
มันชื่อ แจ๊บ ครับ
คืออย่างนี้ครับ เรื่องมันอาจะยาวอยู่สักหน่อยนะครับ มีวันหนึ่งผมได้กลับมาจากทำงานกับแฟน พอมาถึงปากซอยเข้าบ้านก็เจอลูกหมาอายุประมาณ 4-5 เดือนได้ วิ่งหลบไปหลบมาอยู่ในซอย ผมก็ได้จอดรถจักรยานยนต์ลงไปวิ่งไล่จับหมา ยิ่งวิ่งไล่จับมันก็ยิ่งวิ่งหนีจนผมเหนื่อยไม่จับแล้ว แล้วแฟนผมก็ได้พูดว่า "ถ้าอยากให้เลี้ยงก็หาบ้านให้เจอแล้วจะเลี้ยง" แล้วผมกับแฟนก็เข้าบ้านเป็นปกติ
วันถัดมาจำได้ว่าเป็นวันศุกร์ ผมก็ขับรถจักรยานยนต์กลับบ้านเหมือนเดิม พอถึงปากซอยเข้าบ้าน ผมกับแฟนก็คุยกันเรื่องหมาตัวเมื่อวาน ว่าป่านนี้คงมีคนเอาไปเลี้ยงแล้ว หรือมันคงจะกลับไปที่ที่มันมาแล้ว พอรถผมจอดหน้าบ้านแฟนแสงไฟหน้ารถก็ฉายแสงเข้าไปในบ้าน แล้วผมก็หันไปพูดกับแฟนว่า " I ปากดี มีงานเข้าแล้ว" สิ่งที่ผมกับแฟนเห็นก็คือ I ลูกหมาตัวเมื่อวานนั้นแหละครับ มันมานอนใต้รถของพ่อผม (ซึ่งบ้านผมก็อยู่ฝั่งตรงข้ามกัน) กระดิกหางด้วยความดีใจว่า "หนูหาบ้านเจอแล้วนะ ช่วยเลี้ยงหนูด้วย" ก็ตามนั้นครับ แฟนผมไปตกลงทำสัญญากับมันไว้แล้วนี่ จะไม่เลี้ยงก็ไม่ได้
รุ่งเช้า วันเสาร์เราก็ตื่นลงมาดูมัน มันเป็นขี้เรื้อนครับ ผมกับแฟนก็เลยเอาไปหาหมอ หมอบอกว่าเป็นขี้เรื้อนเปียก ให้เอายาไปทาและกิน แล้วอีก 2 อาทิตย์มีนัดกับหมดใหม่ พอเอามันกลับมาที่บ้าน น้าแฟนก็บอกว่าให้เอาไปปล่อย และพ่อกับแม่ผมก็บอกว่าให้เอาไปปล่อยเถอะ หมาในซอยหรือเปล่า ด้วยที่ผมโดนกดดันเป้นอย่างมาก ผมก็เลยเอามันใส่กล่องเพื่อที่จะเอาไปปล่อย แล้วผมก็อ้มมันไปปล่อย พอปล่อยเสร็จผมก็ยืนดูมันอยู่สักพัก ก็ได้ถามคนแถวนั้นว่าเคยเห็นหมาตัวนี้หรือเปล่า มันเป็นหมาของพี่ใช่หรือไม่ พวกเค้าก็บอกว่าไม่ใช่นะ ที่นี้มีหมาแค่ 4 ตัว คือที่เห็นเนี่ยแหละ จากนั้นไอ้ 4 ตัวนั้นมันก็เข้าไปลุ่มลูกหมา มันก็ส่งเสียงร้องเหมือนว่า "ช่วยหนูหน่อยๆ" ผมก็ยืนดูอยู่นาน จนทนไม่ไหวทำใจไม่ได้ ถ้าเกิดปล่อยทิ้งไว้อาจจะโดนกัด หรือไม่มันก็หนีไปที่ถนนแล้วโดนรถชนตาย ผมก็เลยอุ้มมันกลับมาที่บ้าน จากนั้นมันก็เลยมาเป็นหมาเฝ้าบ้านแฟนผม
ตอนแรกก็ไม่ได้มีเวลาสั่งสอนเขาเท่าไร เวลาน้าแฟนออกไปข้างนอกกับหลาน ก็จะเปิดประตูไว้ เหมือนชักวนให้มันออกไปด้วย แล้วมันก็ไปฉี่ไปอึเรี่ยราด โดยที่คนปล่อยออกไปไม่ได้ดูแลมัน ไม่เก็บอึมันไม่เอาน้ำไปราด จากนั้นเพื่อนบ้านบางบ้านก็เริ่มมีเอฟเฟคกับหมาของเรา เช่นเรื่องกลิ่นตัวมันบางเนื่องจากเป็นขี้เรื้อน เรื่องการฉี่อึไม่เป็นที่ การส่งเสียงร้องตามเวลาที่มีคนออกไปนอกบ้านแล้วไม่เอามันไปด้วย และอื่นๆอีกมากมาย
จากนั้นผมกับแฟนก็เลยมาคุยกันว่า เราต้องหาเวลามาสอนมันแล้ว ไม่อย่างนั้นจะเสียนิสัย เราก็เริ่มสอนหลายๆอย่ารง เขาให้มือได้ Hi-fiveได้ แต่มันไม่นิ่ง นิ่งไม่เป็น แล้วมีวันนึ่งผม 2 คนไม่ได้อยู่บ้าน แล้วมันก็ออกมากับน้าแฟนเช่นเคย ไปเดินข้างหน้าซอยบ้าน แล้วก็มีคนแถวนั้นได้ทักเจ้าหมาตัวนี้ว่า “อ้าวมันยังไม่ตายเหรอ” น้าแฟนก็เลยถามว่า “มันเป็นอะไร มันไปโดนอะไรมา” คนๆนั้นก็บอกว่า “เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว I หมา ตัวนี้มันโดนรถชนอย่างแรง แล้วมันก็วิ่งหายไป”น้าแฟนก็เลยบอกคนนั้นว่า “อ๋อเหรอ เห็นหลานไปอุ้มมาเลี้ยง” จากนั้นน้าแฟนก็เดินเข้าบ้านพร้อมกับหลานของเค้า โดยคราวนี้ปล่อยให้มันเดิมตามมาเอง ก็เลยเป็นเรื่องสิครับ ตอนมันเดินเข้าบ้าน มันดันไปอึหน้าบ้านของคนไม่รักสัตว์ ประจวบเหมาะพอดี ผมกับแฟนกลับมาจากข้างนอกพอดี เค้าก็มาต่อว่าเป็นการใหญ่ เรา 2 คนก็เลยมีสัญญากับบ้านหลังนั้นว่า ถ้าหมาผมออกมาจากบ้าน โดยไม่มีเชือกจูง หรือ ออกมาอึฉี่โดยไม่มีคนดูแล อนุญาตให้ตีได้ แต่ถ้าหมาเราอยู่ในบ้านห้ามมาตีหรือทำอะไรมันเด็ดขาด ครับเราทำสัญญาลมปากกันไว้ครับ
วันเสาร์ช่วงบ่ายผมกับแฟนก็ลงมานั่งเล่นอยู่ในบ้านของผม แต่สามารถมองเห็นบ้านแฟนที่อยู่เยื้องๆกันได้ สักพักน้าแฟนกับหลานก็ได้ออกไปข้างนอก แล้วมันก็ร้องตามผมก็นั่งฟังอยู่ว่ามันจะร้องนานไหม แล้วก็มีชายผู้หนึ่งปรากฏกายขึ้น(บ้านหลังที่มีปัญหานั้นแหละครับ) พร้อมกับทำอะไรไม่รู้ที่ตรงหน้าบ้านของแฟน (หน้าบ้านมีตะแกรงพลาสติกสีเขียวที่ผมผูกติดไว้ มันขาดเพราะโดนของมีคม) แฟนผมก็ออกไปดู ปรากฏว่าเพื่อนบ้านที่อยู่ถัดไปสองหลัง บอกว่ามันเสียงดัง มันเห่าเขา แฟนผมก็บอกว่ารู้แล้วกำลังฝึกมันอยู่ แต่เขาก็ไม่ฟังความ และพูดว่า Meung รักหมา แต่ Gu ไม่ได้รักด้วย กูเกียจหมา มันเก่า Gu แฟนผมก็อธิบายว่า หมา มันเห่าคนแปลกหน้ากับคนที่เคยทำลายมัน และมันส่งเสียงเวลามันเห็นเจ้าของ เพราะว่ามันดีใจ เขาก็บอกว่านั้นมันเรื่องของ Meung , Gu ไม่รับรู้ อย่าให้มีเสียงดัง แฟนก็ยกมือไหว้เขาแล้วพูดว่า พี่ขอเถอะจะเอาอะไรกับหมาตาบอด หูหนวก ยืนทะเลาะกันอยู่สักพัก จนเขาให้ผมตามไปที่บ้าน แล้วบอกว่าถ้ายังมีเสียงอีกจะเอา ไอ้นี่ (ปืนอัดลม) ยิงมันทิ้งซะ ผมก็บอกเขาว่า จะหาทางแก้เพราะมันเพิ่งมาอยู่เพิ่งได่เลี้ยง ยังไม่ได้สอนอะไรมาก เขาก็บอกว่า นั้นไปแก้ปัญหาซะ มันเป็นปัญหาของ Meung ซึ่งทำไม Gu จะต้องมาทนรำคาญด้วย หมดไปอีกหนึ่งวัน ผมสองคน ก็ได้ฝึกมันเวลาน้าและหลานออกไปข้างนอก ไม่ให้มันร้องตาม แล้วตอนนี้มันก็แก้ปัญหาจบแล้ว มันไม่เคยร้องตามใครอีกเลย มันจะส่งเสียงร้องเฉพาะตอนที่ผมกับแฟนกลับมาที่บ้านเท่านั้น
ปัญหาต่อมาคือเรื่องกลิ่น ผมยอมรับครับว่าหมาที่เป็นขี้เรื้อนมีกลิ่นทุกตัว ผมสองคนก็พยายามแก้ให้มันไม่มีกลิ่น จนคราวนี้ก็โดนข้างบ้านติดกัน ต่อว่าๆ กลิ่มหมามันมีกลิ่นแรงมาก กลิ่นอโร่ม่าทรพีมาก เหม็นไปทั้งซอย ผมก็บอกว่าได้ครับ ผมจะรีบปรับปรุงให้ และจากนั้นผมก็ใช้ทั้งเดทตอล ทั้ง EM แล้ว แจ็บก็เริ่มหายดี เริ่มขนขึ้นกลิ่นตัวลดลง แต่บ้านหลังที่มีปัญหาก็ยังมีปัญหาไม่จบ เขามาถามผมว่าไหนเอาน้ำยามาราดแล้ว ผมก็บอกว่า ผมก็เอาเดทตอลราดให้แล้วไงครับ แล้วเขาก็ไปหยิบน้ำยาอะไรก็ไม่รู้มาให้ รู้อย่างเดียวครับ ว่ามันกลิ่นโรงพยาบาลชัดๆ แล้วคืนนั้นผมก็ผสมมันกับน้ำเปล่าใส่บัวรดน้ำขนาดกลางราดลงพื้น แล้วตอนเช้าเขาก็โทรมาขอบคุณผมว่า เออ ขอบใจที่ทำให้ ไม่เหม็นกลิ่นแล้ว คราวนี้ใช้ไปน้ำยาเริ่มจะหมด ผมก็ไปหาซื้อน้ำยาชนิดนี้ที่จุฬาเภสัช จนได้รู้จักมันในชื่อของ ”ไลโซล (Lysol)“ ผมก็เริ่มนำมาราดลงทุกวันๆ จนคนแถวบ้านผมบ่นว่า มันแรงไปนะ มันเหม็นมาก จนเมื่อวานนี้เขาก็โทรมาหาผมบอกว่า “น้ำยามันเหม็นมาก แล้ว Meung รู้หรือเปล่าว่า ไลโซล มันทำลายปอด“ ผมก็อ้าวแล้วให้ผมใช้ทำไมเพื่ออะไร แล้วเขาก็บอกการราดน้ำจากบ้านมาพื้นถนนหมู่บ้านมันผิดกฏหมาย
ทุกวันนี้มีบ้านหลังเดียวที่ว่าบ้านผมเหม็นกลิ่นหมา แต่บ้านหลังอื่นเขาเหม็นกลิ่นไลโซล เขาให้ผมทำอะไรให้เพื่อไม่มีกลิ่นผมก็ทำตามทุกอย่าง แล้วแบบนี้ผมควรจะทำอย่างไร กับ หมาของผมดีครับ ???
ขอขอบคุณท่านที่เข้ามาฟังผมบ่นนะครับ ผมก็ไม่มีอะไรมาก แค่อยากระบายและทำให้เพื่อนบ้านไม่เดือดร้อน ตอนแรกๆก็ยอมรับนะครับ ว่าอยากเอาหมาไปปล่อย แต่เห็นความพยายามของแฟนที่จะทำให้มันหายเป็นปกติ ก็เลยช่วยกันเลี้ยงให้เป็นเพื่อนของเรา และดูแลบ้านให้เราอีกคน
ผมควรจะทำอย่างไร กับ หมาของผมดีครับ ???
มันชื่อ แจ๊บ ครับ
คืออย่างนี้ครับ เรื่องมันอาจะยาวอยู่สักหน่อยนะครับ มีวันหนึ่งผมได้กลับมาจากทำงานกับแฟน พอมาถึงปากซอยเข้าบ้านก็เจอลูกหมาอายุประมาณ 4-5 เดือนได้ วิ่งหลบไปหลบมาอยู่ในซอย ผมก็ได้จอดรถจักรยานยนต์ลงไปวิ่งไล่จับหมา ยิ่งวิ่งไล่จับมันก็ยิ่งวิ่งหนีจนผมเหนื่อยไม่จับแล้ว แล้วแฟนผมก็ได้พูดว่า "ถ้าอยากให้เลี้ยงก็หาบ้านให้เจอแล้วจะเลี้ยง" แล้วผมกับแฟนก็เข้าบ้านเป็นปกติ
วันถัดมาจำได้ว่าเป็นวันศุกร์ ผมก็ขับรถจักรยานยนต์กลับบ้านเหมือนเดิม พอถึงปากซอยเข้าบ้าน ผมกับแฟนก็คุยกันเรื่องหมาตัวเมื่อวาน ว่าป่านนี้คงมีคนเอาไปเลี้ยงแล้ว หรือมันคงจะกลับไปที่ที่มันมาแล้ว พอรถผมจอดหน้าบ้านแฟนแสงไฟหน้ารถก็ฉายแสงเข้าไปในบ้าน แล้วผมก็หันไปพูดกับแฟนว่า " I ปากดี มีงานเข้าแล้ว" สิ่งที่ผมกับแฟนเห็นก็คือ I ลูกหมาตัวเมื่อวานนั้นแหละครับ มันมานอนใต้รถของพ่อผม (ซึ่งบ้านผมก็อยู่ฝั่งตรงข้ามกัน) กระดิกหางด้วยความดีใจว่า "หนูหาบ้านเจอแล้วนะ ช่วยเลี้ยงหนูด้วย" ก็ตามนั้นครับ แฟนผมไปตกลงทำสัญญากับมันไว้แล้วนี่ จะไม่เลี้ยงก็ไม่ได้
รุ่งเช้า วันเสาร์เราก็ตื่นลงมาดูมัน มันเป็นขี้เรื้อนครับ ผมกับแฟนก็เลยเอาไปหาหมอ หมอบอกว่าเป็นขี้เรื้อนเปียก ให้เอายาไปทาและกิน แล้วอีก 2 อาทิตย์มีนัดกับหมดใหม่ พอเอามันกลับมาที่บ้าน น้าแฟนก็บอกว่าให้เอาไปปล่อย และพ่อกับแม่ผมก็บอกว่าให้เอาไปปล่อยเถอะ หมาในซอยหรือเปล่า ด้วยที่ผมโดนกดดันเป้นอย่างมาก ผมก็เลยเอามันใส่กล่องเพื่อที่จะเอาไปปล่อย แล้วผมก็อ้มมันไปปล่อย พอปล่อยเสร็จผมก็ยืนดูมันอยู่สักพัก ก็ได้ถามคนแถวนั้นว่าเคยเห็นหมาตัวนี้หรือเปล่า มันเป็นหมาของพี่ใช่หรือไม่ พวกเค้าก็บอกว่าไม่ใช่นะ ที่นี้มีหมาแค่ 4 ตัว คือที่เห็นเนี่ยแหละ จากนั้นไอ้ 4 ตัวนั้นมันก็เข้าไปลุ่มลูกหมา มันก็ส่งเสียงร้องเหมือนว่า "ช่วยหนูหน่อยๆ" ผมก็ยืนดูอยู่นาน จนทนไม่ไหวทำใจไม่ได้ ถ้าเกิดปล่อยทิ้งไว้อาจจะโดนกัด หรือไม่มันก็หนีไปที่ถนนแล้วโดนรถชนตาย ผมก็เลยอุ้มมันกลับมาที่บ้าน จากนั้นมันก็เลยมาเป็นหมาเฝ้าบ้านแฟนผม
ตอนแรกก็ไม่ได้มีเวลาสั่งสอนเขาเท่าไร เวลาน้าแฟนออกไปข้างนอกกับหลาน ก็จะเปิดประตูไว้ เหมือนชักวนให้มันออกไปด้วย แล้วมันก็ไปฉี่ไปอึเรี่ยราด โดยที่คนปล่อยออกไปไม่ได้ดูแลมัน ไม่เก็บอึมันไม่เอาน้ำไปราด จากนั้นเพื่อนบ้านบางบ้านก็เริ่มมีเอฟเฟคกับหมาของเรา เช่นเรื่องกลิ่นตัวมันบางเนื่องจากเป็นขี้เรื้อน เรื่องการฉี่อึไม่เป็นที่ การส่งเสียงร้องตามเวลาที่มีคนออกไปนอกบ้านแล้วไม่เอามันไปด้วย และอื่นๆอีกมากมาย
จากนั้นผมกับแฟนก็เลยมาคุยกันว่า เราต้องหาเวลามาสอนมันแล้ว ไม่อย่างนั้นจะเสียนิสัย เราก็เริ่มสอนหลายๆอย่ารง เขาให้มือได้ Hi-fiveได้ แต่มันไม่นิ่ง นิ่งไม่เป็น แล้วมีวันนึ่งผม 2 คนไม่ได้อยู่บ้าน แล้วมันก็ออกมากับน้าแฟนเช่นเคย ไปเดินข้างหน้าซอยบ้าน แล้วก็มีคนแถวนั้นได้ทักเจ้าหมาตัวนี้ว่า “อ้าวมันยังไม่ตายเหรอ” น้าแฟนก็เลยถามว่า “มันเป็นอะไร มันไปโดนอะไรมา” คนๆนั้นก็บอกว่า “เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว I หมา ตัวนี้มันโดนรถชนอย่างแรง แล้วมันก็วิ่งหายไป”น้าแฟนก็เลยบอกคนนั้นว่า “อ๋อเหรอ เห็นหลานไปอุ้มมาเลี้ยง” จากนั้นน้าแฟนก็เดินเข้าบ้านพร้อมกับหลานของเค้า โดยคราวนี้ปล่อยให้มันเดิมตามมาเอง ก็เลยเป็นเรื่องสิครับ ตอนมันเดินเข้าบ้าน มันดันไปอึหน้าบ้านของคนไม่รักสัตว์ ประจวบเหมาะพอดี ผมกับแฟนกลับมาจากข้างนอกพอดี เค้าก็มาต่อว่าเป็นการใหญ่ เรา 2 คนก็เลยมีสัญญากับบ้านหลังนั้นว่า ถ้าหมาผมออกมาจากบ้าน โดยไม่มีเชือกจูง หรือ ออกมาอึฉี่โดยไม่มีคนดูแล อนุญาตให้ตีได้ แต่ถ้าหมาเราอยู่ในบ้านห้ามมาตีหรือทำอะไรมันเด็ดขาด ครับเราทำสัญญาลมปากกันไว้ครับ
วันเสาร์ช่วงบ่ายผมกับแฟนก็ลงมานั่งเล่นอยู่ในบ้านของผม แต่สามารถมองเห็นบ้านแฟนที่อยู่เยื้องๆกันได้ สักพักน้าแฟนกับหลานก็ได้ออกไปข้างนอก แล้วมันก็ร้องตามผมก็นั่งฟังอยู่ว่ามันจะร้องนานไหม แล้วก็มีชายผู้หนึ่งปรากฏกายขึ้น(บ้านหลังที่มีปัญหานั้นแหละครับ) พร้อมกับทำอะไรไม่รู้ที่ตรงหน้าบ้านของแฟน (หน้าบ้านมีตะแกรงพลาสติกสีเขียวที่ผมผูกติดไว้ มันขาดเพราะโดนของมีคม) แฟนผมก็ออกไปดู ปรากฏว่าเพื่อนบ้านที่อยู่ถัดไปสองหลัง บอกว่ามันเสียงดัง มันเห่าเขา แฟนผมก็บอกว่ารู้แล้วกำลังฝึกมันอยู่ แต่เขาก็ไม่ฟังความ และพูดว่า Meung รักหมา แต่ Gu ไม่ได้รักด้วย กูเกียจหมา มันเก่า Gu แฟนผมก็อธิบายว่า หมา มันเห่าคนแปลกหน้ากับคนที่เคยทำลายมัน และมันส่งเสียงเวลามันเห็นเจ้าของ เพราะว่ามันดีใจ เขาก็บอกว่านั้นมันเรื่องของ Meung , Gu ไม่รับรู้ อย่าให้มีเสียงดัง แฟนก็ยกมือไหว้เขาแล้วพูดว่า พี่ขอเถอะจะเอาอะไรกับหมาตาบอด หูหนวก ยืนทะเลาะกันอยู่สักพัก จนเขาให้ผมตามไปที่บ้าน แล้วบอกว่าถ้ายังมีเสียงอีกจะเอา ไอ้นี่ (ปืนอัดลม) ยิงมันทิ้งซะ ผมก็บอกเขาว่า จะหาทางแก้เพราะมันเพิ่งมาอยู่เพิ่งได่เลี้ยง ยังไม่ได้สอนอะไรมาก เขาก็บอกว่า นั้นไปแก้ปัญหาซะ มันเป็นปัญหาของ Meung ซึ่งทำไม Gu จะต้องมาทนรำคาญด้วย หมดไปอีกหนึ่งวัน ผมสองคน ก็ได้ฝึกมันเวลาน้าและหลานออกไปข้างนอก ไม่ให้มันร้องตาม แล้วตอนนี้มันก็แก้ปัญหาจบแล้ว มันไม่เคยร้องตามใครอีกเลย มันจะส่งเสียงร้องเฉพาะตอนที่ผมกับแฟนกลับมาที่บ้านเท่านั้น
ปัญหาต่อมาคือเรื่องกลิ่น ผมยอมรับครับว่าหมาที่เป็นขี้เรื้อนมีกลิ่นทุกตัว ผมสองคนก็พยายามแก้ให้มันไม่มีกลิ่น จนคราวนี้ก็โดนข้างบ้านติดกัน ต่อว่าๆ กลิ่มหมามันมีกลิ่นแรงมาก กลิ่นอโร่ม่าทรพีมาก เหม็นไปทั้งซอย ผมก็บอกว่าได้ครับ ผมจะรีบปรับปรุงให้ และจากนั้นผมก็ใช้ทั้งเดทตอล ทั้ง EM แล้ว แจ็บก็เริ่มหายดี เริ่มขนขึ้นกลิ่นตัวลดลง แต่บ้านหลังที่มีปัญหาก็ยังมีปัญหาไม่จบ เขามาถามผมว่าไหนเอาน้ำยามาราดแล้ว ผมก็บอกว่า ผมก็เอาเดทตอลราดให้แล้วไงครับ แล้วเขาก็ไปหยิบน้ำยาอะไรก็ไม่รู้มาให้ รู้อย่างเดียวครับ ว่ามันกลิ่นโรงพยาบาลชัดๆ แล้วคืนนั้นผมก็ผสมมันกับน้ำเปล่าใส่บัวรดน้ำขนาดกลางราดลงพื้น แล้วตอนเช้าเขาก็โทรมาขอบคุณผมว่า เออ ขอบใจที่ทำให้ ไม่เหม็นกลิ่นแล้ว คราวนี้ใช้ไปน้ำยาเริ่มจะหมด ผมก็ไปหาซื้อน้ำยาชนิดนี้ที่จุฬาเภสัช จนได้รู้จักมันในชื่อของ ”ไลโซล (Lysol)“ ผมก็เริ่มนำมาราดลงทุกวันๆ จนคนแถวบ้านผมบ่นว่า มันแรงไปนะ มันเหม็นมาก จนเมื่อวานนี้เขาก็โทรมาหาผมบอกว่า “น้ำยามันเหม็นมาก แล้ว Meung รู้หรือเปล่าว่า ไลโซล มันทำลายปอด“ ผมก็อ้าวแล้วให้ผมใช้ทำไมเพื่ออะไร แล้วเขาก็บอกการราดน้ำจากบ้านมาพื้นถนนหมู่บ้านมันผิดกฏหมาย
ทุกวันนี้มีบ้านหลังเดียวที่ว่าบ้านผมเหม็นกลิ่นหมา แต่บ้านหลังอื่นเขาเหม็นกลิ่นไลโซล เขาให้ผมทำอะไรให้เพื่อไม่มีกลิ่นผมก็ทำตามทุกอย่าง แล้วแบบนี้ผมควรจะทำอย่างไร กับ หมาของผมดีครับ ???
ขอขอบคุณท่านที่เข้ามาฟังผมบ่นนะครับ ผมก็ไม่มีอะไรมาก แค่อยากระบายและทำให้เพื่อนบ้านไม่เดือดร้อน ตอนแรกๆก็ยอมรับนะครับ ว่าอยากเอาหมาไปปล่อย แต่เห็นความพยายามของแฟนที่จะทำให้มันหายเป็นปกติ ก็เลยช่วยกันเลี้ยงให้เป็นเพื่อนของเรา และดูแลบ้านให้เราอีกคน