เบนซินไดเร็คอินเจ็ตชั่น การใช้งาน เชื้อเพลิงทางเลือก

คิดว่าเครื่องเบนซินไดเร็คอินเจ็ตชั่น
- อีกหน่อยจะเข้ามาแทนเครื่องหัวฉีดทั่วไปมั้ยครับ รมถึงพวกรถเล็ก ๆ เช่น มอเตอร์ไซด์
- ใช้เชื้อเพลิงทางเลือกได้เยอะมั้ย เช่น E85 , เมทานอล , CNG , CBG
- มันมีความประหยัดกว่าระบบหัวเดิม ๆ มากมั้ยครับ พอแข่งกับดีเซลได้ป่าว

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
อมยิ้ม01 คห. 7 อธิบายได้ดีมาก ขออนุญาตเสริมสักนิด

การฉีดเบนซิน แต่เดิมระบบเก่าๆ จะฉีดใน "ท่อไอดี" ซึ่งอยู่ไกลจาก "ปากทางดูดของวาล์วไอดี" มากพอสมควร

เช่น ระบบ K-Jetronic - ฺBosch

ต่อมาหัวฉีดค่อยๆขยับเข้าใกล้ "วาล์วไอดี" มากขึ้นจนฉีดตรงเข้าที่หลังวาล์วไอดี

ตำแหน่งนี้ "ยังมีความร้อนสะสม"  น้ำมันที่ฉีดลงไปจะดึง Q (ความร้อน) มาช่วย vaporize ให้น้ำมันกลายเป็นไอ

เพื่อจะได้ คลุกเคล้าตะลุมบอนกับ Air ทำให้ A/F ratio ผสมกันอย่างดีมีประสิทธิภาพ

การเผาไหม้ก็จะมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังได้ Heat Reclaim คือ ความร้อนส่วนนี้นำกลับมาใช้งานได้อีก ==> Thermal Efficiency ก็เพิ่มขึ้น

ภาษาชาวบ้านคือ ประหยัดได้ดีขึ้น

คราวนี้ก็มีนาย-ก ชาวอะไรก็ไม่รู้ คิดว่า แล้ว Q ที่เหลืออยู่ในกระบอกสูบมันมีมากกว่านี่นา

ว่าแล้วก็ขยับหัวฉีดไปฉีด Direct ตรงเข้าไปในกระบอกสูบซะเลย

แต่ระบบจุดระเบิดของ Gasoline มันไม่ใช่ Diesel ฉีดแล้วจะให้ "ลุกติดไฟเป็นเตาฟู่" นั่นไม่ใช่ Gasoline แล้วนะ

น้ำมันเหลวที่ฉีดเข้าไป ดึง Q ความร้อนในกระบอกสูบมาจัดการทำให้เป็น Vapor

แล้ว จึงคลุกเคล้าผสมกับ Air กลายเป็น A/F ratio ในอัตราที่เหมาะสมจึงค่อยจุดหัวเทียน

ในการฉีดของ Gasoline มันจะฉีด 2 ครั้ง (เป็นอย่างน้อย)

ครั้งแรกฉีด Gasoline เข้าไปจำนวนน้อยๆ Lean Mixture ==> A/F ratio ราวๆ 50:1 หรือ 40:1  ซึ่งเป็นอัตราส่วนผสมที่ "ยังไม่ติดไฟ"

เมื่อลูกสูบเคลื่อนเกือบถึง TDC  จึงฉีด Gasoline แบบ rich-mixture ทำให้ A/F ratio ราวๆ 14.x ต่อ 1  ... ซึ่งเป็นส่วนผสมที่เหมาะสม

พร้อมๆกันนั้น หัวเทียน ก็จุดระเบิด

โดยวิธีนี้ เครื่อง GDI จึงมี Thermal Efficiency สูงกว่าเครื่องหัวฉีดปกติ

มีคำถามกวนโอย ... ทำไมเขาถึงไม่ทำตั้งแต่แรก ....แหม ถ้ารู้แต่แรก ก็คงจะทำแล้ว ครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
เรามาทำความเข้าใจว่า  ทำไมรถยนต์รุ่นใหม่ๆถึงอยากทำเครื่องเบ็นซินเป็นระบบ  diกันนักนะครับ
รูปแบบเดิมในการจ่ายน้ำมันคือฉีดก่อนเข้าห้องเผาไหม้   เมื่อเข้าไปแล้วจึงควบคุมปริมาณเชื่อเพลิงไม่ได้อีก                                                  จะจ่ายน้อยจ่ายมากต้องควบคุมก่อนเข้าห้องเผาไหม้อย่างเดียวคือ เข้าไปเท่าไหร่จุดระเบิดเท่านั่น
นี้แค่ปัจัยหนึ่งในการทำงานของของระบบจุดระเบิด   อีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญพอๆกับปริมาณน้ำมันคือ  กำลังอัด
ถ้าศึกษาคุณสมบัติเครื่องยนต์ในคู่มือจะเห็นบอกไว้ว่า  เครื่องรุ่นนิกำลังอัดในห้องเผาไหม่เท่าไหร่  แล้วทำไม่ถึงสำคัญ
เพราะว่า  น้ำมันหรือพลังงานที่ใส่ไปมีค่าความคงทนต่อการติดไฟต่างกัน  วัดกันในหน่วยที่เรารู้จักกันคือ  ออคเทน  นั่นเอง
ในการจะทำให้เครื่องยนต์ได้แรงม้ามากที่สุดในน้ำมันหนึ่งหยดเท่ากันคือ  ต้องมีกำลังอัดมากที่สุด  แต่
กำลังอัดที่มากที่สุดนั่น  จะทำให้เกิดความร้อนสูง  ความเค้นก็สูง  น้ำมันออคเทนปกติ  จะทนไม่ได้  คือแค่เข้าไปใกล้หรือใน
ห้องเผาไหม้ก็ติดไฟเองแล้ว หัวเทียนยังไม่สั่งให้จุดระเบิดเลยก็ระเบิดก่อนแล้ว  ที่เราเรียกกันว่าเครื่องน๊อค นั่นเอง
ดังนั่น  ระบบdi  จึงมาแก้ปัญหานี้  คือให้อากาศเปล่าๆผ่านวาวล์เข้าห้องเผาไหม้  แล้วค่อยกำหนดเองว่าจะฉีดน้ำมันตอนใหน
ให้ลูกสูบเคลื่อนมาเกือบถึงศูนย์ตายบนก่อนแล้วสั่งฉีด  น้ำมันออคเทนจะถึงไม่ถึงก็ไม่เป็นไรแล้วเพราะฉีดออกมาระเบิดเลย
ก็ไม่เป็นไร หัวฉีดฉีดในห้องเผาไหม้อยู่แล้วเชิญระเบิดแบบไร่การควบคุมได้ตามสบาย
เมื่อเป็นเช่นนั่นก็เพิ่มกำลังอัดได้เพราะควบคุมการน๊อคได้แล้ว  จึงได้แรงม้าและประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นในน้ำมันเท่าเดิม ครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่