สวัสดีค่ะ ไม่รู้จะมีคุณหมอมาตอบให้หรือเปล่านะค่ะ คือดิฉัน อยู่บ้านพักกับเพื่อนอีกสองคนมาได้สามปีแล้วค่ะ
เมื่อต้นปีที่แล้วเพื่อนคนนึงของดิฉันสมมติว่าชื่ื่ อฟ้า ไอเป็นเลือด ออกเยอะมากไปหาหมอหมอบอกเป็นวัณโรคปอด ประวัติคือมีอาการไอมาตลอด ไปหาหมอไม่เจอวันโรคค่ะ แต่ครั้งล่าสุดคือครั้งที่เลือดออกเยอะ ไปตรวจหมอบอกเปนวัณโรคค่ะ ก็รักษากันไปค่ะ ครบหกเดือนก็ไปหาหมอก็ไม่เจอวัณโรคแล้วค่ะ ส่วนดิฉันและเพื่อนทันทีที่รู้ก็ไปตรวจกันก็ไม่เจอค่ะ ก็ใช้ชีวิตกับเพื่อนที่เปนวัณโรคปกติ ไม่ได้รังเกียจค่ะ เพราะคิดว่าเพื่อนรักษาหายแล้วน่าจะไม่มีอะไร
แล้วก็เมื่อไหร่ที่มีไข้ไอ ดิฉันก็รีบไปพบหมอทันทีค่ะ เพราะครั้งแรกที่หมอบอก ก็บอกแล้วว่าเชื้อวัณโรคมันแฝงอยู่แล้วเพราะเราก็อยู่กับเพื่อนที่เป็นก็เปนปี
แต่หลังจากนั่นช่วงหลังกลางปีเพื่อนดิฉันอีกคนหนึ่งก็มีอาการป่วยค่ะไปตรวจไม่เจอวัณโรคค่ะ เจอแต่ภาวะซีด หาสาเหตุไม่เจอว่าเป็นเพราะอะไร ไปหาหมออีกครั้งหลังหมอบอกว่าน้ำในหูไม่เท่ากันเพราะเพื่อนดิฉัน มักจะเดินๆแล้วก็จะวูปๆ ปวดหัวบ่อย ไปมาสามรพ.ได้ค่ะ หมอบอกอย่างนี้ ก็รักษา ตามนั้นไป แต่คือพอดีเพื่อนเราถูกชาวบ้านทักว่าอาจจะโดนใครทำคุณไสยทีนี้ก็รักษาไปทางนั้นด้วยค่ะ เพราะรักษากับหมอปัจจุบันไม่หาย ก็รักษาทางนี้อยู่ได้สองสามเดือนก็ยังไม่หาย ก็หันไปพึ่งแผนจีนต่อก็ยังไม่หาย
แต่อยู่มาวันนึงวันนั้นเพื่อนดิฉันคนนี้คงไม่ไหวแล้วจริงๆวันนั้นนางกลับบ้านก่อนแต่ไม่ไหว นางเลยพยายามติดต่อเพื่อนๆ แต่ไม่มีใครรับสาย พอโทหาดิฉันๆรับสายแต่นางไม่พูด มีแต่เสียงร้อง เรารีบกลับเลยค่ะโชคดีที่ดิฉันทำงานกับบ้านที่พักเดินไม่กี่ก้าวก็ถึง เลยเหนนั่งอยู่ตรงขั้นบันไดขั้นที่สอง ไปถึงก็ล้มใส่เรา มีอาการตาเหลือกตัวเกร็งปากเบี้ยว ไม่รุจะทำไงค่ะ เพราะเพื่อนล้มคว่ำขาดันไปสอดกับขั้นบันไดขั้นที่สอง ดิฉันประคองได้แต่จะดึงออกไม่ไหวค่ะเพราะหนักมาก พอมีสติอยู่บ้างหยิบโทสับโทหาพี่ที่ทำงานมาช่วย ก็ไปหาหมอๆบอกไม่มีอะไร น่าจะเครียดเกินไป แต่ก็ไม่ค่อยสบายใจกันเท่าไหร่ค่ะ เพราะไม่ได้รับการรักษาอะไร หมอบอกให้กลับบ้าน คือในเมื่อหมอบอกไม่มีอะไรก็กลับไปหาหมอคุนไสยอีก แต่อาการยิ่งหนักขึ้นคือ คุมระบบขับถ่ายไม่ได้ ตามองไม่ค่อยเห็นไม่มีเรี่ยวแรง ก็อยู่แบบนี้ได้สองอาทิตย์ ชักอีกรอบค่ะ ทีนี้บังเอิญว่าไปพักบ้านที่อยู่ใกล้รพ ศูนย เจอหมอค่ะ ซักประวัติ อาจด้วยว่าหมอมีประสบการถามถึงมีใครที่อยู่ด้วยเปนวัณโรคหรือเปล่าที่นี้ คือมีค่ะ หมอเลยจัดเข้าตรวจสมองอย่างละเอียดเลยค่ะตรวจพบฝีในสมองกระจายจำนวนมาก คือมันก็วัณโรคที่ไปเป็นที่สมองแหละค่ะ คือหลังจากนั่นก็รักษาสุดท้ายก็ตาบอด เดินไม่ได้ ต้องออกจากงาน คือ ชีวิตน่าสงสารมาก
ณ ตอนนี้ดิฉันก็หวนนึกถึงตัวเองค่ะ ยังไม่มีอาการของวัณโรค คือไข้ ไอ นนลด มีไข้นิดหน่อยก็ไปหาหมอ เชกปอด แต่ด้วยความที่ดิฉันกลัว เลยศึกษาข้อมูลวัณโรคอื่นๆมาบ้าง แต่ก็ไม่มีอะไรที่สามารถระบุเปนวัณโรคที่ตรงไหนได้เลยนอกจากต้อมีอาการตรงตามอวัยวะนั้นๆตรงๆและมีอาการไข้ต่ำ น้ำหนักลด เท่าที่รู้ กังวลค่ะอยากตรวจนอกจากเอกเรยปอดตรวจเสมหะ มันมีวิธีอื่นอีกไหมค่ะ กลัวจะสายก่อนแก้ไข คือดิฉันมีน้องต้องส่งเสีย มีพ่อแม่ที่อยากตอบแทนค่ะ บางทีก็เครียดกับสิ่งที่มองไม่เห็น
ถามคุณหมอค่ะ หากว่าเราต้องใช้ชีวิตอยู่กับวัณโรคควรปฏิบัติตัวอย่างไร
เมื่อต้นปีที่แล้วเพื่อนคนนึงของดิฉันสมมติว่าชื่ื่ อฟ้า ไอเป็นเลือด ออกเยอะมากไปหาหมอหมอบอกเป็นวัณโรคปอด ประวัติคือมีอาการไอมาตลอด ไปหาหมอไม่เจอวันโรคค่ะ แต่ครั้งล่าสุดคือครั้งที่เลือดออกเยอะ ไปตรวจหมอบอกเปนวัณโรคค่ะ ก็รักษากันไปค่ะ ครบหกเดือนก็ไปหาหมอก็ไม่เจอวัณโรคแล้วค่ะ ส่วนดิฉันและเพื่อนทันทีที่รู้ก็ไปตรวจกันก็ไม่เจอค่ะ ก็ใช้ชีวิตกับเพื่อนที่เปนวัณโรคปกติ ไม่ได้รังเกียจค่ะ เพราะคิดว่าเพื่อนรักษาหายแล้วน่าจะไม่มีอะไร
แล้วก็เมื่อไหร่ที่มีไข้ไอ ดิฉันก็รีบไปพบหมอทันทีค่ะ เพราะครั้งแรกที่หมอบอก ก็บอกแล้วว่าเชื้อวัณโรคมันแฝงอยู่แล้วเพราะเราก็อยู่กับเพื่อนที่เป็นก็เปนปี
แต่หลังจากนั่นช่วงหลังกลางปีเพื่อนดิฉันอีกคนหนึ่งก็มีอาการป่วยค่ะไปตรวจไม่เจอวัณโรคค่ะ เจอแต่ภาวะซีด หาสาเหตุไม่เจอว่าเป็นเพราะอะไร ไปหาหมออีกครั้งหลังหมอบอกว่าน้ำในหูไม่เท่ากันเพราะเพื่อนดิฉัน มักจะเดินๆแล้วก็จะวูปๆ ปวดหัวบ่อย ไปมาสามรพ.ได้ค่ะ หมอบอกอย่างนี้ ก็รักษา ตามนั้นไป แต่คือพอดีเพื่อนเราถูกชาวบ้านทักว่าอาจจะโดนใครทำคุณไสยทีนี้ก็รักษาไปทางนั้นด้วยค่ะ เพราะรักษากับหมอปัจจุบันไม่หาย ก็รักษาทางนี้อยู่ได้สองสามเดือนก็ยังไม่หาย ก็หันไปพึ่งแผนจีนต่อก็ยังไม่หาย
แต่อยู่มาวันนึงวันนั้นเพื่อนดิฉันคนนี้คงไม่ไหวแล้วจริงๆวันนั้นนางกลับบ้านก่อนแต่ไม่ไหว นางเลยพยายามติดต่อเพื่อนๆ แต่ไม่มีใครรับสาย พอโทหาดิฉันๆรับสายแต่นางไม่พูด มีแต่เสียงร้อง เรารีบกลับเลยค่ะโชคดีที่ดิฉันทำงานกับบ้านที่พักเดินไม่กี่ก้าวก็ถึง เลยเหนนั่งอยู่ตรงขั้นบันไดขั้นที่สอง ไปถึงก็ล้มใส่เรา มีอาการตาเหลือกตัวเกร็งปากเบี้ยว ไม่รุจะทำไงค่ะ เพราะเพื่อนล้มคว่ำขาดันไปสอดกับขั้นบันไดขั้นที่สอง ดิฉันประคองได้แต่จะดึงออกไม่ไหวค่ะเพราะหนักมาก พอมีสติอยู่บ้างหยิบโทสับโทหาพี่ที่ทำงานมาช่วย ก็ไปหาหมอๆบอกไม่มีอะไร น่าจะเครียดเกินไป แต่ก็ไม่ค่อยสบายใจกันเท่าไหร่ค่ะ เพราะไม่ได้รับการรักษาอะไร หมอบอกให้กลับบ้าน คือในเมื่อหมอบอกไม่มีอะไรก็กลับไปหาหมอคุนไสยอีก แต่อาการยิ่งหนักขึ้นคือ คุมระบบขับถ่ายไม่ได้ ตามองไม่ค่อยเห็นไม่มีเรี่ยวแรง ก็อยู่แบบนี้ได้สองอาทิตย์ ชักอีกรอบค่ะ ทีนี้บังเอิญว่าไปพักบ้านที่อยู่ใกล้รพ ศูนย เจอหมอค่ะ ซักประวัติ อาจด้วยว่าหมอมีประสบการถามถึงมีใครที่อยู่ด้วยเปนวัณโรคหรือเปล่าที่นี้ คือมีค่ะ หมอเลยจัดเข้าตรวจสมองอย่างละเอียดเลยค่ะตรวจพบฝีในสมองกระจายจำนวนมาก คือมันก็วัณโรคที่ไปเป็นที่สมองแหละค่ะ คือหลังจากนั่นก็รักษาสุดท้ายก็ตาบอด เดินไม่ได้ ต้องออกจากงาน คือ ชีวิตน่าสงสารมาก
ณ ตอนนี้ดิฉันก็หวนนึกถึงตัวเองค่ะ ยังไม่มีอาการของวัณโรค คือไข้ ไอ นนลด มีไข้นิดหน่อยก็ไปหาหมอ เชกปอด แต่ด้วยความที่ดิฉันกลัว เลยศึกษาข้อมูลวัณโรคอื่นๆมาบ้าง แต่ก็ไม่มีอะไรที่สามารถระบุเปนวัณโรคที่ตรงไหนได้เลยนอกจากต้อมีอาการตรงตามอวัยวะนั้นๆตรงๆและมีอาการไข้ต่ำ น้ำหนักลด เท่าที่รู้ กังวลค่ะอยากตรวจนอกจากเอกเรยปอดตรวจเสมหะ มันมีวิธีอื่นอีกไหมค่ะ กลัวจะสายก่อนแก้ไข คือดิฉันมีน้องต้องส่งเสีย มีพ่อแม่ที่อยากตอบแทนค่ะ บางทีก็เครียดกับสิ่งที่มองไม่เห็น