...โรค′เท็กซ์เนค′ อาการของ′
สังคมก้มหน้า′
...อันที่จริงเรื่อง "เท็กซ์เนค" ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่พูดถึงกันมา 2-3 ปีแล้ว
ที่ผมหยิบกลับมาเล่าสู่กันฟังอีกครั้งเป็นเพราะว่าตอนนี้มันกำลังกลายเป็น "โกลบอล ซินโดรม"
คือออกอาการกันแพร่หลายไปทั่วโลก ตามการแพร่ระบาดของอุปกรณ์พกพาสารพัด
ตั้งแต่ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต เรื่อยไปจนถึงอีบุ๊กรีดเดอร์ทั้งหลาย
....ก่อนหน้านี้อุปกรณ์เหล่านี้ถูกจำกัดการใช้งานด้วยการเชื่อมต่อ
แต่ตอนนี้เมื่อสามารถเชื่อมต่อได้ทุกที่ทุกเวลา
เนื้อหาที่มากับหน้าจอก็หลากหลายมากขึ้น ดึงดูดใจมากขึ้น ทั้งไลน์ ทั้งเกม ทั้งอีบุ๊กสารพัด
สัดส่วนการใช้งานต่อวันก็เพิ่มขึ้นมากมายมหาศาล
ไปไหนมาไหนก็เจอแต่ผู้คนก้มหน้าลงหาจออิเล็กทรอนิกส์
ไม่ว่าจะเป็นบนรถไฟฟ้า รถประจำทาง ร้านอาหาร
....หนักๆ เข้าเดินไปไหนมาไหน ยังไปในลักษณะ "
ก้มหน้า"
จนมีผู้ใหญ่..ค่อนแคะให้เข้าหูว่าสังคมยุคนี้กลายเป็น "สังคมก้มหน้า" ไปแล้ว
...."เท็กซ์เนค" เป็นคำที่
นายแพทย์ดีน ฟิชแมน
แพทย์กายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญด้านบำบัดอาการของกระดูกสันหลังชาวอเมริกัน
คิดขึ้นเพื่อใช้เรียกกลุ่มอาการของโรคที่เกิดจากการ "ก้มหน้า" บ่อยๆ ซ้ำๆ และนานเกินปกตินี้
อาการที่เกิดขึ้นมีตั้งแต่ การปวดกล้ามเนื้อบริเวณไหล่ กล้ามเนื้อคอ ปวดศีรษะเรื้อรัง ปวดทุกวัน
หนักเข้าก็อาจพาลไปถึงเกิดการอักเสบของข้อต่อกระดูกสันหลังส่วนบน
ซึ่งถือว่าสาหัสเลยทีเดียวครับ
....ที่น่ากังวลก็คือ การก้มหน้าในลักษณะนี้บ่อยๆ นานๆ
จะส่งผลต่อบุคลิกท่าทาง
และการเติบโตของร่างกายในเด็กและวัยรุ่น..ให้ออกมาบิดเบี้ยวโค้งงอ
จนต้องมาหาทางแก้กันยุ่งยากในภายหลัง
....ที่มาของโรคนี้คือการก้มนั่นแหละครับ
ในทางการแพทย์เขาบอกว่าเพียงแค่การก้มศีรษะลงไปข้างหน้า
ผิดจากท่าปกติตามธรรมชาติ (คือเมื่อหูของเราอยู่ในแนวเดียวกับไหล่)
..การก้มไปเพียงแค่นิ้วเดียว น้ำหนักของศีรษะก็จะทำให้ กล้ามเนื้อ เอ็น กระดูก
และเส้นประสาทในบริเวณไหล่ คอ ต้องแบกรับภาระหนักขึ้น
น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นด้วยการถ่วงไปข้างหน้า
จะไปดึงรั้งกล้ามเนื้อเส้นเอ็นทั้งหมดให้ต้องแบกรับภาระ
ตามมาด้วยอาการตึง..
ถ้าทำซ้ำๆ หลายๆ ครั้งก็จะเกิดการบาดเจ็บขึ้นได้ทั้งกับกล้ามเนื้อ เอ็น
และเส้นประสาทในบริเวณดังกล่าว
....ดร.ฟิชแมนเคยแสดงให้เห็นในฟิล์มเอกซเรย์..ของวัยรุ่นอเมริกัน
ที่แสดงอย่างชัดเจนว่ากระดูกสองสามชิ้นบริเวณข้อต่อกระดูกสันหลังส่วนบนโค้งงอไปด้านหน้า
แบบผิดธรรมชาติเพราะเหตุนี้มาแล้ว
....ข้อมูลที่ได้จากผลการศึกษาวิจัยชิ้นหนึ่งเมื่อปี2000ระบุว่า
โดยเฉลี่ยแล้วศีรษะของคนเราจะหนักประมาณ 5 กิโลกรัม
การก้มไปข้างหน้าทุกๆ 2 เซนติเมตร
จะทำให้ไหล่ต้องแบกรับน้ำหนักมากขึ้น 100 เปอร์เซ็นต์
ดังนั้น ถ้าก้มลงไป 6 เซนติเมตร
น้ำหนักของศีรษะที่ไหล่ คอ และกระดูกสันหลังที่ต้องรองรับนั้นจะเพิ่มมากขึ้นเป็น 15 กิโลกรัม
...น้ำหนักขนาดนั้นไม่ใช่เรื่องเล่นๆ
นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมการก้มนานๆ ซ้ำๆ อยู่ทั้งวันถึงก่อให้เกิดอาการได้มากขนาดนั้น
....คำแนะนำของแพทย์เพื่อการป้องกันไม่ให้เราตกเป็นเหยื่อของเท็กซ์เนคอย่างง่ายๆก็คือ
ละสายตาจากจอ เปลี่ยนท่าจากการก้มหน้า
ปล่อยให้ศีรษะกลับคืนสู่ท่าธรรมชาติในทุกๆ 15 นาที
เงยหน้าขึ้น เหลียวไปรอบๆ
ถ้ายังจำเป็นต้องจ้องจออยู่ก็ยกมันให้ขึ้นมาอยู่ในระดับสายตา
เพื่อลดการแบกรับน้ำหนักของคอลงเป็นระยะๆ
....ถ้าเป็นไปได้ก็ควรออกกำลังกาย
ในแบบที่จะช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณคอและไหล่ได้ผ่อนคลาย
..จะเป็นโยคะก็ได้
หรือจะเป็นกายบริหารแบบพิลาทีส
ที่มุ่งเน้นไปที่การทำให้ร่างกายของเราอยู่ในท่าทางที่ถูกต้องก็ได้
ทำให้ได้ทุกวันจะป้องกันปัญหานี้ได้
....ใครที่ลองปฎิบัติตนตามนี้แล้วยังไม่ได้ผล
แสดงว่า เท็กซ์เนคของคุณค่อนข้างจะรุนแรงแล้ว
..ควรไปพบแพทย์
อย่างน้อยๆ ก็อาจต้องใช้ยาจำพวกคลายกล้ามเนื้อช่วย
แต่ถ้าอาการเกิดไปกระทบทำให้กลุ่มประสาทในบริเวณดังกล่าวถูกบีบ กดอยู่นานๆ
จนเกิดอาการปวดประสาท
ก็จัดอยู่ในขั้นต้องให้แพทย์ที่เชี่ยวชาญดูแลเป็นการเฉพาะจะดีที่สุด
...สุดท้ายแล้ว..ก็ควรลดการเป็นส่วนหนึ่งของ"สังคมก้มหน้า"ให้เหลือน้อยที่สุดละครับ
ที่มา : Matichon Online
....อันตรายและโรคของ ′สังคมก้มหน้า′ที่คุณควรรู้ไว้ ?
...อันที่จริงเรื่อง "เท็กซ์เนค" ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่พูดถึงกันมา 2-3 ปีแล้ว
ที่ผมหยิบกลับมาเล่าสู่กันฟังอีกครั้งเป็นเพราะว่าตอนนี้มันกำลังกลายเป็น "โกลบอล ซินโดรม"
คือออกอาการกันแพร่หลายไปทั่วโลก ตามการแพร่ระบาดของอุปกรณ์พกพาสารพัด
ตั้งแต่ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต เรื่อยไปจนถึงอีบุ๊กรีดเดอร์ทั้งหลาย
....ก่อนหน้านี้อุปกรณ์เหล่านี้ถูกจำกัดการใช้งานด้วยการเชื่อมต่อ
แต่ตอนนี้เมื่อสามารถเชื่อมต่อได้ทุกที่ทุกเวลา
เนื้อหาที่มากับหน้าจอก็หลากหลายมากขึ้น ดึงดูดใจมากขึ้น ทั้งไลน์ ทั้งเกม ทั้งอีบุ๊กสารพัด
สัดส่วนการใช้งานต่อวันก็เพิ่มขึ้นมากมายมหาศาล
ไปไหนมาไหนก็เจอแต่ผู้คนก้มหน้าลงหาจออิเล็กทรอนิกส์
ไม่ว่าจะเป็นบนรถไฟฟ้า รถประจำทาง ร้านอาหาร
....หนักๆ เข้าเดินไปไหนมาไหน ยังไปในลักษณะ "ก้มหน้า"
จนมีผู้ใหญ่..ค่อนแคะให้เข้าหูว่าสังคมยุคนี้กลายเป็น "สังคมก้มหน้า" ไปแล้ว
...."เท็กซ์เนค" เป็นคำที่ นายแพทย์ดีน ฟิชแมน
แพทย์กายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญด้านบำบัดอาการของกระดูกสันหลังชาวอเมริกัน
คิดขึ้นเพื่อใช้เรียกกลุ่มอาการของโรคที่เกิดจากการ "ก้มหน้า" บ่อยๆ ซ้ำๆ และนานเกินปกตินี้
อาการที่เกิดขึ้นมีตั้งแต่ การปวดกล้ามเนื้อบริเวณไหล่ กล้ามเนื้อคอ ปวดศีรษะเรื้อรัง ปวดทุกวัน
หนักเข้าก็อาจพาลไปถึงเกิดการอักเสบของข้อต่อกระดูกสันหลังส่วนบน
ซึ่งถือว่าสาหัสเลยทีเดียวครับ
....ที่น่ากังวลก็คือ การก้มหน้าในลักษณะนี้บ่อยๆ นานๆ
จะส่งผลต่อบุคลิกท่าทาง
และการเติบโตของร่างกายในเด็กและวัยรุ่น..ให้ออกมาบิดเบี้ยวโค้งงอ
จนต้องมาหาทางแก้กันยุ่งยากในภายหลัง
....ที่มาของโรคนี้คือการก้มนั่นแหละครับ
ในทางการแพทย์เขาบอกว่าเพียงแค่การก้มศีรษะลงไปข้างหน้า
ผิดจากท่าปกติตามธรรมชาติ (คือเมื่อหูของเราอยู่ในแนวเดียวกับไหล่)
..การก้มไปเพียงแค่นิ้วเดียว น้ำหนักของศีรษะก็จะทำให้ กล้ามเนื้อ เอ็น กระดูก
และเส้นประสาทในบริเวณไหล่ คอ ต้องแบกรับภาระหนักขึ้น
น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นด้วยการถ่วงไปข้างหน้า
จะไปดึงรั้งกล้ามเนื้อเส้นเอ็นทั้งหมดให้ต้องแบกรับภาระ
ตามมาด้วยอาการตึง..
ถ้าทำซ้ำๆ หลายๆ ครั้งก็จะเกิดการบาดเจ็บขึ้นได้ทั้งกับกล้ามเนื้อ เอ็น
และเส้นประสาทในบริเวณดังกล่าว
....ดร.ฟิชแมนเคยแสดงให้เห็นในฟิล์มเอกซเรย์..ของวัยรุ่นอเมริกัน
ที่แสดงอย่างชัดเจนว่ากระดูกสองสามชิ้นบริเวณข้อต่อกระดูกสันหลังส่วนบนโค้งงอไปด้านหน้า
แบบผิดธรรมชาติเพราะเหตุนี้มาแล้ว
....ข้อมูลที่ได้จากผลการศึกษาวิจัยชิ้นหนึ่งเมื่อปี2000ระบุว่า
โดยเฉลี่ยแล้วศีรษะของคนเราจะหนักประมาณ 5 กิโลกรัม
การก้มไปข้างหน้าทุกๆ 2 เซนติเมตร
จะทำให้ไหล่ต้องแบกรับน้ำหนักมากขึ้น 100 เปอร์เซ็นต์
ดังนั้น ถ้าก้มลงไป 6 เซนติเมตร
น้ำหนักของศีรษะที่ไหล่ คอ และกระดูกสันหลังที่ต้องรองรับนั้นจะเพิ่มมากขึ้นเป็น 15 กิโลกรัม
...น้ำหนักขนาดนั้นไม่ใช่เรื่องเล่นๆ
นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมการก้มนานๆ ซ้ำๆ อยู่ทั้งวันถึงก่อให้เกิดอาการได้มากขนาดนั้น
....คำแนะนำของแพทย์เพื่อการป้องกันไม่ให้เราตกเป็นเหยื่อของเท็กซ์เนคอย่างง่ายๆก็คือ
ละสายตาจากจอ เปลี่ยนท่าจากการก้มหน้า
ปล่อยให้ศีรษะกลับคืนสู่ท่าธรรมชาติในทุกๆ 15 นาที
เงยหน้าขึ้น เหลียวไปรอบๆ
ถ้ายังจำเป็นต้องจ้องจออยู่ก็ยกมันให้ขึ้นมาอยู่ในระดับสายตา
เพื่อลดการแบกรับน้ำหนักของคอลงเป็นระยะๆ
....ถ้าเป็นไปได้ก็ควรออกกำลังกาย
ในแบบที่จะช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณคอและไหล่ได้ผ่อนคลาย
..จะเป็นโยคะก็ได้
หรือจะเป็นกายบริหารแบบพิลาทีส
ที่มุ่งเน้นไปที่การทำให้ร่างกายของเราอยู่ในท่าทางที่ถูกต้องก็ได้
ทำให้ได้ทุกวันจะป้องกันปัญหานี้ได้
....ใครที่ลองปฎิบัติตนตามนี้แล้วยังไม่ได้ผล
แสดงว่า เท็กซ์เนคของคุณค่อนข้างจะรุนแรงแล้ว
..ควรไปพบแพทย์
อย่างน้อยๆ ก็อาจต้องใช้ยาจำพวกคลายกล้ามเนื้อช่วย
แต่ถ้าอาการเกิดไปกระทบทำให้กลุ่มประสาทในบริเวณดังกล่าวถูกบีบ กดอยู่นานๆ
จนเกิดอาการปวดประสาท
ก็จัดอยู่ในขั้นต้องให้แพทย์ที่เชี่ยวชาญดูแลเป็นการเฉพาะจะดีที่สุด
...สุดท้ายแล้ว..ก็ควรลดการเป็นส่วนหนึ่งของ"สังคมก้มหน้า"ให้เหลือน้อยที่สุดละครับ
ที่มา : Matichon Online