#pingineurope EP. 7 - แนะนำตัวละครเพิ่มเติมคร้าบ

ครั้งหนึ่งใน EP. 3 ปิ๊งเคยได้แนะนำตัวละครหลักๆไปแล้วรอบนึง มาครานี้ หลังจากที่ไปค่ายรับน้อง หลังจากได้รู้จักพี่ๆคนไทย ตัวละครเพิ่มมาอึ้ดเลยค่ะ 555 แต่จะให้แทนตัวพวกเค้าว่า "เพื่อนคนนั้น" "พี่คนนี้" ก็ดูจะงง มาทั้งชื่อทั้งรูปเลยดีกว่าค่าาาา

เริ่มที่เพื่อนๆจากกลุ่มรับน้อง ที่สนิทด้วยจริงๆมีแค่ 3 คนค่ะ

เพื่อนคนแรกเลยคื่อ เจอร์รี่ (ชื่อเต็มๆของนางคือ โช ฮแย รี เรียกเร็วๆจะกลายเป็น เจอร์รี่ค่ะ) ตามชื่อจริงคงเดาได้น้า ว่าเค้าเป็นสาวแดนกิมจิค่ะ สาวหน้าใสคนนี้มาจาก KAIST ค่ะ เป็นเพื่อนคนแรกของปิ๊งในกลุ่มเลย


มาถึงคนที่สอง เธอชื่อเจสสิก้า เป็นสาวฝรั่งเศสจากปารีส แต่ไม่มีนิสัยเย่อหยิ่งแบบข่าวลือเกี่ยวกับสาวปารีเซียงเลยค่ะ ภาษาอิงแลนด์ของเจสสิก้าไม่ค่อยแข็งแรง เลยตามเพื่อนๆอีกหลายคนในกลุ่มไม่ทัน (เพื่อนๆที่เหลือมาจากฟินแลนด์ โปแลนด์ ออสเตรเลีย อเมริกากับอิตาลีค่ะ ทุกคนพูดปะกิตได้ดี และมักจะคุยกันเรื่องดื่ม เลยไม่ค่อยสนิทค่ะ) แล้วตอนที่ออกไปนอกรร. ปิ๊งกะเจสสิก้าเดินช้าสุดค่ะ ข้ามไฟแดงไม่เคยทัน สามฝรั่งเศษคนนี้เลยสนิทกะปิ๊งกะเจอร์รี่เป็นพิเศษค่ะ เรานัดกินขิาวเที่ยงด้วยกันแทบจะทุกวันค่ะ


คนที่สาม คือแคโรลีน/แคโรไลน์ แล่วแต่ว่าออกเสียงแบบไหนค่ะ แคโรลีนก็เป็นสาวฝรั่งเศสจาก Bordeaux (บอร์โดซ์) เหมือนกัน เธอคือกุลสตรีของจริง เรียบร้อยปานผ้าพับไว้ เธอเล่นฟลุ๊ตจริงจัง (มีโอกาสได้เล่นให้ราชวงศ์เดนมาร์กฟังด้วยค่ะ) เรามีวิชาเดียวกันสองวิชา เจอกันบ่อย



จากซ้ายไปขวา เจสสิก้า แคโรลีน เจอร์รี่ ค่า

มีสาวแดนกิมจิอีก 1 คนค่ะ ที่ปิ๊งได้รู้จักเพราะเธอเป็นเพื่อนของเจอร์รี่ เธอชื่อ ดามี่เธอเป็นนักเต้น (เต้นเก่งมากกก) เป็นสาวลุย (วันดีคืนดีแบกเป้เที่ยว) สองสาวเกาหลีทำอาหารเก่งมากค่ะ และที่สำคัญ สองสบวกับเจสสิก้าคอแข็งมากกกกก


อ้อ เพิ่มอีกคนค่ะ เขาชื่อ เดวิด เท่าที่จำได้คือพ่อแม่เป็นคนเขมรนะคะ แต่ย้ายไปอยู่ฝรั่งเศส ตัวเขาเองก็เกิดที่ฝรั่งเศส เข้าใจภาษาเขมรเล็กๆน้อยๆ รู้จักกันเพราะเขาเรียนอยู่ที่มหาลัยเดียวกับเจสสิก้าค่ะ แต่ไปรับน้องไม่ทัน


มาถึงเพื่อนอีกหนึ่งกลุ่ม เป็นกลุ่มที่ปิ๊งสนิทด้วยมากที่สุดค่ะ มาเป็นแก๊ง ไปสนิทกันตอนไหนยังไม่แน่ใจค่ะ แต่กลุ่มนี้คือกลุ่มที่ปิ๊งยังติดต่ออยู่สม่ำเสมอค่ะ พวกเค้าคือเพื่อนๆจากประเทศฮ่องกง




คงเพราะฮ่องกงกับสิงคโปร์มีอะไรคล้ายๆกันหลายอย่าง อย่างแรกที่สำคัญคือ ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ทุกคนต้องพอพูดได้ และเค้าก็ใช้ภาษาจีนแต้จิ๋วด้วยค่ะ ถึงภาษาจีนที่สิงคโปร์จะเป็นจีนกลาง แต่พวกเค้าก็เข้าใจจีนกลางด้วยค่ะ

มาที่คนแรก นางชื่อมิเชล ปิ๊งรู้จักกับนางเพราะวันที่กินข้าวข้างนอกตอนรับน้อง นั่งอยู่ที่โต๊ะเดียวกับนาง หลังจากนั้นพอไปรอคิวเข้าบาร์ นางก็ยืนอยู่ข้างหน้า และตอนที่ปิ๊งกับแคสคุยกัน มิเชลหันมาถาม (แบบสงสัยจริงๆ) ว่า "what language are you all speaking?" (พวกเธอคุยภาษาอะไรอ่ะ)


ปิ๊งกับแคสมองหน้ากัน ช๊อคไปแปป เราก็พูดภาษาอังกฤษ (สไตล์สิงคโปร์ ที่เราเรียกกันว่า Singlish) นี่

ใครที่เคยสัมผัสกับ Singlish คงรู้ดีนะคะ ว่าเราพูดกันเร็ว แล้วเราจะเติมคำสารพัดลงท้าย (เพื่อเพิ่มอรรถรสในการเล่าเรื่อง) มีทั้งคำจากภาษาจีนกลาง มาเลย์ ฮกเกี้ยน เยอะแยะมากค่ะ และสำเนียงเราจะฟังชัดมาก เอาเป็นว่า 2 คำ รู้เรื่องเลยว่ามาจากสิงคโปร์แน่ๆ

คงเพราะความเร็วมั้งคะ ทำให้มิเชลงง 555 จากนั้นเราก็คุยกันถูกคอ เธอเป็นคนรั่วมาก

ตอนนั้นมิเชลอยู่กับเพื่อนอีกคนคือแดนนี่ แดนนี่เป็นคนสูงมากกก (น่าจะเฉียด 190ซม.ค่ะ) เลยได้แนะนำให้รู้จักกัน วีรกรรม (และความสูง)ของแดนนี่จะมาช่วงหลังๆค่ะ แต่เป็นคนที่แอบกลัวแฟนเบาๆ 555


มีโอกาสได้ไปกินบุฟเฟ่ต์อาหารจีนกับมิเชล และมิเชลได้บอกว่าเคเคไปนะ อะเคค่ะ งั้นหนูกะแคสก็ไปค่ะ (ลืมชวนเอ็ดมาร์ และคุณเธอยังงอนถึงทุกวันนี้) ไปก็เจอหยาง เพื่อนๆฮ่องกงกลุ่มใหญ่ยักษ์ จากนั้ยเราก็รู้จักกันค่ะ (คือทุกคนรู้จักปิ๊งแล้วเพราะมิเชลเอาปิ๊งกับแคสไปเมาท์ให้พวกเขาฟังค่ะ)

คนต่อไป คือเพื่อนใหม่ที่ถือว่าสนิทที่สุดค่ะ เป็นคนที่มีความเหมือนกับปิ๊งมาก แต่แตกต่างกันสุดขั้วเหมือนกัน เธอชื่อคลาร่า



ปิ๊งเคยเห็นคลาร่าครั้งนึงตอนเราไปเมาท์ที่ห้องเคเคก่อนรร.เปิด เค้าอยู่ที่ตู้เดียวกันค่ะ ห้องเยื้องกันนิดเดียว ตอนนั้นยังคิดเลยว่าแหมมม จะขี้อายไปไหนคะเธอ เคเคทักนิดเดียวเอง (เยอะเนอะ)

ไปๆมาๆ อ่าว สนิทเฉยเลย

คลาร่าชอบโดราเอมอนเหมือนกับปิ๊ง ชอบแฮร์รี่ พ็อตเตอร์เหมือนกับปิ๊ง เล่นเปียโนเป็นเหมือนกัน (แต่คลาร่าเก่งกว่ามากก เราสองคนรอโอกาสสอบระดับเดียวกัน แต่ต่างกันคืป คลาร่าเรียนครบแล้วทุกเพลง ปิ๊งยังได้แค่เพลงเดียวค่ะ) เราชอบการ์ตูนดิสนีย์เหมือนกัน ชอบไลอ้อนคิงเหมือนกัน เรียกว่าเหมือนกันหลายอย่างค่ะ อ้อ คลาร่าว่ายน้ำด้วยค่ะ เราสองคนหลงรักสวิตเซอร์แลนด์เหมือนกันค่ะ นั่งคุยเรื่องวิวของสวิสได้ทั้งวันไม่เบื่อ

ที่ไม่เหมือนกันคือปิ๊งเสียงดัง คลาร่าจะออกแนวเงียบๆ (อย่าให้นางเปิดปากนะคะ เงิบนะคะ 555 ต้องสนิทนางจึงจะหยอกคนได้) คลาร่าขยันมากกกกกก ส่วนปิ๊ง อย่างที่รู้ ตกไปหนึ่งวิชาค่ะ ความขยันเท่าเม็ดถั่วเขียวค่ะ คลาร่าคือเด็กดีที่อาจารย์อีเมล์ให้ไปเป็นผู้ช่วย ส่วนปิ๊งจะได้รับอีเมล์ประมาน งานเธอห่วยนะ งานเธอเลทนะ (แหม่ๆๆๆ) คลาร่ากลัวหมามากกกกกกก ส่วนปิ๊งรักหมามากกกกค่ะ หลังๆนี่ไปขลุกอยู่ที่ห้องของคลาร่าทุกวันค่ะ ไปค้างก็มี

อีกหนึ่งสาว สาวคนสุดท้ายของแก๊งค์ฮ่องกง คือยูกิค่ะ ดูห้าวๆแต่ยูกิถือเป็นเชฟมือหนึ่งของแก๊งค์ฮ่องกงเลยค่ะ และเป็นคนเดียวใน 7 คนที่ไม่ได้อยู่ที่ Campus village แต่มีหน้าที่ทำกับข้าวให้แก๊งนี้กินบ่อยๆ ยูกิอายุน้อยกว่าพวกเราส่วนมาก คือปีนี้ 21 ค่ะ ขยันและลุยพอตัวเลยค่ะสาวน้อยคนนี้





มาด้านหนุ่มๆบ้าง (นอกจากแดนนี่)

แมทธิวคือคนต่อไปที่เราสนิทด้วย เพราะเรามีวิชาเดียวกันหนึ่งวิชาค่ะ คือวิชา Time Series Analysis เป็นวิชาที่เราลักไก่ครูมาได้ว่าคอนเทนท์ใกล้เคียงกับวิชา Process Control ที่เป็นวิชาหฤโหดแห่งคณะค่ะ แต่ด้วยความที่เราลักไก่ เราเลยเจอกรรมติดจรวดค่ะ โหดมาก เป็นวิชาที่ต้องใช้ซอฟแวร์ที่ชื่อ R Programme เพื่อเขียนโค้ดแล้วตอบคำถาม แล้วเราสี่คนไม่เคยเจอโปรแกรมนี้มาก่อนในชีวิต เราเลยมานั่งสุมหัวทำรายงานค่ะ และด้วยความที่เราอยู่ด้วยกันหลายคืนเพื่อก่นด่าสารพัดและบ่นเรื่องรายงาน เราเลยเริ่มสนิทค่ะ แมทธิวเหมือนพี่ชายเลย หลังๆมีการมานั่งคุมให้อ่านหนังสือ ให้กินข้าว แต่เป็นประธานอยู่สมาคมคนกลัวแฟนค่ะ 5555 วันไหนนัดกินข้าวกันแล้วไม่โผล่มาคือติดภารกิจคุยกะแฟน 555


คนต่อมา คือแจ็ค แต่มีชื่อในเฟซบุ๊คว่า เจฟฟรี่ ก็ไม่เข้าใจทำไมมีสองชื่อ แจ็คเป็นหนุ่มหน้าใส ดูๆเป็นหนุ่มไร้พิษภัย แต่คล้ายๆกับคลาร่าค่ะ อย่าให้สนิทเชียวนะ กัดเจ็บเชียว เรามาสนิทกันตอนที่แก๊งฮ่องกงยกแก๊งไปเที่ยวนอร์เวย์(รึฟินแลนด์น้า) แต่แจ๊คกับคลาร่าไปไม่ได้ค่ะ เลยมาเที่ยวกับเรา


คนสุดท้ายคือโจ เทียบกับทุกคนแล้ว โจเป็นคนที่ภาษาอังกฤษอ่อนกว่าเพื่อนค่ะ คุยกันแทบกุมหัวค่ะ แล้วเค้าหน้าซื่อมาก ถามตาใสๆ พวกเราก็แบบ ไม่เคยโมโห เพราะแววตาซื่อจริงๆค่ะ



งานรวมญาติ ขาดเคเค หยาง แคโรลีนกับดามี่ค่ะ (มีแฟนมิเชลเพิ่มมาอีกคน)

นี่คือเพื่อนๆที่ปิ๊งใช้เวลาอยู่ด้วยมากที่สุดค่ะ มาถึงพี่ๆคนไทยบ้างดีกว่าาาา

พี่คนแรกที่รู้จักคือพี่แมทค่ะ พี่แมทเป็นแฟนแมนยู ช่วงนี้บินบ่อยมากค่ะ เช็คอินบ่อยจนน้องหมั่นไส้ รู้สึกใกล้จบละค่ะ



พี่ชินนี่เป็นสาวสวย เพรียบพร้อมไปทุกประการค่ะ พึ่งพรีเซนต์งานจบไปหมาดๆ คว้าดีกรีด๊อกเตอร์แล้วค่ะ พี่ชินนี่เหมือนพี่สาว แนะนำดูแลหนูปิ๊งกับแคสมาตลอดค่ะ



พี่ยุ้ยเป็นสาวสวยร่างเริง อยู่ใกล้แล้วมีรัศมีความสนุกแผ่ออกมาเลยค่ะ พี่ยุ้ยพึ่งเริ่มป.เอกค่ะ อีกสองปีคงจบ พี่ยุ้ยก็เป็นพี่สาวเหมือนพี่ชินนี่ค่ะ เมาท์กันได้ทั้งวัน ดีใจมากค่ะที่ได้เจอพี่สาวตั้งสองคนในแดนไกล



พี่โอ๊ตเป็นผช.ที่ตอนนี้กำลังฟิตหนักค่ะ คุยกันง่ายเพราะนางเยอะค่ะ บ้านพี่โอ๊ตคือสถานที่จัดปาร์ตี้ค่ะ ตอนที่ปิ๊งใกล้กลับมาที่สิงคโปร์ ปิ๊งกับแคสก็ไปหลบภัยที่บ้านเค้าค่ะ พี่โอ๊ตไปทำรีเซิร์ชที่เดนมาร์ก1ปีค่ะ กลับไทยมา 1เดือนหลังจากที่หนูกลับสิงคโปร์ค่ะ เจอเรื่องหนักตั้งแต่กลับมา สู้ๆนะเฮีย



พี่ภีมเป็นTeacher Assistant ในหนึ่งในวิชาที่ปิ๊ง แพส และเอ็ดมาร์ลงเรียนค่ะ พี่ภีมเล่นกีตาร์เป็น สนิทกะพี่โอ๊ตฝุดๆ ปิ๊งสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่างเวลาสองคนนี้อยู่ด้วยกันค่ะ



พี่หมวยเป็นเหมือนพี่ใหญ่ประจำแก๊งค่ะ ปิ๊งเจอพี่หมวยแค่สามครั้งเองค่ะ เพราะพี่หมวยอยู่ไกล ไม่ได้เข้ามหาลัยบ่อยๆค่ะ แหะๆ ไม่มีรูปกะพี่หมวยอะ >< จิ๊กรูปพี่มาแล้วกันนะคะ


พี่แมทกับพี่ยุ้ย กำลังเรียนป.เอก ส่วนพี่ภีมกำลังเรียนป.โท วิศวะเคมีที่ DTU ค่ะ
พี่ชินนี่พึ่งจะจบป.เอก Biotechnology (มั้งคะ)
พี่โอ๊ตกำลังเรียนป.เอก วิศวะเคมีที่จุฬาค่ะ
ส่วนพี่หมวยนี่ไม่แน่ใจค่ะ...




หุๆ อนุญาตให้ข้ามได้ เอาไว้เป็น reference เวลาปิ๊งเล่าถึงพวกเขาค่ะ จะได้จิ้นกันได้ว่าหน้าตาเป็นยังไง โฮะๆๆ

ปล. การไปแลกเปลี่ยนทำให้ปิ๊งได้สกิลการถ่าย Selfie มาทันทีเลยค่ะ จากถ่ายไม่เคยเป็น ตอนนี้เริ่มดูเป็นคนแล้วค่ะ

ลิ้งค์รวมกระทู้ #pingineurope