กระแสพระเจ้าอาวาสวัดดังกลางกรุงร่ำรวยผิดปกติ กับบทความใหม่ที่เป็นจุดเริ่มต้นของปัญหา ทำไม..พรหมสุธี..ถึงฆ่าน้อง

กำลังกลายเป็นข่าวใหญ่โต กับกระแสปัญหาวัดใหญ่และดังกลางกรุงเทพมหานคร ที่พระเจ้าอาวาสท่านหนึ่งร่ำรวยผิดปกติ มีธุรกิจมากมายหลายอย่าง ไม่เหมาะสมกับความเป็นพระ และสร้างปํญหาให้ภายในวัดดัง เกิดการแตกแยกภายในวัดและหมู่ผู้ที่ศรัทธา วันนี้ได้รับบทความมาฉบับหนึ่ง ลองอ่านดูนะครับ ซึ่งอาจจะเป็นจุดแรกเริ่มและเป็นต้นสายปลายเหตุของปัญหาต่าง ๆ ที่กำลังก่อตัว จนกลายเป็นปัญหาใหญ่ทำลายวัดและพระพุทธศาสนา

บทความโดย...คุณใต้ร่มภูเขาทอง

ทำไมพรหมสุธี ถึงฆ่าน้อง
เรื่องราวที่สะเทือนวงการคณะสงฆ์มากที่สุดตอนนี้ หนีไม่พ้นเรื่องที่สังคมโซเชียลเน็ตเวิร์คเปิดประเด็นเจ้าอาวาสวัดดังร่ำรวยผิดปกติ แต่ในบรรดาผู้คนใต้ร่มภูเขาทองไม่ให้ประเด็นเรื่องนี้เพราะรู้ดีอยู่แล้วว่ามันคืออะไร เป็นมาอย่างไร สิ่งที่ให้ความสนใจของคนใต้ร่มภูเขาทอง คือ เอกสาร 19 หน้า เบื้องต้นเอกสารฉบับนี้ถูกส่งไปถึงพระมหาเถระระดับปกครองทุกรูป จากพิกัดเขตพื้นที่ปกครองของพระพรหมสุธี นั่นละ และที่สำคัญสาระสำคัญในเอกสารฉบับนั้น น่าเชื่อถือมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ลงความหมายแบบชาวบ้านว่า มันคือ เรื่องจริง

ทำไม !!! จึงเกิด เอกสาร 19 น้า ขึ้น???
ทำไม !!! จึงเกิด เพจ ตีแผ่ความจริง คนไร้คุณธรรม ไร้ความเป็นผู้นำ ขึ้น ???
หลายคนรู้คำตอบเหล่านี้ดี แต่มีคำถามต่อว่า ใคร ? และ เพื่ออะไร ??

ปัญหาทั้งหมดเกิดจากพระพรหมสุธี นับแต่พระพรหมสุธี ยังเป็นพระมหาเสนาะ การกระทำทุก ๆ อย่างของท่าน สื่อถึงความเห็นแก่ตัวมานับแต่ต้นแล้ว เช่น รับกิจนิมนต์คนเดียว ฉันข้าวคนเดียวในกุฏิ       (เจ้แดง เจ้จูทำหน้าที่ส่งกลับข้าว) กลับกันกับพรหมสิทธิ ๆ เลี้ยงลูกน้องทุกคนภายใต้การบังคับบัญชาแบบไม่เคยขาดตกบกพร่อง ทำงานร่วมกันดึก ๆ ดื่น ๆ ไม่เคยทิ้งลูกน้อง นั่งเฝ้า หรือหมั่นโทรถามความคืบหน้าเป็นอย่างไร มีอะไรขาดบ้าง เรียกได้ว่า อะไรถ้าเป็นปัญหา พอถึง พรหมสิทธิเป็น จบ  ข้าวน้ำ ไม่เคยขาด ใครทำงานให้ก็เลี้ยง    ความขี้เหนี่ยวไม่เคยมี นั่นคือสาเหตุที่น้อง ๆ ทุกคนในสำนักรักและเคารพศิษย์พี่รองคนนี้เป็นพิเศษ ทั้งกับพระด้วยกัน และ ลูกศิษย์ใกล้ชิด นั่นคือที่ของความอิจฉา เป็นที่รู้กันดีว่า ความอิจฉาเริ่มเกิดมีจากพรหมสุธี ตั้งนานมาแล้ว มันก่อตัวขึ้นมาเรื่อย ๆ จนสุดท้าย จุดแตกหักมันอยู่ที่งานหลวงพ่อสมเด็จ ว่ากันว่า คนใหญ่คนโตในบ้านเมืองหลาย ๆ คนคิดว่า พรหมสิทธิ คือ ว่าที่เจ้าอาวาสคนใหม่ ถึงกับมีกรณีว่า มีคนใหญ่คนโตในบ้านเมืองเข้าไปกราบเจ้าอาวาสคนใหม่แล้วหลุดปากว่า หลวงพี่มาจากวัดไหนครับ....
และความอิจฉาที่ว่านี้ ปรากฏแบบเป็นรูปธรรม ชัดเจนที่สุดก็คือ วันที่ 29 กรกฏาคม57 กลางที่ประชุมจัดงานครบรอบวันมรณภารหลวงพ่อสมเด็จ พรหมสุธี ปลด 3 เจ้าคุณ (พรหมสิทธิ,เมธีสุทธิกร และ วิจิตรธรรมภรณ์) ขุนศึกที่ผู้คนทั้งวงการคณะสงฆ์และบ้านเมืองให้ความเคารพและนับถือที่สุดว่า คือ ยอดขุนศึกของหลวงพ่อสมเด็จ สนองงานได้อย่างไม่เคยขาดตกบกพร่อง ดังผลงานที่ปรากฏที่ผ่าน ๆ มา เช่น การสวดมนต์ข้ามปี ที่ริเริ่มโดย พระพรหมสิทธิ สำนักงานส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมและความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ และผลงานที่ประจักษ์ชัดที่สุดก็คือ การส่งพระธรรมฑูตไปยังต่างประเทศทั่วโลก ไม่แปลกที่ผลงานเหล่านี้จะทำให้ผู้คนรู้จัก พรหมสิทธิ มากกว่า พรหมสุธิ ไม่แปลกที่ผลงานเหล่านี้จะทำให้พรหมสุธีเกิดความอิจฉาขึ้น และความอิจฉาได้ตอกย้ำในกมลสันดานของพรหมสุธี ยิ่งเข้าไปอีก คือการแจ้งความจับ 3 เจ้าคุณข้างต้น โดยข้อหาเรื่องโกงเงินวัด นอกจากคำว่า อิจฉาแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ พรหมสุธี มี คือ ความหูเบา เบาเพราะฟังความเพียงจากพระพม่าข้างตัวท่าน มีพระพม่าอยู่สองตัว ตัวหนึ่งอ้วน(มันกินจุ กินแล้วก็นอน ๆ มีครั้งที่มันกิจทุเรียนจนเข้าโรงพยาบาลเพราะกินมากเกินไป) ตัวหนึ่งชอบพูดแฮ่ ๆไอ้ตัวนี้ละที่ได้รับพรจากหลวงพ่อสมเด็จว่า ไอ้อัปปรีย์ หากใครที่สมควรโดนพระบาทบาทามากที่สุด ก็คงหนีไม่พ้น ไอ้พม่าอัปปรีย์ตัวนั้น (รายละเอียดในเอกสาร 19 หน้า) ไอ้พม่าอัปปรีย์ผัวอีอรตัวนี้ละที่คอยยุยงส่งเสริม เป่าหูอยู่ตลอดว่า ควรทำอย่างไร และอนิจจาท่านก็เชื่อมัน.....
ไม่แปลกที่จะมีใครสักคน จัดทำเพจตีแพร่ความจริงขึ้นมา และไม่แปลกที่เอกสาร 19 หน้า จะปรากฏต่อสายตาของสังคม ไม่ใช่เป็นการเอาคืนจากพรหมสิทธิ เพราะพรหมสิทธิทั้งสั่ง ทั้งบอกลูกน้องเสมอ ๆ หลังเกิดเรื่องขึ้นว่า ถอยออกมาแบบเงียบ ๆ อย่าให้คนภายนอกรู้ว่า เราทะเลาะกัน เราไม่ได้ทะเลาะด้วย ให้เขาดิ้นฝ่ายเดียว ใช้รูปแบบหลวงพ่อสมเด็จ คือ นิ่ง ใครด่า ใครว่าอย่างไรก็ นิ่ง การกระทำจะเป็นตัวบอกว่าเราบริสุทธิ  อย่าให้เสียชื่อเสียงที่หลวงพ่อสมเด็จสั่งสมมา จะทำอะไรต้องนึกถึงหลวงพ่อสมเด็จก่อนเป็นอันดับแรก แต่มันเกิดขึ้นเพราะ ความรัก และความปราถนาดีของลูกศิษย์ของพรหมสิทธิ

พรหมสุธี ยกเรื่อง เงิน ขึ้นใส่ความ 3 เจ้าคุณ
    ต้นสายปลายเหตุมาจากไหน มาจากความเห็นแก่ตัวของ พรหมสุธีนั่นละ เรื่องราวมันเป็นมาอย่างไร เป็นที่ทราบกันว่า พรหมสุธี ขี้เหนียว เห็นแก่ตัว มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ขนาดกับข้าวไปสวดไปฉันแล้วโยมถวายมา เน่าคาห้องนักต่อนักแล้ว (เงินยังปลวกขี้นเลย) ยิ่งในบรรดาลูกศิษย์ผู้ที่ถูกใช้งานใกล้ชิดก็รู้ถึงกิตติศัพท์เรื่องความขี้เหนียวที่ว่านี้ดี และ การเรื่องนี้หลวงพ่อสมเด็จก็ทราบดี (อ่านรายละเอียดเรื่องนี้ได้ในเอกสาร 19 หน้า) นั่นทำให้หลวงพ่อ ให้จัดการดทำบัญชีแยกแต่ละหน่วยบำเพ็ญกุศล ให้ผู้ที่ได้รับหน้าที่รับผิดชอบในแต่ละหน่วย จัดการเองทำอย่างไรให้คนรู้จักวัดและเข้าวัด และใช้เงินแต่ละหน่วยนั่นละบริหารจัดการเอง ถ้าหลวงพ่อไม่อยู่การที่จะเบิกเงินจัดทำอะไรจากพรหมสุธีเป็นเรื่องยากมาก ทำให้เกิดบัญชีแยกออกจากบัญชีกลางของวัดขึ้นมา นั่นละคือเหตุผลที่พรหมสุธีบอกคนทั่วไป เงินไม่เข้าวัด และเลยไปถึงเรื่องงานสำนักงานส่งเสริมฯ ถึงขนาดกับบอกคนทั่วไปว่าเป็นสำนักงานเถื่อน เอาเงินมาจากไหน ใช้อย่างไรทำไมไม่รู้เห็นด้วย แต่ข้อนี้ก็ ตกไป เพราะหลวงพ่อสมเด็จผูกเงื่อนสำคัญไว้ให้ คือ ให้น้องชายพรหมสุธี ช่วยดูแล กำกับการเบิกจ่ายเงินทั้งหมดอีกทีหนึ่ง ทำให้สืบมาสืบไปยังไงก็พันแข้งพันขาตัวพรหมสุธีอยู่นั่นละ
    สุดท้ายในฐานะคนหนึ่งที่เคยอาศัยใต้ร่มเงาของภูเขาทอง ไม่เคยติดใจกับเรื่องราวที่เป็นข่าวเรื่องความร่ำรวยของท่านหรอกเพราะพวกเรารู้ดีอยู่แล้วว่ามันคืออะไร แต่ติดใจเพียงแค่ว่า ทำไม ท่านใช้ระยะเวลาเพียงแค่ไม่ถึงหนึ่งปี ทำลายสิ่งที่หลวงพ่อสมเด็จสร้างมาทั้งชีวิต ท่านไม่รักหลวงพ่อเหรอ!!! ท่านไม่รักพี่น้องของท่านเหรอครับ !!!! ท่านทำสังฆเภทแล้วครับ.... ท่านทำให้ภูเขาทองแตกออกเป็นสองฝ่าย ท่านจะอยู่ได้อย่างไรกับพระพม่าตัวอัปปรีย์ข้างตัวท่าน ท้ามกลางการแวดล้อมของหมู่สงฆ์ที่เพียบพร้อมด้วยจริยาวัตรที่หลวงพ่อสมเด็จสร้างขึ้นมา หลวงพ่อสมเด็จทำให้สงฆ์วัดเราดูสวยงาม ทั้งการนุ่งห่ม และปิยวาจา ไม่ว่าพระวัดสระเกศจะก้าวเข้าไปในสงฆ์หมู่ไหน สงฆ์หมู่นั้นก็งดงามขึ้นด้วยจริยาวัตร ดังที่กล่าวมา
สุดท้ายจึงเห็นสมควรนิมนต์ท่านครับ นิมนต์ให้ท่านลา และละเถิดครับ ลาจากความเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อสมเด็จ ละจากความเป็นเจ้าอาวาส ลาสิกขาไปใช้เงินที่ครอบครัวของท่านสร้างไว้ให้ เปิดทางให้ผู้มีบารมีที่คู่ควรขึ้นมาสนองงานที่ค้างคาของหลวงพ่อสมเด็จให้สืบอายุพระพุทธศาสนาให้ยืนยาวไปและเผยแพร่ให้กวางไกลออกไป และท่านไม่มีคุณสมบัติอะไรเลยที่จะจัดทำภาระนี้ให้เสร็จตาม ปนิธานของหลวงสมเด็จ
           ขอนิมนต์ครับ
          ใต้ร่มภูเขาทอง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่