Hormones The Series 2 So Far (รีวิว+วิเคราะห์ 5 ตอนแรก)
เมื่อซีรี่ส์ที่คนพูดถึงกันมากเดินทางมาซีซั่นสองและผ่านไปห้าตอนแล้ว ผมเองก็อยากจะเปรียบเทียบและพูดถึงความคิดเห็นส่วนตัวกับเนื้อเรื่องที่ผ่านมาบ้างเหมือนกัน โดยเมื่อดูเครดิตของ ผกก. ใหม่ (เกรียงไกร วชิรธรรมพร) แล้วไม่ค่อยมีปูมหลังให้พูดคุยอะไรได้มาก แต่หลังจากดูมา 5 ตอนแล้วก็เริ่มรู้สึกข้อดีข้อเสียมาเปรียบเทียบกับ ผกก. ทรงยศ สุขมากอนันต์ ของซีซั่นก่อนได้อยู่
ในความรู้สึกส่วนตัว ผกก. ทรงยศ ที่มีพื้นหลังมาจากภาพยนตร์ จะทำได้ดีมากในแง่การจับงานภาพมาเข้าคู่กับเนื้อเรื่องหรืออารมณ์ในตอนนั้นของตัวละครพอดี เพื่อให้มันเสริมกันและกัน จนถึงตอนนี้ยังจำหลายฉากในซีซั่นก่อนลอยมากับตัวละครได้ดี ไม่ว่าจะโมเม้นเบลอๆของสไปรท์กับไผ่ตอนบอกความรู้สึกกันครั้งแรก หรือ หลังดาวตื่นขึ้นมาจากหนึ่งคืนกับดินแล้ว guilty สุดขีด ซีซั่นที่แล้วรู้สึกว่ามันมีความเป็นภาพยนตร์ (cinematic) กว่าหน่อย รวมทั้งสอดแทรก soundtrack (ทั้งเพลงและดนตรี) เป็นแบ็คกราวด์ในเนื้อเรื่องได้เนียนกว่าซีซั่นนี้ เหมือนช่วงพีคของซีซั่นหนึ่งมันเหนือกว่า
แต่ที่คิดว่าซีซั่นนี้ดีกว่าคือในแง่ long-term storytelling หรือการเล่าเรื่องระยะยาวแบบเป็น series จริงๆ เพราะซีซันหนึ่ง (ในความเห็นส่วนตัวอีกนั่นแหละ) หลังสตาร์ทเครื่องสองสามตอนแรกมาแล้ว มันจะดีสุดเวลาโฟกัสที่ตัวละครเนื้อเรื่องเดียว (ขอยกตอน ดาวกลัวท้อง ให้เป็นตอน top 2 ของฮอร์โมนเลย) แต่พอถึงตอนที่มีตัวละครเยอะๆ ก็เริ่มรู้สึกถึงความสะเปะสะปะบ้าง ยิ่งถ้าตอนไหนมีเนื้อเรื่องน้อย เช่น ตอนของขวัญที่แบ่งออกเป็นสองตอน ยิ่งยืดสุดๆ แถมยังตอนสุดท้ายยังจบมาขมวดกันได้ไม่ดีอีก ในขณะที่ซีซั่นสอง มีความรู้สึกว่าคนทำขยันหยอดบทพูด ปมตัวละคร และอะไรต่างๆ ให้หลายคนสามารถเดินเรื่องควบคู่ไปข้างหน้าร่วมกับตัวละครหลักของตอนนั้นๆได้อีกด้วย อย่างตอนที่สองของธีร์ที่เนื้อเรื่องน้อย ยังสามารถจบได้ดีมากและน่าจดจำ แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับตอนปลายของซีซั่น ว่าที่ปูและดำเนินควบคู่กันมาขนาดนี้สามารถขมวดจบเข้าด้วยกันได้สวยไหม (แต่ผมรู้สึกว่าน่าจะดีกว่าซีซั่นที่แล้ว เพราะมันมีอารมณ์ว่าเนื้อเรื่องมัน build มาเรื่อยๆและยังมีหลายตัวละครที่เตรียมเข้ามาประสานในเนื้อเรื่องต่ออีก)
ก่อนพูดถึงแบบแยกตอน อยากบอกว่าซีซั่นนี้ ทั้งนักแสดงและตัวละครผู้หญิงก็ยังกินขนาดชนะผู้ชายเหมือนเดิม ไม่รู้ว่าเพราะบทวัยรุ่นผู้หญิงโดยธรรมชาติมันมีอะไรน่าสนใจให้เขียนเป็นน้ำเป็นเนื้อกว่า หรือนักแสดงวัยรุ่นผู้ชายเล่นบทได้เข้าถึงไม่เท่าผู้หญิง (แต่พอดูจากหนังเมืองนอกที่นักแสดงหรือตัวละครเป็นวัยรุ่นแล้ว อาจจะเป็นกรณีหลัง) โดยมีวินคนเดียวที่รู้สึกถึงความมีเลือดเนื้อได้สมบูรณ์สุดในกลุ่มผู้ชาย ซีซั่นนี้ยังเริ่มมี pattern โผล่ขึ้นมา คือจะแต่ละตอนจะเล่น ประเด็น>ความสัมพันธ์>ประเด็น วนไปมา ซึ่งตอนของประเด็นดูจะแน่นกว่า เพราะนอกจากตัวละครแล้วซีรี่ส์ยังสามารถมี theme ให้เล่นคู่ไปด้วยได้
Ep.1 "รักกรุ้มกริ่ม" (B+) ชอบอันนี้มากกว่าตอนเปิดตัวของซีซั่นที่แล้ว เพราะรู้สึกว่า การวาง/แบ่ง ตัวละคร ประเด็น และจังหวะเนื้อเรื่องมันมีชีวิตชีวามาก และชอบความ meta (คอมเม้นตัวเอง) ที่เอาสิ่งที่เกิดกับซีรี่ส์จริงๆขึ้นมาพูด จนแอบนึกถึง Community ไม่ได้ ถ้าไม่ติดว่าตอนท้ายมันกดประเด็นหนักมือไปนิดอาจให้สูงกว่านี้
Ep.2 "ธีร์" (B-) รู้สึกเนือยมากๆ เพราะเน้นแต่ความสัมพันธ์เน้นๆไม่ค่อยมีอะไรอื่นเจือปน แถมฉากเพลง ถึงเพราะและเข้ากันได้ดี ยังรู้สึกว่ามันทื่อๆและนานเกินไป แต่อย่างที่บอกข้างต้น แม้ในตอนที่เนื้อหาน้อยอย่างนี้ มันยังสามารถขมวดมาจบได้สวยและมีอารมณ์ร่วมได้อยู่
Ep.3 "เต้ย" (A) อันนี้แข่งกับตอนของดาวซีซั่นที่แล้วในการเป็นตอนที่ผมชอบที่สุดของซีรี่ส์เลยทีเดียว แต่อย่างว่าแหละ ให้ material ที่แข็งแรงที่สุดกับนักแสดงที่เล่นดีที่สุดในฮอร์โมน (ปันปัน) ผลลัพธ์เลยออกมาเป็นอย่างนี้ และตอนนี้ยังได้ประโยชน์จากเหตุการณ์ข่าวปัจจุบันอีกด้วย เหมือนที่ซีซั่นที่แล้วข่าวของปันปันมาพร้อมกับเนื้อเรื่องของขวัญพอดี ซึ่งถึงแม้ประเด็นมันอ่อนไหวและมีโอกาสทำพลาดได้ง่าย แต่ผมแทบลุกปรบมือ เมื่อการ depict ความรุนแรงทางเพศสามารถถูกถ่ายทอดออกมาในความกดดันและน่ากลัว (พร้อมพูดถึงผลกระทบทางจิตใจของเหยื่อ) ได้อย่างสมจริงอย่างที่มันควรจะเป็น หลังสื่อละครบ้านเราส่วนใหญ่เอาไป soften เป็นสิ่งลงโทษนางร้ายหรือให้ชวนฟินมาเสียนาน
Ep.4 "ดาว-ก้อย" (B) เป็นตอนความสัมพันธ์ที่เข้าคู่กับการสำรวจ identity ที่ไม่มั่นคงของวัยรุ่น (ดาว-ก้อย, ภู) ได้ดีพอควร แต่ก็ยังรู้สึกว่าเนื้อเรื่องมันเบาบางจนเข้าขั้นเน่าบ้างในบางที ยังดีที่ฝนเป็นนักแสดงที่เล่นฉากยากๆได้อยู่หมัดเช่นเคย (และเบลล์ก็ตีคู่มาได้ไม่แพ้กัน)
Ep.5 "ภู" (B+) แปลกใจที่ตัวเองชอบตอนนี้อยู่เหมือนกัน (และดูเหมือนจะชอบมากกว่าคนส่วนใหญ่ด้วย) เพราะโดยปกติรู้สึกว่าภูเป็นตัวละครที่น่าเบื่อมาก คือเว้นจากประเด็น sexual identity ของเขาแล้ว นิสัยก็ดูค่อนข้างตรงๆทื่อๆไม่มีอะไร แต่ชอบที่ตอนนี้เอาความทื่อ(และเอาแต่ใจ)จนทำร้ายจิตใจหลายคนมาสำรวจและเล่นใส่เจ้าตัวเองได้น่าสนใจและสนุกดี และพัฒนาความสัมพันธ์ของเขากับพี่บอมได้ดีพอที่จะทำให้ตอนจบรู้สึกกระทบจิตใจได้ไม่เบา
ส่วนตอนคืนนี้เป็นตอน flashback ที่หลุดโครงสร้างมาเป็นตอนแรก (แบบแยกตัวละครออกมาเดี่ยวเต็มที่เลย ถ้าดูโฆษณามาไม่ผิด) โดยส่วนตัวคิดว่าพีชเล่นดีสุดในหมู่ผู้ชาย จึงอยากรู้เหมือนกันว่าจะออกมาเป็นอย่างไร
Hormones Season 2 So Far (รีวิว+วิเคราะห์ 5 ตอนแรก)
เมื่อซีรี่ส์ที่คนพูดถึงกันมากเดินทางมาซีซั่นสองและผ่านไปห้าตอนแล้ว ผมเองก็อยากจะเปรียบเทียบและพูดถึงความคิดเห็นส่วนตัวกับเนื้อเรื่องที่ผ่านมาบ้างเหมือนกัน โดยเมื่อดูเครดิตของ ผกก. ใหม่ (เกรียงไกร วชิรธรรมพร) แล้วไม่ค่อยมีปูมหลังให้พูดคุยอะไรได้มาก แต่หลังจากดูมา 5 ตอนแล้วก็เริ่มรู้สึกข้อดีข้อเสียมาเปรียบเทียบกับ ผกก. ทรงยศ สุขมากอนันต์ ของซีซั่นก่อนได้อยู่
ในความรู้สึกส่วนตัว ผกก. ทรงยศ ที่มีพื้นหลังมาจากภาพยนตร์ จะทำได้ดีมากในแง่การจับงานภาพมาเข้าคู่กับเนื้อเรื่องหรืออารมณ์ในตอนนั้นของตัวละครพอดี เพื่อให้มันเสริมกันและกัน จนถึงตอนนี้ยังจำหลายฉากในซีซั่นก่อนลอยมากับตัวละครได้ดี ไม่ว่าจะโมเม้นเบลอๆของสไปรท์กับไผ่ตอนบอกความรู้สึกกันครั้งแรก หรือ หลังดาวตื่นขึ้นมาจากหนึ่งคืนกับดินแล้ว guilty สุดขีด ซีซั่นที่แล้วรู้สึกว่ามันมีความเป็นภาพยนตร์ (cinematic) กว่าหน่อย รวมทั้งสอดแทรก soundtrack (ทั้งเพลงและดนตรี) เป็นแบ็คกราวด์ในเนื้อเรื่องได้เนียนกว่าซีซั่นนี้ เหมือนช่วงพีคของซีซั่นหนึ่งมันเหนือกว่า
แต่ที่คิดว่าซีซั่นนี้ดีกว่าคือในแง่ long-term storytelling หรือการเล่าเรื่องระยะยาวแบบเป็น series จริงๆ เพราะซีซันหนึ่ง (ในความเห็นส่วนตัวอีกนั่นแหละ) หลังสตาร์ทเครื่องสองสามตอนแรกมาแล้ว มันจะดีสุดเวลาโฟกัสที่ตัวละครเนื้อเรื่องเดียว (ขอยกตอน ดาวกลัวท้อง ให้เป็นตอน top 2 ของฮอร์โมนเลย) แต่พอถึงตอนที่มีตัวละครเยอะๆ ก็เริ่มรู้สึกถึงความสะเปะสะปะบ้าง ยิ่งถ้าตอนไหนมีเนื้อเรื่องน้อย เช่น ตอนของขวัญที่แบ่งออกเป็นสองตอน ยิ่งยืดสุดๆ แถมยังตอนสุดท้ายยังจบมาขมวดกันได้ไม่ดีอีก ในขณะที่ซีซั่นสอง มีความรู้สึกว่าคนทำขยันหยอดบทพูด ปมตัวละคร และอะไรต่างๆ ให้หลายคนสามารถเดินเรื่องควบคู่ไปข้างหน้าร่วมกับตัวละครหลักของตอนนั้นๆได้อีกด้วย อย่างตอนที่สองของธีร์ที่เนื้อเรื่องน้อย ยังสามารถจบได้ดีมากและน่าจดจำ แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับตอนปลายของซีซั่น ว่าที่ปูและดำเนินควบคู่กันมาขนาดนี้สามารถขมวดจบเข้าด้วยกันได้สวยไหม (แต่ผมรู้สึกว่าน่าจะดีกว่าซีซั่นที่แล้ว เพราะมันมีอารมณ์ว่าเนื้อเรื่องมัน build มาเรื่อยๆและยังมีหลายตัวละครที่เตรียมเข้ามาประสานในเนื้อเรื่องต่ออีก)
ก่อนพูดถึงแบบแยกตอน อยากบอกว่าซีซั่นนี้ ทั้งนักแสดงและตัวละครผู้หญิงก็ยังกินขนาดชนะผู้ชายเหมือนเดิม ไม่รู้ว่าเพราะบทวัยรุ่นผู้หญิงโดยธรรมชาติมันมีอะไรน่าสนใจให้เขียนเป็นน้ำเป็นเนื้อกว่า หรือนักแสดงวัยรุ่นผู้ชายเล่นบทได้เข้าถึงไม่เท่าผู้หญิง (แต่พอดูจากหนังเมืองนอกที่นักแสดงหรือตัวละครเป็นวัยรุ่นแล้ว อาจจะเป็นกรณีหลัง) โดยมีวินคนเดียวที่รู้สึกถึงความมีเลือดเนื้อได้สมบูรณ์สุดในกลุ่มผู้ชาย ซีซั่นนี้ยังเริ่มมี pattern โผล่ขึ้นมา คือจะแต่ละตอนจะเล่น ประเด็น>ความสัมพันธ์>ประเด็น วนไปมา ซึ่งตอนของประเด็นดูจะแน่นกว่า เพราะนอกจากตัวละครแล้วซีรี่ส์ยังสามารถมี theme ให้เล่นคู่ไปด้วยได้
Ep.1 "รักกรุ้มกริ่ม" (B+) ชอบอันนี้มากกว่าตอนเปิดตัวของซีซั่นที่แล้ว เพราะรู้สึกว่า การวาง/แบ่ง ตัวละคร ประเด็น และจังหวะเนื้อเรื่องมันมีชีวิตชีวามาก และชอบความ meta (คอมเม้นตัวเอง) ที่เอาสิ่งที่เกิดกับซีรี่ส์จริงๆขึ้นมาพูด จนแอบนึกถึง Community ไม่ได้ ถ้าไม่ติดว่าตอนท้ายมันกดประเด็นหนักมือไปนิดอาจให้สูงกว่านี้
Ep.2 "ธีร์" (B-) รู้สึกเนือยมากๆ เพราะเน้นแต่ความสัมพันธ์เน้นๆไม่ค่อยมีอะไรอื่นเจือปน แถมฉากเพลง ถึงเพราะและเข้ากันได้ดี ยังรู้สึกว่ามันทื่อๆและนานเกินไป แต่อย่างที่บอกข้างต้น แม้ในตอนที่เนื้อหาน้อยอย่างนี้ มันยังสามารถขมวดมาจบได้สวยและมีอารมณ์ร่วมได้อยู่
Ep.3 "เต้ย" (A) อันนี้แข่งกับตอนของดาวซีซั่นที่แล้วในการเป็นตอนที่ผมชอบที่สุดของซีรี่ส์เลยทีเดียว แต่อย่างว่าแหละ ให้ material ที่แข็งแรงที่สุดกับนักแสดงที่เล่นดีที่สุดในฮอร์โมน (ปันปัน) ผลลัพธ์เลยออกมาเป็นอย่างนี้ และตอนนี้ยังได้ประโยชน์จากเหตุการณ์ข่าวปัจจุบันอีกด้วย เหมือนที่ซีซั่นที่แล้วข่าวของปันปันมาพร้อมกับเนื้อเรื่องของขวัญพอดี ซึ่งถึงแม้ประเด็นมันอ่อนไหวและมีโอกาสทำพลาดได้ง่าย แต่ผมแทบลุกปรบมือ เมื่อการ depict ความรุนแรงทางเพศสามารถถูกถ่ายทอดออกมาในความกดดันและน่ากลัว (พร้อมพูดถึงผลกระทบทางจิตใจของเหยื่อ) ได้อย่างสมจริงอย่างที่มันควรจะเป็น หลังสื่อละครบ้านเราส่วนใหญ่เอาไป soften เป็นสิ่งลงโทษนางร้ายหรือให้ชวนฟินมาเสียนาน
Ep.4 "ดาว-ก้อย" (B) เป็นตอนความสัมพันธ์ที่เข้าคู่กับการสำรวจ identity ที่ไม่มั่นคงของวัยรุ่น (ดาว-ก้อย, ภู) ได้ดีพอควร แต่ก็ยังรู้สึกว่าเนื้อเรื่องมันเบาบางจนเข้าขั้นเน่าบ้างในบางที ยังดีที่ฝนเป็นนักแสดงที่เล่นฉากยากๆได้อยู่หมัดเช่นเคย (และเบลล์ก็ตีคู่มาได้ไม่แพ้กัน)
Ep.5 "ภู" (B+) แปลกใจที่ตัวเองชอบตอนนี้อยู่เหมือนกัน (และดูเหมือนจะชอบมากกว่าคนส่วนใหญ่ด้วย) เพราะโดยปกติรู้สึกว่าภูเป็นตัวละครที่น่าเบื่อมาก คือเว้นจากประเด็น sexual identity ของเขาแล้ว นิสัยก็ดูค่อนข้างตรงๆทื่อๆไม่มีอะไร แต่ชอบที่ตอนนี้เอาความทื่อ(และเอาแต่ใจ)จนทำร้ายจิตใจหลายคนมาสำรวจและเล่นใส่เจ้าตัวเองได้น่าสนใจและสนุกดี และพัฒนาความสัมพันธ์ของเขากับพี่บอมได้ดีพอที่จะทำให้ตอนจบรู้สึกกระทบจิตใจได้ไม่เบา
ส่วนตอนคืนนี้เป็นตอน flashback ที่หลุดโครงสร้างมาเป็นตอนแรก (แบบแยกตัวละครออกมาเดี่ยวเต็มที่เลย ถ้าดูโฆษณามาไม่ผิด) โดยส่วนตัวคิดว่าพีชเล่นดีสุดในหมู่ผู้ชาย จึงอยากรู้เหมือนกันว่าจะออกมาเป็นอย่างไร