หลังจาก รัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดนแจ้งข้อกล่าวหา
ฐานก่อความเสียหายให้กับประเทศชาติ ไม่ระงับยับยั้ง
จากนโยบายรับจํานําข้าว
เพราะเหตุ รัฐบาลใช้เงินจํานานมาก ไปรับซื้อข้าวแพงกว่าราคาตลาด จนทําให้เกิดการบิดเบือนกลไกตลาด
หรือ ส่อไปในทางทุจริต นั้น
ผมได้นํามาเทียบเคียง กับโครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค เห็นว่ามีลักษณะความผิดเช่นเดียวกัน
โดยผมอยากกราบเรียน ชี้แจงเป็นข้อๆดังนี้
หาก
โครงการรับจํานําข้าว ก่อให้เกิดความเสียหายกับประเทศชาติ
แล้วโครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค การที่รัฐไปเก็บค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยน้อยกว่าความเป็นจริง
ทําให้รายได้ที่ควรจะเป็นรายได้เข้ารัฐ ต้องหายไปในแต่ละปีเป็นจํานวนมาก
ซึ้ายังต้องควักเนื้อ เอางบประมาณส่วนหนึ่ง ไปอุดหนุนในโครงการนี้ อีกไม่รู้เท่าไหร่
อย่างนี้ ถือว่าทําให้เกิดความเสียหายกับประเทศชาติ เช่นเดียวกันหรือไม่
โครงการรับจํานําข้าว บิดเบือนกลไกตลาด
ตั้งแต่มีโครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค
ก็ทําให้คลีนิก หรือ โรงพยาบาลเอกชน ไม่สามารถขึ้นราคาค่ารักษาพยาบาล เอาได้ตามใจชอบ
อย่างนี้ เข้าลักษณะเป็นการบิดเบือนกลไกตลาด เช่นเดียวกันหรือไม่
ส่วนประเด็น นโยบายรับจํานําข้าว ส่อไปในทางทุจริต
ที่จริง โครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค ในระดับปฏิบัติ ก็น่าจะมีการทุจริตด้วยเหมือนกัน
แต่เป็นเรื่องที่ต้องไปเอาผิดกับฝ่ายปฏิบัติ ไม่น่าจะเกี่ยวกับฝ่ายนโยบาย
สรุป.....นโยบายทั้งสอง มีลักษณะก่อให้เกิดความเสียหายกับประเทศชาติ เหมือนกันคือ
โครงการรับจํานําข้าว รัฐบาลต้องหาเงินไปช่วยชาวนา
โครงการ30บาท รักษาทุกโรค เงินส่วนหนึ่งจากค่ารักษาพยาบาล ที่ควรเป็นรายได้เข้ารัฐหายไป
ซํ้า รัฐยังต้องหาเงินบางส่วนไปสนับสนุนโครงอีกด้วย
ถ้าใช้มาตรฐานเดียวกัน
ปปช. ก็ควรไปแจ้งความเอาผิดกับทุกรัฐบาล ที่ดําเนินการโครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค ด้วยครับ
หรือไม่ก็ส่งหนังสือ ไประงับยับยั้ง โครงการนี้ ต่อรัฐบาล คสช. ก่อน
หาก รัฐบาล คสช. ยังไม่มีการยุติโครงการ ก็ควรจะแจ้งข้อกล่าวหาเดียวกัน คือ
ฐานก่อความเสียหายให้กับประเทศชาติ แล้วไม่ระงับยับยั้ง ตามมาตรา 157 โปรดอย่าสองมาตรฐานครับ
***ไม่ใช่ พ่อศรีธณชัย น่ะครับ
แต่คิดบนหลักการ และ พื้นฐานเหตุผลเดียวกัน ทุกประการ
---------------------
....กราบเรียนท่าน ปปช. ผู้เที่ยงธรรมในสามโลก ช่วยไปเอาผิดโครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค ด้วยครับ
จากนโยบายรับจํานําข้าว
เพราะเหตุ รัฐบาลใช้เงินจํานานมาก ไปรับซื้อข้าวแพงกว่าราคาตลาด จนทําให้เกิดการบิดเบือนกลไกตลาด
หรือ ส่อไปในทางทุจริต นั้น
ผมได้นํามาเทียบเคียง กับโครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค เห็นว่ามีลักษณะความผิดเช่นเดียวกัน
โดยผมอยากกราบเรียน ชี้แจงเป็นข้อๆดังนี้
หากโครงการรับจํานําข้าว ก่อให้เกิดความเสียหายกับประเทศชาติ
แล้วโครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค การที่รัฐไปเก็บค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยน้อยกว่าความเป็นจริง
ทําให้รายได้ที่ควรจะเป็นรายได้เข้ารัฐ ต้องหายไปในแต่ละปีเป็นจํานวนมาก
ซึ้ายังต้องควักเนื้อ เอางบประมาณส่วนหนึ่ง ไปอุดหนุนในโครงการนี้ อีกไม่รู้เท่าไหร่
อย่างนี้ ถือว่าทําให้เกิดความเสียหายกับประเทศชาติ เช่นเดียวกันหรือไม่
โครงการรับจํานําข้าว บิดเบือนกลไกตลาด
ตั้งแต่มีโครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค
ก็ทําให้คลีนิก หรือ โรงพยาบาลเอกชน ไม่สามารถขึ้นราคาค่ารักษาพยาบาล เอาได้ตามใจชอบ
อย่างนี้ เข้าลักษณะเป็นการบิดเบือนกลไกตลาด เช่นเดียวกันหรือไม่
ส่วนประเด็น นโยบายรับจํานําข้าว ส่อไปในทางทุจริต
ที่จริง โครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค ในระดับปฏิบัติ ก็น่าจะมีการทุจริตด้วยเหมือนกัน
แต่เป็นเรื่องที่ต้องไปเอาผิดกับฝ่ายปฏิบัติ ไม่น่าจะเกี่ยวกับฝ่ายนโยบาย
สรุป.....นโยบายทั้งสอง มีลักษณะก่อให้เกิดความเสียหายกับประเทศชาติ เหมือนกันคือ
โครงการรับจํานําข้าว รัฐบาลต้องหาเงินไปช่วยชาวนา
โครงการ30บาท รักษาทุกโรค เงินส่วนหนึ่งจากค่ารักษาพยาบาล ที่ควรเป็นรายได้เข้ารัฐหายไป
ซํ้า รัฐยังต้องหาเงินบางส่วนไปสนับสนุนโครงอีกด้วย
ถ้าใช้มาตรฐานเดียวกัน
ปปช. ก็ควรไปแจ้งความเอาผิดกับทุกรัฐบาล ที่ดําเนินการโครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค ด้วยครับ
หรือไม่ก็ส่งหนังสือ ไประงับยับยั้ง โครงการนี้ ต่อรัฐบาล คสช. ก่อน
หาก รัฐบาล คสช. ยังไม่มีการยุติโครงการ ก็ควรจะแจ้งข้อกล่าวหาเดียวกัน คือ
ฐานก่อความเสียหายให้กับประเทศชาติ แล้วไม่ระงับยับยั้ง ตามมาตรา 157 โปรดอย่าสองมาตรฐานครับ
***ไม่ใช่ พ่อศรีธณชัย น่ะครับ
แต่คิดบนหลักการ และ พื้นฐานเหตุผลเดียวกัน ทุกประการ
---------------------