เมื่อเย็นไปปั่นจักรยานที่สนามบินพิษณุโลก ตอนประมาณ6โมงกว่าๆ ปั่นไปถึงก็ใกล้มืดแล้ว เหลือคนปั่นอยู่ไม่กี่คน ปั่นได้ซักพักเหลือแค่เรากับลุงคนนึง ก็เลยกะว่าปั่นวนอีกรอบนึงแล้วกลับเลยดีกว่า วันนี้ปั่นได้แค่นิดเดียว แรงยังเหลืออีกเยอะ ก็เลยอัดรอบสุดท้ายเต็มสปีดเลย ความเร็ว 40กม.+ พอมาถึงทางโค้งก็ไม่กดเบรค เพราะปั่นตรงทางโค้งแบบเร็วๆ แล้วได้เลี้ยวโดยการเอียงตัวมันหนุก ก็เลยอัดความเร็วไปอีก แล้วโซ่ดันมาขาดตอนนี้พอดีอีก เวรกรรม รถก็เสียหลัก เราก็รีบกดเบรคแล้วพุ่งลงข้างทาง เพราะมันเป็นหญ้า น่าจะเจ็บน้อยอยู่ พอล้มลงหญ้า รถมันยังมีความเร็วอยู่ ก็เลยสไลด์ไปอีกประมาณ2เมตร หญ้านี่เรียบเป็นแถบ ล้มเสร็จก็ลุกขึ้นสำรวจร่างกาย เออ ปกติดีเว่ย -0- มาสำรวจจักรยานต่อ โซ่หาย ! มีลุงคนเดิมปั่นจักรยานมาถึงพอดี ก็ถามเป็นไรมั้ย เราก็บอกไม่เป็นไรครับ โซ่ขาด แล้วหลุดหายไป ลุงก็หยิบแว่นมากับไฟฉายมา แล้วช่วยหา หาไปซักพักลุงก็เจอตกอยู่ตรงพงหญ้า ก็เลยยกมือไว้ขอบคุณไป มีบทสนทนาที่คุยกับลุงตามนี้ครับ
ลุง : เพื่อน นายจะเอาไงต่อ มีคนมารับมั้ย
เรา : ไม่มีครับ อยู่หออะครับ
ลุง : เอารถมาฝากไว้บ้านเราก่อนมั้ย อยู่แค่นี้เอง พรุ่งนี้ค่อยมาเอา
เรา : ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมเดินไปหารถแท็กซี่หน้าสนามบิน แล้วค่อยแยกจักรยานขึ้นรถกลับหอ
ลุง : โอเครๆ
แล้วเราก็เดินจูงจักรยานไปหน้าสนามบิน ระหว่างทางก็นึกขึ้นได้ ไม่ได้เอาตังมานี่หว่า แท็กซี่เค้าจะให้ขึ้นป่าววะเนี่ย เอาวะ เดี๋ยวขอติดเค้าไว้ก่อนละกัน พอเดินมาถึงตรงลานจอดรถ เจอกลุ่มนักปั่นจักรยานประมาณ7-8คนกำลังเม้ากันอยู่พอดี ก็เลยเดินเข้าไปหา คิดในใจ "หน้าด้านเข้าไว้"
เรา : พี่ครับ จักรยานผมโซ่ขาด กลับหอไม่ได้ มีใครมีรถหรือมีตังให้ยืมขึ้นแท็กซี่มั้ยครับ
พวกพี่เค้าก็หัวเราะ แล้วก็บอกว่าไม่มีครับ แล้วก็เดินเข้ามาหา เราเพิ่งล้มมา ก็เลยมีเศษหญ้าติดเต็มขา พวกพี่ๆเห็นก็เลยถามว่า "ล้มด้วยหรอเป็นไรมากมั้ย" ก็เลยบอกไปว่าไม่เป็นไรครับ แล้วก็มีบทสนทนาประมาณนี้ครับ
พี่1 : บ้านอยู่ตรงไหนเนี่ย มีคนมารับได้มั้ย
เรา : อยู่หออะครับ หน้าสาธิตมน.
พี่2 : เอออ ทางผ่านผมพอดีเลย เดี๋ยวผมไปส่งเองครับ
เรา : (คิดในใจ จะไปส่งอย่างไงวะ รถก็ไม่มี)
ลุง : เดี๋ยวเฮียช่วยละกัน ลากไปคนเดียวไหวหรอ
ลุง2 : ไปด้วยๆ
เรา : จะไปอย่างไงหรอครับ
พี่ : เดี๋ยวพี่ดันไปเอง น้องนั่งบนจักรยานไปเฉยๆละกัน
ลุงอีกคนนึงก็มาช่วยดันหลัง
ลุง : ถ้าเป็นผู้หญิงนะ จะดันตูดแทน
สรุปแล้วก็มากันประมาณ 3-4คน ปั่นจักรยานจูงๆกันไป ปั่นมากันเรื่อยๆ ระหว่างทางก็คุยกันเรื่อยเปื่อย ส่วนมากก็คือเรื่องจักรยาน พอถึงทางกลับบ้านของแต่ละคน ก็ค่อยๆแยกไปทีละคน เหลือพี่ที่ลากอยู่คนเดียว ซักพักก็มาถึงหน้าโรงเรียน แล้วก็ส่งหน้าซอยหอ รวมระยะทางจากจุดที่พวกพี่ๆลากกันมาจนถึงหน้าโรงเรียนก็ 6-7 โล อาจจะดูนิดเดียว แต่นี่คือปั่นมาแล้วลากคนอื่นมาด้วย มันไกลมาก
สังคมจักรยานเป็นสังคมที่น่ารักมาก ปั่นสวนกันก็ทักทายกัน บางคนกดกริ่ง บางคนผงกหัวให้ บางคนก็บอกหวัดดีครับ ตอนแรกๆมาปั่นแล้วมีคนทักก็งง คิดในใจว่า"เรารู้จักกันหรอวะ = =" พอหลังๆมาก็เลยรู้ว่าเป็นธรรมเนียมของคนปั่นจักรยานนี่เอง จะมีบ้างมั้ยคนขับรถยนต์หรือมอไซค์ จะมาทักทายกัน ถ้าไม่รู้จักกัน ถ้ามีเราก็คงคิดว่า "บ้าป่าววะ ไอ้นี่"
#มาปั่นจักรยานกันเยอะๆนะคร้าบบบ
**แก้ไขคำหยาบ
"แชร์ประสบการณ์ น้ำใจของคนปั่นจักรยาน"
ลุง : เพื่อน นายจะเอาไงต่อ มีคนมารับมั้ย
เรา : ไม่มีครับ อยู่หออะครับ
ลุง : เอารถมาฝากไว้บ้านเราก่อนมั้ย อยู่แค่นี้เอง พรุ่งนี้ค่อยมาเอา
เรา : ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมเดินไปหารถแท็กซี่หน้าสนามบิน แล้วค่อยแยกจักรยานขึ้นรถกลับหอ
ลุง : โอเครๆ
แล้วเราก็เดินจูงจักรยานไปหน้าสนามบิน ระหว่างทางก็นึกขึ้นได้ ไม่ได้เอาตังมานี่หว่า แท็กซี่เค้าจะให้ขึ้นป่าววะเนี่ย เอาวะ เดี๋ยวขอติดเค้าไว้ก่อนละกัน พอเดินมาถึงตรงลานจอดรถ เจอกลุ่มนักปั่นจักรยานประมาณ7-8คนกำลังเม้ากันอยู่พอดี ก็เลยเดินเข้าไปหา คิดในใจ "หน้าด้านเข้าไว้"
เรา : พี่ครับ จักรยานผมโซ่ขาด กลับหอไม่ได้ มีใครมีรถหรือมีตังให้ยืมขึ้นแท็กซี่มั้ยครับ
พวกพี่เค้าก็หัวเราะ แล้วก็บอกว่าไม่มีครับ แล้วก็เดินเข้ามาหา เราเพิ่งล้มมา ก็เลยมีเศษหญ้าติดเต็มขา พวกพี่ๆเห็นก็เลยถามว่า "ล้มด้วยหรอเป็นไรมากมั้ย" ก็เลยบอกไปว่าไม่เป็นไรครับ แล้วก็มีบทสนทนาประมาณนี้ครับ
พี่1 : บ้านอยู่ตรงไหนเนี่ย มีคนมารับได้มั้ย
เรา : อยู่หออะครับ หน้าสาธิตมน.
พี่2 : เอออ ทางผ่านผมพอดีเลย เดี๋ยวผมไปส่งเองครับ
เรา : (คิดในใจ จะไปส่งอย่างไงวะ รถก็ไม่มี)
ลุง : เดี๋ยวเฮียช่วยละกัน ลากไปคนเดียวไหวหรอ
ลุง2 : ไปด้วยๆ
เรา : จะไปอย่างไงหรอครับ
พี่ : เดี๋ยวพี่ดันไปเอง น้องนั่งบนจักรยานไปเฉยๆละกัน
ลุงอีกคนนึงก็มาช่วยดันหลัง
ลุง : ถ้าเป็นผู้หญิงนะ จะดันตูดแทน
สรุปแล้วก็มากันประมาณ 3-4คน ปั่นจักรยานจูงๆกันไป ปั่นมากันเรื่อยๆ ระหว่างทางก็คุยกันเรื่อยเปื่อย ส่วนมากก็คือเรื่องจักรยาน พอถึงทางกลับบ้านของแต่ละคน ก็ค่อยๆแยกไปทีละคน เหลือพี่ที่ลากอยู่คนเดียว ซักพักก็มาถึงหน้าโรงเรียน แล้วก็ส่งหน้าซอยหอ รวมระยะทางจากจุดที่พวกพี่ๆลากกันมาจนถึงหน้าโรงเรียนก็ 6-7 โล อาจจะดูนิดเดียว แต่นี่คือปั่นมาแล้วลากคนอื่นมาด้วย มันไกลมาก
สังคมจักรยานเป็นสังคมที่น่ารักมาก ปั่นสวนกันก็ทักทายกัน บางคนกดกริ่ง บางคนผงกหัวให้ บางคนก็บอกหวัดดีครับ ตอนแรกๆมาปั่นแล้วมีคนทักก็งง คิดในใจว่า"เรารู้จักกันหรอวะ = =" พอหลังๆมาก็เลยรู้ว่าเป็นธรรมเนียมของคนปั่นจักรยานนี่เอง จะมีบ้างมั้ยคนขับรถยนต์หรือมอไซค์ จะมาทักทายกัน ถ้าไม่รู้จักกัน ถ้ามีเราก็คงคิดว่า "บ้าป่าววะ ไอ้นี่"
#มาปั่นจักรยานกันเยอะๆนะคร้าบบบ
**แก้ไขคำหยาบ