ชาวบ้านร้องทหารพรานวิสามัญเด็ก 14 ปี ตายอย่างมีเงื่อนงำ ใส่ร้ายเป็นโจรใต้

กระทู้สนทนา
จากการรายงานข่าวของ INN (Independent News Network) เมื่อวันศุกร์ ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ.2557 เวลา 10.46 น. ว่า “กลุ่มคนร้ายบุกยิงถล่มฐานปฏิบัติการ กองร้อยทหารพรานที่ 4916 เจ้าหน้าที่วิสามัญฝ่ายตรงข้าม 1 ราย เป็นเยาวชนอายุ 14 ปี

พ.อ.กรกฏ ภู่โชติ ผบ.กรมทหารพรานที่ 49 นำกำลังพร้อมกองวิทยาการ ภ.จว.นราธิวาส เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณหน้าฐานปฏิบัติการกองร้อย ทพ.ที่ 4916 ซึ่งตั้งอยู่บ้านไอร์กือเนาะ ม.5 ต.ศรีบรรพต อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ซึ่งช่วงดึกที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุคนร้ายจำนวน 7 คน ขี่รถจักรยานยนต์ 4 คัน เป็นพาหนะ ผ่านหน้าฐานปฏิบัติการ ก่อนจะใช้อาวุธปืนสงครามยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่ ซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายในฐาน ก่อนจะเกิดการยิงปะทะกันเป็นระลอก ผลจากการปะทะทำให้คนร้ายเสียชีวิต 1 ราย

จากการตรวจสอบทราบยังเป็นเยาวชน อายุ 14 ปี พร้อมของกลาง อาวุธปืนพกสั้นขนาด 11 ม.ม. จำนวน 1 กระบอก และ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อซูซูกิ สแมช สีดำ อีก 1 คัน ล่าสุด เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบว่ามีหมายจับคดีความมั่นคงหรือไม่”

ที่มา : http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=560571


ข้อเท็จจริงจากพื้นที่

จากการรายงานข่าวข้างต้น ทางสำนักสื่อ Wartani ได้ส่งผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เพื่อสืบหาข้อมูลข้อเท็จจริงจากปากญาติเหยื่อผู้เสียชีวิตและชาวบ้านในพื้นที่ เพราะชาวบ้านที่รับรู้ข่าวไม่เชื่อว่ากลุ่มเด็กเยาวชนวัยเพียง 14 ปี จะถืออาวุธสงครามถล่มฐานปฏิบัติการทหารพรานที่ 4916 ตามข่าวที่ออกมา


กลุ่มเด็กเยาวชนอายุ 12-14 ปี ประมาณ 5 คน ซึ่งเป็นเพื่อนของด.ช.มูฮำหมัดอาซูวัน สอเหาะ (ผู้เสียชีวิต) เปิดเผยว่า “วันเกิดเหตุพวกเราทุกคนก็อยู่ด้วยกัน วันนั้นพวกเรารวมตัวกันอยู่ที่ร้านน้ำชา สักพัก “วัง” (ชื่อเรียกของผู้เสียชีวิต) ก็เอ่ยชวนพวกเราขับรถเล่น ตามประสาเด็ก” เด็กชายยา (นามสมมุติ) กล่าว

เด็กชายอาดัม(นามสมมุติ) กล่าวเพิ่มเติมว่า “เพื่อนอีกคนบอกว่าหากไม่ถึงหมู่บ้านละโอะ ก็จะไม่เลี้ยวกลับ ทุกคนก็ตกลงกัน”

เด็กชายซัน(นามสมมุติ) เปิดเผยต่อว่า “หลังจากนั้นพวกเราก็ขี่มอเตอร์ไซต์ไปกัน 5 คัน 8 คน ไอ้วังกับเพื่อนอีกคนนั่งคนละคัน ส่วนที่เหลือก็ซ้อนท้ายกัน เราขี่มอเตอร์ไซต์ถึงหัวสะพานก่อนถึงด่านตรวจของค่ายทหารพรานก็ได้ยินเสียงปืนนัดแรกมาจากค่ายทหารพราน “ปัง !!” พวกเราก็ตัดสินใจเลี้ยวมอเตอร์ไซต์กลับ จังหวะนั้นมอเตอร์ไซต์ “วัง” ก็ล้มลง และได้ยินเสียงนัดถัดไปดังรัวตามหลังพวกเรานานมาก

พวกเรานึกว่ามอเตอร์ไซต์ “วัง” ล้มปรกติ จึงตัดสินใจเลี้ยวรถไปดูท่ามกลางไฟกระสุนปืนที่ยังดังรัวมาทางพวกเรา พอไปถึงไกล้ตัว “วัง” พวกเราก็เรียกเขาอยู่สักพัก แต่เขาก็ไม่ยอมลุก ด้วยเสียงกระสุนปืนดังรัวมาทางพวกเรา มีไฟกระพิบเชี่ยวหัว พวกเราเลยตัดสินใจหนีกลับไปบอกญาติ “วัง” ว่าเขาล้มรถไม่รู้สึกตัว” เด็กชายซัน(นามสมมุติ) กล่าว

เด็กชายมิง(นามสมมุติ) เปิดเผยเพิ่มเติมว่า “ญาติของ “วัง” ให้พวกเราไปดูอีกครั้งหนึ่ง พอเราไปถึงก็ยังเห็น “วัง” นอนอยู่สภาพเดิม หัวก้มลงกับพื้นหญ้า มือกุดอยู่ใต้ท้อง ช่วงนั้นเสียงปืนเงียบแล้ว พวกเราเลยได้ไปดู “วังใกล้ๆ” เขย่าเรียกเขาแต่ไม่ตื่น แต่พอจับที่หัวปรากฏว่าเป็นเลือดที่น่าจะโดนกระสุนปืน และคิดว่าเขาเสียชีวิตแล้ว แต่ตอนนั้นพวกเราอยู่กับศพ “วัง” ได้ไม่นานหนัก เพราะมีทหารไล่ให้พวกเรากลับไป

พวกเราเลยตัดสินใจกลับไปบอกญาติเขาอีกครั้งว่า “วังถูกทหารยิง เสียชีวิตแล้ว” ญาติเขาเลยไปตามผู้ใหญ่บ้านให้ช่วยไปดู “วัง” แต่พอไปถึงทหารก็ปิดทาง “ห้ามเข้าไป” ที่เกิดเหตุ” เด็กชายมิง กล่าว

นายมะนุ ตาเล๊ะ NGO ในพื้นที่ กล่าวว่า “วันเกิดเหตุการณ์นั้น ตนก็อยู่ด้วย หลังจากทราบข่าวจากเด็กๆว่าเพื่อนถูกทหารยิงเสียชีวิต ตนและชาวบ้านในพื้นที่ก็เดินทางไปดู เพื่อรับศพกลับ แต่ทหารห้ามไม่ให้พวกเราเข้าไป

เด็กถูกยิงเวลาประมาณ 20.40 น. ตนไปดูเวลาประมาณ 21.15 น. แต่สามารถเข้าไปดูตอนเวลาประมาณ 02.00 น. เข้าไปดูได้แค่สถานที่เกิดเหตุ ส่วนศพนั้นทางเจ้าหน้าที่ทหารเขานำศพไปส่งที่โรงพยาบาลแล้ว

ช่วงเวลาที่พวกเรารอดูศพเด็กอยู่นั้น มีเจ้าหน้าที่มาบอกพวกเราว่า ผู้เสียชีวิตพกปืนคาร์บินมาด้วย แต่พอผ่านประมาณ 10 นาที เจ้าหน้าที่มาบอกอีกครั้งหนึ่งว่า ไม่ใช่ปืนคาร์บินแต่เป็นพกสั้นขนาด 11 ม.ม.

ต่อมาก็เอารูปศพถือปืนมาให้ดู ปรากฏว่าศพเด็กถือปืนพกสั้นด้วยมือข้างขวา ตนและชาวบ้านเลยงง แอบสงสัยว่า เป็นไปได้หรือ เด็กแค่ 14 ปี จะถืออาวุธมาถล่มค่ายทหาร ซึ่งมีกองกำลังเป็นสิบ อาวุธครบมือ แถมยังถืออาวุธปืนด้วยมือข้างขวา ทั้งๆที่มือขวาจะต้องบิดคันเร่ง” นายมะนุ กล่าว


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่