จากกระทู้นี้
http://pantip.com/topic/32530530
เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๕๐
อะไรจะสว่างไสวยิ่งกว่าจิตใจ
เราเคยเตือนหรือติอยู่เสมอ ตามหลักศาสนธรรมของพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นด้านนามธรรมสอนจิตใจคนมากกว่าอื่น นี่มันเป็นศาสนวัตถุ มีตั้งแต่เรื่องวัตถุเกี่ยวกับเรื่องศาสนา เอะอะศาสนากวนบ้านกวนเมือง เดี๋ยวสร้างนั้นสร้างนี้มีแต่เรื่องวัตถุ คือศาสนาแต่ก่อนไม่มีนะ เดี๋ยวนี้มันลุกลามเข้ามาอย่างนี้ละ สร้างนั้นสร้างนี้มีแต่วัตถุ สร้างจิตใจเจ้าของให้เป็นคนดีไม่อยากสนใจสร้างกัน พระพุทธเจ้าพระสาวกอรหัตอรหันต์นี้เป็นพุทฺธํ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ ของพวกเรา ท่านสร้างที่จิตใจ ท่านไม่ได้ไปสร้างที่วัตถุ สนใจกับทางด้านวัตถุ แต่นี้กิเลสมันค่อยตีค่อยแทรกเข้ามา เลยถือเอาเรื่องวัตถุเป็นของสำคัญยิ่งกว่าศาสนธรรม เดี๋ยวนี้เลยกลายเป็นศาสนวัตถุไปหมดแล้ว
มีเราเท่านั้นพูดได้ นอกนั้นไม่มีใครกล้าพูด เราพูดตามหลักธรรม ศาสดาองค์เอกเป็นครูสอนโลกมานาน คนที่เป็นคนดิบคนดีเพราะธรรมของพระพุทธเจ้ามีมากต่อมาก เราก็นำธรรมอันเดียวกันมาพูดให้พี่น้องทั้งหลายฟัง จะไม่พอเป็นประโยชน์ได้บ้างเหรอที่พูดเดี๋ยวนี้ เรื่องวัตถุ เอะอะเอาวัตถุขึ้นก่อน จะปฏิบัติตัวให้เป็นคนดีไม่สนใจ เพราะทางวัตถุมันทำง่ายๆ ทางจิตใจจะฝึกฝนอบรมตนให้เป็นคนดีนี้ ถือว่ายากไปด้วยกันหมด พระพุทธเจ้าสลบถึง ๓ หน ยากหรือไม่ยาก การฝึกพระองค์เป็นของลำบากมากขนาดไหนพิจารณาซิ
มีตั้งแต่เรื่องสุกเอาเผากินๆ หาเหตุหาผลไม่ได้ ศาสนาของพระพุทธเจ้าเป็นศาสนาที่เต็มไปด้วยเหตุผล รวมแล้วเรียกว่าหลักธรรม ไม่ได้สุ่มสี่สุ่มห้าแบบสุกเอาเผากินนะ ทำอะไรให้คิดอ่านไตร่ตรองบ้าง เราเห็นเรื่องนั้นละเป็นเรื่องใหญ่โตกว่าเรื่องวัตถุ เรื่องปฏิบัติตัวให้เป็นคนดี วัดนี้ถ้าจะสร้างโบสถ์หลังหนึ่งนี้ราคาเท่าไร มีแล้วท่านผู้เสนอมาสร้างเป็นคนที่สูงสุดในเมืองไทยเรา เราเห็นธรรมสูงกว่าคนอีก เราจึงเล็งดูธรรม เพราะฉะนั้นโบสถ์หลังนี้จึงยังขึ้นไม่ได้ มันขัดต่อธรรม
เรื่องของธรรมใหญ่โตยิ่งกว่าเรื่องอะไร สร้างโบสถ์หลังหนึ่งขึ้นมานี้เปิดทางตั้งแต่ทางหน้าวัดเข้าถึงสถานที่สร้างโบสถ์ เป็นโรงงานทั้งหมด ทั้งหญิงทั้งชายเข้าทั้งคืนทั้งวัน หลั่งไหล ประตูวัดต้องเปิดตลอดเวลา วัดนี้แหลกหมดเลย ได้โบสถ์ขึ้นมาหลังหนึ่ง แต่พระตายหมด ใช้ได้ไหมล่ะ พระพุทธเจ้าเลิศด้วยธรรมนะ สาวกทั้งหลายที่เราได้ถือว่า สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ ท่านเลิศด้วยธรรม ท่านไม่ได้เลิศด้วยวัตถุ ก่อนั้นสร้างนี้ ยุ่งนั้นยุ่งนี้ หาเกาในที่ไม่คันอย่างนั้นใช้ไม่ได้นะ ควรพิจารณาบ้าง การพูดนี้เรานำธรรมมาพูด เราไม่ได้พูดสุ่มสี่สุ่มห้า อวดอำนาจบาตรหลวงป่าๆ เถื่อนๆ อย่างนั้นเราไม่มี เราพูดตามหลักธรรมเท่านั้นละ
โบสถ์หลังหนึ่งลองดูซิ อย่างวัดป่าบ้านตาดสร้างโบสถ์หลังหนึ่งนี่ พระเณรตายฉิuหายหมดจากศีลจากธรรม จากจิตตภาวนา เปิดประตูวัดไว้ตั้งแต่บัดนั้นเข้าถึงที่ทำงานทั้งวันทั้งคืนอย่างน้อยปีหนึ่ง โบสถ์ที่จะสำเร็จ แล้วคนที่มาสร้างโบสถ์ เป็นคนประเภทใดบ้าง รู้จักศีลจักธรรมอะไรบ้างหรือเปล่า มีทั้งหญิงทั้งชายมาแตกลูกแตกแม่กันอยู่นี่ เต็มอยู่นี่น่ะ แล้ววัดนี้หมดเลย เราจึงไม่ให้สร้าง เราเห็นเรื่องใหญ่โต เรื่องธรรมเป็นเรื่องจำเป็นมากยิ่งกว่าเรื่องอะไรทั้งนั้น ต้องเล็งดูเสียก่อนซิทำอะไร
โบสถ์นี้แต่ก่อนก็ไม่เห็นมีในครั้งพุทธกาล มากำเริบเสิบสานขึ้นเฉยๆ นี่ สร้างอะไรขึ้นมา วัตถุขึ้นก่อนหน้าแล้ว วัตถุขึ้นก่อนแล้วๆ ธรรมไม่ได้ออกนะ มีแต่วัตถุ เป็นศาสนวัตถุไปหมดแล้วแหละ เรื่องธรรมไม่ได้ออก ถ้าธรรมออกมีแต่การประพฤติปฏิบัติตัวให้เป็นคนดี อะไรจะดีจะชั่วขึ้นอยู่กับคนเรา ถ้าคนเราดีแล้วอะไรก็ดีไปหมดนั่นแหละ ถ้าคนเราไม่ดีจะสร้างเป็นหอปราสาทแข่งแดนสวรรค์ขึ้นมา ก็ไม่เป็นประโยชน์อะไร อิฐปูนหินทรายเท่านั้นแหละ ไม่เกิดประโยชน์ ทำอะไรมีแต่อยากทำเฉยๆ นะ
การสร้างทางด้านวัตถุหรือทำอย่างนั้นมันทำง่าย แต่ที่จะอบรมตนเองให้เป็นคนดีทางด้านจิตใจนี้ มันถือว่าเป็นทำยากด้วยกันเสียหมด ไม่สนใจ แม้แต่พระเราก็ไม่สนใจที่จะฝึกฝนอบรมจิตใจให้เป็นจิตที่ดีงามสง่าผ่าเผย เมื่ออบรมให้เต็มที่แล้ว อะไรจะสว่างไสวยิ่งกว่าจิตใจ สว่างจ้าครอบโลกธาตุ จิตใจที่ฝึกดีแล้วเป็นอย่างงั้น แต่วัตถุเหล่านั้นมันสว่างที่ไหน ไม่เห็นมีอะไรสว่างไสว มีแต่วัตถุเต็มบ้านเต็มเมือง เขาก็มีเราก็มี อยู่ที่ไหนก็มีแต่วัตถุ ใครวิเศษวิโสอะไรบ้าง เอามาอวดกันบ้างซิ ผู้ที่มีจิตใจวิเศษไม่ต้องอวดท่านก็วิเศษอยู่แล้ว จำเป็นอะไรจะต้องไปอวด
มีเหตุมีผลบ้างซิทำอะไร เลอะเทอะไปหมดเลย นี่เราก็พยายามกีดกันเอาไว้ตลอดทางวัตถุไม่ให้เข้ามายุ่ง แต่การประพฤติปฏิบัติจิตตภาวนาชำระกิเลสตัวเป็นภัยมหาภัยนี้เร่งตลอด ไม่ให้มีอ่อนข้อนะอันนี้ ใครมาอยู่มากน้อยเพียงไร การประพฤติปฏิบัติทางด้านจิตตภาวนาให้เสมอภาคกันไปหมด เพราะฉะนั้นทำเลจากนี้เข้าไปข้างใน จึงไม่ให้ใครเข้า เพราะเป็นทำเลภาวนาของพระ ใครมาก็ให้มาแค่ศาลานี้แล้วให้ออกไปๆ ไม่ให้เข้าไปข้างใน ข้างในเป็นทำเลภาวนาของท่าน ข้างนอกใครจะมาก็ให้มาแค่ศาลาแล้วก็ให้ออกไป เราเป็นคนกำกับเอง ไม่งั้นมันจะเลอะเทอะไปหมด
อ่านเพิ่มเติม
http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=4701&CatID=2
"หลวงตาบัว"พูดถึงชาวพุทธที่ชอบสร้าง"ศาสนวัตถุ"เช่นสร้างโบสถ์ และอื่นๆ (เห็นไหมผมถึงบอกไม่เป็นมงคลทางธรรม)
เมื่อวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๕๐
อะไรจะสว่างไสวยิ่งกว่าจิตใจ
เราเคยเตือนหรือติอยู่เสมอ ตามหลักศาสนธรรมของพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นด้านนามธรรมสอนจิตใจคนมากกว่าอื่น นี่มันเป็นศาสนวัตถุ มีตั้งแต่เรื่องวัตถุเกี่ยวกับเรื่องศาสนา เอะอะศาสนากวนบ้านกวนเมือง เดี๋ยวสร้างนั้นสร้างนี้มีแต่เรื่องวัตถุ คือศาสนาแต่ก่อนไม่มีนะ เดี๋ยวนี้มันลุกลามเข้ามาอย่างนี้ละ สร้างนั้นสร้างนี้มีแต่วัตถุ สร้างจิตใจเจ้าของให้เป็นคนดีไม่อยากสนใจสร้างกัน พระพุทธเจ้าพระสาวกอรหัตอรหันต์นี้เป็นพุทฺธํ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ ของพวกเรา ท่านสร้างที่จิตใจ ท่านไม่ได้ไปสร้างที่วัตถุ สนใจกับทางด้านวัตถุ แต่นี้กิเลสมันค่อยตีค่อยแทรกเข้ามา เลยถือเอาเรื่องวัตถุเป็นของสำคัญยิ่งกว่าศาสนธรรม เดี๋ยวนี้เลยกลายเป็นศาสนวัตถุไปหมดแล้ว
มีเราเท่านั้นพูดได้ นอกนั้นไม่มีใครกล้าพูด เราพูดตามหลักธรรม ศาสดาองค์เอกเป็นครูสอนโลกมานาน คนที่เป็นคนดิบคนดีเพราะธรรมของพระพุทธเจ้ามีมากต่อมาก เราก็นำธรรมอันเดียวกันมาพูดให้พี่น้องทั้งหลายฟัง จะไม่พอเป็นประโยชน์ได้บ้างเหรอที่พูดเดี๋ยวนี้ เรื่องวัตถุ เอะอะเอาวัตถุขึ้นก่อน จะปฏิบัติตัวให้เป็นคนดีไม่สนใจ เพราะทางวัตถุมันทำง่ายๆ ทางจิตใจจะฝึกฝนอบรมตนให้เป็นคนดีนี้ ถือว่ายากไปด้วยกันหมด พระพุทธเจ้าสลบถึง ๓ หน ยากหรือไม่ยาก การฝึกพระองค์เป็นของลำบากมากขนาดไหนพิจารณาซิ
มีตั้งแต่เรื่องสุกเอาเผากินๆ หาเหตุหาผลไม่ได้ ศาสนาของพระพุทธเจ้าเป็นศาสนาที่เต็มไปด้วยเหตุผล รวมแล้วเรียกว่าหลักธรรม ไม่ได้สุ่มสี่สุ่มห้าแบบสุกเอาเผากินนะ ทำอะไรให้คิดอ่านไตร่ตรองบ้าง เราเห็นเรื่องนั้นละเป็นเรื่องใหญ่โตกว่าเรื่องวัตถุ เรื่องปฏิบัติตัวให้เป็นคนดี วัดนี้ถ้าจะสร้างโบสถ์หลังหนึ่งนี้ราคาเท่าไร มีแล้วท่านผู้เสนอมาสร้างเป็นคนที่สูงสุดในเมืองไทยเรา เราเห็นธรรมสูงกว่าคนอีก เราจึงเล็งดูธรรม เพราะฉะนั้นโบสถ์หลังนี้จึงยังขึ้นไม่ได้ มันขัดต่อธรรม
เรื่องของธรรมใหญ่โตยิ่งกว่าเรื่องอะไร สร้างโบสถ์หลังหนึ่งขึ้นมานี้เปิดทางตั้งแต่ทางหน้าวัดเข้าถึงสถานที่สร้างโบสถ์ เป็นโรงงานทั้งหมด ทั้งหญิงทั้งชายเข้าทั้งคืนทั้งวัน หลั่งไหล ประตูวัดต้องเปิดตลอดเวลา วัดนี้แหลกหมดเลย ได้โบสถ์ขึ้นมาหลังหนึ่ง แต่พระตายหมด ใช้ได้ไหมล่ะ พระพุทธเจ้าเลิศด้วยธรรมนะ สาวกทั้งหลายที่เราได้ถือว่า สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ ท่านเลิศด้วยธรรม ท่านไม่ได้เลิศด้วยวัตถุ ก่อนั้นสร้างนี้ ยุ่งนั้นยุ่งนี้ หาเกาในที่ไม่คันอย่างนั้นใช้ไม่ได้นะ ควรพิจารณาบ้าง การพูดนี้เรานำธรรมมาพูด เราไม่ได้พูดสุ่มสี่สุ่มห้า อวดอำนาจบาตรหลวงป่าๆ เถื่อนๆ อย่างนั้นเราไม่มี เราพูดตามหลักธรรมเท่านั้นละ
โบสถ์หลังหนึ่งลองดูซิ อย่างวัดป่าบ้านตาดสร้างโบสถ์หลังหนึ่งนี่ พระเณรตายฉิuหายหมดจากศีลจากธรรม จากจิตตภาวนา เปิดประตูวัดไว้ตั้งแต่บัดนั้นเข้าถึงที่ทำงานทั้งวันทั้งคืนอย่างน้อยปีหนึ่ง โบสถ์ที่จะสำเร็จ แล้วคนที่มาสร้างโบสถ์ เป็นคนประเภทใดบ้าง รู้จักศีลจักธรรมอะไรบ้างหรือเปล่า มีทั้งหญิงทั้งชายมาแตกลูกแตกแม่กันอยู่นี่ เต็มอยู่นี่น่ะ แล้ววัดนี้หมดเลย เราจึงไม่ให้สร้าง เราเห็นเรื่องใหญ่โต เรื่องธรรมเป็นเรื่องจำเป็นมากยิ่งกว่าเรื่องอะไรทั้งนั้น ต้องเล็งดูเสียก่อนซิทำอะไร
โบสถ์นี้แต่ก่อนก็ไม่เห็นมีในครั้งพุทธกาล มากำเริบเสิบสานขึ้นเฉยๆ นี่ สร้างอะไรขึ้นมา วัตถุขึ้นก่อนหน้าแล้ว วัตถุขึ้นก่อนแล้วๆ ธรรมไม่ได้ออกนะ มีแต่วัตถุ เป็นศาสนวัตถุไปหมดแล้วแหละ เรื่องธรรมไม่ได้ออก ถ้าธรรมออกมีแต่การประพฤติปฏิบัติตัวให้เป็นคนดี อะไรจะดีจะชั่วขึ้นอยู่กับคนเรา ถ้าคนเราดีแล้วอะไรก็ดีไปหมดนั่นแหละ ถ้าคนเราไม่ดีจะสร้างเป็นหอปราสาทแข่งแดนสวรรค์ขึ้นมา ก็ไม่เป็นประโยชน์อะไร อิฐปูนหินทรายเท่านั้นแหละ ไม่เกิดประโยชน์ ทำอะไรมีแต่อยากทำเฉยๆ นะ
การสร้างทางด้านวัตถุหรือทำอย่างนั้นมันทำง่าย แต่ที่จะอบรมตนเองให้เป็นคนดีทางด้านจิตใจนี้ มันถือว่าเป็นทำยากด้วยกันเสียหมด ไม่สนใจ แม้แต่พระเราก็ไม่สนใจที่จะฝึกฝนอบรมจิตใจให้เป็นจิตที่ดีงามสง่าผ่าเผย เมื่ออบรมให้เต็มที่แล้ว อะไรจะสว่างไสวยิ่งกว่าจิตใจ สว่างจ้าครอบโลกธาตุ จิตใจที่ฝึกดีแล้วเป็นอย่างงั้น แต่วัตถุเหล่านั้นมันสว่างที่ไหน ไม่เห็นมีอะไรสว่างไสว มีแต่วัตถุเต็มบ้านเต็มเมือง เขาก็มีเราก็มี อยู่ที่ไหนก็มีแต่วัตถุ ใครวิเศษวิโสอะไรบ้าง เอามาอวดกันบ้างซิ ผู้ที่มีจิตใจวิเศษไม่ต้องอวดท่านก็วิเศษอยู่แล้ว จำเป็นอะไรจะต้องไปอวด
มีเหตุมีผลบ้างซิทำอะไร เลอะเทอะไปหมดเลย นี่เราก็พยายามกีดกันเอาไว้ตลอดทางวัตถุไม่ให้เข้ามายุ่ง แต่การประพฤติปฏิบัติจิตตภาวนาชำระกิเลสตัวเป็นภัยมหาภัยนี้เร่งตลอด ไม่ให้มีอ่อนข้อนะอันนี้ ใครมาอยู่มากน้อยเพียงไร การประพฤติปฏิบัติทางด้านจิตตภาวนาให้เสมอภาคกันไปหมด เพราะฉะนั้นทำเลจากนี้เข้าไปข้างใน จึงไม่ให้ใครเข้า เพราะเป็นทำเลภาวนาของพระ ใครมาก็ให้มาแค่ศาลานี้แล้วให้ออกไปๆ ไม่ให้เข้าไปข้างใน ข้างในเป็นทำเลภาวนาของท่าน ข้างนอกใครจะมาก็ให้มาแค่ศาลาแล้วก็ให้ออกไป เราเป็นคนกำกับเอง ไม่งั้นมันจะเลอะเทอะไปหมด
อ่านเพิ่มเติม http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=4701&CatID=2