จากฉากหนึ่งในหนังดัง ที่มีเรื่องเกี่ยวกับโรงหนัง ทำให้ผมคิดถึงโรงหนังหนึ่งที่ผูกพันธ์กับผมตั้งแต่เล็กจนโต และมีความทรงจำมากมายเกี่ยวกับโรงหนังนั้น
ผมเกิดมาในยุคที่โรงหนังชั้นสองกำลังเบ่งบาน กรุงเทพกำลังขยายออกทางชานเมืองไปเรื่อยๆ โรงหนังชั้นสองผุดขึ้นทุกหัวมุมเมือง ที่สามแยกพระโขนงมีถึง6โรง มีพระโขนงราม่าพระโขนงเธียร์เตอร์(โรงหนังที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จุกว่า3พันที่นั่ง-ปัจจุบันไม่อยู่แล้ว) ฮอลิเดย์ เอเซีย เจ้าพระยา และลอนดอน อุดมสุข(สุขุมวิท103)มีหนึ่งโรงคือโรงหนังอุดมสุขราม่า บ้านผมได้ย้ายออกไปไกลกว่านั้นถึงสำโรง สมุทรปราการ ก็ทำให้ได้ไปอยู่ใกล้โรงหนัง
โรงหนึ่ง คือโรงหนังนิวสำโรงราม่า
ตอนนั้นจำได้ว่าค่าตั๋ว 12.50บาทเท่านั้น เป็นโรงหนังชั้นสองฉายควบสองเรื่อง วันหนึ่งฉายสองรอบ รอบเที่ยง และรอบทุ่ม เสาร์-อาทิตย์เพิ่มรอบเช้าสิบโมงและฉายวนทั้งวัน ไปเลิกเอาตอนเที่ยงคืนถึงตีหนึ่งโน่นแน่ะ วันเสาร์-อาทิตย์คนจะเยอะมาก โรงจุได้ประมาณ1,000ที่นั่ง เสริมเก้าอี้แล้วก็ยังไม่พอ ยืนดูก็เอา คนล้นแล้วล้นอีก หนังใหม่(ถอดโปรแกรมมาจากโรงชั้นหนึ่ง)จะมาเข้าโรงชั้นสองวันแรกคือวันเสาร์วนไปสุดท้ายเอาวันศุกร์แล้วเปลี่ยนเรื่องสองเรื่องใหม่
โปรแกรมละอาทิตย์พอดี
มีหนังที่สร้างประวัติการณ์ไว้สองเรื่อง เรื่องอื่นฉายอาทิตย์เดียว แต่เรื่อง แผลเก่า ที่สรพงษ์แสดงกับนันทนา(ฉายควบเรื่องอะไร-จำไม่ได้)ฉายครบอาทิตย์ก็แล้ว สองอาทิตย์ก็แล้ว คนยังเยอะอยู่ กว่าจะลาโรงไปก็สามอาทิตย์เลยทีเดียว อีกเรื่องคือ ลูกสาวกำนัน ที่จารุณีขับเรือชนสะพานจนบาดเจ็บ คนล้นแล้วล้นอีก ฉายครบอาทิตย์ก็ลาโรง แต่คนยังมาถามหาดูเรื่อยๆ เลยต้องนำกลับมาฉายใหม่ในอาทิตย์ต่อมา
ตอนนั้นผมยังเด็กตัวสูงกว่าขอบกลางประตูมาแล้วต้องเสียตังค์แต่อาศัยบ้านใกล้ไปเล่นหน้าโรงทุกวัน พนง โรงหนังจำได้ผมเลยขอดูฟรีได้ตลอด มุดเข้ามุดออกทั้งวัน บางทียังเล่นโป้งแปะด้วย ทั้งๆที่หนังยังฉายอยู่นั่นแหละ
ตอนหนังเลิกยังเข้าไปหาเก็บเศษตังค์ได้มั่งไม่ได้มั่ง ที่เจอเยอะสุดคือหวีแบบผู้ชายที่เสียบกระเป๋าหลังทำให้หล่นง่าย ผมก็เก็บมาเล่นฟันดาบกัน ทั้งยังเก็บกล่องหมากฝรั่งชิเคล็ทส์ ซองเปล่าฮานามิ ส่งไปชิงโชค แต่ไม่เคยได้รางวัลเลย
ก็มีแต่ความทรงจำเล่นซุกซนวัยเด็กน่ะครับ ส่วนเรื่องความรักความเริ่กอย่างในหนังที่กำลังดังตอนนี้ ไม่มีกับเขาร้อก...
(เชิญชวนร่วมเล่าสู่กันฟังนะครับ)
โรงหนังในความทรงจำ โรงหนังที่ผูกพันธ์ โรงหนังที่ประทับใจ ของคุณคือโรงใด?เชิญชวนร่วมเล่าเรื่องราวสู่กันฟัง
ผมเกิดมาในยุคที่โรงหนังชั้นสองกำลังเบ่งบาน กรุงเทพกำลังขยายออกทางชานเมืองไปเรื่อยๆ โรงหนังชั้นสองผุดขึ้นทุกหัวมุมเมือง ที่สามแยกพระโขนงมีถึง6โรง มีพระโขนงราม่าพระโขนงเธียร์เตอร์(โรงหนังที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จุกว่า3พันที่นั่ง-ปัจจุบันไม่อยู่แล้ว) ฮอลิเดย์ เอเซีย เจ้าพระยา และลอนดอน อุดมสุข(สุขุมวิท103)มีหนึ่งโรงคือโรงหนังอุดมสุขราม่า บ้านผมได้ย้ายออกไปไกลกว่านั้นถึงสำโรง สมุทรปราการ ก็ทำให้ได้ไปอยู่ใกล้โรงหนัง
โรงหนึ่ง คือโรงหนังนิวสำโรงราม่า
ตอนนั้นจำได้ว่าค่าตั๋ว 12.50บาทเท่านั้น เป็นโรงหนังชั้นสองฉายควบสองเรื่อง วันหนึ่งฉายสองรอบ รอบเที่ยง และรอบทุ่ม เสาร์-อาทิตย์เพิ่มรอบเช้าสิบโมงและฉายวนทั้งวัน ไปเลิกเอาตอนเที่ยงคืนถึงตีหนึ่งโน่นแน่ะ วันเสาร์-อาทิตย์คนจะเยอะมาก โรงจุได้ประมาณ1,000ที่นั่ง เสริมเก้าอี้แล้วก็ยังไม่พอ ยืนดูก็เอา คนล้นแล้วล้นอีก หนังใหม่(ถอดโปรแกรมมาจากโรงชั้นหนึ่ง)จะมาเข้าโรงชั้นสองวันแรกคือวันเสาร์วนไปสุดท้ายเอาวันศุกร์แล้วเปลี่ยนเรื่องสองเรื่องใหม่
โปรแกรมละอาทิตย์พอดี
มีหนังที่สร้างประวัติการณ์ไว้สองเรื่อง เรื่องอื่นฉายอาทิตย์เดียว แต่เรื่อง แผลเก่า ที่สรพงษ์แสดงกับนันทนา(ฉายควบเรื่องอะไร-จำไม่ได้)ฉายครบอาทิตย์ก็แล้ว สองอาทิตย์ก็แล้ว คนยังเยอะอยู่ กว่าจะลาโรงไปก็สามอาทิตย์เลยทีเดียว อีกเรื่องคือ ลูกสาวกำนัน ที่จารุณีขับเรือชนสะพานจนบาดเจ็บ คนล้นแล้วล้นอีก ฉายครบอาทิตย์ก็ลาโรง แต่คนยังมาถามหาดูเรื่อยๆ เลยต้องนำกลับมาฉายใหม่ในอาทิตย์ต่อมา
ตอนนั้นผมยังเด็กตัวสูงกว่าขอบกลางประตูมาแล้วต้องเสียตังค์แต่อาศัยบ้านใกล้ไปเล่นหน้าโรงทุกวัน พนง โรงหนังจำได้ผมเลยขอดูฟรีได้ตลอด มุดเข้ามุดออกทั้งวัน บางทียังเล่นโป้งแปะด้วย ทั้งๆที่หนังยังฉายอยู่นั่นแหละ
ตอนหนังเลิกยังเข้าไปหาเก็บเศษตังค์ได้มั่งไม่ได้มั่ง ที่เจอเยอะสุดคือหวีแบบผู้ชายที่เสียบกระเป๋าหลังทำให้หล่นง่าย ผมก็เก็บมาเล่นฟันดาบกัน ทั้งยังเก็บกล่องหมากฝรั่งชิเคล็ทส์ ซองเปล่าฮานามิ ส่งไปชิงโชค แต่ไม่เคยได้รางวัลเลย
ก็มีแต่ความทรงจำเล่นซุกซนวัยเด็กน่ะครับ ส่วนเรื่องความรักความเริ่กอย่างในหนังที่กำลังดังตอนนี้ ไม่มีกับเขาร้อก...
(เชิญชวนร่วมเล่าสู่กันฟังนะครับ)