กระทู้นี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงบ้างก็ขออภัย
ตอนนี้ผมพูดตรงๆ ว่าโคตรเน่าเฟะ ไม่มีการจัดการอย่างเป็นระบบเลย เอาง่ายๆเรื่องใกล้ตัว
อย่างข้อสอบที่เด็กจะใช้สอบเพื่อใช้คะแนนเทียบเข้ามหาลัยเนี้ยะ คือเรียนมาอีกอย่าง แต่ข้อสอบ
มาอีกอย่างแล้วจะไม่ให้เด็กมันไปเรียนกวดวิชาได้ยังไง ถ้าไม่ไปมันก็ไม่รู้จะเอาความรู้ที่ไหนไปสอบ
คนคิดระบบผมว่าโคตรมั่วเลย อย่างปลัดกระทรวงมีไอเดีย สมุดความดีอย่างเงี้ยะ ผมจึงไม่แปลกใจที่
ระบบการศึกษาไทยมันจึงเน่าเฟะอย่างทุกวันนี้ เรื่องคุณภาพของอาจารย์ก็อีกเรื่องหนึ่ง
ส่วนตัวผมเข้าใจท่านผู้คิดระบบว่าอยากให้นักเรียนมีความคิดรู้จักประยุกต์ใช้ หาความรู้รอบตัว แต่ท่าน
เริ่มต้นด้วยวิธีที่ผิด มันก็เลยมั่ว การจะสร้างระบบท่านต้องวางแผนโครงสร้างพื้นฐานบุคคลากร และเครื่องมือ
ต่างๆก่อน จากนั้นท่านจะต้องไปสำรวจหน้างานจริงนั้นคือโรงเรียนในแต่ละพื้นที่ต่างๆว่ามันพร้อมที่จะปฏิบัติ
ตามระบบที่ท่านวางรึเปล่า ถ้าพื้นที่ไหนไม่พร้อมก็ให้ปรับปรุงให้ทุกพื้นที่มีโครงสร้างพื้นฐานเหมือน หรือใกล้เคียง
กันก่อน จากนั้นก็ออกแบบหลักสูตรให้มันเหมาะสมกับบ้านเมืองเรา ไม่ใช่ไปดูงานที่ประเทศไหนแล้วก็จะเอาเหมือนเค้าเลย
ซึ่งการออกแบบหรือวางโครงสร้างหลักสูตรควรจะแยกการศึกษาและลงรายละเอียดเป็นรายวิชา เพื่อที่จะได้อัพเดทและปรับปรุง
แต่ละวิชาได้ทันตามยุคสมัย
พอออกแบบเสร็จก็จัดอบรมเพื่อให้บุคคลากรมีความเข้าใจที่ตรงกันในระบบที่ท่านสร้าง เพื่อที่จะได้ระบบ Input=Output
ซึ่งจะได้เปอร์เซ็นความสำเร็จ 100% ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการในแต่ละพื้นที่นั้นๆ
แต่ทุกวันนี้ คือ 100 มาตราฐาน ไม่แปลกใจที่การศึกษาไทยแพ้กัมพูชา ส่วนตัวอยากให้ผู้บริหารกระทรวงใช้สมองบริหารมากกว่านี้
หน่อยนะครับอย่าคิดอะไรตื้นๆ หรือนั่งเทียนเอา หรือ ไปดูงาน(ไปเที่ยวด้วย)ที่ต่างประเทศแล้วก็จำๆมาทำโดยไม่มีการศึกษาให้เข้าใจท่องแท้
ปล. ไม่รู้ว่าท่าน คสช จะเห็นปัญหานี้หรือเปล่านะครับ
อยากให้ คสช ปฏิรูป ระบบการศึกษาไทย มากกว่าเรื่องอื่น
ตอนนี้ผมพูดตรงๆ ว่าโคตรเน่าเฟะ ไม่มีการจัดการอย่างเป็นระบบเลย เอาง่ายๆเรื่องใกล้ตัว
อย่างข้อสอบที่เด็กจะใช้สอบเพื่อใช้คะแนนเทียบเข้ามหาลัยเนี้ยะ คือเรียนมาอีกอย่าง แต่ข้อสอบ
มาอีกอย่างแล้วจะไม่ให้เด็กมันไปเรียนกวดวิชาได้ยังไง ถ้าไม่ไปมันก็ไม่รู้จะเอาความรู้ที่ไหนไปสอบ
คนคิดระบบผมว่าโคตรมั่วเลย อย่างปลัดกระทรวงมีไอเดีย สมุดความดีอย่างเงี้ยะ ผมจึงไม่แปลกใจที่
ระบบการศึกษาไทยมันจึงเน่าเฟะอย่างทุกวันนี้ เรื่องคุณภาพของอาจารย์ก็อีกเรื่องหนึ่ง
ส่วนตัวผมเข้าใจท่านผู้คิดระบบว่าอยากให้นักเรียนมีความคิดรู้จักประยุกต์ใช้ หาความรู้รอบตัว แต่ท่าน
เริ่มต้นด้วยวิธีที่ผิด มันก็เลยมั่ว การจะสร้างระบบท่านต้องวางแผนโครงสร้างพื้นฐานบุคคลากร และเครื่องมือ
ต่างๆก่อน จากนั้นท่านจะต้องไปสำรวจหน้างานจริงนั้นคือโรงเรียนในแต่ละพื้นที่ต่างๆว่ามันพร้อมที่จะปฏิบัติ
ตามระบบที่ท่านวางรึเปล่า ถ้าพื้นที่ไหนไม่พร้อมก็ให้ปรับปรุงให้ทุกพื้นที่มีโครงสร้างพื้นฐานเหมือน หรือใกล้เคียง
กันก่อน จากนั้นก็ออกแบบหลักสูตรให้มันเหมาะสมกับบ้านเมืองเรา ไม่ใช่ไปดูงานที่ประเทศไหนแล้วก็จะเอาเหมือนเค้าเลย
ซึ่งการออกแบบหรือวางโครงสร้างหลักสูตรควรจะแยกการศึกษาและลงรายละเอียดเป็นรายวิชา เพื่อที่จะได้อัพเดทและปรับปรุง
แต่ละวิชาได้ทันตามยุคสมัย
พอออกแบบเสร็จก็จัดอบรมเพื่อให้บุคคลากรมีความเข้าใจที่ตรงกันในระบบที่ท่านสร้าง เพื่อที่จะได้ระบบ Input=Output
ซึ่งจะได้เปอร์เซ็นความสำเร็จ 100% ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการในแต่ละพื้นที่นั้นๆ
แต่ทุกวันนี้ คือ 100 มาตราฐาน ไม่แปลกใจที่การศึกษาไทยแพ้กัมพูชา ส่วนตัวอยากให้ผู้บริหารกระทรวงใช้สมองบริหารมากกว่านี้
หน่อยนะครับอย่าคิดอะไรตื้นๆ หรือนั่งเทียนเอา หรือ ไปดูงาน(ไปเที่ยวด้วย)ที่ต่างประเทศแล้วก็จำๆมาทำโดยไม่มีการศึกษาให้เข้าใจท่องแท้
ปล. ไม่รู้ว่าท่าน คสช จะเห็นปัญหานี้หรือเปล่านะครับ