ผมก็แค่คนธรรมดาคนนึง ทำมาหากินตามประสาคนทำอาชีพค้าขายสุจริต
นำเข้าสินค้ามาขาย จ่ายภาษีเกินพิกัด ไปท้วงก็ไม่ได้ เพราะมันอาจจะกลายเป็นถูกกลั่นแกล้งในคราวต่อไป ถึงรู้ว่าใครเป็นหัวโจก ก็ป่าวประกาศให้คนอื่นรู้ไม่ได้ ว่าเขาจะขอเงินเราไปใช้ส่วนตัวเพื่อให้การดำเนินการสะดวกขึ้น จ่ายภาษีน้อยลง
ประมูลขายสินค้าให้หลวง เขาขอใต้โต๊ะ จะเปิดซองให้ เราตั้งราคาถูกกว่าคู่แข่งนิดหน่อยชนะแน่ แต่ก็ไม่ทำ เพราะห่วงว่าของที่เราเอาไปขายก็ต้องด้อยคุณภาพเหมือนคู่แข่งที่เอาของชุ่ย ๆ มาขาย เดี๋ยวก็เสีย ใช้ได้ไม่นานก็ต้องเปิดประมูลใหม่เปลืองภาษีที่ประชาชนอย่างผมนี่ล่ะช่วย ๆ กันจ่ายมาทั้งนั้น
ประมูลอีกที่ เจอดีกว่านั้นหน่อย เอาของดีขายแข่งกัน แต่ใครใต้โต๊ะเก่งกว่าได้เสปคไป ผมก็กลัวอีกนั่นแหละ ต้องตั้งราคาสูง เอาเปรียบภาษีที่ตัวเองช่วยจ่าย เงินก็ของส่วนรวม ช่วย ๆ กันรักษา ไม่อยากแข่งล่ะ ยอมขายไม่ได้ดีกว่า ได้แต่บอกว่าเราไม่เก่ง ของเราคงไม่ดีพอ แต่ในใจเห็นแต่หน้าไอ้พวกเปรตขอเงิน เจอพวกนี้ตามที่สาธารณะ เห็นมีรถหรู ๆขับ รับราชการเดือนละไม่ถึงแสน กิจการอย่างอื่นไม่มี เห็นเข้าสังคมยิ้มแย้มแจ่มใส พาลูกพาเมียเที่ยวเมืองนอก ไม่รู้ว่ามันหายใจเข้าออกได้ยังงัยโดยไม่รู้สึกรุ้สา แจ้งใครล่ะครับ ? ก็ได้แต่โทษตัวเองนี่ล่ะ
บ่อนการพนัน เจ้ามือหวย ผมรู้จักทั้งนั้นล่ะ ผ่านหน้าผ่านตากันทุกวัน คนขายของชำเล็ก ๆ มีเงินเป็นร้อยล้าน มีผู้อำนาจเป็นเพื่อนช่วยสนับสนุน ประชาชนเป็นหนี้เป็นสินเจ้าของบ่อน เจ้ามือหวย ทำงานได้เท่าไหร่ ใช้หนี้มันหมด กินเข้าคลุกน้ำปลา กู้หนี้ยืมสินต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ บ้านก็ไม่มี รถก็โดนยึด ห้องเช่าก็จะไล่ ลูกน้องผมมีกี่คน เป็นหนี้มันแทบทุกคน บางคนก็ต้องออก ต้องหนีหนี้ไป แล้วผมจะร้องเรียนใครก็คงไม่ได้
ยาเสพติด เห็นข่าวประกาศจับเราก็ดีใจ ขี้ยาคงหมดไป เดินเท้าไปไหนก็ไม่ต้องกลัวว่าพวกนี้จะมาจี้ ที่ไหนได้ จับคนนึง แต่เปลี่ยนเป็นอีกคนนึงมาขาย คนขายลูกน้องใครเขาก็รู้ ผู้มีอำนาจก็เอาหูไปนา เอาตาไปไร่ ใครเป็นใหญ่ลูกน้องตัวเองก็ได้สัมปทาน ถามพวกขี้ยาสิว่าใครขาย แค่นี้ก็รู้แล้ว บอกว่าจับไม่ได้ ไม่มีกำลังพล ไม่ใช่หน่วยงาน ไม่ใช่หน้าที่ ฟังแล้วดูดีเหมือนไม่ก้าวก่ายงานคนอื่น แจ้งใครได้ล่ะแบบนี้
ผมกลัวที่จะบอก ไม่กล้าที่จะพูด ห่วงลูก ห่วงครอบครัว กลัวพวกมีอำนาจจะพาลเอา แจ้งความไปก็มีแต่จะหนีเสือปะจรเข้ หรือปะตัวเห้ก็ไม่รู้ ก็เลยต้องเห็นแก่ตัว เห็นแก่ความสุขส่วนตัวที่มีอยู่ ไม่บอกใครแล้วกัน คสช ก็แค่ ความสุขชั่วคราว
ผมไม่โทษใคร โทษคนอย่างผมนี่ล่ะ ที่เห็นแก่ตัว ไม่กล้าสู้ ไม่กล้ายืนหยัดกับความถูกต้อง ประเทศไทยก็เลยไม่เจริญ
เพราะมีคนเห็นแก่ตัวอย่างผมนี่ล่ะ ประเทศไทยเลยไม่เจริญ
นำเข้าสินค้ามาขาย จ่ายภาษีเกินพิกัด ไปท้วงก็ไม่ได้ เพราะมันอาจจะกลายเป็นถูกกลั่นแกล้งในคราวต่อไป ถึงรู้ว่าใครเป็นหัวโจก ก็ป่าวประกาศให้คนอื่นรู้ไม่ได้ ว่าเขาจะขอเงินเราไปใช้ส่วนตัวเพื่อให้การดำเนินการสะดวกขึ้น จ่ายภาษีน้อยลง
ประมูลขายสินค้าให้หลวง เขาขอใต้โต๊ะ จะเปิดซองให้ เราตั้งราคาถูกกว่าคู่แข่งนิดหน่อยชนะแน่ แต่ก็ไม่ทำ เพราะห่วงว่าของที่เราเอาไปขายก็ต้องด้อยคุณภาพเหมือนคู่แข่งที่เอาของชุ่ย ๆ มาขาย เดี๋ยวก็เสีย ใช้ได้ไม่นานก็ต้องเปิดประมูลใหม่เปลืองภาษีที่ประชาชนอย่างผมนี่ล่ะช่วย ๆ กันจ่ายมาทั้งนั้น
ประมูลอีกที่ เจอดีกว่านั้นหน่อย เอาของดีขายแข่งกัน แต่ใครใต้โต๊ะเก่งกว่าได้เสปคไป ผมก็กลัวอีกนั่นแหละ ต้องตั้งราคาสูง เอาเปรียบภาษีที่ตัวเองช่วยจ่าย เงินก็ของส่วนรวม ช่วย ๆ กันรักษา ไม่อยากแข่งล่ะ ยอมขายไม่ได้ดีกว่า ได้แต่บอกว่าเราไม่เก่ง ของเราคงไม่ดีพอ แต่ในใจเห็นแต่หน้าไอ้พวกเปรตขอเงิน เจอพวกนี้ตามที่สาธารณะ เห็นมีรถหรู ๆขับ รับราชการเดือนละไม่ถึงแสน กิจการอย่างอื่นไม่มี เห็นเข้าสังคมยิ้มแย้มแจ่มใส พาลูกพาเมียเที่ยวเมืองนอก ไม่รู้ว่ามันหายใจเข้าออกได้ยังงัยโดยไม่รู้สึกรุ้สา แจ้งใครล่ะครับ ? ก็ได้แต่โทษตัวเองนี่ล่ะ
บ่อนการพนัน เจ้ามือหวย ผมรู้จักทั้งนั้นล่ะ ผ่านหน้าผ่านตากันทุกวัน คนขายของชำเล็ก ๆ มีเงินเป็นร้อยล้าน มีผู้อำนาจเป็นเพื่อนช่วยสนับสนุน ประชาชนเป็นหนี้เป็นสินเจ้าของบ่อน เจ้ามือหวย ทำงานได้เท่าไหร่ ใช้หนี้มันหมด กินเข้าคลุกน้ำปลา กู้หนี้ยืมสินต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ บ้านก็ไม่มี รถก็โดนยึด ห้องเช่าก็จะไล่ ลูกน้องผมมีกี่คน เป็นหนี้มันแทบทุกคน บางคนก็ต้องออก ต้องหนีหนี้ไป แล้วผมจะร้องเรียนใครก็คงไม่ได้
ยาเสพติด เห็นข่าวประกาศจับเราก็ดีใจ ขี้ยาคงหมดไป เดินเท้าไปไหนก็ไม่ต้องกลัวว่าพวกนี้จะมาจี้ ที่ไหนได้ จับคนนึง แต่เปลี่ยนเป็นอีกคนนึงมาขาย คนขายลูกน้องใครเขาก็รู้ ผู้มีอำนาจก็เอาหูไปนา เอาตาไปไร่ ใครเป็นใหญ่ลูกน้องตัวเองก็ได้สัมปทาน ถามพวกขี้ยาสิว่าใครขาย แค่นี้ก็รู้แล้ว บอกว่าจับไม่ได้ ไม่มีกำลังพล ไม่ใช่หน่วยงาน ไม่ใช่หน้าที่ ฟังแล้วดูดีเหมือนไม่ก้าวก่ายงานคนอื่น แจ้งใครได้ล่ะแบบนี้
ผมกลัวที่จะบอก ไม่กล้าที่จะพูด ห่วงลูก ห่วงครอบครัว กลัวพวกมีอำนาจจะพาลเอา แจ้งความไปก็มีแต่จะหนีเสือปะจรเข้ หรือปะตัวเห้ก็ไม่รู้ ก็เลยต้องเห็นแก่ตัว เห็นแก่ความสุขส่วนตัวที่มีอยู่ ไม่บอกใครแล้วกัน คสช ก็แค่ ความสุขชั่วคราว
ผมไม่โทษใคร โทษคนอย่างผมนี่ล่ะ ที่เห็นแก่ตัว ไม่กล้าสู้ ไม่กล้ายืนหยัดกับความถูกต้อง ประเทศไทยก็เลยไม่เจริญ