ผู้หญิงและความหวาดระแวง เหยื่อที่มองไม่เห็นของอีโบลา




ไข้เลือดออกอีโบลายังระบาดอยู่ต่อไปในแอฟริกาตะวันตก ยอดผู้เสียชีวิตที่องค์การอนามัยโลกแถลงเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม
อยู่ที่ 1,350 คน ผู้ติดเชื้อกว่า 2,000 คน ตัวเลขอาจบ่งบอกว่าสถานการณ์การระบาดอยู่ในขั้นที่ยังคุมไม่ได้
แต่ไม่อาจบ่งบอกถึงความร้าวรานในสังคมที่ติดเชื้อไวรัสมรณะนี้ได้เลย


เดิมมักเข้าใจกันว่าเมื่อต้นตออีโบลามาจากสัตว์ป่า ผู้ชายที่ออกไปล่าหรือจับต้องเนื้อสัตว์ น่าจะเป็นเหยื่อหลักของไวรัสมรณะ
แต่เมื่อสถานการณ์การระบาดลุกลาม กลับเป็นผู้หญิงที่ติดเชื้อในสัดส่วนที่ต่างกันมาก

ยูนิเซฟระบุว่า เหยื่ออีโบลา ในไลบีเรีย กินี เซียร์ราลีโอน เป็นผู้หญิงราว 55-60% และในการประชุมคณะทำงานเฉพาะกิจ
ในไลบีเรียเมื่อสองสัปดาห์ก่อน นางจูเลีย ดันแคน-คัสเซลล์ รัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาและเพศสภาพไลบีเรีย กล่าวว่า
ผู้เสียชีวิตหรือติดเชื้ออีโบลาเป็นผู้หญิงถึง 75%   


เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น...นางดันแคน-คัสเซลล์ อธิบายว่า ผู้หญิงคือผู้ดูแล เมื่อลูกป่วยก็มักบอกว่าไปหาแม่
คนที่ข้ามแดนไปขายของในตลาดกินี และเซียร์ราลีโอนเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวก็เป็นผู้หญิง เมื่อมีคนตายในบ้าน
ก็เป็นหน้าที่ผู้หญิงที่เตรียมงานศพ โดยมากเป็นป้า หรือญาติผู้หญิงอาวุโสตามธรรมเนียม         

ซูอาเฟีนตู ตูนิส โฆษกกลุ่มปฏิบัติการชุมชนที่รวมตัวกันเพื่อรับมืออีโบลาในเซียร์ราลีโอน กล่าวว่า เมื่อสมาชิกในครอบครัวป่วย
เป็นผู้หญิงที่หุงหาอาหารและดูแลคนป่วย ทำความสะอาดและซักผ้า ในสายงานรักษาพยาบาล ก็เป็นผู้หญิงอีกเช่นกันที่ทำหน้าที่พยาบาล
ทำความสะอาดโรงพยาบาลที่ล้วนเป็นสถานที่เสี่ยงติดเชื้อทั้งสิ้น  แต่กลับไม่ได้รับการสนับสนุนคุ้มครองเหมือนกับแพทย์
ที่ส่วนมากเป็นผู้ชาย        



ผู้หญิงเป็นเหยื่อกลุ่มใหญ่ของอีโบลาไม่ใช่เรื่องใหม่ การระบาดปี 2543-2544 ในเมืองกูลู ประเทศยูกันดา ผู้หญิงติดเชื้อมากกว่าผู้ชาย
ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากประเพณีที่ยกบทบาทความเป็นผู้นำของป้าหรือญาติผู้ใหญ่ที่เป็นผู้หญิง อาบน้ำให้ศพก่อนฝัง
ซึ่งพบเช่นกันในแอฟริกาตะวันตก

รายงานปี 2550 ขององค์การอนามัยโลก ระบุว่า การระบาดในซูดานเมื่อปี 2522 ผู้ติดเชื้ออีโบลาเป็นผู้หญิงถึงร้อยละ 69  

โทลเบิร์ต เยนวาห์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีสาธารณสุขไลบีเรีย กล่าวว่า ผู้หญิงในประเทศนี้แบกรับภาระอีโบลามากที่สุด
โดยเฉพาะในทางวัฒนธรรม ที่ถูกคาดหวังว่าจะต้องทำทุกอย่าง เมื่อเทียบกับบทบาทของผู้ชาย        


ผู้เชี่ยวชาญสาธารณสุข กล่าวว่า การทำความเข้าใจบทบาททางเพศสภาพ มีความสำคัญมากเพื่อให้การสื่อสารทำได้ตรงจุด
สตรีมีบทบาทสำคัญเสมือนท่อร้อยสายข้อมูลข่าวสารในชุมชมของพวกเธอ การเข้าถึงสตรี คือการเข้าถึงกลุ่มคนที่สามารถ
ปกป้องครอบครัวและทรัพย์สินของพวกเขาดีที่สุด ดังนั้น จึงควรยกระดับสตรีเป็นผู้นำในการรณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคมรณะนี้                    



ความทุกข์ของคนที่รอด



สำหรับผู้เชี่ยวชาญ อีโบลาเป็นไวรัสอันตราย แต่เป็นภัยคุกคามที่จัดการได้ เนื่องจากไวรัสจะไม่แพร่เชื้อจนกว่าคนไข้จะแสดงอาการ
คลอรีนและแสงแดด หรือการล้างด้วยสบู่อย่างถูกต้อง เชื้อก็ตายแล้ว หลีกเลี่ยงสารคัดหลั่งของผู้ป่วย นั่นคือหลีกเลี่ยงอีโบลาได้           

ครอบครัวที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก อีโบลาคือเพชฌฆาตไร้หัวใจ เป็นโรคที่เรียกร้องให้คนส่วนใหญ่ต้องหยาบกระด้างที่สุดต่อคนป่วย
คือ อยู่ให้ห่าง และบางทีความร้ายกาจของมันอาจไม่ใช่ปริศนาทางวิทยาศาสตร์ของโปรตีน 7 ชนิดในเชื้อไวรัสมรณะ
แต่เป็นความรัก เป็นความต้องการของมนุษย์ที่แสดงความห่วงใยและดูแล

หากใครในบ้านป่วย หนทางเดียวในการป้องกันตัวเอง คือไม่สัมผัสแตะต้อง หากพวกเขาสิ้นลม คนที่ยังอยู่ต้องออกจากบ้าน
แจ้งหน่วยงานที่รับผิดชอบมาเคลื่อนย้ายศพ จากนั้นเฝ้ารอดูบุคคลอันเป็นที่รักที่สุดถูกเก็บใส่ในถุงที่เหมือนถุงขยะ ขนขึ้นรถ  



เซย์เดย์ วิลเลียมสัน เทยเลอร์ นักจิตวิทยาที่เป็นอาสาสมัครให้คำปรึกษาสายฮอตไลน์อีโบลา กล่าวว่า พวกเราเคยอาบน้ำศพ เคยฝัง
เคยกอดปลอบใจกัน เมื่อถูกบอกว่าทำไม่ได้ มันเหมือนกับถูกปฏิเสธโอกาสให้คนที่ยังอยู่ ได้แสดงความรักเป็นครั้งสุดท้าย
ก่อนที่คนคนนั้นจะจากไปตลอดกาล

"และมันก็ยากเหลือเกินสำหรับคนป่วย ที่พยายามบอกว่ารักแต่ไม่สามารถแตะต้องได้ แต่นั่นคือสิ่งที่ต้องทำเพื่อคนที่จะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป"   






ความไว้ใจ เหยื่อที่มองไม่เห็น



นพ.ซามูเอล บริสเบน เป็นหมออาวุโสมากประสบการณ์และได้รับการเคารพยกย่องที่สุดคนหนึ่ง ที่โรงพยาบาลจอห์น เอฟเคนเนดี้ เมมโมเรียล
ในกรุงมอนโรเวีย แต่กลับติดเชื้ออีโบลาจากผู้ป่วยคนหนึ่งที่เกิดอาการหัวใจวาย

ผู้ป่วยคนนั้นไม่มีอาการปกติของอีโบลาเลย ไม่มีไข้ ไม่อาเจียน หรือท้องร่วง ไม่มีเลือดออก ไม่มีเหตุผลที่จะต้องใส่ชุดป้องกัน
เมื่อหัวใจคนไข้รายนั้นหยุดเต้น หมอบริสเบนทำซีพีอาร์ สอดท่อหายใจและติดเชื้อ  

ดร.วานนี สก็อต แมคโดนัลด์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจเอฟเค เล่าว่า ตอนที่เพื่อนร่วมงานไปงานฝังศพหมอบริสเบน เราทุกคนกลัว
ไม่กล้าสวมกอดและปลอบใจกัน  อีโบลาพรากสิ่งนี้และความเป็นมนุษย์ของเราไป ความโศกเศร้ามหาศาลแต่ความกลัวนั้นมากกว่า


การปกปิดว่าตัวเองติดเชื้อ เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ไม่ยากสำหรับ ลูซี บาร์ห พยาบาลผดุงครรภ์ที่โรงพยาบาลรีเดมชั่น ที่มีเพื่อนร่วมงาน
ติดเชื้อจากการดูแลญาติที่ป่วยคนหนึ่ง แต่เพื่อนของเธอไม่อยากตายอย่างโดดเดี่ยว โดยที่ไม่มีใครไปเยี่ยมเยียน
ไม่มีใครนำอาหารหรือน้ำไปให้ เพื่อนของเธออ้างว่าเป็นไทฟอยด์ พออาการไม่ดีขึ้น เธอกล่าวว่าอาจเป็นมาลาเรีย
แต่ขณะนั้น อาการบอกชัดแล้วว่าเป็นอีโบลา และก็สายเกินไปสำหรับคนที่ดูแลพยาบาลเธอ คนที่จัดยา หรือเทปัสสาวะให้
เพราะไม่มีใครสวมถุงมือเลย ทำให้ 4 คนเสียชีวิตหลังจากนั้น และโรงพยาบาลรีเดมชั่นปิดทำการสองสัปดาห์ ไม่ใช่เพื่อฆ่าเชื้อ แต่เพื่อทำใจ


บาร์ห กล่าวว่า อีโบลาอาศัยจุดอ่อนของเราอย่างความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และให้กำลังใจมีชีวิตอยู่ และเมื่อทำสำเร็จจากคนหนึ่งไปสู่รายใหม่
มันได้บั่นทอนความผูกพันที่มองไม่เห็นอีกอย่างระหว่างชาวไลบีเรีย เราต่างสงสัยกัน เราทุกคนกลัวที่จะทำงานด้วยกัน


เช่นเดียวกับ วิลเลียมสัน เทย์เลอร์ ที่กล่าวว่า สิ่งที่ไวรัสอีโบลากระทำแต่ไม่มีใครพูดถึง คือความไว้วางใจกันที่เสื่อมถอยลง
เป็นความเจ็บปวดยิ่งกว่าสำหรับประเทศที่เคยผ่านสงครามกลางเมืองอันโหดร้ายช่วงปี 2539-2546 เพราะนี่ไม่ใช่คนถือปืนมายิงกัน
เราไม่รู้ว่าใครอาจมีเชื้ออีโบลา เราไม่รู้อะไรเลย


ด้าน ดร.แมคโดนัลด์ จากโรงพยาบาลเจเอฟเค กล่าวว่า เพื่อนร่วมงานรู้สึกแย่หลังการเสียชีวิตของหมอบริสเบน
แม้ว่าตัวหมอไม่ได้ปิดบังเรื่องติดเชื้อ แต่การตายของหมอชัดเจนว่า ไม่ใช่แค่คนป่วยไร้ชื่อเสียงเรียงนามเท่านั้นที่นำความเสี่ยงมายังโรงพยาบาล
แต่อาจเป็นคนที่คุณทำงานด้วย คนที่คุณไว้ใจเชื่อมั่น และเห็นในโรงพยาบาลทุกวัน


สิ่งที่เปลี่ยนไปคือทุกคนต้องสวมถุงมือตลอดเวลา และ ดร.แมคโดนัลด์ ไม่ได้แตะหลังเพื่อนร่วมงานเวลาชมเชยให้กำลังใจทำงานดี
หรือจับแขนเพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเวลาดีใจ เธอกล่าวว่า ไม่ชอบสิ่งที่อีโบลาทำกับเธอในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง
เธอทำงานด้วยมนุษยธรรม แต่กลับมาเจอสถานการณ์แบบนี้ เธอรู้สึกโกรธ แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรแน่ ไม่รู้ด้วยซ้ำกำลังโกรธใครอยู่




---------------------------

(เปิดโลกวันอาทิตย์ : ผู้หญิงและความหวาดระแวง เหยื่อที่มองไม่เห็นของอีโบลา : โดย...อุไรวรรณ นอร์มา - ที่มาข้อมูล buzzfeed.com , washington post)

http://www.komchadluek.net/detail/20140824/190683.html
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่