คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
ในสมัยอยุธยา โดยเฉพาะในสมัยราชวงศ์ปราสาททอง จนถึงราชวงศ์บ้านพลูหลวง
มีบันทึกกล่าวว่า ขุนนางสยามสามารถพูดภาษาโปรตุเกสกับภาษาดัชต์ได้
และบางคนก็พูดภาษาฝรั่งเศสได้บ้าง แต่บางครั้งก็จะใช้ภาษาจีนหรือมลายูในการสื่อสารด้วยครับ
ส่วนสมัยต้นกรุงเทพ เราขาดแคลนล่ามภาษาตะวันตกมากโดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ยกเว้นแต่ภาษาโปรตุเกส เพราะพบว่าเรามีล่ามภาษานี้ประจำอยู่กรมท่าตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๑ แล้ว โดยเมื่อครั้งเจ้าเมืองมาเก๊าของโปรตุเกส ให้นายคาร์โลส เดอ ซิลเวรา (Carlos de Silveira) เป็นทูตเข้ามาในสมัยรัชกาลที่ ๒ มีการแปรศุภอักษรออกจากภาษาโปรตุเกสเป็นภาษาไทยได้โดยตรงเลย นอกจาดนี้ทั้งสองฝ่ายยังสามารถสื่อสารกันเป็นภาษาจีนกวางตุ้งได้อีกชั้นหนึ่งด้วย
แต่สามปีต่อมา ผู้สำเร็จราชการอังกฤษที่อินเดียส่งทูต คือ นายจอห์น ครอว์เฟิร์ด (John Crawfurd) เข้ามา กลับปรากฏความยุ่งยากในการสื่อสารทันที เพราะเวลานั้นไม่มีใครพูดภาษาของกันและกันได้เลย เวลาจะพูดต้องแปลจากภาษาอังกฤษมาเป็นภาษามลายู และแปลจากภาษามลายูมาเป็นภาษาโปรตุเกสและแปลเป็นภาษาไทยอีกที ซึ่งเรื่องนี้เกือบทำให้การเจรจากันล่มเลยทีเดียว เพราะมีการแปลกันเป็นหลายทอดทำให้เนื้อความตกหล่นจนเกิดการเข้าใจผิดกันหลายครั้ง จนถึงสมัยรัชกาลที่ ๓ เราจึงเริ่มมีขุนนางและเจ้านายพูดภาษาอังกฤษได้
มีบันทึกกล่าวว่า ขุนนางสยามสามารถพูดภาษาโปรตุเกสกับภาษาดัชต์ได้
และบางคนก็พูดภาษาฝรั่งเศสได้บ้าง แต่บางครั้งก็จะใช้ภาษาจีนหรือมลายูในการสื่อสารด้วยครับ
ส่วนสมัยต้นกรุงเทพ เราขาดแคลนล่ามภาษาตะวันตกมากโดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ยกเว้นแต่ภาษาโปรตุเกส เพราะพบว่าเรามีล่ามภาษานี้ประจำอยู่กรมท่าตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๑ แล้ว โดยเมื่อครั้งเจ้าเมืองมาเก๊าของโปรตุเกส ให้นายคาร์โลส เดอ ซิลเวรา (Carlos de Silveira) เป็นทูตเข้ามาในสมัยรัชกาลที่ ๒ มีการแปรศุภอักษรออกจากภาษาโปรตุเกสเป็นภาษาไทยได้โดยตรงเลย นอกจาดนี้ทั้งสองฝ่ายยังสามารถสื่อสารกันเป็นภาษาจีนกวางตุ้งได้อีกชั้นหนึ่งด้วย
แต่สามปีต่อมา ผู้สำเร็จราชการอังกฤษที่อินเดียส่งทูต คือ นายจอห์น ครอว์เฟิร์ด (John Crawfurd) เข้ามา กลับปรากฏความยุ่งยากในการสื่อสารทันที เพราะเวลานั้นไม่มีใครพูดภาษาของกันและกันได้เลย เวลาจะพูดต้องแปลจากภาษาอังกฤษมาเป็นภาษามลายู และแปลจากภาษามลายูมาเป็นภาษาโปรตุเกสและแปลเป็นภาษาไทยอีกที ซึ่งเรื่องนี้เกือบทำให้การเจรจากันล่มเลยทีเดียว เพราะมีการแปลกันเป็นหลายทอดทำให้เนื้อความตกหล่นจนเกิดการเข้าใจผิดกันหลายครั้ง จนถึงสมัยรัชกาลที่ ๓ เราจึงเริ่มมีขุนนางและเจ้านายพูดภาษาอังกฤษได้
แสดงความคิดเห็น
สมัยอยุธยาหรือสุโขทัย คนสมัยนั้นคุยกับฝรั่งรู้เรื่องด้วยหรอคับ?