ขอตำหนิแนวคิดการบริหารของลิเวอร์พูลครับ
ผมไม่รู้ว่าคนที่มากัดแมนยูว่าซื้อบ้าบอ ละลายแม่น้ำ หรือ ไม่ตรงจุด เป็นแฟนทีมไหนบ้าง
แต่นี้คือการจัดการของทีมที่เป็น "บิ๊กทีม" ของจริง...ลองเทียบกับทีมที่ผมเชียร์ หลังจากหลุด UCL ไปเมื่อ 5 ปีก่อน...
จนมาฤดูกาลที่แล้ว...ได้ลุ้นกลับมาเป็นแชมป์ในรอบหลายปี แทนที่ช่วงมกรา จะกล้าลงทุนเพื่อเพิ่มโอกาสการคว้าแชมป์...สุดท้ายไม่ได้นักเตะมาซักคน
ด้วยเหตุผลที่งี่เง่าต่างๆนานา อ้างว่า จะไม่ยอมจ่ายในราคาที่คิดว่าไม่เหมาะสม...สุดท้ายก็แสดงให้เห็นว่าขนาดทีมยังไม่สามารถไปถึงฝันได้
มาฤดูกาลนี้...หลายคนมองว่าเสริมทีมได้เยี่ยม ปิดตลาดได้ก่อนใคร...แต่ผมมองว่าทีมบริหาร ขาดสิ่งที่แมนยูมี...คือ ... "ความกล้า"
มานับรวมยอดซื้อขายจริงๆ ลิเวอร์พูล ใช้เงินไปทั้งหมดแค่ 31.5 ล้านปอนด์ครับ น้อยกว่าอาร์เซนอลด้วยซ้ำ...
ลองจินตนาการถ้าได้นักเตะที่แมนยูได้ เทียบกับร้อยล้านที่เราเสียไป...ถ้าได้เอร์เรร่ามาแทนชาน ได้ดิมาเรีย บลินด์ มาแทนลัลลาน่า และมาร์โควิช ได้ฟัลเกามาแทนซัวเรสแทนที่จะเป็นไอ้เกรียนคนนึง ได้โรโฮมาแทนลอฟเรน เซนเตอร์ที่ไม่ได้เร็วหรือทางบอลดีไปกว่าคนเก่าที่มีเลย ลุค ชอว์ แม้จะลากลุยไปยิงได้ไม่สะเด่า แต่ยืนตำแหน่งเกมรับดี และอาจไม่เสียประตูให้แมนซิวันนั้นทั้ง 3 ลูก.... ป่านนี้ลิเวอร์พูลคงเป็นเต็ง 1 คู่เชลซีไปแล้ว
แมนยูหลุดจากเส้นทางแชมป์ไปแค่ปีเดียว ทีมผมหลุดมา 25 ปี...แต่เพราะมีความกังวลว่าจะใช้เงินไม่คุ้มค่า กลัวจะซำ้รอยแบบ แอนดี้ แคโรว หรือ ดาวนิ่ง กลัวระบบเพดานค่าจ้างพัง เลยหวังซื้อดาวรุ่งมาปั้นเผื่อเกิดปรากฎการณ์แบบตอเรส ซัวเรส แล้วจะได้ภูมิใจว่าทีมเราไม่ซื้อ แต่ผลิดบิ๊กเนม
...แต่ไม่ได้ดูเลยว่าผลาญเงินไปกี่ร้อยล้านกับคนที่ล้มเหลว ไม่ได้ดูเลยว่าทีมใหญ่ๆ ยอมซื้อนักเตะ 20-30 ล้านปอนด์ เพื่อมาเป็นแบ็คอัพทีม
ถ้าปีนี้หงส์แดงไปไม่ถึงที่ตั้งเป้าไว้ตอนจบ ก็ไม่ต้องไปว่าใครหรอกครับ เราไม่กล้าเอง...
จากแฟนหงส์...ขอตำหนิการซื้อผู้เล่นของแมนยู
ผมไม่รู้ว่าคนที่มากัดแมนยูว่าซื้อบ้าบอ ละลายแม่น้ำ หรือ ไม่ตรงจุด เป็นแฟนทีมไหนบ้าง
แต่นี้คือการจัดการของทีมที่เป็น "บิ๊กทีม" ของจริง...ลองเทียบกับทีมที่ผมเชียร์ หลังจากหลุด UCL ไปเมื่อ 5 ปีก่อน...
จนมาฤดูกาลที่แล้ว...ได้ลุ้นกลับมาเป็นแชมป์ในรอบหลายปี แทนที่ช่วงมกรา จะกล้าลงทุนเพื่อเพิ่มโอกาสการคว้าแชมป์...สุดท้ายไม่ได้นักเตะมาซักคน
ด้วยเหตุผลที่งี่เง่าต่างๆนานา อ้างว่า จะไม่ยอมจ่ายในราคาที่คิดว่าไม่เหมาะสม...สุดท้ายก็แสดงให้เห็นว่าขนาดทีมยังไม่สามารถไปถึงฝันได้
มาฤดูกาลนี้...หลายคนมองว่าเสริมทีมได้เยี่ยม ปิดตลาดได้ก่อนใคร...แต่ผมมองว่าทีมบริหาร ขาดสิ่งที่แมนยูมี...คือ ... "ความกล้า"
มานับรวมยอดซื้อขายจริงๆ ลิเวอร์พูล ใช้เงินไปทั้งหมดแค่ 31.5 ล้านปอนด์ครับ น้อยกว่าอาร์เซนอลด้วยซ้ำ...
ลองจินตนาการถ้าได้นักเตะที่แมนยูได้ เทียบกับร้อยล้านที่เราเสียไป...ถ้าได้เอร์เรร่ามาแทนชาน ได้ดิมาเรีย บลินด์ มาแทนลัลลาน่า และมาร์โควิช ได้ฟัลเกามาแทนซัวเรสแทนที่จะเป็นไอ้เกรียนคนนึง ได้โรโฮมาแทนลอฟเรน เซนเตอร์ที่ไม่ได้เร็วหรือทางบอลดีไปกว่าคนเก่าที่มีเลย ลุค ชอว์ แม้จะลากลุยไปยิงได้ไม่สะเด่า แต่ยืนตำแหน่งเกมรับดี และอาจไม่เสียประตูให้แมนซิวันนั้นทั้ง 3 ลูก.... ป่านนี้ลิเวอร์พูลคงเป็นเต็ง 1 คู่เชลซีไปแล้ว
แมนยูหลุดจากเส้นทางแชมป์ไปแค่ปีเดียว ทีมผมหลุดมา 25 ปี...แต่เพราะมีความกังวลว่าจะใช้เงินไม่คุ้มค่า กลัวจะซำ้รอยแบบ แอนดี้ แคโรว หรือ ดาวนิ่ง กลัวระบบเพดานค่าจ้างพัง เลยหวังซื้อดาวรุ่งมาปั้นเผื่อเกิดปรากฎการณ์แบบตอเรส ซัวเรส แล้วจะได้ภูมิใจว่าทีมเราไม่ซื้อ แต่ผลิดบิ๊กเนม
...แต่ไม่ได้ดูเลยว่าผลาญเงินไปกี่ร้อยล้านกับคนที่ล้มเหลว ไม่ได้ดูเลยว่าทีมใหญ่ๆ ยอมซื้อนักเตะ 20-30 ล้านปอนด์ เพื่อมาเป็นแบ็คอัพทีม
ถ้าปีนี้หงส์แดงไปไม่ถึงที่ตั้งเป้าไว้ตอนจบ ก็ไม่ต้องไปว่าใครหรอกครับ เราไม่กล้าเอง...