื้อเหลืออยู่ ไม่ว่าจะเล็กน้อยเพียงใด วันหนึ่งข้างหน้าก็อาจลุกเป็นไฟได้อีก ซึ่งก็ทำให้คุณต้องสูญเสียหนักกว่าเดิม การทำลายศัตรูครึ่ง ๆ กลาง ๆ ศัตรูก็อาจจะฟื้นคืนกลับและหาทางล้างแค้น ดังนั้นจงทำลายศัตรูทั้งร่างกายและจิตวิญญาณ