ขุ่นพระ.......จ่าตกใจ.......!!!!!
นักการเมืองอินเดียทะเลาะกันด้วยเรื่อง "บิกีนี่" ..!!!
แถมประเด็นที่ซัดกันนั้น ไม่ใช่เรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้ง
เพราะซัดกันถึงขั้นว่าเป็นประเด็นในความเป็น "มหาอำนาจ" เลย
ฝ่ายหัวก้าวหน้าออกมาสาวหมัดซัดรัฐบาลรัฐกัวในเรื่องของ "นโยบายบิกินี่"
โดยระบุว่าการมีแนวคิดห้ามสาวๆนุ่งบิกินี่บนชายหาดนั้นมันคือวิธีคิดที่ "คร่ำครึ"
เพราะชายหาดมันคือที่พักผ่อนหย่อนใจ และ ทุกคนควรมีเสรีภาพในการใส่บิกินี่ตามที่อยากใส่
ทำไมล่ะ....ก็อยากใส่ซะอย่าง ..!!!!!!
ส่วนฝ่ายที่สนับสนุนรัฐบาลในนโยบายนี้
ก็ออกมาสวนหมัดว่า "บิกินี่อาจเป็นอุปสรรคต่อการเป็นมหาอำนาจ"
บระเจ้าาาาาาาาา.......บิกินี่ กับ มหาอำนาจ....!!!!!
ฝ่ายสนับสนุนห้ามนุ่งบิกินี่มีแนวคิดว่า
การเป็นมหาอำนาจนั้นต้องมีความเข้มแข็งทางวัฒธรรม
และเมื่ออินเดียมีรากเหง้าของวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง แล้วเหตุใดจึงยอมให้บิกินี่มาทำลาย และ ขวางกั้นการเป็นมหาอำนาจ
อีกทั้งการห้ามนั่นก็ไม่ได้ห้ามหมด
เพราะสาวๆสามารถใส่บิกินี่ได้ใน Private beach
ที่มีการเก็บค่าเข้าชายหาดนำรายได้เป็นภาษีส่งเข้ารัฐอีกต่างหาก
สาวแขกหุ่นสวย
ฝ่ายหัวกัาวหน้าก็ไม่ยอมแหละครับ
เพราะยังคงยืนยันสิทธิเสรีภาพในการแต่งกาย
และ แย้งว่าประเทศมหาอำนาจทั้งหลายอย่างอังกฤษ , อเมริกา , ฝรั่งเศส ฯลฯ ผู้คนก็ใส่บิกินี่ก้นเป็นปกติ
จ่าเชียร์ไอ้พวกหัวก้าวหน้าขอรับ....แหะ แหะ.....
เรื่องบิกินี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะครัฟฟฟ
"มาจา พาฟโลวิค" นักการเมืองสาวสวยชาวเซอร์เบียร์
ได้รับการโหวตว่าเป็นนักการเมืองที่เซ็กซี่ที่สุด เพราะเธอใส่บิกินี่อวดสายตาชาวโลกครับ
มาจา
มาจาผู้ซึ่งจริงๆแล้วเป็น heart specialist
ได้เข้าประกวด Women’s Bikini Fitness Contest ในยุโรป
และ สามารถคว้าเหรียญทองจากการประกวด ในชุดบิกินี่ที่ทำเอาเสือป่าแมวเซาเลือดกำเดาทะลัก
แม้จะร่ำเรียนในโรงเรียนแพทย์ที่เซอร์เบีย
แต่มาจากลับเลือกที่จะไม่เป็นทั้ง นางแบบ หรือ หมอ
เพราะเธอสนุกกับการเป็นสมาชิกสภาเมือง Cacak ในทางตอนใต้ของเซอร์เบียร์ครัฟฟฟ
แจ่มมั๊ยล่ะ...น้องมาจา
และ แน่นอนว่าตอนนี้เธอคือนักการเมืองที่เซ็กซี่ที่สุด ....!!!!!!
ที่เมืองจีนก็มีเรื่องของบิกินี่ครัฟฟฟฟ
ถึงขนาดทำให้นักการเมืองออกมาพูดเอาหล่อ พูดเอาเท่ห์ กันมากมาย
เพราะดันมีงานแสดงอุปรากรจีนที่แต่งหน้าแบบงิ้ว แต่ตัวแสดงดันใส่บิกินี่
ภาพจากงานที่มีปัญหา
ทั้งนักการเมือง ทั้งคนประเภท "ราษฎรอาวุโส"
ก็เลยได้ทีออกมาแสดงความเป็น "คนดี" กันยกใหญ่
ด้วยการตำหนิว่าการเอา "บิกินี่" มารวมกับ "งิ้ว" นั้นช่างเป็นอะไรที่ "รับไม่ได้"
เพราะมันคือการทำงายความบริสุทธิ์ของจีน ทำลายประวัติศาสตร์ของจีน
ทำอย่างกับการที่สาวจีนใส่บิกินี่เป็นอาชญากรรม
โอวววววว.....จ่าก็เพิ่งรู้
ว่าจีนก็ดัดจริตเป็นกับเขาเหมือนกัน
ผู้หญิงกับบิกินี่เป็นของคู่กัน
ไม่ว่าสาวๆชาติไหนก็ชอบกันทั้งนั้น
เรื่องของชุดชั้นใน ,เรื่องของบีกินี่นั้นไม่ใช่เรื่องเล็กๆเลยนะครัฟฟ
"นีน่า กราเซียส์" เป็นดีไซเนอร์ของ มาร์ค เจค็อบส์
และ ยังเคยเป็น ผอ.ฝ่ายแฟชั่นของนิตยสาร มารี แคลร พูดไว้ได้น่าสนใจมาก
ในฐานะคนที่ทำมาหารับประทานอยู่ในแวดวงแฟชั่น นีน่าให้ความสำคัญกับเรื่องของชุดชั้นในมากๆ
นีน่าบอกว่าชุดชั้นในคือโลกแห่งความมหัศจรรย์ของผู้หญิงเลยก็ว่าได้
นีน่าแกเขียนหนังสือมา 1 เล่ม ชื่อว่า The one hundred
ประมาณว่าเป็นของ 100 อย่างที่สาวๆควรจะต้องมีไว้กันทุกคน
นีน่าแกยกย่องว่า
สิ่งประดิษฐ์ที่สุดยอดที่สุดในศตวรรษที่ 20
ก็คือ พุช อัพ บรา หรือ "บราดันทรง" ครัฟฟฟฟ
เพราะมันช่วยให้สาวๆได้มี "ร่องอก" ที่ตื่นตาตื่นใจ
เป็นนวัตกรรมที่เปลี่ยนโลกของผู้หญิงอย่างแท้จริง (อันนี้นีน่าไม่ได้พูดหรอก แต่จ่าพูดเอง...แหะ แหะ)
พุช อัพ บรา
แม้แต่ซุปเปอร์โมเดลหลายต่อหลายคน
ก็ยังใช้ พุช อัพ บรา มาเสริมร่องอกให้ดูเย้ายวน
มีแน่ๆคนนึงก็คือ เคท มอสส์ นี่แหละครับที่ยอมรับว่าเธอใช้พุช อัพ บรา
เคทบอกว่าแทบจะขาดมันไม่ได้เลย และมีร่องอกสวยได้ก็เพราะมันนี่แหละ
น้องเคท
พุช อัพ บรา เป็นนวัตกรรมจากอังกฤษ
ที่ผลิตขึ้นในปี 1994 ครับ...และแน่นอนว่ามันข้ามฝั่งไปอเมริกาอย่างเร็วไว
ที่สำคัญมันได้รับการต้อนรับ
และได้รับความนิยมประมาณว่าเป็น "พ็อพ คัลเจอร์" ได้เลย
(ข้อนี้นีน่าก็ไม่ได้พูดนะครัฟฟฟฟ.....จ่าก็พูดของจ่าเองอีกเช่นกัน)
เพราะอะไรที่เป็นวัฒนธรรมร่วมสมัย
และเป็นที่นิยม มันก็น่าจะเป็น "พ็อบ คัลเจอร์" อยู่หรอก
เอริน ฮีทเธอตัน กับ พุช อัพ บรา
ตอนที่ พุช อัพ บรา มาถึงอเมริกานั้น
สาวๆตื่นเต้นกันมาก และทำยอดขายได้มโหฬาร
มโหฬารขนาดไหน.....ก็ขนาด 15 วินาทีขายได้ 1 ตัวเลยแหละ
พุช อัพ บรา ของ วิคทอเรีย ซิคเคร็ท
นอกจาก พุช อัพ บรา ที่ทรงอิทธิพลแล้ว
นีน่ายังยกย่อง "บิกินี่" ว่าเป็นอีก 1 ในสิ่งที่สาวๆต้องมี
จ่ามองว่าบิกินี่มันทำให้ชีวิตมี "ไฟ" ครัฟฟฟฟ
อาจไม่มีใครรู้ว่าเราใส่บิกินี่
แต่หากเรารู้ตัวเองว่าเราใส่อยู่ (หรือคนใกล้ตัวเราใส่อยู่)
มันทำให้ "ไฟ" ในตัวของเราคุโชน.........จ่าเชื่อแบบนั้น
ที่สำคัญมันเย้ายวนและอีโรติค
จนทำให้ทั้ง "คนใส่" และ "คนข้างกายของคนใส่" กระชุ่มกระชวยได้อย่างไม่น่าเชื่อ....
โบ ดีเร็ค ผู้หญิงที่ได้คะแนนเต็ม "10"
โมนิก้า เบลลุคชี่... ของดีอิตาเลี่ยน
คิม เบซิงเจอร์ ในช่วงที่ hot สุดขีด
จริงๆแล้วตอนที่ หลุยส์ เรอาร์ด และ ชาร์ก แอมม์
ได้ช่วยกันคิดออกแบบไอ้สิ่งที่เราเรียกว่าบิกกินี่ออกมานั้น
ทั้งคู่ยังงงๆ และไม่รู้เลยว่าจะตั้งชื่อสิ่งประดิษฐ์นี้ว่าอะไรดี
แต่พอดีมีการทดลองระเบิดนิวเคลียร์
ที่เกาะเล็กๆแห่งหนึ่งชื่อว่า "บิกินี่ อาดอลล์"
ทั้งคู่ก็เลยปิ๊งไอเดีย และตัดสินใจใช้ชื่อมันว่า "บิกินี่"
โดยหารู้ไม่ว่าผ้าผืนเล็กๆจิ๋วๆ 2 ชิ้นที่เขาสร้างมันขึ้นมา
มันจะมีพลานุภาพไม่ต่างไปจากระเบิดนิวเคลียร์ต่อความรู้สึกของผู้ชายซะจริงๆ
คิม คาร์เดเชี่ยน.....มีดีเลยกล้าโชว์
ไม่น่าเชื่อว่า "บิกินี่" จะเกี่ยวกับการเมือง
จนเป็นประเด็นให้นักการเมืองหลายๆชาติได้ซัดกัน
โธ่....แม้ขนาดชื่อของมัน ยังมีที่มาจากความตรึงเครียดของการเมืองระหว่างประเทศ
ถึงขนาดต้องมีการคิดค้นระเบิดที่มีประสิทธิภาพในการทำลายล้าง จนเป็นที่มาของชื่อ "บิกินี่" เลย
เจสสิก้า อัลบ้า.....มินิก็โชว์ได้
เจ โล.....ไม่แน่จริงไม่โชว์หรอก
จ่าขอชื่นชม "ผู้หญิงของโลกนี้" ทุกๆคน
ที่ใส่บิกินี่และได้ทำบุญให้กับผู้ชายทั้งโลกได้กระชุ่มกระชวยครัฟฟฟ
จ่าพิเชษฐ์
เฮ้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ..........จ่าขอตั้งชื่อว่า "บิกินี่ กับ การเมือง" .....!!!!!!!!!!!!!!
นักการเมืองอินเดียทะเลาะกันด้วยเรื่อง "บิกีนี่" ..!!!
แถมประเด็นที่ซัดกันนั้น ไม่ใช่เรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้ง
เพราะซัดกันถึงขั้นว่าเป็นประเด็นในความเป็น "มหาอำนาจ" เลย
ฝ่ายหัวก้าวหน้าออกมาสาวหมัดซัดรัฐบาลรัฐกัวในเรื่องของ "นโยบายบิกินี่"
โดยระบุว่าการมีแนวคิดห้ามสาวๆนุ่งบิกินี่บนชายหาดนั้นมันคือวิธีคิดที่ "คร่ำครึ"
เพราะชายหาดมันคือที่พักผ่อนหย่อนใจ และ ทุกคนควรมีเสรีภาพในการใส่บิกินี่ตามที่อยากใส่
ทำไมล่ะ....ก็อยากใส่ซะอย่าง ..!!!!!!
ส่วนฝ่ายที่สนับสนุนรัฐบาลในนโยบายนี้
ก็ออกมาสวนหมัดว่า "บิกินี่อาจเป็นอุปสรรคต่อการเป็นมหาอำนาจ"
บระเจ้าาาาาาาาา.......บิกินี่ กับ มหาอำนาจ....!!!!!
ฝ่ายสนับสนุนห้ามนุ่งบิกินี่มีแนวคิดว่า
การเป็นมหาอำนาจนั้นต้องมีความเข้มแข็งทางวัฒธรรม
และเมื่ออินเดียมีรากเหง้าของวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง แล้วเหตุใดจึงยอมให้บิกินี่มาทำลาย และ ขวางกั้นการเป็นมหาอำนาจ
อีกทั้งการห้ามนั่นก็ไม่ได้ห้ามหมด
เพราะสาวๆสามารถใส่บิกินี่ได้ใน Private beach
ที่มีการเก็บค่าเข้าชายหาดนำรายได้เป็นภาษีส่งเข้ารัฐอีกต่างหาก
สาวแขกหุ่นสวย
ฝ่ายหัวกัาวหน้าก็ไม่ยอมแหละครับ
เพราะยังคงยืนยันสิทธิเสรีภาพในการแต่งกาย
และ แย้งว่าประเทศมหาอำนาจทั้งหลายอย่างอังกฤษ , อเมริกา , ฝรั่งเศส ฯลฯ ผู้คนก็ใส่บิกินี่ก้นเป็นปกติ
จ่าเชียร์ไอ้พวกหัวก้าวหน้าขอรับ....แหะ แหะ.....
เรื่องบิกินี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะครัฟฟฟ
"มาจา พาฟโลวิค" นักการเมืองสาวสวยชาวเซอร์เบียร์
ได้รับการโหวตว่าเป็นนักการเมืองที่เซ็กซี่ที่สุด เพราะเธอใส่บิกินี่อวดสายตาชาวโลกครับ
มาจา
มาจาผู้ซึ่งจริงๆแล้วเป็น heart specialist
ได้เข้าประกวด Women’s Bikini Fitness Contest ในยุโรป
และ สามารถคว้าเหรียญทองจากการประกวด ในชุดบิกินี่ที่ทำเอาเสือป่าแมวเซาเลือดกำเดาทะลัก
แม้จะร่ำเรียนในโรงเรียนแพทย์ที่เซอร์เบีย
แต่มาจากลับเลือกที่จะไม่เป็นทั้ง นางแบบ หรือ หมอ
เพราะเธอสนุกกับการเป็นสมาชิกสภาเมือง Cacak ในทางตอนใต้ของเซอร์เบียร์ครัฟฟฟ
แจ่มมั๊ยล่ะ...น้องมาจา
และ แน่นอนว่าตอนนี้เธอคือนักการเมืองที่เซ็กซี่ที่สุด ....!!!!!!
ที่เมืองจีนก็มีเรื่องของบิกินี่ครัฟฟฟฟ
ถึงขนาดทำให้นักการเมืองออกมาพูดเอาหล่อ พูดเอาเท่ห์ กันมากมาย
เพราะดันมีงานแสดงอุปรากรจีนที่แต่งหน้าแบบงิ้ว แต่ตัวแสดงดันใส่บิกินี่
ภาพจากงานที่มีปัญหา
ทั้งนักการเมือง ทั้งคนประเภท "ราษฎรอาวุโส"
ก็เลยได้ทีออกมาแสดงความเป็น "คนดี" กันยกใหญ่
ด้วยการตำหนิว่าการเอา "บิกินี่" มารวมกับ "งิ้ว" นั้นช่างเป็นอะไรที่ "รับไม่ได้"
เพราะมันคือการทำงายความบริสุทธิ์ของจีน ทำลายประวัติศาสตร์ของจีน
ทำอย่างกับการที่สาวจีนใส่บิกินี่เป็นอาชญากรรม
โอวววววว.....จ่าก็เพิ่งรู้
ว่าจีนก็ดัดจริตเป็นกับเขาเหมือนกัน
ผู้หญิงกับบิกินี่เป็นของคู่กัน
ไม่ว่าสาวๆชาติไหนก็ชอบกันทั้งนั้น
เรื่องของชุดชั้นใน ,เรื่องของบีกินี่นั้นไม่ใช่เรื่องเล็กๆเลยนะครัฟฟ
"นีน่า กราเซียส์" เป็นดีไซเนอร์ของ มาร์ค เจค็อบส์
และ ยังเคยเป็น ผอ.ฝ่ายแฟชั่นของนิตยสาร มารี แคลร พูดไว้ได้น่าสนใจมาก
ในฐานะคนที่ทำมาหารับประทานอยู่ในแวดวงแฟชั่น นีน่าให้ความสำคัญกับเรื่องของชุดชั้นในมากๆ
นีน่าบอกว่าชุดชั้นในคือโลกแห่งความมหัศจรรย์ของผู้หญิงเลยก็ว่าได้
นีน่าแกเขียนหนังสือมา 1 เล่ม ชื่อว่า The one hundred
ประมาณว่าเป็นของ 100 อย่างที่สาวๆควรจะต้องมีไว้กันทุกคน
นีน่าแกยกย่องว่า
สิ่งประดิษฐ์ที่สุดยอดที่สุดในศตวรรษที่ 20
ก็คือ พุช อัพ บรา หรือ "บราดันทรง" ครัฟฟฟฟ
เพราะมันช่วยให้สาวๆได้มี "ร่องอก" ที่ตื่นตาตื่นใจ
เป็นนวัตกรรมที่เปลี่ยนโลกของผู้หญิงอย่างแท้จริง (อันนี้นีน่าไม่ได้พูดหรอก แต่จ่าพูดเอง...แหะ แหะ)
พุช อัพ บรา
แม้แต่ซุปเปอร์โมเดลหลายต่อหลายคน
ก็ยังใช้ พุช อัพ บรา มาเสริมร่องอกให้ดูเย้ายวน
มีแน่ๆคนนึงก็คือ เคท มอสส์ นี่แหละครับที่ยอมรับว่าเธอใช้พุช อัพ บรา
เคทบอกว่าแทบจะขาดมันไม่ได้เลย และมีร่องอกสวยได้ก็เพราะมันนี่แหละ
น้องเคท
พุช อัพ บรา เป็นนวัตกรรมจากอังกฤษ
ที่ผลิตขึ้นในปี 1994 ครับ...และแน่นอนว่ามันข้ามฝั่งไปอเมริกาอย่างเร็วไว
ที่สำคัญมันได้รับการต้อนรับ
และได้รับความนิยมประมาณว่าเป็น "พ็อพ คัลเจอร์" ได้เลย
(ข้อนี้นีน่าก็ไม่ได้พูดนะครัฟฟฟฟ.....จ่าก็พูดของจ่าเองอีกเช่นกัน)
เพราะอะไรที่เป็นวัฒนธรรมร่วมสมัย
และเป็นที่นิยม มันก็น่าจะเป็น "พ็อบ คัลเจอร์" อยู่หรอก
เอริน ฮีทเธอตัน กับ พุช อัพ บรา
ตอนที่ พุช อัพ บรา มาถึงอเมริกานั้น
สาวๆตื่นเต้นกันมาก และทำยอดขายได้มโหฬาร
มโหฬารขนาดไหน.....ก็ขนาด 15 วินาทีขายได้ 1 ตัวเลยแหละ
พุช อัพ บรา ของ วิคทอเรีย ซิคเคร็ท
นอกจาก พุช อัพ บรา ที่ทรงอิทธิพลแล้ว
นีน่ายังยกย่อง "บิกินี่" ว่าเป็นอีก 1 ในสิ่งที่สาวๆต้องมี
จ่ามองว่าบิกินี่มันทำให้ชีวิตมี "ไฟ" ครัฟฟฟฟ
อาจไม่มีใครรู้ว่าเราใส่บิกินี่
แต่หากเรารู้ตัวเองว่าเราใส่อยู่ (หรือคนใกล้ตัวเราใส่อยู่)
มันทำให้ "ไฟ" ในตัวของเราคุโชน.........จ่าเชื่อแบบนั้น
ที่สำคัญมันเย้ายวนและอีโรติค
จนทำให้ทั้ง "คนใส่" และ "คนข้างกายของคนใส่" กระชุ่มกระชวยได้อย่างไม่น่าเชื่อ....
โบ ดีเร็ค ผู้หญิงที่ได้คะแนนเต็ม "10"
โมนิก้า เบลลุคชี่... ของดีอิตาเลี่ยน
คิม เบซิงเจอร์ ในช่วงที่ hot สุดขีด
จริงๆแล้วตอนที่ หลุยส์ เรอาร์ด และ ชาร์ก แอมม์
ได้ช่วยกันคิดออกแบบไอ้สิ่งที่เราเรียกว่าบิกกินี่ออกมานั้น
ทั้งคู่ยังงงๆ และไม่รู้เลยว่าจะตั้งชื่อสิ่งประดิษฐ์นี้ว่าอะไรดี
แต่พอดีมีการทดลองระเบิดนิวเคลียร์
ที่เกาะเล็กๆแห่งหนึ่งชื่อว่า "บิกินี่ อาดอลล์"
ทั้งคู่ก็เลยปิ๊งไอเดีย และตัดสินใจใช้ชื่อมันว่า "บิกินี่"
โดยหารู้ไม่ว่าผ้าผืนเล็กๆจิ๋วๆ 2 ชิ้นที่เขาสร้างมันขึ้นมา
มันจะมีพลานุภาพไม่ต่างไปจากระเบิดนิวเคลียร์ต่อความรู้สึกของผู้ชายซะจริงๆ
คิม คาร์เดเชี่ยน.....มีดีเลยกล้าโชว์
ไม่น่าเชื่อว่า "บิกินี่" จะเกี่ยวกับการเมือง
จนเป็นประเด็นให้นักการเมืองหลายๆชาติได้ซัดกัน
โธ่....แม้ขนาดชื่อของมัน ยังมีที่มาจากความตรึงเครียดของการเมืองระหว่างประเทศ
ถึงขนาดต้องมีการคิดค้นระเบิดที่มีประสิทธิภาพในการทำลายล้าง จนเป็นที่มาของชื่อ "บิกินี่" เลย
เจสสิก้า อัลบ้า.....มินิก็โชว์ได้
เจ โล.....ไม่แน่จริงไม่โชว์หรอก
จ่าขอชื่นชม "ผู้หญิงของโลกนี้" ทุกๆคน
ที่ใส่บิกินี่และได้ทำบุญให้กับผู้ชายทั้งโลกได้กระชุ่มกระชวยครัฟฟฟ
จ่าพิเชษฐ์