ฮามาสยอมรับเป็นครั้งแรกว่าอยู่เบื้องหลังการลักพาตัวและสังหารวัยรุ่นอิสราเอล 3 ราย ซึ่งเป็นชนวนเหตุของสงครามในกาซาครั้งล่าสุด
ทำให้อิสราเอลใช้โอกาสนี้ ตอกย้ำว่าฮามาสใช้พลเรือนผู้บริสุทธิ์เป็นเครื่องมือทางการเมือง
นายซาเละห์ อารูรี หนึ่งในผู้นำอาวุโสของกลุ่มฮามาส กลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงที่ครอบครองฉนวนกาซา เปิดเผยในที่ประชุมกลุ่มนักวิชาการมุสลิม
International Union of Islamic Scholars ในนครอิสตันบูลของตุรกี ซึ่งเป็นประเทศที่ให้การสนับสนุนฮามาสมาโดยตลอด
ว่าหน่วยรบอัลกัสซาม ซึ่งเป็นทหารของฮามาส เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการลักพาตัวและสังหารวัยรุ่นชายชาวอิสราเอลทั้ง 3 รายเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
นายอารูรีชี้แจงว่าการลักพาตัววัยรุ่นอิสราเอลทั้งสามเป็นไปเพื่อนำตัวไปแลกเปลี่ยนตัวประกันกับนักโทษชาวปาเลสไตน์ที่ถูกอิสราเอลจับตัวไป
และยังเพื่อจุดประสงค์ระยะยาวในการสร้างความวุ่นวาย ปลุกกระแสชาตินิยมในหมู่ชาวปาเลสไตน์
การเปิดเผยข้อมูลครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่กลุ่มฮามาสยอมรับว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักพาตัววัยรุ่นอิสราเอล
แม้ว่าก่อนหน้านี้ อิสราเอลจะกล่าวหามาตลอดว่าฮามาสเป็นผู้อยู่เบื้องหลังโศกนาฏกรรมดังกล่าว แต่ฮามาสก็เพียงชื่นชมการลักพาตัวและสังหารวัยรุ่นทั้ง 3 ราย
ไม่ได้ยอมรับว่าเป็นผู้ลักพาตัวชาวอิสราเอลเหล่านั้น
ด้านนายมาร์ก เรเกฟ โฆษกรัฐบาลอิสราเอล ก็ใช้โอกาสที่ฮามาสยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลักพาตัวและสังหารวัยรุ่นทั้งสาม ออกมาตอกย้ำว่า
เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าฮามาสไม่เคยลังเลที่จะใช้ชีวิตพลเรือนผู้บริสุทธิ์เป็นเครื่องมือต่อรองทางการเมือง
การลักพาตัวดังกล่าว ทำให้เกิดความไม่พอใจอย่างมากในหมู่ชาวอิสราเอล และบานปลายกลายเป็นการจลาจลในเยรูซาเลมและกาซา
เมื่อมีเด็กปาเลสไตน์ถูกสังหารเพื่อแก้แค้นให้วัยรุ่นชาวอิสราเอล จนเกิดการประท้วงอย่างรุนแรงและตำรวจอิสราเอลตัดสินใจใช้กำลังปราบปรามผู้ชุมนุม
ทำให้สุดท้าย ความขัดแย้งนี้ถูกฮามาสนำไปใช้เป็นข้ออ้างในการยิงขีปนาวุธใส่อิสราเอล เปิดโอกาสให้อิสราเอลตอบโต้ด้วยการเปิดฉากสงครามในกาซา
อย่างเต็มรูปแบบนานเกือบ 1 เดือนเต็ม เพื่อกวาดล้างกลุ่มฮามาส จนมีผู้เสียชีวิตกว่า 2,000 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือนปาเลสไตน์
และยังทำให้มีผู้ไร้ที่อยู่อาศัยในกาซาอีกนับแสนคน
การเปิดเผยข้อมูลจากฝ่ายฮามาส ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ที่ย่ำแย่อยู่แล้วตึงเครียดมากขึ้น
และกลายเป็นการเพิ่มความชอบธรรมให้อิสราเอล ที่ก่อนหน้านี้ถูกนานาชาติมองว่าเป็นฝ่ายคุกคามปาเลสไตน์ก่อน
ทำให้ในขณะนี้ ความเป็นไปได้ที่ทั้งสองฝ่ายจะเข้าสู่โต๊ะเจรจาสันติภาพอีกครั้ง หลังจากการเจรจารอบล่าสุดที่มีอียิปต์เป็นตัวกลางล้มเหลวลง เหลือน้อยมาก
เพราะแม้ว่าอิสราเอลจะต้องการเจรจาต่อ ก็อาจโดนประชาชนกดดันไม่ให้เจรจาประนีประนอมกับกลุ่มก่อการร้ายอย่างฮามาส
http://shows.voicetv.co.th/voice-news/115134.html
ฮามาสรับ สังหารวัยรุ่นอิสราเอล 3 ราย
ทำให้อิสราเอลใช้โอกาสนี้ ตอกย้ำว่าฮามาสใช้พลเรือนผู้บริสุทธิ์เป็นเครื่องมือทางการเมือง
นายซาเละห์ อารูรี หนึ่งในผู้นำอาวุโสของกลุ่มฮามาส กลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงที่ครอบครองฉนวนกาซา เปิดเผยในที่ประชุมกลุ่มนักวิชาการมุสลิม
International Union of Islamic Scholars ในนครอิสตันบูลของตุรกี ซึ่งเป็นประเทศที่ให้การสนับสนุนฮามาสมาโดยตลอด
ว่าหน่วยรบอัลกัสซาม ซึ่งเป็นทหารของฮามาส เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการลักพาตัวและสังหารวัยรุ่นชายชาวอิสราเอลทั้ง 3 รายเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
นายอารูรีชี้แจงว่าการลักพาตัววัยรุ่นอิสราเอลทั้งสามเป็นไปเพื่อนำตัวไปแลกเปลี่ยนตัวประกันกับนักโทษชาวปาเลสไตน์ที่ถูกอิสราเอลจับตัวไป
และยังเพื่อจุดประสงค์ระยะยาวในการสร้างความวุ่นวาย ปลุกกระแสชาตินิยมในหมู่ชาวปาเลสไตน์
การเปิดเผยข้อมูลครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่กลุ่มฮามาสยอมรับว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักพาตัววัยรุ่นอิสราเอล
แม้ว่าก่อนหน้านี้ อิสราเอลจะกล่าวหามาตลอดว่าฮามาสเป็นผู้อยู่เบื้องหลังโศกนาฏกรรมดังกล่าว แต่ฮามาสก็เพียงชื่นชมการลักพาตัวและสังหารวัยรุ่นทั้ง 3 ราย
ไม่ได้ยอมรับว่าเป็นผู้ลักพาตัวชาวอิสราเอลเหล่านั้น
ด้านนายมาร์ก เรเกฟ โฆษกรัฐบาลอิสราเอล ก็ใช้โอกาสที่ฮามาสยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลักพาตัวและสังหารวัยรุ่นทั้งสาม ออกมาตอกย้ำว่า
เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าฮามาสไม่เคยลังเลที่จะใช้ชีวิตพลเรือนผู้บริสุทธิ์เป็นเครื่องมือต่อรองทางการเมือง
การลักพาตัวดังกล่าว ทำให้เกิดความไม่พอใจอย่างมากในหมู่ชาวอิสราเอล และบานปลายกลายเป็นการจลาจลในเยรูซาเลมและกาซา
เมื่อมีเด็กปาเลสไตน์ถูกสังหารเพื่อแก้แค้นให้วัยรุ่นชาวอิสราเอล จนเกิดการประท้วงอย่างรุนแรงและตำรวจอิสราเอลตัดสินใจใช้กำลังปราบปรามผู้ชุมนุม
ทำให้สุดท้าย ความขัดแย้งนี้ถูกฮามาสนำไปใช้เป็นข้ออ้างในการยิงขีปนาวุธใส่อิสราเอล เปิดโอกาสให้อิสราเอลตอบโต้ด้วยการเปิดฉากสงครามในกาซา
อย่างเต็มรูปแบบนานเกือบ 1 เดือนเต็ม เพื่อกวาดล้างกลุ่มฮามาส จนมีผู้เสียชีวิตกว่า 2,000 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือนปาเลสไตน์
และยังทำให้มีผู้ไร้ที่อยู่อาศัยในกาซาอีกนับแสนคน
การเปิดเผยข้อมูลจากฝ่ายฮามาส ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ที่ย่ำแย่อยู่แล้วตึงเครียดมากขึ้น
และกลายเป็นการเพิ่มความชอบธรรมให้อิสราเอล ที่ก่อนหน้านี้ถูกนานาชาติมองว่าเป็นฝ่ายคุกคามปาเลสไตน์ก่อน
ทำให้ในขณะนี้ ความเป็นไปได้ที่ทั้งสองฝ่ายจะเข้าสู่โต๊ะเจรจาสันติภาพอีกครั้ง หลังจากการเจรจารอบล่าสุดที่มีอียิปต์เป็นตัวกลางล้มเหลวลง เหลือน้อยมาก
เพราะแม้ว่าอิสราเอลจะต้องการเจรจาต่อ ก็อาจโดนประชาชนกดดันไม่ให้เจรจาประนีประนอมกับกลุ่มก่อการร้ายอย่างฮามาส
http://shows.voicetv.co.th/voice-news/115134.html