คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
ลองวาดผังที่จะปลูกบ้านคร่อมทั้งสองโฉนดมาให้ดูคร่าว ๆ หน่อยสิครับ คือ มีบาง
ส่วนของบ้านไปเกยอยู่ในที่ดินอีกแปลงไป ๑๐ ตร. วา หรือยังไง ถ้าแบงค์แรกให้
จดทะเบียนกรรมสิทธิ์รวม แนะนำให้เลือกแบงค์นี้เป็นทางเลือกสุดท้ายเลยครับ
ในใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร ถ้าขอในนามทั้งสองคน ก็จะมีบอกว่าปลูกสร้างอยู่
บนที่ดินโฉนดทั้งสองแปลง และทั้งสองแปลงต่างก็นำมาจำนองกับธนาคาร จะมา
ผูกปมให้มันยุ่งยากเข้าไปอีกทำไมละ พอชำระหนี้หมดต้องมานั่งแก้ปมที่แบงค์มัน
มัดให้อีก หาแบงค์อื่นครับ
กรณีถือกรรมสิทธิ์รวมที่ดิน โดยเฉพาะ ๑๐ ตร. วา สามารถทำได้ครับ จะใช้ใน
กรณีจำเป็น ๆ จริง เช่น ก. ต้องการเงินกู้ โดยมีที่ดินและบ้านจำนองเป็นประกัน
ที่ดินเป็นของนาย ก. แต่บ้านเป็นของ นาย ข. แม้ในสัญญาจำนองจะมีข้อตกลง
ว่าจำนองรวมบ้านที่มีอยู่แล้ว และที่จะมีขึ้นต่อไปในภายหน้า แต่หากบ้านเป็นของ
บุคคลอื่น การจำนองที่ดินก็จะไม่ครอบไปถึงตัวบ้าน
ครั้นพอจะแยกจำนองที่ดินและจำนองบ้านเพิ่มเข้ามา การจำนองที่ดินสามารถ
จดทะเบียนในวันที่ยื่นได้เลย ส่วนบ้านไม่สามารถจดทะเบียนได้ภายในวันที่ยื่น จะต้องทำการประกาศการจำนองบ้านเสียก่อน เมื่อไม่มีผู้ใดคัดค้านภายในกำหนด
จึงจะจดทะเบียนได้ ผู้จึงยังไม่สามารถเบิกใข้เงินกู้ได้ ในวันที่จดทะเบียนจำนอง
ที่ดิน เพราะการจำนองยังได้หลักประกันไม่ครบ จะต้องรอการจำนองบ้านให้
เรียบร้อยเสียก่อน
เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวให้ผู้กู้สามารถเบิกใช้เงินกู้ได้เลย แบงค์ก็จะให้ นาย ข.
เข้ามาถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินของนาย ก. เพียง ๑๐ ตร. วา เมื่อ นาย ก. และ ข.
ทั้งสองเป็นผู้จำนองแล้ว การจำนองจึงครอบไปถึงตัวบ้าน จึงไม่ต้องทำการ
ประกาศจำนองตัวบ้าน ครบเงื่อนไขการจำนองแล้ว คือ รับจำนองมาทังที่ดินและ
บ้านโดยสมบูรณ์แล้ว
ส่วนที่ว่าลดค่าธรรมเนียม มันไม่ใช่ลดหรอก ก็เสียตามส่วนกรรมสิทธิ์ ๑๐ ตร. วา
นั้นแหละครับ ผูกปมมาให้ จ่ายหนี้หมดแบงค์มันก็ไม่สนใจเรื่องหลักประกันแล้ว
ปล่อยให้ไปแก้ปัญหากันเอง หาก นาย ก. ต้องการที่ดินคืน ก็ต้องให้นาย ข. ขาย
ที่ดินเฉพาะส่วนคืนให้นาย ก. เสียค่าธรรมเนียมอีก รวมแล้วเสียค่าธรรมเนียมไป
กลับ ๒๐ ตร. วา
มันพอมีวิธีเป็นไปได้โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมโอนไปโอนมา หาแบงค์ที่ยอม
และเข้าใจเรื่องการจัดการหลักประกัน ตาม คห.๕ ดีกว่าครับ จะได้ไม่เป็นภาระ
ในภายหลัง
ส่วนของบ้านไปเกยอยู่ในที่ดินอีกแปลงไป ๑๐ ตร. วา หรือยังไง ถ้าแบงค์แรกให้
จดทะเบียนกรรมสิทธิ์รวม แนะนำให้เลือกแบงค์นี้เป็นทางเลือกสุดท้ายเลยครับ
ในใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร ถ้าขอในนามทั้งสองคน ก็จะมีบอกว่าปลูกสร้างอยู่
บนที่ดินโฉนดทั้งสองแปลง และทั้งสองแปลงต่างก็นำมาจำนองกับธนาคาร จะมา
ผูกปมให้มันยุ่งยากเข้าไปอีกทำไมละ พอชำระหนี้หมดต้องมานั่งแก้ปมที่แบงค์มัน
มัดให้อีก หาแบงค์อื่นครับ
กรณีถือกรรมสิทธิ์รวมที่ดิน โดยเฉพาะ ๑๐ ตร. วา สามารถทำได้ครับ จะใช้ใน
กรณีจำเป็น ๆ จริง เช่น ก. ต้องการเงินกู้ โดยมีที่ดินและบ้านจำนองเป็นประกัน
ที่ดินเป็นของนาย ก. แต่บ้านเป็นของ นาย ข. แม้ในสัญญาจำนองจะมีข้อตกลง
ว่าจำนองรวมบ้านที่มีอยู่แล้ว และที่จะมีขึ้นต่อไปในภายหน้า แต่หากบ้านเป็นของ
บุคคลอื่น การจำนองที่ดินก็จะไม่ครอบไปถึงตัวบ้าน
ครั้นพอจะแยกจำนองที่ดินและจำนองบ้านเพิ่มเข้ามา การจำนองที่ดินสามารถ
จดทะเบียนในวันที่ยื่นได้เลย ส่วนบ้านไม่สามารถจดทะเบียนได้ภายในวันที่ยื่น จะต้องทำการประกาศการจำนองบ้านเสียก่อน เมื่อไม่มีผู้ใดคัดค้านภายในกำหนด
จึงจะจดทะเบียนได้ ผู้จึงยังไม่สามารถเบิกใข้เงินกู้ได้ ในวันที่จดทะเบียนจำนอง
ที่ดิน เพราะการจำนองยังได้หลักประกันไม่ครบ จะต้องรอการจำนองบ้านให้
เรียบร้อยเสียก่อน
เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวให้ผู้กู้สามารถเบิกใช้เงินกู้ได้เลย แบงค์ก็จะให้ นาย ข.
เข้ามาถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินของนาย ก. เพียง ๑๐ ตร. วา เมื่อ นาย ก. และ ข.
ทั้งสองเป็นผู้จำนองแล้ว การจำนองจึงครอบไปถึงตัวบ้าน จึงไม่ต้องทำการ
ประกาศจำนองตัวบ้าน ครบเงื่อนไขการจำนองแล้ว คือ รับจำนองมาทังที่ดินและ
บ้านโดยสมบูรณ์แล้ว
ส่วนที่ว่าลดค่าธรรมเนียม มันไม่ใช่ลดหรอก ก็เสียตามส่วนกรรมสิทธิ์ ๑๐ ตร. วา
นั้นแหละครับ ผูกปมมาให้ จ่ายหนี้หมดแบงค์มันก็ไม่สนใจเรื่องหลักประกันแล้ว
ปล่อยให้ไปแก้ปัญหากันเอง หาก นาย ก. ต้องการที่ดินคืน ก็ต้องให้นาย ข. ขาย
ที่ดินเฉพาะส่วนคืนให้นาย ก. เสียค่าธรรมเนียมอีก รวมแล้วเสียค่าธรรมเนียมไป
กลับ ๒๐ ตร. วา
มันพอมีวิธีเป็นไปได้โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมโอนไปโอนมา หาแบงค์ที่ยอม
และเข้าใจเรื่องการจัดการหลักประกัน ตาม คห.๕ ดีกว่าครับ จะได้ไม่เป็นภาระ
ในภายหลัง
แสดงความคิดเห็น
โฉนด 2 แปลงคนละชื่อกู้สร้างบ้านร่วมกัน ได้หรือไม่
คือ ที่บ้านไม่อยากโอนให้ทั้ง 2 โฉนด ที่มีทั้ง 2 ชื่อ จะมีปัญหาทีหลังและค่าธรรมเนียมระหว่างพี่น้องสูงมาก เลยแบ่งไปเลยคนละโฉนด
ขอบคุณทุกคำแนะนำค่ะ