รู้..ตามความเป็นจริง

พระพุทธเจ้าสอนอะไร??

พระพุทธเจ้า..สอนให้เราน้อมเข้ามาดูกายใจตนเอง
ให้สังเกตดูว่า..กายเที่ยงไหม? จิตใจเที่ยงไหม?
โดยเฉพาะ..จิต จะเห็นได้ง่ายว่า ปรวนแปรตลอดทั้งวัน
อารมณ์ใดเกิดขึ้น เดี๋ยวเราก็ยินดีบ้าง เดี๋ยวเราก็ยินร้ายบ้าง
จิตเดี๋ยวก็สุขบ้าง ทุกข์บ้าง เฉยๆบ้าง
สลับกันไป

เวลาปฏิบัติ..
เราไม่ได้มีหน้าที่ไปทำให้จิตนี้มีความสุขนะ
ต้องเข้าใจให้ถูกต้องก่อน
เราไม่ได้ปฏิบัติเพื่อ..ให้กายใจนั้นมีความสุขอย่างเดียว
เราไม่ได้ปฏิบัติเพื่อ..เป็นคนดี
เราไม่ได้ปฏิบัติเพื่อ..เป็นอะไรทั้งนั้น
เราปฏิบัติเพื่อ..“เห็นความจริงของกายใจ”

เพียงแค่ “รู้ทัน” ตามความเป็นจริง

การที่มาปฏิบัติธรรม..
แล้วตั้งความเห็นเพื่อจะดัดแปลงกาย ดัดแปลงใจ
อันนี้เป็นความเห็นที่ผิด
เช่น จิตใจฉันวุ่นวายตลอดเลย คิดที่จะมาปฏิบัติธรรม เพื่อให้จิตใจได้สงบบ้าง เป็นต้น

{ ถ้ามีความเห็นแบบนี้พ้นทุกข์ไม่ได้นะ }

ถ้าเมื่อไร..เราตั้งใจจะดัดแปลงจิต
นั่นหมายความว่า..เราไม่ได้รู้ตามความเป็นจริง
ถ้าเราดัดแปลงกายใจนี้ จากคนไม่ดี เป็นคนดี
สุดท้ายเราก็จะติดดี มันก็ไม่สามารถออกจากวัฏสงสารได้
มันกลับไปสร้างภพภูมิใหม่ขึ้นมา คือภพภูมิเทวดา
ดังนั้นต้องระวังภาวนาไปติดดี ติดสงบ
โดยเฉพาะนักปฏิบัติธรรมทั้งหลาย มักพยายามดัดแปลงตัวเองเป็นคนดีเสมอ

"..อย่าไปมัวติดกับความดี.."

เรามีหน้าที่ รู้ตามความเป็นจริงของกายใจไป
มีกิเลสอยู่ ก็รู้ว่ามีกิเลสอยู่
ใจเป็นอย่างไรรู้ซื่อๆ ไปแบบนั้น
แต่ไม่ให้มันล้นออกทางกายและวาจาจนผิดศีลห้า

~ ทางสู่ความพ้นทุกข์ เริ่มต้นด้วยการวางใจแบบนี้ ~

# พระวัชรินทร์ วชิรญาโณ #
24/07/57
@สถานภาวนาบ้านธรรมทาน








ขอขอบคุณ มูลนิธิบ้านธรรมทาน
https://www.facebook.com/Baandhammatan/timeline?ref=page_internal
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่