คืออย่างนี้ค่ะ
จขกท.มีน้องสาวอยู่คนนึง (สมมติว่าชื่อ "แก้ม") โตมาด้วยกันตั้งแต่เล็ก ๆ (เป็นน้องสาวคนละแม่ แต่ที่บ้านเลี้ยงให้โตมาด้วยกัน)
...ตอนนี้แก้มขึ้นปีหนึ่งแล้วค่ะ จะเล่าย้อนชีวิตตอนสมัยเรียนมัธยมให้ฟังก่อนนะ
คือตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมแล้ว แก้มจะค่อนข้างเป็นเด็กหัวอ่อน ประกอบกับติดเพื่อน ไม่ค่อยตั้งใจเรียน แต่ไม่ถึงกับออกนอกลู่นอกทางนะคะ เพราะอยู่บ้านกับครอบครัว โรงเรียนก็อยู่ใกล้บ้านจึงไม่มีปัญหาอะไรนอกจากเรื่องเรียน ส่วนนิสัยส่วนตัวเนี่ย แก้มจะเป็นคนที่ติดโทรศัพท์ ถ้ามีแฟนก็ติดแฟนมาก คุยโทรศัพท์ได้ทั้งวันทั้งคืน ที่บ้านจึงไม่ค่อยชอบใจ และดุแก้มอยู่บ่อย ๆ เวลาจะออกไปทำงานกับเพื่อนนอกบ้าน ที่บ้านก็จะไม่ค่อยให้ออกไปไหนค่ะ เพราะไม่ค่อยไว้ใจ ซึ่งต่างกับ จขกท.มาก เพราะเวลา จขกท.จะออกไปไหนมาไหน ที่บ้านไม่เคยว่า เวลามีการทำรายงานเป็นกลุ่มก็จะพาให้เพื่อนมาทำที่บ้านบ่อย ๆ เขาเลยไว้ใจ แต่กับแก้มไม่ใช่ สรุปเลยก็คือสมัยเรียนมัธยมแก้มก็ไม่ค่อยไปออกนอกบ้านไปไหนมาไหน จะไปไหนทีก็ต้องให้ที่บ้านไปรับไปส่งตลอด ไม่เคยโดนปล่อยให้ไปไหนคนเดียว
....คือมันเลยมามีปัญหาตอนที่แก้มจะเข้ามหาวิทยาลัยนี่ล่ะคะ คือ จขกท.ก็เรียนจบพอดี แก้มก็ตัดสินใจว่าจะมาเรียนที่เดียวกับที่ จขกท.เรียน เราก็ไม่ได้ว่าอะไร ที่บ้านก็โอเค เพราะเราจะได้อยู่คุม อยู่ดูแลน้องได้ เรื่องส่งเสียค่าเล่าเรียนเราก็คุยกับทางบ้านแล้วว่าจะออกกันคนละครึ่ง แต่ถ้าได้เงินเดือนดีขึ้นก็อาจจะเป็นผู้ปกครองของแก้มเองเลย
ด้วยความที่แก้มไม่ค่อยได้ออกไปไหนมาไหน เวลาที่มาอยู่ กทม.ก็จะออกอาการดี๊ด๊าเป็นพิเศษ เหมือนจะเก็บกดอ่ะค่ะ และด้วยความที่แก้มชอบคุยโทรศัพท์ พักหลัง ๆ มานี่ติดโซเชียลมาก มากถึงขั้นนัดเจอกับคนในโซเชียลแล้วบอกกับ จขกท.ว่าเป็น "แฟน" (แก้มเป็นพวกเลสเบี้ยนอ่ะ คือมันชอบทอม คบแต่พวกทอม)
ครั้งที่ 1
แก้มขึ้นมา กทม.วันแรก เราก็เลยพาไปเดินที่ห้างแห่งหนึ่ง แก้มก็นัดเจอกับ "แฟน"ที่ว่านี้ คือเป็นแฟนกับผ่าน facebook มาได้สักพัก ยังไม่เคยเจอกันจริง ๆ สักที เมื่อมีโอกาสในการขึ้นมา กทม.ครั้งแรก ก็นัดเจอกัน (คือเราไม่รู้ด้วยนะว่าน้องนัดเจอแฟน มารู้อีกทีคือมันโทหากันแล้วก็มาเจอกันในห้างนั่นแหละถึงรู้) เราก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็เข้าใจในระดับหนึ่งนะว่ามันก็คงอยากเจอแฟนอะไรประมาณนี้
ครั้งที่ 2
แก้มแอบไปหาแฟนคนนี้ โดยที่เราและครอบครัวไม่รู้เรื่องเลย เมื่อวันแม่ที่ผ่านมานี่เอง คือแก้มบอกกับเราว่าจะกลับบ้านช่วงที่มหาลัยปิดยาว เราก็ให้กลับและก็บอกไว้ว่ากลับมาอีกทีก็วันที่ 12 เลยละกัน ปรากฏว่าแก้มกลับมา กทม.วันที่ 11 (เท่ากับว่าไปอยู่บ้านได้แค่วันเดียว) แล้วบอกที่บ้านว่าจะต้องมาเตรียมเอกสาร บลาๆๆๆ แล้วบังเอิญเราเคลียงานเสร็จจึงอยากไปเซอร์ไพรส์ที่บ้าน เลบกลับบ้านแบบไม่บอกใคร กลับไปถึงรู้ว่าน้องขึ้นมา กทม.แล้ว เราเลยลองโทร.หา แก้มก็บอกมาอย่างที่บอกกับที่บ้านแหละว่ามาเตรียมงาน เตรียมเอกสารโน่นนี่นั่น พอถึงวันแม่ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการหยุดยาว เราก็กำลังจะกลับ โทร.ไปหาแก้มแก้มไม่รับสาย วันนั้นโทร.หลายรอบมากก็ไม่รับเลย เราเลยเอะใจ เลยลองเช็ค facebook ของแก้มดู (แอบเข้าของคนอื่น ไม่ดีนะ อย่าทำ - -") ปรากฏว่าแก้มนัดแฟนไว้ว่าจะไปหา (โดยออกจากหอตั้งแต่หกโมงเช้า) พอเราใกล้จะถึง กทม.เราก็ลองเฟสไปถามว่าอยู่ไหน ก็ไม่อ่าน ไม่ตอบ ทั้งๆที่ขึ้นอยู่ว่าใช้งานอยู่ในขณะนี้ พอสักประมาณห้าโมงเย็น แก้มก็เปิดอ่านละตอบมาว่า "อยู่หอ" (ในใจเรานึก "คงกลับมาแล้วสินะ)
เมื่อกลับมาก็เห็นอยู่ที่หอจริง โดยก็ยังไม่บอกนะว่าทำไมไม่รับโทสับจนเราถาม แก้มก็บอกว่านอนหลับ ปิดเสียงโทสับไว้ เลยไม่ได้ยิน (เหอะ ๆ ) ทั้งวันเลยเนี่ยนะ เราก็ปล่อยไว้ยังไม่ได้เคี่ยวเข็ญ จนวันนึงเราเลยพูดว่าจะทำอะไรก็นึกถึงที่บ้านบ้าง เค้าเป็นห่วง แก้มก็เงียบ ๆ เราเลยถามอีกว่ามีอะไรที่ไม่ได้บอกรึป่าว แก้มส่ายหัวแล้วก้มหน้า เราก็เลยเงียบบ้าง สักพักแก้มเลยยอมรับออกมา เราก็ไม่เชิงว่านะ แต่เตือนมากกว่า ว่าไว้ใจถึงขนาดไปหาเขาแบบนั้นได้ไง นี่ที่บ้านส่งมาเรียน นี่ยังไม่ทันเรียนเลยออกไปหาแฟนแบบนั้น ถ้าที่บ้านรู้เขาคงให้กลับบ้านนะรู้หรือเปล่า (แต่เราก็ไม่ได้บอกที่บ้านหรอกนะ ถ้าบอกน้องไม่ได้เรียนแน่นอน) ละครั้งนี้ก็ผ่านไป
ครั้งที่ 3
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ แก้มหยุดเรียน อยู่เฝ้าออฟฟิต (เราทำบ้านเป็นออฟฟิต) เราไปคุยงานกับลูกค้าข้างนอก ก็ไม่ได้บอกแก้มไว้นะว่าจะกลับเมื่อไหร่ พอกลับมาถึงบ้านประมาณเที่ยง ๆ เห็นว่าประตูบ้านล็อคจากข้างในก็โล่งใจว่าน้องอยู่บ้าน เลยลองเรียกดูสักพักเลยนะ กว่าจะตอบกลับมาแล้วออกมาเปิดประตูให้ ตอนที่รอแก้มมาเปิดประตู เราก็สังเกตเห็นรองเท้าหน้าบ้านอ่ะ ว่ามันมีรองเท้าแตะแปลกอยู่คู่นึง จำได้ว่ามันไม่ใช่ของแก้ม ในใจก็ภาวนาว่าอย่าให้เป็นอย่างที่คิดไว้เลย พอแก้มมาเปิดประตูก็โล่งใจว่ามาเปิดคนเดียว แต่สักพักก็ช๊อคไปหลายวิอ่ะ คนแปลกหน้าเดินตามหลังแก้มมาจากในห้องนอน แล้วแก้มก็บอกว่าเป็นเพื่อน (เพราะมันคนละคนกับที่มันเคยนัดเจอวันนั้น) เราก็นิ่ง เพราะใจอยากจะด่ามากอ่ะตอนนั้น
จนถึงตอนนี้เรายังไม่ได้คุยกับแก้มเป็นเรื่องเป็นราวเพราะก็ยุ่ง ๆ กับงาน ในใจอ่ะไม่ชอบที่น้องทำตัวแบบนี้ คืออยากให้มันรู้ว่าเราอ่ะอยากเห็นมันได้ดี อยากให้มันตั้งใจเรียนมากกว่านี้ แต่ก็มีพี่ที่รู้จักเคยบอกว่ากับเด็กวัยนี้ต้องคุยกับมันให้ดีนะ ไม่งั้นมันอาจจะเตลิดจนกู่ไม่กลับไปเลยก็ได้ เพราะเราเองก็รู้ตัวว่าเป็นคนพูดอะไรออกไปแล้วชอบพูดออกมาตามอารมณ์ มันอาจจะฟังแล้วดูแรงเกินไปเลยหละเรารู้ตัว มันจะยับยั้งไม่ค่อยอยู่ แต่ในใจอ่ะหวังดีกับมันทั้งนั้นแหละ
......เลยอยากจะถามเพื่อน ๆ อ่ะว่าถ้าน้องเพื่อน ๆ เป็นแบบนี้จะมีวิธีบอกกับเค้ายังไงให้เค้าไม่รู้สึกว่าเรากดดันเค้ามากเกินไป แต่ก็อยากให้เค้าทำตัวดี ๆ อ่ะ ถ้าขืนทำตัวแบบนี้ต่อไปเราว่าอาจจะเรียนไม่จบ ละถ้าที่บ้านรู้เค้าก็คงไม่ส่งเสียเหมือนกัน
(กระทู้ขอความเห็น) ถ้ามีน้องสาวแบบนี้ จะเตือนเขายังไงดีคะ?
จขกท.มีน้องสาวอยู่คนนึง (สมมติว่าชื่อ "แก้ม") โตมาด้วยกันตั้งแต่เล็ก ๆ (เป็นน้องสาวคนละแม่ แต่ที่บ้านเลี้ยงให้โตมาด้วยกัน)
...ตอนนี้แก้มขึ้นปีหนึ่งแล้วค่ะ จะเล่าย้อนชีวิตตอนสมัยเรียนมัธยมให้ฟังก่อนนะ
คือตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมแล้ว แก้มจะค่อนข้างเป็นเด็กหัวอ่อน ประกอบกับติดเพื่อน ไม่ค่อยตั้งใจเรียน แต่ไม่ถึงกับออกนอกลู่นอกทางนะคะ เพราะอยู่บ้านกับครอบครัว โรงเรียนก็อยู่ใกล้บ้านจึงไม่มีปัญหาอะไรนอกจากเรื่องเรียน ส่วนนิสัยส่วนตัวเนี่ย แก้มจะเป็นคนที่ติดโทรศัพท์ ถ้ามีแฟนก็ติดแฟนมาก คุยโทรศัพท์ได้ทั้งวันทั้งคืน ที่บ้านจึงไม่ค่อยชอบใจ และดุแก้มอยู่บ่อย ๆ เวลาจะออกไปทำงานกับเพื่อนนอกบ้าน ที่บ้านก็จะไม่ค่อยให้ออกไปไหนค่ะ เพราะไม่ค่อยไว้ใจ ซึ่งต่างกับ จขกท.มาก เพราะเวลา จขกท.จะออกไปไหนมาไหน ที่บ้านไม่เคยว่า เวลามีการทำรายงานเป็นกลุ่มก็จะพาให้เพื่อนมาทำที่บ้านบ่อย ๆ เขาเลยไว้ใจ แต่กับแก้มไม่ใช่ สรุปเลยก็คือสมัยเรียนมัธยมแก้มก็ไม่ค่อยไปออกนอกบ้านไปไหนมาไหน จะไปไหนทีก็ต้องให้ที่บ้านไปรับไปส่งตลอด ไม่เคยโดนปล่อยให้ไปไหนคนเดียว
....คือมันเลยมามีปัญหาตอนที่แก้มจะเข้ามหาวิทยาลัยนี่ล่ะคะ คือ จขกท.ก็เรียนจบพอดี แก้มก็ตัดสินใจว่าจะมาเรียนที่เดียวกับที่ จขกท.เรียน เราก็ไม่ได้ว่าอะไร ที่บ้านก็โอเค เพราะเราจะได้อยู่คุม อยู่ดูแลน้องได้ เรื่องส่งเสียค่าเล่าเรียนเราก็คุยกับทางบ้านแล้วว่าจะออกกันคนละครึ่ง แต่ถ้าได้เงินเดือนดีขึ้นก็อาจจะเป็นผู้ปกครองของแก้มเองเลย
ด้วยความที่แก้มไม่ค่อยได้ออกไปไหนมาไหน เวลาที่มาอยู่ กทม.ก็จะออกอาการดี๊ด๊าเป็นพิเศษ เหมือนจะเก็บกดอ่ะค่ะ และด้วยความที่แก้มชอบคุยโทรศัพท์ พักหลัง ๆ มานี่ติดโซเชียลมาก มากถึงขั้นนัดเจอกับคนในโซเชียลแล้วบอกกับ จขกท.ว่าเป็น "แฟน" (แก้มเป็นพวกเลสเบี้ยนอ่ะ คือมันชอบทอม คบแต่พวกทอม)
ครั้งที่ 1
แก้มขึ้นมา กทม.วันแรก เราก็เลยพาไปเดินที่ห้างแห่งหนึ่ง แก้มก็นัดเจอกับ "แฟน"ที่ว่านี้ คือเป็นแฟนกับผ่าน facebook มาได้สักพัก ยังไม่เคยเจอกันจริง ๆ สักที เมื่อมีโอกาสในการขึ้นมา กทม.ครั้งแรก ก็นัดเจอกัน (คือเราไม่รู้ด้วยนะว่าน้องนัดเจอแฟน มารู้อีกทีคือมันโทหากันแล้วก็มาเจอกันในห้างนั่นแหละถึงรู้) เราก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็เข้าใจในระดับหนึ่งนะว่ามันก็คงอยากเจอแฟนอะไรประมาณนี้
ครั้งที่ 2
แก้มแอบไปหาแฟนคนนี้ โดยที่เราและครอบครัวไม่รู้เรื่องเลย เมื่อวันแม่ที่ผ่านมานี่เอง คือแก้มบอกกับเราว่าจะกลับบ้านช่วงที่มหาลัยปิดยาว เราก็ให้กลับและก็บอกไว้ว่ากลับมาอีกทีก็วันที่ 12 เลยละกัน ปรากฏว่าแก้มกลับมา กทม.วันที่ 11 (เท่ากับว่าไปอยู่บ้านได้แค่วันเดียว) แล้วบอกที่บ้านว่าจะต้องมาเตรียมเอกสาร บลาๆๆๆ แล้วบังเอิญเราเคลียงานเสร็จจึงอยากไปเซอร์ไพรส์ที่บ้าน เลบกลับบ้านแบบไม่บอกใคร กลับไปถึงรู้ว่าน้องขึ้นมา กทม.แล้ว เราเลยลองโทร.หา แก้มก็บอกมาอย่างที่บอกกับที่บ้านแหละว่ามาเตรียมงาน เตรียมเอกสารโน่นนี่นั่น พอถึงวันแม่ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการหยุดยาว เราก็กำลังจะกลับ โทร.ไปหาแก้มแก้มไม่รับสาย วันนั้นโทร.หลายรอบมากก็ไม่รับเลย เราเลยเอะใจ เลยลองเช็ค facebook ของแก้มดู (แอบเข้าของคนอื่น ไม่ดีนะ อย่าทำ - -") ปรากฏว่าแก้มนัดแฟนไว้ว่าจะไปหา (โดยออกจากหอตั้งแต่หกโมงเช้า) พอเราใกล้จะถึง กทม.เราก็ลองเฟสไปถามว่าอยู่ไหน ก็ไม่อ่าน ไม่ตอบ ทั้งๆที่ขึ้นอยู่ว่าใช้งานอยู่ในขณะนี้ พอสักประมาณห้าโมงเย็น แก้มก็เปิดอ่านละตอบมาว่า "อยู่หอ" (ในใจเรานึก "คงกลับมาแล้วสินะ)
เมื่อกลับมาก็เห็นอยู่ที่หอจริง โดยก็ยังไม่บอกนะว่าทำไมไม่รับโทสับจนเราถาม แก้มก็บอกว่านอนหลับ ปิดเสียงโทสับไว้ เลยไม่ได้ยิน (เหอะ ๆ ) ทั้งวันเลยเนี่ยนะ เราก็ปล่อยไว้ยังไม่ได้เคี่ยวเข็ญ จนวันนึงเราเลยพูดว่าจะทำอะไรก็นึกถึงที่บ้านบ้าง เค้าเป็นห่วง แก้มก็เงียบ ๆ เราเลยถามอีกว่ามีอะไรที่ไม่ได้บอกรึป่าว แก้มส่ายหัวแล้วก้มหน้า เราก็เลยเงียบบ้าง สักพักแก้มเลยยอมรับออกมา เราก็ไม่เชิงว่านะ แต่เตือนมากกว่า ว่าไว้ใจถึงขนาดไปหาเขาแบบนั้นได้ไง นี่ที่บ้านส่งมาเรียน นี่ยังไม่ทันเรียนเลยออกไปหาแฟนแบบนั้น ถ้าที่บ้านรู้เขาคงให้กลับบ้านนะรู้หรือเปล่า (แต่เราก็ไม่ได้บอกที่บ้านหรอกนะ ถ้าบอกน้องไม่ได้เรียนแน่นอน) ละครั้งนี้ก็ผ่านไป
ครั้งที่ 3
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ แก้มหยุดเรียน อยู่เฝ้าออฟฟิต (เราทำบ้านเป็นออฟฟิต) เราไปคุยงานกับลูกค้าข้างนอก ก็ไม่ได้บอกแก้มไว้นะว่าจะกลับเมื่อไหร่ พอกลับมาถึงบ้านประมาณเที่ยง ๆ เห็นว่าประตูบ้านล็อคจากข้างในก็โล่งใจว่าน้องอยู่บ้าน เลยลองเรียกดูสักพักเลยนะ กว่าจะตอบกลับมาแล้วออกมาเปิดประตูให้ ตอนที่รอแก้มมาเปิดประตู เราก็สังเกตเห็นรองเท้าหน้าบ้านอ่ะ ว่ามันมีรองเท้าแตะแปลกอยู่คู่นึง จำได้ว่ามันไม่ใช่ของแก้ม ในใจก็ภาวนาว่าอย่าให้เป็นอย่างที่คิดไว้เลย พอแก้มมาเปิดประตูก็โล่งใจว่ามาเปิดคนเดียว แต่สักพักก็ช๊อคไปหลายวิอ่ะ คนแปลกหน้าเดินตามหลังแก้มมาจากในห้องนอน แล้วแก้มก็บอกว่าเป็นเพื่อน (เพราะมันคนละคนกับที่มันเคยนัดเจอวันนั้น) เราก็นิ่ง เพราะใจอยากจะด่ามากอ่ะตอนนั้น
จนถึงตอนนี้เรายังไม่ได้คุยกับแก้มเป็นเรื่องเป็นราวเพราะก็ยุ่ง ๆ กับงาน ในใจอ่ะไม่ชอบที่น้องทำตัวแบบนี้ คืออยากให้มันรู้ว่าเราอ่ะอยากเห็นมันได้ดี อยากให้มันตั้งใจเรียนมากกว่านี้ แต่ก็มีพี่ที่รู้จักเคยบอกว่ากับเด็กวัยนี้ต้องคุยกับมันให้ดีนะ ไม่งั้นมันอาจจะเตลิดจนกู่ไม่กลับไปเลยก็ได้ เพราะเราเองก็รู้ตัวว่าเป็นคนพูดอะไรออกไปแล้วชอบพูดออกมาตามอารมณ์ มันอาจจะฟังแล้วดูแรงเกินไปเลยหละเรารู้ตัว มันจะยับยั้งไม่ค่อยอยู่ แต่ในใจอ่ะหวังดีกับมันทั้งนั้นแหละ
......เลยอยากจะถามเพื่อน ๆ อ่ะว่าถ้าน้องเพื่อน ๆ เป็นแบบนี้จะมีวิธีบอกกับเค้ายังไงให้เค้าไม่รู้สึกว่าเรากดดันเค้ามากเกินไป แต่ก็อยากให้เค้าทำตัวดี ๆ อ่ะ ถ้าขืนทำตัวแบบนี้ต่อไปเราว่าอาจจะเรียนไม่จบ ละถ้าที่บ้านรู้เค้าก็คงไม่ส่งเสียเหมือนกัน