พอดีไปแอบของรุ่นพี่ที่ว้ากรุ่นผมมาคนหนึ่ง ในเฟสบุค
ขออนุญาตก้อปข้อความมานะคับ ปกติไม่มีไอดีเลยไม่ได้สมัครจริงจัง
___________________________________________
ขอพิมยาวๆ สักที
ความเห็นส่วนตัว คิดว่าเรื่องนี้ต้องแก้ไขปัญหาที่ รุ่นพี่
ผมว่าการรับน้องก็เปรียบเสมือนการวอร์มร่างกายก่อนเล่นกีฬา มีสักกี่คนที่วิ่งรอบสนามเพื่ออบอุ่นร่างกายก่อนไปตีแบต แต่ในทางตรงกันข้าม นักกีฬาทุกคนกลับทำโดยไม่ต้องให้ใครสั่งเพราะนักกีฬาเขารู้ว่า หากไม่วอร์มร่างกาย ร่างกายอาจรับการออกแรงหนักๆ ฉับพลันไม่ไหว นั่นแปลว่าคนเราจะทำอะไรก็ตาม ที่เป็นผลประโยชน์ต่อตนเอง และมีเหตุผล
ในทำนองเดียวกัน การรับน้อง ในระบบที่เราเรียกกันว่า SOTUS ที่ย่อมาจากคำหรูๆ (Seniority,Order,Tradition,Unity,Spirit) เนี่ยนะ คำถามก็คือ คนที่เป็นโค้ช หรือรุ่นพี่เนี่ย ทราบจริงๆ รึเปล่าว่า ทำไมเราถึงต้องมีการรับน้องลักษณะนี้ หากคนเป็นรุ่นพี่ยังไม่รู้ หรือแม้แต่ไม่สามารถถ่ายทอดได้ว่า "เราทำไปทำไม" ก็ไม่แปลกอะไรที่น้องๆ จะตั้งคำถามว่า "แล้วทำไปทำไม" รุ่นพี่บางคนได้แต่บอกน้องว่า พวกกุก็เจอมาแบบนี้ ไม่ทำก็ไม่ได้รุ่น ก็เกิดเป็นคำถามในใจ"ได้รุ่นไปทำไม ได้รุ่นแล้วเรียนจบ 3 ปี ได้เงินเดือนเพิ่ม งี้มั้ย" ก็เปล่า..
ประเด็นก็คือ ถ้าคนที่เป็นรุ่นพี่สักแต่ใช้ระบบเพื่อความสนุกของตัวเอง เอาอารมณ์ที่เคยโดนกระทำมาแล้วใช้มันเป็นอำนาจกับคนที่อายุน้อยกว่า รุ่นพี่ก็ไม่ต่างอะไรจากเด็กน้อยที่ตื่นเต้นกับของเล่นใหม่ ที่เรียกว่า "อำนาจ"
ระบบ SOTUS เป็นระบบที่อุปโลกขึ้นมา ให้เรารู้จักอ่อนน้อมถ่อมตนต่างหาก มีคำพูดติดปากเสมอ "มาก่อนเป็นพี่มาหลังเป็นน้อง" เพื่อให้เรารับรู้กับตนเองเสมอถึงความ "เท่าเทียม" ว่าไม่ว่าคุณจะมาจากไหน อายุเท่าไร คุณก็ "เท่าเทียม" กับคนอื่นที่นี่ ทำไมต้องกดดัน?? เพราะตอบสนองต่อสัญชาตญานมนุษย์ เราไม่ได้เรียนรู้จากความสบาย ไม่ได้เรียนรู้จากคำพูด เราเรียนรู้จากตัวอย่าง ข้อผิดพลาด และแรงกดดัน เราจะทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองสบายขึ้น วิธีการจึงเป็นการทำให้น้องลำบาก และปลูกฝังว่า การรวมกันเป็นหนึ่งนี่แหละ จะทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น อาจจะเรียนง่ายขึ้น มีรุ่นพี่ช่วย อะไรก็ว่าไปสิ
บางครั้งการรับน้อง หากมีแนวคิดที่สร้างสรรค์ แต่วิธีการอาจร้ายไปนัก มันคงเป็นผลดี เพราะไม่ว่าในการทำงานลักษณะไหน ไม่จำเป็นต้องวิศวกร ล้วนย่อมต้องการความสามัคคีในองค์กร ล้วนย่อมต้องการคนที่อ่อนน้อม และรู้จักหน้าที่ของตนเอง และเช่นกัน หากการรับน้อง มีแนวคิดที่จะทำตามขนบประเพณีเพียงอย่างเดียว เราก็คงเป็นมนุษย์ถ้ำที่ไม่รู้จักพัฒนาตามยุคสมัย การกดขี่ การใช้อำนาจแบบเผด็จการ ไม่ได้รับการยอมรับอีกแล้วในยุคสมัยนี้ และมันคงไม่เกิดประโยชน์อะไร จริงมั้ย?
ป.ล. "โดยส่วนตัว"ย้ำ! ส่วนตัว.. ผมไม่เคยบังคับให้ใครมาไหว้น่ะ ผมมักจะพูดด้วยซ้ำไม่ต้องมาไหว้บ่อย ไหว้แล้วจะไหว้อีกทำไม เพราะมันรู้สึกแก่ และผมสอนน้องตลอดว่า ไหว้แต่คนที่สมควรได้รับ
_______________________________________________
ต้องการความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้คับ ไม่เจตนายุยงอะไรนะ ละเพื่อนๆ คิดว่าไงกัน
อีกหนึ่งความเห็นเกี่ยวกับ SOTUS เพื่อนๆ คิดว่าไงคับ
ขออนุญาตก้อปข้อความมานะคับ ปกติไม่มีไอดีเลยไม่ได้สมัครจริงจัง
___________________________________________
ขอพิมยาวๆ สักที
ความเห็นส่วนตัว คิดว่าเรื่องนี้ต้องแก้ไขปัญหาที่ รุ่นพี่
ผมว่าการรับน้องก็เปรียบเสมือนการวอร์มร่างกายก่อนเล่นกีฬา มีสักกี่คนที่วิ่งรอบสนามเพื่ออบอุ่นร่างกายก่อนไปตีแบต แต่ในทางตรงกันข้าม นักกีฬาทุกคนกลับทำโดยไม่ต้องให้ใครสั่งเพราะนักกีฬาเขารู้ว่า หากไม่วอร์มร่างกาย ร่างกายอาจรับการออกแรงหนักๆ ฉับพลันไม่ไหว นั่นแปลว่าคนเราจะทำอะไรก็ตาม ที่เป็นผลประโยชน์ต่อตนเอง และมีเหตุผล
ในทำนองเดียวกัน การรับน้อง ในระบบที่เราเรียกกันว่า SOTUS ที่ย่อมาจากคำหรูๆ (Seniority,Order,Tradition,Unity,Spirit) เนี่ยนะ คำถามก็คือ คนที่เป็นโค้ช หรือรุ่นพี่เนี่ย ทราบจริงๆ รึเปล่าว่า ทำไมเราถึงต้องมีการรับน้องลักษณะนี้ หากคนเป็นรุ่นพี่ยังไม่รู้ หรือแม้แต่ไม่สามารถถ่ายทอดได้ว่า "เราทำไปทำไม" ก็ไม่แปลกอะไรที่น้องๆ จะตั้งคำถามว่า "แล้วทำไปทำไม" รุ่นพี่บางคนได้แต่บอกน้องว่า พวกกุก็เจอมาแบบนี้ ไม่ทำก็ไม่ได้รุ่น ก็เกิดเป็นคำถามในใจ"ได้รุ่นไปทำไม ได้รุ่นแล้วเรียนจบ 3 ปี ได้เงินเดือนเพิ่ม งี้มั้ย" ก็เปล่า..
ประเด็นก็คือ ถ้าคนที่เป็นรุ่นพี่สักแต่ใช้ระบบเพื่อความสนุกของตัวเอง เอาอารมณ์ที่เคยโดนกระทำมาแล้วใช้มันเป็นอำนาจกับคนที่อายุน้อยกว่า รุ่นพี่ก็ไม่ต่างอะไรจากเด็กน้อยที่ตื่นเต้นกับของเล่นใหม่ ที่เรียกว่า "อำนาจ"
ระบบ SOTUS เป็นระบบที่อุปโลกขึ้นมา ให้เรารู้จักอ่อนน้อมถ่อมตนต่างหาก มีคำพูดติดปากเสมอ "มาก่อนเป็นพี่มาหลังเป็นน้อง" เพื่อให้เรารับรู้กับตนเองเสมอถึงความ "เท่าเทียม" ว่าไม่ว่าคุณจะมาจากไหน อายุเท่าไร คุณก็ "เท่าเทียม" กับคนอื่นที่นี่ ทำไมต้องกดดัน?? เพราะตอบสนองต่อสัญชาตญานมนุษย์ เราไม่ได้เรียนรู้จากความสบาย ไม่ได้เรียนรู้จากคำพูด เราเรียนรู้จากตัวอย่าง ข้อผิดพลาด และแรงกดดัน เราจะทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองสบายขึ้น วิธีการจึงเป็นการทำให้น้องลำบาก และปลูกฝังว่า การรวมกันเป็นหนึ่งนี่แหละ จะทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น อาจจะเรียนง่ายขึ้น มีรุ่นพี่ช่วย อะไรก็ว่าไปสิ
บางครั้งการรับน้อง หากมีแนวคิดที่สร้างสรรค์ แต่วิธีการอาจร้ายไปนัก มันคงเป็นผลดี เพราะไม่ว่าในการทำงานลักษณะไหน ไม่จำเป็นต้องวิศวกร ล้วนย่อมต้องการความสามัคคีในองค์กร ล้วนย่อมต้องการคนที่อ่อนน้อม และรู้จักหน้าที่ของตนเอง และเช่นกัน หากการรับน้อง มีแนวคิดที่จะทำตามขนบประเพณีเพียงอย่างเดียว เราก็คงเป็นมนุษย์ถ้ำที่ไม่รู้จักพัฒนาตามยุคสมัย การกดขี่ การใช้อำนาจแบบเผด็จการ ไม่ได้รับการยอมรับอีกแล้วในยุคสมัยนี้ และมันคงไม่เกิดประโยชน์อะไร จริงมั้ย?
ป.ล. "โดยส่วนตัว"ย้ำ! ส่วนตัว.. ผมไม่เคยบังคับให้ใครมาไหว้น่ะ ผมมักจะพูดด้วยซ้ำไม่ต้องมาไหว้บ่อย ไหว้แล้วจะไหว้อีกทำไม เพราะมันรู้สึกแก่ และผมสอนน้องตลอดว่า ไหว้แต่คนที่สมควรได้รับ
_______________________________________________
ต้องการความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้คับ ไม่เจตนายุยงอะไรนะ ละเพื่อนๆ คิดว่าไงกัน