ไปเจอเรื่องอัตราการทิปสำหรับบริการต่างๆในอเมริกา เลยเอามาฝาก ใครที่อยู่อเมริกานานๆแล้วเห็นต่าง ช่วยให้ข้อมูลเพิ่มเติมหน่อยนะคะ
ข้อมูลจาก
http://money.cnn.com/pf/features/lists/tipping/
http://waitbutwhy.com/2014/04/everything-dont-know-tipping.html
ทางเว็บแนะนำการทิปที่อเมริกาไว้อย่างนี้ ส่วนในวงเล็บเป็นความเห็นของ จขกท
- ร้านอาหาร 15-20% (ถ้าเราสั่งไวน์แพงๆ ต้องทิปเยอะตาม % ด้วยเหรอ ทั้งที่พนักงานแค่เดินไปเอาไวน์มาให้ ฟังดูไม่มีเหตุผลเลย)
- บาร์เทนเดอร์ เบียร์ ขวดละ $1-2, ค็อกเทล แก้วละ $2-3 หรือ 15-20% ของบิลรวม
- พนักงานประจำห้องเก็บเสื้อโค้ต $1 ต่อหนึ่งตัว
- พนักงานจอดรถ $1-5 (ให้พับสองทบแล้วยื่นให้โดยตัวเลขธนบัตรอยู่ด้านล่าง)
- คนยกกระเป๋าในโรงแรม อย่างน้อยใบละ $1 แต่ถ้ามีใบเดียว $2
- Concierge $5-10 สำหรับการจองตั๋วหรือจองร้านอาหารให้ แต่ถ้าแค่ถามทาง ไม่ต้องทิป
- แม่บ้านทำความสะอาด $1-10 (ไม่เคยให้ ยกเว้นเราทำอะไรเลอะมากในห้อง อาจจะทิ้งเงินไว้พร้อมเขียนคำขอโทษ)
- คนเปิดประตูที่เรียกแท็กซี่ให้ $1 (ไม่เคยให้)
- แท็กซี่ 15-20% ถ้ามีกระเป๋า เพิ่มอีกใบละ $1-2 (ไม่เห็นด้วย แต่ต้องให้ เคยโดนทวงมาแล้ว)
- พนักงานเปิดประตูอพาร์ตเมนท์ เฉพาะช่วงคริสต์มาส $20-100
- คนส่งอาหาร $2-5
- คนส่งดอกไม้ $1-10
- คนส่งเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ $5-10 ต่อคน
- ช่างเสริมสวย/พนักงานสปา 15-20%, ช่างสระผม $2 (ไม่เคยใช้บริการ แต่เดี๋ยวนะ พวกช่างนี่เงินเดือนเป็นค่าแรงขั้นต่ำด้วยเหรอ ถ้าทำออกมาถูกใจเป็นพิเศษจะทิปก็ไม่แปลก แต่ถ้ามันธรรมดาสามัญ จะทิปไปทำไม งง)
พูดถึงค่าแรงขั้นต่ำนิดนึง ที่อเมริกาเหนือ เรททิปมาตรฐานในร้านอาหารคือ 15-20% สาเหตุหลักคือ ร้านอาหารเอาเปรียบพนักงานเสิร์ฟด้วยการให้เงินเดือนไม่ถึงค่าแรงขั้นต่ำของอาชีพทั่วไป รายได้หลักเลยขึ้นกับทิป
ลองนึกดูว่า ตามกฎหมายระดับประเทศของอเมริกา ค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่ $7.25 ต่อชั่วโมง แต่พนักงานที่ชีวิตขึ้นกับทิป ได้แค่ $2.13 ต่อชั่วโมง และเรทนี้คงที่มายี่สิบกว่าปี ถ้าไม่มีทิปมีหวังอดตายแน่ (อันนี้ จขกท คิดว่าเป็นความงี่เง่าของอเมริกาเองที่ยอมให้พวกเจ้าของร้านเอาเปรียบผลักภาระรายได้พนักงานมาให้ลูกค้า แต่ไปอยู่เมืองเขาก็ต้องทำตามธรรมเนียมเขาแหละนะ) ค่าทิปในอเมริกาไม่ใช่เรื่องเล่นๆ รวมกันต่อปีก็ประมาณ 4 พันล้านดอลล่าร์ (มากกว่างบ NASA สองเท่า) โดย 70% ในนั้นเป็นของพนักงานเสิร์ฟ
ผลการวิจัย (
http://tippingresearch.com/uploads/Commentary_on_Bodvarsson.pdf) บอกว่าการบริการกับทิปมีความสัมพันธ์กันน้อยมาก บางคนให้จนติดเป็นนิสัย ต่อให้บริการไม่ดีก็ยังทิป ส่วนบางคนที่ไม่ทิป บริการดีแค่ไหนก็เท่านั้น แต่พนักงานเสิร์ฟมักจะทึกทักเอาเองว่ามีผล เลยทำงานดีขึ้นหรือแย่ลงตามความคิดของตัวเอง
หกเทคนิคที่ทำให้ลูกค้าทิปมากขึ้น (ที่อเมริกา)
1. บริการลูกค้าที่เป็นเพศตรงข้ามกับตัวเอง
2. ก้มตัว/ย่อตัวลงไปพูดกับลูกค้า
3. เขียนอะไรเล็กๆน้อยๆหรือวาดรูปในบิล เช่นหน้ายิ้ม รูปพระอาทิตย์ เทคนิคนี้ได้ผลเฉพาะพนักงานผู้หญิง
4. ให้ลูกอมมาพร้อมกับบิล
5. แตะไหล่ลูกค้าตอนที่ไปส่งบิลเก็บเงิน
6. ฟิตหุ่นดีๆ แต่งตัวสวยๆ พนักงานเสิร์ฟหน้าตาดีหรือแต่งตัวเก่งจะได้ทิปเยอะกว่าคนอื่น สาวสวยผิวขาวแต่งหน้าเก่ง ผมบลอนด์ หุ่นดี อายุสามสิบอัพ และช่างยิ้ม จะได้ทิปเยอะสุด
แปลและเรียบเรียงโดย :
#--พอดแคสท์เกิร์ล—#
อัตราการทิปสำหรับบริการต่างๆในอเมริกา
ข้อมูลจาก
http://money.cnn.com/pf/features/lists/tipping/
http://waitbutwhy.com/2014/04/everything-dont-know-tipping.html
ทางเว็บแนะนำการทิปที่อเมริกาไว้อย่างนี้ ส่วนในวงเล็บเป็นความเห็นของ จขกท
- ร้านอาหาร 15-20% (ถ้าเราสั่งไวน์แพงๆ ต้องทิปเยอะตาม % ด้วยเหรอ ทั้งที่พนักงานแค่เดินไปเอาไวน์มาให้ ฟังดูไม่มีเหตุผลเลย)
- บาร์เทนเดอร์ เบียร์ ขวดละ $1-2, ค็อกเทล แก้วละ $2-3 หรือ 15-20% ของบิลรวม
- พนักงานประจำห้องเก็บเสื้อโค้ต $1 ต่อหนึ่งตัว
- พนักงานจอดรถ $1-5 (ให้พับสองทบแล้วยื่นให้โดยตัวเลขธนบัตรอยู่ด้านล่าง)
- คนยกกระเป๋าในโรงแรม อย่างน้อยใบละ $1 แต่ถ้ามีใบเดียว $2
- Concierge $5-10 สำหรับการจองตั๋วหรือจองร้านอาหารให้ แต่ถ้าแค่ถามทาง ไม่ต้องทิป
- แม่บ้านทำความสะอาด $1-10 (ไม่เคยให้ ยกเว้นเราทำอะไรเลอะมากในห้อง อาจจะทิ้งเงินไว้พร้อมเขียนคำขอโทษ)
- คนเปิดประตูที่เรียกแท็กซี่ให้ $1 (ไม่เคยให้)
- แท็กซี่ 15-20% ถ้ามีกระเป๋า เพิ่มอีกใบละ $1-2 (ไม่เห็นด้วย แต่ต้องให้ เคยโดนทวงมาแล้ว)
- พนักงานเปิดประตูอพาร์ตเมนท์ เฉพาะช่วงคริสต์มาส $20-100
- คนส่งอาหาร $2-5
- คนส่งดอกไม้ $1-10
- คนส่งเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ $5-10 ต่อคน
- ช่างเสริมสวย/พนักงานสปา 15-20%, ช่างสระผม $2 (ไม่เคยใช้บริการ แต่เดี๋ยวนะ พวกช่างนี่เงินเดือนเป็นค่าแรงขั้นต่ำด้วยเหรอ ถ้าทำออกมาถูกใจเป็นพิเศษจะทิปก็ไม่แปลก แต่ถ้ามันธรรมดาสามัญ จะทิปไปทำไม งง)
พูดถึงค่าแรงขั้นต่ำนิดนึง ที่อเมริกาเหนือ เรททิปมาตรฐานในร้านอาหารคือ 15-20% สาเหตุหลักคือ ร้านอาหารเอาเปรียบพนักงานเสิร์ฟด้วยการให้เงินเดือนไม่ถึงค่าแรงขั้นต่ำของอาชีพทั่วไป รายได้หลักเลยขึ้นกับทิป
ลองนึกดูว่า ตามกฎหมายระดับประเทศของอเมริกา ค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่ $7.25 ต่อชั่วโมง แต่พนักงานที่ชีวิตขึ้นกับทิป ได้แค่ $2.13 ต่อชั่วโมง และเรทนี้คงที่มายี่สิบกว่าปี ถ้าไม่มีทิปมีหวังอดตายแน่ (อันนี้ จขกท คิดว่าเป็นความงี่เง่าของอเมริกาเองที่ยอมให้พวกเจ้าของร้านเอาเปรียบผลักภาระรายได้พนักงานมาให้ลูกค้า แต่ไปอยู่เมืองเขาก็ต้องทำตามธรรมเนียมเขาแหละนะ) ค่าทิปในอเมริกาไม่ใช่เรื่องเล่นๆ รวมกันต่อปีก็ประมาณ 4 พันล้านดอลล่าร์ (มากกว่างบ NASA สองเท่า) โดย 70% ในนั้นเป็นของพนักงานเสิร์ฟ
ผลการวิจัย (http://tippingresearch.com/uploads/Commentary_on_Bodvarsson.pdf) บอกว่าการบริการกับทิปมีความสัมพันธ์กันน้อยมาก บางคนให้จนติดเป็นนิสัย ต่อให้บริการไม่ดีก็ยังทิป ส่วนบางคนที่ไม่ทิป บริการดีแค่ไหนก็เท่านั้น แต่พนักงานเสิร์ฟมักจะทึกทักเอาเองว่ามีผล เลยทำงานดีขึ้นหรือแย่ลงตามความคิดของตัวเอง
หกเทคนิคที่ทำให้ลูกค้าทิปมากขึ้น (ที่อเมริกา)
1. บริการลูกค้าที่เป็นเพศตรงข้ามกับตัวเอง
2. ก้มตัว/ย่อตัวลงไปพูดกับลูกค้า
3. เขียนอะไรเล็กๆน้อยๆหรือวาดรูปในบิล เช่นหน้ายิ้ม รูปพระอาทิตย์ เทคนิคนี้ได้ผลเฉพาะพนักงานผู้หญิง
4. ให้ลูกอมมาพร้อมกับบิล
5. แตะไหล่ลูกค้าตอนที่ไปส่งบิลเก็บเงิน
6. ฟิตหุ่นดีๆ แต่งตัวสวยๆ พนักงานเสิร์ฟหน้าตาดีหรือแต่งตัวเก่งจะได้ทิปเยอะกว่าคนอื่น สาวสวยผิวขาวแต่งหน้าเก่ง ผมบลอนด์ หุ่นดี อายุสามสิบอัพ และช่างยิ้ม จะได้ทิปเยอะสุด
แปลและเรียบเรียงโดย :
#--พอดแคสท์เกิร์ล—#