เรื่องนี้เป็นเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นกับแฟนของเราเองค่ะ  เรากับแฟนเป็นคนจังหวัดสุพรรณทั้งคู่  เราทำงานอยู่ที่สุพรรณส่วนแฟนทำงานอยู่ที่ชลบุรี  ในนิคมอมตะนครค่ะ  นานๆทีถึงจะมีโอกาสได้เจอกันครั้งหนึ่ง  วันเกิดเหตุเป็นเพราะแฟนมาหาเราที่บ้านค่ะ  หลังจากไม่ได้เจอกันมาเกือบ 7 เดือน  จะให้แฟนเป็นคนมาเล่าเรื่องราวนะคะ


เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 ส.ค. เวลาประมาณ 17.30 น ครับ  ผมได้เดินทางจากบ้านที่สุพรรณหลังจากกลับไปหาแฟนสาวของผมไปยังสถานีขนส่งผู้โดยสารสายใต้ใหม่   เพื่อต่อรถตู้  ได้มีชาย 2 คนเข้ามาแสดงตัวเป็น จนท.ตำรวจ มาถามว่าเอ็งมาจากไหน ผมตอบไปว่าเพิ่งกลับมาจากบ้านที่ต่างจังหวัด กำลังจะไปชลบุรีเพราะต้องไปทำงานในวันพรุ่งนี้  เขาทั้งสองจึงขอความร่วมมือตรวจค้นเพื่อหาสารเสพติดข้างต้น  ผมก็ให้เขาค้นด้วยความสมัครใจ แต่ในใจก็รู้สึกกลัวและประหม่า เพราะไม่เคยเจอโดนแบบนี้มาก่อน   เขาค้นกระเป๋าผมแต่ไม่พบสารเสพติดแต่อย่างใด  จึงพาไปตรวจฉี่ต่อ แต่ตอนนั้นผมฉี่ไม่ออก  เค้าให้ผมเอาเงินมาซื้อน้ำกิน  ผมก็ส่งแบงค์100 ให้ไปหนึ่งใบเพื่อซื้อน้ำ  แต่เค้าส่งกลับมาให้ผมแค่น้ำเปล่า 1 ขวดพร้อมกับเงินทอนเพียง 20 บาท และบอกว่า “เอาไปแค่นี้พอ เพราะสงสัยจะไม่ได้ใช้ตังแล้วแหละ” ผมงงกับคำพูดนั้นมาก  ไม่คิดว่า จนท.ตร. จะพูดจากับประชาชนอย่างนี้  ผมกินน้ำจนรู้สึกปวดฉี่  จึงไปตรวจได้  มีตำรวจหนึ่งนายเดินตามประกบผมไปด้วย  เสร็จแล้วผมเดินถือกระบอกใส่ฉี่ตามผู้ชายคนนึงที่คงจะโดนจับตรวจเหมือนกันไป ผู้ชายคนนั้นส่งฉี่ไปให้ตรวจ ผลออกมาเป็นสีม่วง แสดงผลมีสารเสพติดข้างต้นอยู่  จึงถูกตำรวจนำตัวขึ้นไปนั่งที่ท้ายรถกระบะทันที  ผมด้วยความบริสุทธิ์ใจว่าตัวเองไม่โดนแน่จึงส่งฉี่ไปให้ตรวจ  แต่กลับมีเสียงตำรวจอีกคนแทรกเข้ามาว่า “ไม่ต้องตรวจหรอก เสียของเปล่าๆ หุ่นอย่างนี้มันมีแน่นอน” (ผมเป็นคนตัวเล็ก และผอม เพราะได้พันธุกรรมมาจากแม่)  ผมสงสัยจึงถามออกไปว่าทำไมไม่ตรวจฉี่ผม  ตำรวจคนนั้นจึงบอกว่า “เงียบปากไป แล้วอยู่เฉยๆ”   ด้วยความกลัวว่าจะกลับชลบุรีไม่ทัน  ผมจึงถามต่อว่าแล้วอย่างนี้ผมจะได้กลับบ้านกี่โมง เพราะตอนนี้ก็เกือบจะหนึ่งทุ่มแล้ว พรุ่งนี้ผมต้องทำงานนะ แต่แล้ว ตร.คนนั้นกลับหยิบปัสสาวะของผู้ชายคนก่อนหน้าที่พบสารขึ้นมาให้ผมดู แล้วบอกว่า “นี่ไงของ ม่วงปี๋เลย ไหนบอกว่าไม่เล่นไง”  ผมก็เถียงกลับนะครับว่านั่นมันไม่ใช่ของผม  ของผมยังวางอยู่บนโต๊ะ  ยังไม่ได้ตรวจเลย  (ผมมองการกระทำของมันไม่วางตาเลยครับ  เพราะกลัวโดนยัดยา)  แต่ก็โดนมันตวาดกลับมาอีกว่า "หุบปากไปเลย" มันให้ผมหาเงินมาประกันตัวในวงเงิน 10,000 บาท ภายในเวลาเที่ยงคืน ถ้าเลยเวลานั้นจะต้องไปเคลียร์กันต่อที่ สน. แล้วก็ไล่ให้ผมไปนั่งท้ายรถกระบะ  ผมกังวลใจมาก  โทรติดต่อให้แฟน กับพี่สาวรีบหาเงินเพื่อมาประกันตัวให้ได้ ที่บ้านผมรู้ก็ตกใจกันใหญ่ รีบหาเงินมาประกันตัวผม  ทั้งๆที่ครอบครัวผมก็ไม่ได้ร่ำรวย  แต่เพื่อนำตัวผออกจากพวกมันให่ได้ทุกคนก็รีบไปหยิบยืมเงินจากคนรู้จักมาประกันตัวผมออกไปก่อน  

ตอนนั้นผมมองกลับไปยังตำรวจที่ทำหน้าที่ตรวจฉี่ มันเอาฉี่ผมไปตรวจแล้ว  ผลออกมาคือปกติไม่มีสารเสพติดแต่อย่างใด  แล้วมันก็กระซิบกันเองว่า “ไม่มีนี่หว่า” แต่ตำรวจอีกคนกระซิบกลับไปว่า “เอามันไปเถอะ ยอดขาด” ผมได้ยินอย่างนั้นแต่ก็ทำอะไรไม่ได้  

ตอนผมนั่งอยู่บนรถกระบะ ผมมองพวกมันตลอด   ดูจากพฤติกรรมแล้วไม่น่าจะใช่ตำรวจ  น่าจะเป็นการแอบอ้าง  เพราะในกลุ่มชายที่ใส่เครื่องแบบมีวัยรุ่นอายุประมาณ 17-18 ปี ร่วมอยู่ด้วย  คิดว่าน่าจะเป็นอาสาสมัครอะไรสักอย่าง เพราะที่เสื้อคลุมมีคำว่าหน่วยจู่โจม สน.ตลิ่งชันอยู่  ทุกคนพูดจาเกี่ยวกับเรื่องยาเสพติดตลอดเวลา  บางคนก็หยิบกระเป๋าสตางค์ออกมานับเงิน  ผมเห็นข้างในเป็นแบงค์พันล้วนๆ  แถมยังคุยกันว่า “เมื่อคืนได้มาเท่าไหร่ แต่ยังไงคืนนี้เป็นวันอาทิตย์  ขอให้ได้เยอะกว่าเดิม” จนพี่สาวหาเงินได้และโอนมาให้ผมจึงหลุดจากพวกมันมาได้   พฤติกรรมดังกล่าวเหมือนเป็นการรีดไถ่เงิน  สุ่มหาคนที่คิดว่าท่าทางน่าจะมีสารเสพติดมาตรวจค้น  ถ้าไม่มีก็พยายามยัดเยียดให้ได้  ทั้งที่ไม่ได้ตรวจ  เพื่อหาเงินและสารเสพติดที่เป็นของกลางมาแบ่งกัน


หลังจากประกันตัวจากพวกมันออกมาแล้ว  ผมต้องเหมาแท็กซี่กลับชลบุรีครับ (ทะเบียน กจ 402)  เพราะตอนนั้นเกือบเที่ยงคืน  รถหมดไปนานแล้ว  อยู่บนรถผมโทรคุยกับแฟนตลอด  คุยด้วยความหัวเสีย  พี่แท็กซี่คงจะฟังที่ผมคุยโทรศัพท์จึงถามผมออกมาว่า  น้องโดนมันจับตรวจมาใช่มั้ย  มีลูกค้าที่พี่เก็บตกรอบดึกๆ  โดนแบบนี้มาหลายคนแล้ว  ไม่มีก็เอาให้มีจนได้นั่นแหละ  นี่เสียไปเท่าไหร่ละ  สรุปว่าผมโดนหลอกครับ  เสียเงินฟรีให้กับพวกหากินบนหลังคนอื่น  เลวจริงๆครับ  ผมอยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องให้เข้าไปตรวจสอบให้ทีครับ  มันเป็นการรีดไถเงิน  หากินบนความเดือดร้อนของคนอื่น  รบกวนหน่อยครับ


ปล1.ขอบคุณทุกคนที่อา่นมาจนจบนะครับ  ผมอ่านเล่างงบ้าน เพราะเขียนอธิบายไม่เก่ง แต่มันเกิดกับผมจริงๆครับ  ใครไม่อยู่จุดนั้นคงไม่เข้าใจ

ปล2.ขอบคุณครอบครัวที่เร่งหาเงินมาประกันตัว และขอบคุณป้าผู้ใหญ่บ้านคลองตำหรุ ที่ให้ผมหยิบยิมเงินนะครับ

ปล.3  ขอบคุณที่สุด  แฟนสาวของผม  ตลอดเวลา 5 ปี ที่คบกันมา เธอมั่นคง  เสมอต้นเสมอปลาย อยู่เคียงข้างผมตลอดเวลาไม่ว่าจะเจอเรื่องราวแย่ๆขนาดไหน  ผมจะรีบเก็บเงินไปสู่ขอเธอจากแม่ให้ได้  รออีกนิดนะคับ  !!