ฉันควรทำอย่างไรเมื่อรู้ว่า แฟนตัวเองมีคนอื่น และผู้หญิงคนนั้นก็บอกว่า 'สนุกดีนะได้ใช้ของร่วมกัน'

มันเป็นอะไรที่ยากลำบากมากสำหรับผู้หญิงคนนึง การที่เราจะเลิกรัก ตัดใจจากคนที่เรารักมาก ๆ และวาดอนาคตเอาไว้ว่าจะได้ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ร่วมกันตลอดไป

...ฉันรู้จักกับคนรักของฉันเมื่อปี 2549 เราทำงานที่เดียวกัน เมื่อแรกฉันไม่เคยคิดจะสนใจเขาเลย ไม่เคยมอง ไม่คิดว่าเขามีอะไรโดดเด่นหรือมีอะไรที่สะดุดตา สะดุดใจพอให้ฉันรู้สึกพึงใจในตัวเขาเลยสักนิด เราทำงานร่วมกันมาเกือบ 4ปี จนเข้าปีที่ 5 บางอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป

เริ่มต้นที่เราเล่น MSN กัน แชทคุยกันทุกวัน ส่วนมากก็เรื่องทั่วไป เรื่องงานเพื่อสะดวกในการติดต่อและไม่ต้องเดินหากัน เขาเป็นคนมีน้ำใจ เวลาที่เดือดร้อน เขาจะอาสาช่วยเหลือตลอดเวลา จนฉันเริ่มรู้สึกสนิทใจกับเขา ฉันเริ่มชวนเขาไปดูหนัง โดยที่ฉันก็ไปกับเพื่อนแต่ก็ชวนเขาไปด้วย แรก ๆ ก็แค่ชวนไปด้วยกันเพื่อที่จะได้อาศัยรถเขาไป กลับบ้านดึกเขาก็มาส่งที่บ้าน นานเข้าก็เริ่มชวนกันไปเที่ยวต่างจังหวัด แต่ก็มีเพื่อนไปด้วยเช่นเคย ฉันไม่เคยไปไหนกับเขา 2 ต่อ 2
ช่วงนั้นฉันคิดเสมอว่า เราก็แค่เพื่อนร่วมงานกัน ไปเที่ยว กินข้าว ก็ไปกันทั้งออฟฟิศ ไม่มีอะไรแปลก และฉันไม่ได้คิดอะไรกับเขา  จวบจนวันนึง มีเพื่อนผู้หญิงคนนึงของเขาโผล่มา เขาดูสนิทกันมาก จากที่เคยแชทกับฉันตลอดทั้งวัน ก็หายไป เพราะไปแชทกับเพื่อนคนนั้นของเขา ฉันรู้สึกโหวงในใจขึ้นมาทันที เริ่มรู้ตัวแล้วว่าตัวเองแปลก ๆ กับเขา จนเมื่อวันนึงเพื่อนผู้หญิงของเขาคนนั้นมาแสดงตัว ด้วยการมาคุยในเฟสและพูดเป็นนัย ๆ ว่ากำลังจะไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเขา มันทำให้ฉันเริ่มรู้สึกว่า เธอคงไม่ใช่แค่เพื่อนแน่ ๆ และมันก็เป็นจริงเพราะวันต่อมา ฉันก็เห็นเขาแบกกระเป๋าใบโตมาทำงาน พร้อมกับบอกว่า พรุ่งนี้จะลาไปเที่ยวต่างจังหวัด ตอนนั้นใจฉันสั่น แน่ใจตัวเองแล้วว่า ฉันรู้สึกพิเศษกับเขา แต่เมื่อมีเพื่อนเขาอยู่ฉันก็ไม่ควรจะคิด ฉันพยายามห่างจากเขา ไม่คุยด้วย คิดแค่ว่า ก็แค่กลับไปเป็นเหมือนเดิมแค่เพื่อนร่วมงาน ไม่ให้ความสนิทสนมมากกว่านั้น แต่เขาก็ทำให้ฉันไขว้เขว เขาโทรหา ฉันไม่รับก็พยายามโทรมา ข้อความมาถามว่า ฉันเป็นอะไรทำไมถึงไม่คุยกับเขา...นั่นเป็นครั้งแรกที่ฉันร้องไห้เพราะเขา!!!

ฉันตัดสินใจถามเขาออกไปว่าเพื่อนเขาคนนั้นเป็นใคร และเป็นอะไรกับเขาและเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองให้เขาฟัง และเมื่อเขาบอกว่าเป็นแค่เพื่อนสมัยมัธยม และที่ไปเที่ยวด้วยกันก็เพราะว่า เขาลงเฟสไว้ว่าจะไปเที่ยวเขา และเพื่อนคนนี้ก็ข้อความมาขอไปด้วย ฉันถามเขาออกไปตรง ๆ ว่า เคยคิดมั้ยว่าความสัมพันธ์ระหว่างเรามันแปลก ๆ ฉันรู้สึกไม่ดีเวลาที่รู้ว่าเขามีใคร ฉันไม่อยากรู้สึกแบบนี้ หากว่าเขาไม่ได้คิดแบบฉันก็ขอให้เรายุติเพียงเท่านี้ เขาก็ตอบมาว่า เขาเองก็ชอบฉันเหมือนกัน นับจากวันนั้นเราก็ตกลงที่จะลองคบกันดู....มันเป็นการเริ่มต้นของการใช้คำว่า 'แฟน'

แต่ฉันมีความสุขอยู่เพียงไม่นาน ผ่านไม่ถึง 6 เดือนดีด้วยซ้ำ เขาก็มีเรื่องผู้หญิงเข้ามา ผู้หญิงคนนี้เขาเจอกันจากการแนะนำของเพื่อน ฉันเริ่มผิดสังเกตุก็เมื่อเขาคุยกับฉันน้อยลง ชวนไปเที่ยวไหนก็ไม่ค่อยไป จากปกติเวลาไปไหนเขาจะพาฉันไปด้วย ก็เริ่มน้อยลง จนฉันเริ่มสังเกตุเขามากขึ้น และได้รู้ว่าเขากำลังคุยอยู่กับผู้หญิงคนนึง ครั้งแรกฉันไม่ได้คิดอะไรเมื่อเห็นว่าข้อความที่เขาแชทกันนั้นล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องของเซ็กส์ทั้งนั้น แต่ที่ทำให้ฉันเริ่มหวั่นไหวว่ามันคงไม่ใช่แค่นั้น เมื่อจู่ ๆ วันนึงเขาก็บอกกับฉันว่านัดเพื่อนไว้ แต่ฉันขอไปด้วยไม่ให้ไป อีกทั้งยังรีบกลับทันทีที่เลิกงาน ฉันมารู้ในอีกวันนึงว่าเขานัดเจอกับผู้หญิงคนนั้น โดยนิสัยแล้วฉันเป็นคนที่เมื่อมีอะไรคาใจฉันจะถามออกไปทันที ขอแค่ได้ฟังคำตอบเท่านั้น ฉันก็จะสบายใจขึ้น ฉันถามเขาว่าไปหาผู้หญิงคนนั้นทำไม เขาตอบว่าแค่ไปกินข้าว แล้วเพื่อนของเขาก็ไปด้วยไม่มีอะไรหรอก อย่าคิดมาก....แต่เรื่องที่ฉันไม่ควรคิดมาก มันก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ ใครจะคิดว่า ผู้หญิงคนนั้นจะเป็นคนใกล้ตัวฉัน เป็นเพื่อนร่วมงานของเพื่อนฉันเอง และที่สำคัญเรื่องที่เขาบอกว่าแค่กินข้าว มันไม่ใช่แค่นั้น คืนนั้นเขาตามผู้หญิงคนนั้นไปที่ห้อง และเสร็จสรรพกันอย่างรวดเร็ว ที่ฉันรู้ก็เพราะได้อ่านแชทเอ็มที่เขาคุยกันผ่านทางเพื่อนนั่นเอง...มันเจ็บปวดมากเลย ที่ได้อ่านประโยคที่ว่า 'นู๋ทำให้พี่มีความสุขมั้ย นู๋ชอบที่พี่ทำด้านหลังให้นู๋ นู๋ร้องเสียงดังไปหรือเปล่า' มันบาดลึกเข้าไปในใจ จนต้องนั่งร้องไห้....แต่รู้ทั้งรู้ ฉันก็ยังอดทน ฉันพูดกับเขาดี ๆ ว่า ขอให้เลิกเถอะนะ ขอเถอะอย่าทำแบบนี้เลย สุดท้ายเขาก็เลิก เขาบอกว่าเขาเห็นแก่ฉัน ไม่อยากทำผิดต่อฉัน ทั้งที่ความจริงแล้วมันอาจเป็นแค่เหตุผลส่วนน้อยจริง ๆ เพราะแท้จริงแล้วคือเมื่อผู้หญิงคนนั้นรู้ว่าเขามีฉันอยู่แล้ว เธอก็เป็นฝ่ายจบเรื่องทุกอย่างลงเอง....

นับจากวันนั้นเขาก็ไม่เคยมีเรื่องราวเช่นนั้นอีกเลย ฉันยอมให้อภัยเขา แม้ลึก ๆ แล้วบาดแผลนั้นมันจะไม่มีวันจางหายไปเลย แต่ฉันก็พยายามจะลืมมัน เราอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ทะเลาะกันบ้าง ดีกันบ้าง แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่รุนแรงจนถึงขั้นบอกเลิกกันเลยสักครั้ง

จนเมื่อต้นปี 56 ฉันแนะนำให้เขาซื้อโทรศัพท์ใหม่ ให้มันไฮเทคขึ้นมา ฉันไม่เคยรู้เลยว่า นั่นเป็นการชักศึกเข้าบ้าน หลังจากที่เขามีโทรศัพท์ใหม่ และได้รู้จักกับแอพต่าง ๆ เขาก็เริ่มทำตัวแบบเดิม เขาสรรหาแอพสำหรับแชทคุยกับผู้หญิงมากมาย และมาสะดุดที่แอพ skout และได้รู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่ง แน่นอนว่าฉันรับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงของเขาอีกครั้ง (ผู้หญิงเรามีเซนส์มากกับคนที่เรารัก คุณเชื่อมั้ย) เขาเริ่มเอาแต่ก้มหน้าก้มตาอยู่กับโทรศัพท์ ไม่คุยกับฉัน ทั้งที่เขาเองมักจะชอบต่อว่าฉันเสมอเวลาที่ฉันอยู่กับเขาแล้วเอาแต่แชท ฉันเริ่มสงสัยหนักข้อขึ้นเมื่อวันนึงฉันเดินไปหาเขาที่โต๊ะทำงาน แล้วทำสะดุ้ง รีบปิดโทรศัพท์ ฉันเก็บความสงสัยเอาไว้ในวันนั้น จนเมื่อเพื่อนของเขามาพูดกับฉันว่า ถ้าสงสัยก็ต้องควานหา มันต้องเจอ! เขาพูดเป็นนัยเหมือนรู้อะไรแต่ไม่สามารถบอกกับฉันตรง ๆ ได้ และนั่นทำให้ฉันตัดสินใจทำในสิ่งที่ฉันไม่เคยทำ ฉันขอเขาดูโทรศัพท์ แต่ก็ถูกปฏิเสธ แถมไม่ยอมให้โทรศัพท์อยู่ห่างตัว และมันทำให้ฉันเลือกที่จะทำเรื่องที่ไม่สมควรออกไป ฉันถือวิสาสะแอบเอาโทรศัพท์เขามาดู และได้เห็นว่า เขากับผู้หญิงคนนั้นแอด ไลน์ กัน และได้มีการนัดเจอกันมาแล้วหลายครั้ง และในหลายครั้ง ๆ นั้นเป็นหลาย ๆ ครั้งที่ฉันชวนเขาไปไหนด้วย แต่เขาปฏิเสธเสมอ ฉันได้เห็นว่าเขาโทรฯติดต่อกัน และไลน์คุยกันทุกวัน แทบจะทั้งวัน ทั้งคืนก็ว่าได้ ฉันเปิดไลน์เขาขึ้นมาดู เพียงแค่อยากรู้ว่าคุยอะไรกัน ถ้าคุยกันแบบเพื่อน ฉันก็จะเลิกสนใจ แต่แล้วฉันก็มาสะดุดกับประโยคที่ว่า 'เค้ารู้สึกว่าตัวเองแย่มาก รู้สึกไม่ดีเลยที่ทำแบบนี้กับ......ไม่อยากต้องเจอกันแค่ตอนกลางคืนแบบนี้ อยากคบกันแบบเปิดเผย' แล้วฝ่ายหญิงก็เขียนตอบมาอย่างฉะฉานว่า 'พูดจริงป่าว คิดจริงนะ ไปเลิกกับแฟนก่อนสิ' ฉันนั่งตัวสั่น ตอนนั้นสมองของฉันคิดอะไรไม่ออกอีกแล้ว ไม่รู้ถึงผลกระทบด้วยว่ามันจะเป็นยังไง ฉันพิมพ์ข้อความลงไปในไลน์ของเขาว่า 'คุณเป็นใคร ทำไมถึงมาพูดแบบนี้กับแฟนของฉัน' ผู้หญิงคนนั้นตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว เหมือนกำลังรอคอยเขาอยู่ว่า 'แล้วเธอล่ะเป็นใคร' ฉันอึ้ง แต่ก็บอกเขาไปด้วยคำสุภาพว่า 'เราเป็นแฟนของเขา อย่าทำอะไรแบบนี้เลยนะ' จากนั้นฉันก็ไม่ได้คุยไปอีก และเลือกที่จะไปบอกกับแฟนว่า ฉันเปิดโทรศัพท์เขาดู และเห็นแล้วว่าเขากำลังมีคนอื่น เขาโกรธมาก ซึ่งฉันเองก็รู้และยอมรับว่าฉันผิด เราทะเลาะ มึนตึงใส่กันอยู่ 2 วัน ฉันก็ติดสินใจส่งข้อความไปหาผู้หญิงคนนั้น ที่ฉันจดเบอร์มาด้วย ขอแอดไลน์คุยกับเธอ หวังให้เธอหยุดทำเรื่องแบบนั้นซะ แต่สิ่งที่ฉันได้รับจากเธอ คือการขึ้นรูป ขึ้นสเตตัสว่ากระทบฉัน แสดงให้ฉันเห็นว่าเขากับเธอยังอะไร ๆ กันอยู่....แต่ฉันก็ไม่ได้เชื่อสิ่งที่เห็นอย่างเดียว หลังจากที่ฉันกับแฟนคุยกันแล้ว ฉันก็ถามเขาว่า ตกลงยังไง เลิกติดต่อกันแล้วใช่มั้ย เขายืนยันหนักแน่นว่า ไม่ได้คุยกันแล้ว และทิ้งท้ายว่า ฉันไปทำขนาดนั้นใครจะกล้ามาคุยกับเขาอีก...ซึ่งฉันไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากส่งเมสเสจไปขอให้เธอคนนั้นเลิกยุ่งกับเขา อย่าทำร้ายผู้หญิงด้วยกัน แค่นั้น...

ผ่านไป 3 เดือนกว่าทุกอย่างที่เหมือนจะดีขึ้นก็ชักจะไม่ใช่ เมื่อแฟนของฉันนัดกันไปเที่ยวกับเพื่อน โดยที่เพื่อนเขาก็ย้ำนักหนาว่า ให้พาฉันไปด้วย ในวันนั้นเขาก็รับปากว่าจะพาไป แต่พอใกล้ถึงวันเขากลับบอกว่า อย่าไปเลยเพราะมันอันตราย ฉันเสียความรู้สึกมาก แต่เมื่อเขาบอกว่าไม่อยากให้ไปเพราะอันตราย ฉันก็เชื่อเขา ไม่ได้ติดใจอะไรเลย...และเมื่อถึงวันนั้นเขาก็ติดต่อกับฉันตลอด คอยบอกตลอดว่าอยู่ไหน ทำอะไรอยู่ แม้จะมีผิดสังเกตุไปนิดตรงที่จู่ ๆ เขาก็ไลน์ติกเกอร์มาหาบอกให้ รักษาตัวดี ๆ เป็นห่วงนะ...แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ถามออกไป เขาก็แชทกลับมาว่า มือไปโดน ส่งผิดตัว ฉันไม่ได้ติดใจ หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้คุยกันอีก จนกระทั่งฉันเข้าไปเห็นในไลน์ของผู้หญิงคนนั้นที่ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือเปล่า แต่ขึ้นสเตตัสว่า 'เป็นอีกวันที่เราได้อยู่ด้วยกัน' แถมด้วยการขึ้นรูปโชว์ว่าตัวเองอยู่ณ สถานที่แห่งนั้น และมันเป็นที่ ๆ แฟนของฉันไปเที่ยว!!!....ฉันร้อนรนมาก มากจนทนไม่ไหวโทรหาแฟน แต่เขาก็ไม่รับสาย จนกระทั่งเช้าเขาถึงโทรมา ฉันถามไปตรง ๆ อีกครั้งว่า ไปกับคนนั้นใช่มั้ย โกหกทำไม ตอนแรกเขาเหมือนไม่รับรู้ เหมือนปฏิเสธ แต่พอฉันบอกว่า มันบังเอิญเกินไปหรือเปล่าที่จะไปอยู่ที่เดียวกันได้แบบนั้น เขาก็พูดออกมาว่า เธอคนนั้นมาที่นี่จริง แต่ไม่ได้มากับเขา มันบังเอิญ ไม่ได้ไปด้วยกัน...คุณเชื่อมั้ย ฉันก็เชื่อเขาเหมือนเดิม เชื่อทั้งที่มีความเป็นไปได้สูงว่ามันไม่ใช่ ต่อมาฉันกับแฟนไปเที่ยวกันในวันหยุดยาว ความสุขของฉันก็พังอีกครั้ง เมื่อผู้หญิงคนนั้นโทรศัพท์เข้ามาในขณะที่ฉันกับแฟนกำลังนั่งเล่นโทรศัพท์กันอยู่ ชื่อของเธอโชว์หราอยู่บนโทรศัพท์ ฉันมองหน้าเขาด้วยน้ำตาคลอเบ้า บอกเขาว่า รับสิ ถ้าบริสุทธิ์ใจช่วยรับสายให้เห็นที แต่เขาก็ไม่รับ ฉันพยายามแย่งมันมารับเอง เขาก็รีบกดตัดสายทิ้งไปและจัดการปิดเครื่องในทันที...มันเป็นเรื่องที่เจ็บปวดมาก แต่เขาก็ยืนยันว่า ไม่ได้คุยกันเลย แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่า เธอคนนั้นโทรมาทำไม

เพราะความรักที่ฉันมีให้เขา รักอย่างหมดหัวใจฉันเชื่อเขา และเลิกที่จะสนใจผู้หญิงคนนี้อีก เมื่อเขาบอกว่า มันจบแล้ว จะไม่ติดต่อกับเธออีกแล้ว ถ้าเขาบอกว่าจบคือจบ มันจะไม่มีอีก ระยะเวลาในการทะเลาะกันเรื่องผู้หญิงคนนี้กินเวลาอยู่เกือบ 8 เดือน จนเมื่อเขาพูดแบบนั้นออกมา ฉันก็เลิกคิดระแวงสงสัยเขาอีก เขาทำให้ฉันเห็นว่า ฉันเชื่อใจเขาได้ เมื่อเขาบอกว่า ไม่ ก็คือ ไม่....เรากลับมามีความสุขกันอีกครั้ง ฉันเริ่มถามถึงอนาคตของเรากับเขา ฉันหวังให้เราเริ่มวางแผนเสียที แม้เขาจะบอกว่า เขายังไม่ค่อยพร้อมแต่ฉันก็ยังบอกเขาว่า ฉันรอได้ ขอแค่เราเริ่มต้นที่จะสร้างอนาคตด้วยกันก็พอ....แต่ใครจะคิด สิ่งที่เขาบอกไว้ สิ่งที่เขาให้สัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะ มันเป็นเพียงแค่ลมปากจริง ๆ

เมื่อผู้หญิงคนนั้นกลับมา พร้อมกับมีรูปถ่ายคู่ของเขา 2 คน ที่แสดงถึงความใกล้ชิดในสถานที่ที่บอกให้รู้ว่ามันคือต่างจังหวัด และเป็นวันที่เขาบอกกับฉันว่าเขาไปเรียน และเป็นวันที่เขาขยันโทรศัพท์หาฉันตลอด ฉันไม่รู้ว่าเขาทำได้ยังไง อยู่กับผู้หญิงคนนึง แต่ก็ยังโทรศัพท์หาผู้หญิงอีกคนนึง ปั้นเรื่องมากมายว่ากำลังทำอะไรอยู่ ทั้งที่มันไม่ใช่เลย รูปถ่ายของเขากับเธอที่ส่งมาในเมลล์ของฉันทำให้ฉันแทบใจสลาย มือสั่น น้ำตาร่วง ฉันไม่รู้ว่ามันเป็นความตั้งใจของใครหรือเปล่า แต่ที่ฉันรู้คือ ฉันรับรู้แล้วว่า 2 วันที่ผ่านมาเขาโกหกฉันมาตลอด เขาไม่ได้ไปเรียน แต่เขาไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเธอคนนั้น คนที่เขาบอกว่า เลิกยุ่งแล้ว และจะไม่กลับไปยุ่งอีก...ฉันถามเขาว่าทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง โกหกฉันทำไม...แต่สิ่งที่ฉันได้จากเขาคือประโยคที่ว่า

'บอกตรง ๆ นะ กับเธอเราไม่ได้รู้สึกอะไรด้วยมานานแล้ว เราพอแค่นี้เถอะ' สั้น ๆ ง่าย ๆ

แม้ฉันจะถามหาเหตุผลว่าทำไมเขาถึงทำกับฉันแบบนี้ เขาก็ไม่ตอบ บอกแต่ว่า เขาเลือกคนนี้ก็แล้วกัน...จบมั้ย!!!!
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ปัญหาชีวิต ความรักวัยรุ่น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่