ช่วงไม่กี่วันมานี่ก็เห็นไทยรัฐเอาบทความจาก Thaipublica มาตีพิมพ์ ซึ่งผมก็เห็นด้วยเกือบทั้งหมด หลายคนในนี้คงได้อ่านจากกระทู้เก่าๆ กันแล้ว
โดยส่วนตัวช่วงนี้เห็นใจการบินไทยนะครับ สถานการณ์ทางข่าวไม่ค่อยจะดีเลย แต่ไว้กำไรเมื่อไหร่ทุกอย่างก็จะเปลี่ยนไปซึ่งก็คิดว่าคงไม่นานนี้ แต่จะกำไรแบบยั่งยืนรึเปล่า คงต้องบอกว่ายาก ที่ยากไม่ใช่เพราะอะไรหรอก ก็เพราะว่าการบินไทยยังคงทำตัวเป็นรัฐวิสาหกิจอยู่ ผมเข้าใจนะว่าเหตุใดจึงต้องใช้คนเยอะ ผมอยากจะถามคนที่วิจารณ์อยู่เหมือนกันว่าเคยทำงานราชการรึเปล่า คุณเคยรู้รึเปล่าว่าราชการมีระบบระเบียบที่หยุมหยิมแค่ไหน และถ้าคุณทำข้ามขั้นตอน หรือไม่ตรงตามระเบียบแล้วมีปัญหาเกิดขึ้นคุณรู้รึเปล่าว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคุณ
จริงอยู่ที่ กบท เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ แต่ไม่สามารถบริหารแบบธุรกิจมหาชนแบบปกติได้ หรืออย่าคิดที่จะบริหารงานแบบ แอร์เอเซีย นกแอร์ หรือแม้แต่การบินกรุงเทพ สาเหตุเพราะระบบราชการไม่เหมาะกับการทำธุรกิจ วิธีแก้ไขการบินไทยอย่างที่เหมาะสมที่สุดในเบื้องต้นอาจจะเป็นการทำอย่างไรก็ได้ที่ไม่ให้การบินไทยต้องบริหารงานภายใต้ระเบียบราชการซึ่งคงจะเป็นไปไม่ได้
อย่างกรณีล่าสุดเกี่ยวกับสมองไหลของนักบิน ผมก็ไม่แน่ใจว่า กบท สามารถซื้อตัวนักบินจากสายการบินอื่นมาได้รึเปล่า สมมติกันง่ายๆ ผมก็ยังคิดว่าสุดท้ายแล้วไม่มีนักบินคนไทยคนไหนหรอกที่ไปใช้ชีวิตในตะวันออกกลางยันเกษียณ แต่ผมก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่า รัฐวิสาหกิจ มีนโยบายในการรับพนักงานเข้ามาทำงานในลักษณะนี้รึเปล่า หรือว่าเข้ามาแล้วต้องไต่เต้าจากล่างทั้งหมด ระบบการซื้อตัวพนักงานไม่มี และถ้าหากไม่มีระบบการซื้อตัวพนักงาน นั่นหมายถึงว่าการที่จะมีพนักงานที่เก่ง เหมาะกับงานและสถานการณ์นั้น ต้องเป็นพนักงานที่ กบท ปั้นขึ้นมาเท่านั้น ไม่สามารถไปดึงมาจากคู่แข่งไม่ว่าจะอยู่ในประเทศหรือนอกประเทศได้ เมื่อพูดถึงจำนวนพนักงาน ผมไม่เคยเห็นหรือได้ยินมาว่า ระบบราชการมีการใช้ระบบ Head count มาใช้ในการว่าจ้างข้าราชการหรือพนักงาน และถ้าระบบราชการไม่มี ผมก็ไม่คิดว่ารัฐวิสาหกิจจะมีเหมือนกัน และถ้ารัฐวิสาหกิจมีระบบ Head Count ผมว่า กบท คงจะไม่รับคนเพิ่มมาในช่วงหลายปีที่ผ่านมาแน่นอน
ผมเห็นด้วยที่มีคนเคยกล่าวว่า รัฐวิสาหกิจซึ่งรัฐบาลเป็นผู้ถือหุ้นเกินครึ่ง ถือได้ว่าเป็นกิจการสมบัติของชาติ แต่เพราะเป็นสมบัติของชาติจึงไม่มีใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เลยไม่มีใครหวงแหนหรือพยายามรักษามัน แต่กลายเป็นแหล่งที่มีคนพยายามที่จะหาประโยชน์หรือตักตวงจากมัน หากแต่ว่าธุรกิจนั้นไม่ใช่รัฐวิสาหกิจ ไม่ใช่สมบัติของชาติแล้ว เมื่อนั้นคนที่ถือหุ้นใหญ่และได้เป็นบอร์ดก็จะเริ่มรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของขึ้นมาทันที
แต่ไม่ว่าสถานการณ์ในไตรมาสที่แล้วของ กบท จะเป็นอย่างไรก็ตาม ผมก็ยังเชื่อมันว่าครึ่งปีหลัง กบท จะทำผลงานได้ดีกว่าที่ผ่านมาแน่นอน แต่ผมก็ยังไม่เชื่อมั่นว่า กบท จะสามารถรักษาผลงานที่ดีให้ยั่งยืน และผมก็ไม่เชื่อมั่นว่า ซุปเปอร์บอร์ดจะสามารถแก้ไขโครงสร้างการบินไทยได้ และสุดท้ายผมก็เชื่อมั่นว่าวันหนึ่ง ปตท ก็จะเป็นเหมือน กบท ในวันที่พลังงานเริ่มจะกลายเป็น sunset industry ซึ่งคงไม่ใช่เร็วๆ นี้แน่นอน ส่วนตัวแล้วผมขอลุ้น Thai ไป 20 บาทก่อนละกัน
สงสารการบินไทย ข่าวลบมากเหลือเกินแต่ราคาหุ้นก็แข็งเหลือเกิน
โดยส่วนตัวช่วงนี้เห็นใจการบินไทยนะครับ สถานการณ์ทางข่าวไม่ค่อยจะดีเลย แต่ไว้กำไรเมื่อไหร่ทุกอย่างก็จะเปลี่ยนไปซึ่งก็คิดว่าคงไม่นานนี้ แต่จะกำไรแบบยั่งยืนรึเปล่า คงต้องบอกว่ายาก ที่ยากไม่ใช่เพราะอะไรหรอก ก็เพราะว่าการบินไทยยังคงทำตัวเป็นรัฐวิสาหกิจอยู่ ผมเข้าใจนะว่าเหตุใดจึงต้องใช้คนเยอะ ผมอยากจะถามคนที่วิจารณ์อยู่เหมือนกันว่าเคยทำงานราชการรึเปล่า คุณเคยรู้รึเปล่าว่าราชการมีระบบระเบียบที่หยุมหยิมแค่ไหน และถ้าคุณทำข้ามขั้นตอน หรือไม่ตรงตามระเบียบแล้วมีปัญหาเกิดขึ้นคุณรู้รึเปล่าว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคุณ
จริงอยู่ที่ กบท เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ แต่ไม่สามารถบริหารแบบธุรกิจมหาชนแบบปกติได้ หรืออย่าคิดที่จะบริหารงานแบบ แอร์เอเซีย นกแอร์ หรือแม้แต่การบินกรุงเทพ สาเหตุเพราะระบบราชการไม่เหมาะกับการทำธุรกิจ วิธีแก้ไขการบินไทยอย่างที่เหมาะสมที่สุดในเบื้องต้นอาจจะเป็นการทำอย่างไรก็ได้ที่ไม่ให้การบินไทยต้องบริหารงานภายใต้ระเบียบราชการซึ่งคงจะเป็นไปไม่ได้
อย่างกรณีล่าสุดเกี่ยวกับสมองไหลของนักบิน ผมก็ไม่แน่ใจว่า กบท สามารถซื้อตัวนักบินจากสายการบินอื่นมาได้รึเปล่า สมมติกันง่ายๆ ผมก็ยังคิดว่าสุดท้ายแล้วไม่มีนักบินคนไทยคนไหนหรอกที่ไปใช้ชีวิตในตะวันออกกลางยันเกษียณ แต่ผมก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่า รัฐวิสาหกิจ มีนโยบายในการรับพนักงานเข้ามาทำงานในลักษณะนี้รึเปล่า หรือว่าเข้ามาแล้วต้องไต่เต้าจากล่างทั้งหมด ระบบการซื้อตัวพนักงานไม่มี และถ้าหากไม่มีระบบการซื้อตัวพนักงาน นั่นหมายถึงว่าการที่จะมีพนักงานที่เก่ง เหมาะกับงานและสถานการณ์นั้น ต้องเป็นพนักงานที่ กบท ปั้นขึ้นมาเท่านั้น ไม่สามารถไปดึงมาจากคู่แข่งไม่ว่าจะอยู่ในประเทศหรือนอกประเทศได้ เมื่อพูดถึงจำนวนพนักงาน ผมไม่เคยเห็นหรือได้ยินมาว่า ระบบราชการมีการใช้ระบบ Head count มาใช้ในการว่าจ้างข้าราชการหรือพนักงาน และถ้าระบบราชการไม่มี ผมก็ไม่คิดว่ารัฐวิสาหกิจจะมีเหมือนกัน และถ้ารัฐวิสาหกิจมีระบบ Head Count ผมว่า กบท คงจะไม่รับคนเพิ่มมาในช่วงหลายปีที่ผ่านมาแน่นอน
ผมเห็นด้วยที่มีคนเคยกล่าวว่า รัฐวิสาหกิจซึ่งรัฐบาลเป็นผู้ถือหุ้นเกินครึ่ง ถือได้ว่าเป็นกิจการสมบัติของชาติ แต่เพราะเป็นสมบัติของชาติจึงไม่มีใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เลยไม่มีใครหวงแหนหรือพยายามรักษามัน แต่กลายเป็นแหล่งที่มีคนพยายามที่จะหาประโยชน์หรือตักตวงจากมัน หากแต่ว่าธุรกิจนั้นไม่ใช่รัฐวิสาหกิจ ไม่ใช่สมบัติของชาติแล้ว เมื่อนั้นคนที่ถือหุ้นใหญ่และได้เป็นบอร์ดก็จะเริ่มรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของขึ้นมาทันที
แต่ไม่ว่าสถานการณ์ในไตรมาสที่แล้วของ กบท จะเป็นอย่างไรก็ตาม ผมก็ยังเชื่อมันว่าครึ่งปีหลัง กบท จะทำผลงานได้ดีกว่าที่ผ่านมาแน่นอน แต่ผมก็ยังไม่เชื่อมั่นว่า กบท จะสามารถรักษาผลงานที่ดีให้ยั่งยืน และผมก็ไม่เชื่อมั่นว่า ซุปเปอร์บอร์ดจะสามารถแก้ไขโครงสร้างการบินไทยได้ และสุดท้ายผมก็เชื่อมั่นว่าวันหนึ่ง ปตท ก็จะเป็นเหมือน กบท ในวันที่พลังงานเริ่มจะกลายเป็น sunset industry ซึ่งคงไม่ใช่เร็วๆ นี้แน่นอน ส่วนตัวแล้วผมขอลุ้น Thai ไป 20 บาทก่อนละกัน