ครั้งหนึ่งราคายางเคยขึ้นไปสูงถึง 120-150 บาทต่อกิโลกรัม สร้างความสุข เพิ่มความร่ำรวย สะดวกสะบายให้กับชาวสวนยาง เป็นอย่างมาก
มาวันนี้ราคายางตกต่ำ กว่าราคาหมู เป็นอย่างมาก หมูราคากิโลกรัมละ 160 บาท เนื้อวัวกิโลกรัมละ 220 บาท แต่ยางพารากิโลกรัมละ 47 บาท
สภาพการณ์เช่นนี้หากเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องคงนั่งไม่ติดเก้าอี้
ก็ขนาดช่วงปลายสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ราคาอยู่ที่ 80 กว่าบาท ยังประท้วงกันเอาเป็นเอาตายปิดถนนให้จราจรอัมพาตกันยาวนาน เพื่อบีบรัฐบาลจัดการให้ขายได้กิโลละ 100 บาทให้ได้ ทำเอาผู้บริหารประเทศยุคนั้นวิ่งแก้ปัญหาหัวกระเซิงกันเป็นแถว
ช่วงนั้น พรรคประชาธิปัตย์เรียงหน้ากันออกมาสนับสนุนการเรียกร้องของประชาชนกันคึกคัก ไล่ถล่มรัฐบาลว่าไม่จริงใจในการช่วยเหลือชาวสวนยาง ไม่มีฝีมือในการบริหารราคายาง
มาวันนี้
นายชวน หลีกภัย ผู้นำจิตวิญญาณการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ ได้เสนอให้ชาวสวนยางหันไป "เลี้ยงวัว" เพื่อเป็นอาชีพเสริม แก้ปัญหาราคายางตกต่ำ
ยิ่งสะท้อนให้เห็นว่า นักการเมืองไม่ว่าจะระดับ "ไม้กันหมา" หรือระดับ "ศาสดา" มีเหมือนกันคือ ยืดหยุ่นไปตามสถานการณ์เพื่อได้ยืนอยู่ในจุดที่เป็นประโยชน์กับตัวเองที่สุด
ครั้งหนึ่งเคยโทษรัฐบาล ยุคนี้ทำได้แค่โทษชาวบ้านทำนองไม่รู้จักทำมาหากินด้านอื่น เอาชีวิตไปผูกไว้กับราคายางอย่างเดียว
ชาวบ้านไม่รอด แต่นักการเมืองรอด เพราะที่ผิดคือชาวสวนยาง ไม่ใช่นักการเมือง
จะเห็นได้จากการก่อความวุ่นวายของประเทศในตลอดต้นปีทีผ่านมา ของม็อบประชาธิปัตย์
ล้วนแต่เป็นความต้องการที่จะเข้ามาสู่อำนาจของ พรรคประชาธิปัตย์ โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบ้านเมือง
เพียงหวังเพื่ออำนาจของพรรคตัวเอง
อนิจจา....
ประชาธิปัตย์" ปชป.ต้องมาก่อน เสมอ "
มาวันนี้ราคายางตกต่ำ กว่าราคาหมู เป็นอย่างมาก หมูราคากิโลกรัมละ 160 บาท เนื้อวัวกิโลกรัมละ 220 บาท แต่ยางพารากิโลกรัมละ 47 บาท
สภาพการณ์เช่นนี้หากเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องคงนั่งไม่ติดเก้าอี้
ก็ขนาดช่วงปลายสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ราคาอยู่ที่ 80 กว่าบาท ยังประท้วงกันเอาเป็นเอาตายปิดถนนให้จราจรอัมพาตกันยาวนาน เพื่อบีบรัฐบาลจัดการให้ขายได้กิโลละ 100 บาทให้ได้ ทำเอาผู้บริหารประเทศยุคนั้นวิ่งแก้ปัญหาหัวกระเซิงกันเป็นแถว
ช่วงนั้น พรรคประชาธิปัตย์เรียงหน้ากันออกมาสนับสนุนการเรียกร้องของประชาชนกันคึกคัก ไล่ถล่มรัฐบาลว่าไม่จริงใจในการช่วยเหลือชาวสวนยาง ไม่มีฝีมือในการบริหารราคายาง
มาวันนี้ นายชวน หลีกภัย ผู้นำจิตวิญญาณการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ ได้เสนอให้ชาวสวนยางหันไป "เลี้ยงวัว" เพื่อเป็นอาชีพเสริม แก้ปัญหาราคายางตกต่ำ
ยิ่งสะท้อนให้เห็นว่า นักการเมืองไม่ว่าจะระดับ "ไม้กันหมา" หรือระดับ "ศาสดา" มีเหมือนกันคือ ยืดหยุ่นไปตามสถานการณ์เพื่อได้ยืนอยู่ในจุดที่เป็นประโยชน์กับตัวเองที่สุด
ครั้งหนึ่งเคยโทษรัฐบาล ยุคนี้ทำได้แค่โทษชาวบ้านทำนองไม่รู้จักทำมาหากินด้านอื่น เอาชีวิตไปผูกไว้กับราคายางอย่างเดียว
ชาวบ้านไม่รอด แต่นักการเมืองรอด เพราะที่ผิดคือชาวสวนยาง ไม่ใช่นักการเมือง
จะเห็นได้จากการก่อความวุ่นวายของประเทศในตลอดต้นปีทีผ่านมา ของม็อบประชาธิปัตย์
ล้วนแต่เป็นความต้องการที่จะเข้ามาสู่อำนาจของ พรรคประชาธิปัตย์ โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบ้านเมือง
เพียงหวังเพื่ออำนาจของพรรคตัวเอง
อนิจจา....