โรงแรมแห่งหนึ่งที่เชียงใหม่ค่ะ ตั้งอยู่ไกล้ๆกับร้านเหล้า club 51 หน้าคอมซิตี้ค่ะ และอยู่ไกล้ๆกับวัดโลกโมฬี คือมารยาทของพนักงานที่โรงแรมนั้นจัดว่าแย่มากค่ะ สะเพร่าทั้งโรงแรมเลยก็ว่าได้ ห้องนอนจัดว่าสะอาดเรียบร้อยระดับหนึ่ง เริ่มเล่าเลยนะค่ะ คือเมื่อ2-3วันที่ผ่านมา ทีมงานเราได้เดินทางจากกรุงเทพไปทำงานที่เชียงใหม่ค่ะ ทีมงานเรามีประมาณ10กว่าคนได้ค่ะ ก็แยกห้องกันเปิดห้อง ห้องนึงพัก2คน เราและทีมงานอยู่กันชั้น2 จะมีก็แต่ชั้น3มีแค่2ห้องที่เปิดไว้เพราะชั้น2ไม่พอค่ะ ห้องเราจะตรงกับลิฟท์พอดี ส่วนห้องพี่เราจะตรงกับบันไดคือทาง3แพร่งค่ะ เราก็ไม่รู้นะว่าการนับถือของใครหรือแต่ละศาสนาเป็นยังไง แต่ว่าพี่เราเป็นคนเชื้อสายจีน คือบ้านคนจีน เค้าจะต้องมีกระจกติดไว้เพื่อสะท้อนสิ่งไม่ดีใช่ปะค่ะ นี่คือตามของคนที่เชื่อเรื่องนี้นะค่ะ แต่เราเฉยๆ แล้วพอพี่เราเค้าไม่สบายใจเค้าก็ลงไปขออนุญาติทางพนักงานโรงแรมว่าขอติดกระจกได้ไหมเค้าไม่สบายใจที่ห้องนอนเค้าตรงกับทาง3แพร่ง ทางพนักงานก็บอกโอเคติดเลยค่ะ แค่นั้นไม่พอพนักงานยังเป็นคนให้กระจกมาติดไว้ที่หน้าห้อง พอติดอะไรเรียบร้อยผ่านไป1วัน กลับมาจากที่ทำงานมาพักกันที่โรงแรมเดิม พนักงานบอกว่ากระจกที่ติดที่ประตูอะค่ะดึงออกแล้วแล้วสีมันลอกเรียกเก็บเงิน300บาทค่าสีลอกซึ่งมันลอกแค่นิดเดียวค่ะ พี่เราที่ไม่ใช่ห้องที่ติดกระจกก็พูดออกมาว่าคือทางคุณบอกให้เราติดได้นิค่ะ แล้วกระจกก็คือของคุณเองด้วย คือทางเราก็คิดไม่ถึงไงว่ามันจะเกิดเหตุการณ์อะไรแบบนี้เพราะก็คงคิดว่าคนอื่นเค้าก็คงกลัวๆเหมือนกัน พนักงานก็พูดประมาณว่าก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะเอากาวตราช้างติดแล้วทำหน้าทำตาไม่พอใจใส่อ่ะค่ะ ทางพี่เราเค้าก็พูดอีกว่าถ้าอย่างนั้นความผิดมันก็ต้องคนละครึ่งรับผิดชอบกันคนละครึ่งเพราะคุณก็อนุญาติให้เราติดเองและให้กระจกมาติดด้วย บางทีถ้าเราดึงออกเองมันอาจจะไม่เสียหายขนาดนั้นก็ได้ ทางพนักงานพูดออกแนวตะคอกอ่ะค่ะแล้วทำหน้าทำตาใส่ พูดออกมาคำนึง แล้ววว? พี่เราก็เลยสวนว่าพูดดีๆก็ได้ค่ะทำไมต้องขึ้นเสียงทำไมต้องตะคอก พนักงานก็บอกว่า เนี่ยอะพูดดีที่สุดแล้วใจเย็นที่สุดแล้ว แล้วก็มีพนักงานอีกคนที่อยู่ด้วยพูดขึ้นมาว่างั้นถ้าไม่อยากจ่ายเงิน300 ก็เอาสีมาทาให้เหมือนเดิม พี่เราเลยไม่มีอะไรจะพูด ยืนมองหน้ากันพักนึงจนมีคนมาแยกออกมา เรื่องแรกผ่านไป มีต่อเรื่องที่2
อีกเรื่องคือคนขับรถตู้ของบริษัทเรามี2คันมี2คนนอน1ห้องชั้น3ค่ะ คือตอนก่อนจะออกไปทำงานกันเราทุกห้องจะฝากกุญแจไว้ที่เคาท์เตอร์ใช่ไหมค่ะเผื่อกลัวหายหรือให้แม่บ้านมาทำความสะอาด พอฝากไว้ตอนเย็นเลิกงานกันกลับมาโรงแรมพี่คนขับรถกลับห้องมาแค่คนเดียวอีกคนไปเซ็ตบูธต่อ แต่กุญแจไม่ได้อยู่กับคนที่กลับมา เลยเดินไปถามทางพนักงานว่ากุญแจห้องอยู่ที่นี่ไหมเค้าก็หาๆ บอกไม่มีๆ เดี๋ยวจะลองถามๆคนอื่นดูว่าอยู่กับใครแล้วจะบอกทีหลัง พี่คนขับรถเราก็เลยเออคิดว่าสงสัยคงอยู่กับอีกคนนึงแน่ๆ เลยเดินขึ้นไปรอห้องพี่เราอีกคนแล้วโทรหาคนขับรถอีกคนถามว่ากุญแจได้อยู่กับเค้าไหม ทางพี่อีกคนก็บอกว่าไม่มีไม่ได้อยู่ ฝากไว้กับโรงแรมแต่เช้าแล้ว พอพี่คนขับรถวางสายแล้วลงไปถามอีก ว่ากุญแจได้อยู่ที่เคาท์เตอร์ไหม พนักงานก็บอกไม่มีไม่เห็นเลย ( ทางโรงแรมอ่ะค่ะมันจะเปลี่ยนคนเปลี่ยนกะกันไง ที่ลงไปถามคืออีกคนนึง ) ก็ถามอีกว่าคนก่อนหน้านี้เค้าบอกเค้าจะหาให้ จะถามคนอื่นให้เพราะโทรไปถามกับอีกคนแล้วที่อยู่ด้วยกันเค้าบอกว่าฝากกุญแจไว้กับทางโรงแรม พนักงานก็บอกไม่รู้ ก็ไม่รู้อ่ะ แล้วทำเสียงไม่พอใจอีก พี่คนขับรถก็เลยถามพนักงานโรงแรมอีกว่าแล้วคุณมีกุญแจสำรองของห้องไหม พนักงานบอกว่ามีแต่ไม่มีที่เสียบไฟ พี่คนขับเค้าก็ถามต่ออีกว่าอ้าว ไม่มีที่เสียบแล้วผมจะอยู่ยังไงละครับไฟก็ไม่มี พนักงานก็บอกไม่รู้ พี่เค้าเลยบอกนั้นขึ้นไปเปิดประตูให้ผมหน่อย พนักงานก็พาขึ้นไปเปิดพอเปิดออกมาปรากฏว่าไฟห้องยังเปิดอยู่พร้อมกุญแจและที่เสียบไฟ ทางพนักงานไม่พูดอะไรเดินลงไปเลยค่ะ พี่เค้าเลยคิดว่าแม่บ้านคงทำความสะอาดไว้แล้วลืมเอาลงไป แต่มันก็ไม่ควรลืมป่ะค่ะ ทางโรงแรมสะเพร่า พูดจาไม่โอเค ไม่ทำหน้าที่การบริการให้ดี เสียความรู้สึกมากค่ะกับทางโรงแรมนี้
คือที่มาตั้งกระทู้ไม่ใช่เป็นการดิสเครดิตแต่อย่างใด แต่แค่จะมาบอกถึงเหตุการณ์แบบนี้เผื่อใครได้เจอกับตัวค่ะ แต่ ณ ตอนนี้รู้สึกแย่มากค่ะ เสียความรู้สึก ทางเราพูดดีใจเย็น ไม่มีการใส่อารมณ์ เราเป็นลูกค้า ถ้าคุณไม่มีใจรักในการทำงานบริการอย่าทำเลยค่ะ เข้าใจนะค่ะว่าพนักงานก็มีความรู้สึกแต่คุณควรจะแยกแยะว่าคุณก็ผิดการแสดงออกหรือคำพูดมันแย่มาก เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ทุกคำพูดที่พูดออกมาคือนายเรานะค่ะ ถ้าคิดว่าตัวเองปากไม่ดีให้คิดก่อนพูด
โรงแรมแห่งหนึ่งที่เชียงใหม่การบริการ แย่มากๆค่ะ
อีกเรื่องคือคนขับรถตู้ของบริษัทเรามี2คันมี2คนนอน1ห้องชั้น3ค่ะ คือตอนก่อนจะออกไปทำงานกันเราทุกห้องจะฝากกุญแจไว้ที่เคาท์เตอร์ใช่ไหมค่ะเผื่อกลัวหายหรือให้แม่บ้านมาทำความสะอาด พอฝากไว้ตอนเย็นเลิกงานกันกลับมาโรงแรมพี่คนขับรถกลับห้องมาแค่คนเดียวอีกคนไปเซ็ตบูธต่อ แต่กุญแจไม่ได้อยู่กับคนที่กลับมา เลยเดินไปถามทางพนักงานว่ากุญแจห้องอยู่ที่นี่ไหมเค้าก็หาๆ บอกไม่มีๆ เดี๋ยวจะลองถามๆคนอื่นดูว่าอยู่กับใครแล้วจะบอกทีหลัง พี่คนขับรถเราก็เลยเออคิดว่าสงสัยคงอยู่กับอีกคนนึงแน่ๆ เลยเดินขึ้นไปรอห้องพี่เราอีกคนแล้วโทรหาคนขับรถอีกคนถามว่ากุญแจได้อยู่กับเค้าไหม ทางพี่อีกคนก็บอกว่าไม่มีไม่ได้อยู่ ฝากไว้กับโรงแรมแต่เช้าแล้ว พอพี่คนขับรถวางสายแล้วลงไปถามอีก ว่ากุญแจได้อยู่ที่เคาท์เตอร์ไหม พนักงานก็บอกไม่มีไม่เห็นเลย ( ทางโรงแรมอ่ะค่ะมันจะเปลี่ยนคนเปลี่ยนกะกันไง ที่ลงไปถามคืออีกคนนึง ) ก็ถามอีกว่าคนก่อนหน้านี้เค้าบอกเค้าจะหาให้ จะถามคนอื่นให้เพราะโทรไปถามกับอีกคนแล้วที่อยู่ด้วยกันเค้าบอกว่าฝากกุญแจไว้กับทางโรงแรม พนักงานก็บอกไม่รู้ ก็ไม่รู้อ่ะ แล้วทำเสียงไม่พอใจอีก พี่คนขับรถก็เลยถามพนักงานโรงแรมอีกว่าแล้วคุณมีกุญแจสำรองของห้องไหม พนักงานบอกว่ามีแต่ไม่มีที่เสียบไฟ พี่คนขับเค้าก็ถามต่ออีกว่าอ้าว ไม่มีที่เสียบแล้วผมจะอยู่ยังไงละครับไฟก็ไม่มี พนักงานก็บอกไม่รู้ พี่เค้าเลยบอกนั้นขึ้นไปเปิดประตูให้ผมหน่อย พนักงานก็พาขึ้นไปเปิดพอเปิดออกมาปรากฏว่าไฟห้องยังเปิดอยู่พร้อมกุญแจและที่เสียบไฟ ทางพนักงานไม่พูดอะไรเดินลงไปเลยค่ะ พี่เค้าเลยคิดว่าแม่บ้านคงทำความสะอาดไว้แล้วลืมเอาลงไป แต่มันก็ไม่ควรลืมป่ะค่ะ ทางโรงแรมสะเพร่า พูดจาไม่โอเค ไม่ทำหน้าที่การบริการให้ดี เสียความรู้สึกมากค่ะกับทางโรงแรมนี้
คือที่มาตั้งกระทู้ไม่ใช่เป็นการดิสเครดิตแต่อย่างใด แต่แค่จะมาบอกถึงเหตุการณ์แบบนี้เผื่อใครได้เจอกับตัวค่ะ แต่ ณ ตอนนี้รู้สึกแย่มากค่ะ เสียความรู้สึก ทางเราพูดดีใจเย็น ไม่มีการใส่อารมณ์ เราเป็นลูกค้า ถ้าคุณไม่มีใจรักในการทำงานบริการอย่าทำเลยค่ะ เข้าใจนะค่ะว่าพนักงานก็มีความรู้สึกแต่คุณควรจะแยกแยะว่าคุณก็ผิดการแสดงออกหรือคำพูดมันแย่มาก เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ทุกคำพูดที่พูดออกมาคือนายเรานะค่ะ ถ้าคิดว่าตัวเองปากไม่ดีให้คิดก่อนพูด