พ่อของผมเป็นหนี้บัตรเครดิต 1,400,000

สวัสดีครับ

ผมมีเรื่องอยากจะสอบถามผู้รู้ กฎหมายที่เกี่ยวกับ ธนาคาร บัตรเคดิต เนื้อหาตามด้านล่างนี้ครับ

คุณพ่อของผม เค้าเป็นหนีบัตรเครดิตอยู่จำนวนเยอะมากเลยครับ และหลายใบด้วย จำนวนรวมๆกันคือประมาณ 1,400,000 บาท
อันนี้คือเท่าที่พ่อของผมบอกและพี่สาวของผมเชคครับ

คือขอเล่าให้ฟังก่อนว่า พ่อกับแม่ของผมเค้าได้หย่าขาดจากกันมาเกือบ 10ปีแล้ว และตอนนี้พ่อผมเค้าก็มีภรรยาใหม่ ซึ่งไม่แน่ใจว่า
ได้จดทะเบียนหรือไม่ ซึ่งผมเองหลังจากที่พ่อกับแม่ หย่าขาดจากกัน ทางผมและพี่สามเองก็ไม่ค่อยได้ติดต่อทางพ่อมากนัก เพราะพ่อย้ายออกไปมีรอบครัวใหม่แล้ว แต่ก็จะมีโทรหาถามสาระทุกสุขดิบกันบ้าง ผมเองอยู่ต่างจังหวัด เลยไม่ได้ดูแลพ่อมากเท่าไร แต่ถ้ากลับบ้านก็จะแวะไปหาเป็นประจำครับ

พ่อผมทำงานเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจครับ เงินเดือน ณ ตอนนี้ก็พอสมควร ทำให้มีธนาคารติดต่อให้ทำบัตรเยอะพอสมควร ซึ่งก่อนหน้านี้ พ่อผมโทรมาแจ้งว่าจะขายที่แปลงที่ปู่ผมยกให้เค้า ซึ่งพ่อต้องการจะขายให้กับญาติ เพื่อมาปิดบัตรเครดิต ผมเองก็ยินดีครับ เพราะอยากให้พ่อเคลียร์หนีสินให้เหลือน้อยที่สุด เพราะนอกจากหนีบัตรเครดิสแล้วยังมีหนีกับธนาคารต่างๆที่ไปกู้มาอีก ซึ่งหลังจากที่ขายที่แปลงนั้นไปแล้ว ผมก็ไม่ทราบว่าพ่อผมเคา้เอาไปปิดบัตรเครดิตจริงๆหรือปล่าว ปิดเท่าไร เหลือเท่าไร ขอมูลตรงนี้ผมไม่ทราบเลยครับเพราะพ่อไม่เคยเปิดเผยให้ทางผมและพี่สาวได้รับรู้เลย รวมถึงรายละเอียกการใช้เงินว่า เค้าใช้จ่ายอะไรไปบ้าง ก็ไม่เคยรับรู้ เพียงแต่ก่อนหน้านี้ผมเองก็ทราบดีครับว่าพ่อผมเองมีหนีสินกับบัตรเครดิตเยอะพอสมควร นั้นเพราะวินัยในการใช้เงินของเค้า เพราะหลังจากหย่าขาดจากแม่ของผม เค้าต้องเป็นคนดูแลเรื่องการใช้จ่ายส่วนตัวของเค้าเอง

จนกระทั้งเมื่อไม่นานมานี้ ได้กลับไปเยี่ยมพ่อครับ และพูดคุยกับพ่อเพราะพ่อใกล้จะเกษียณอายุแล้ว อยากรุ้ว่าพ่อว่างแผลนหลังจากการเกษียณอายุของเค้าไว้อย่างไร และก็ได้ถามถึง เรื่องการเงินด้วยเพราะ ถ้ากระเษียรออกมาพ่อก้จะได้เงินก้อน ซึ่งประเดนที่ผมและพี่สาวผมเป็นห่วงคือ พ่อมีหนีสินเท่าไรและเงินที่จะได้รับจาการเกษียณพ่อใช้หนีไหมและเหลือเท่าไร

ซึ่งจากที่คุยกัน พ่อแจ้งว่า ตอนนี้เฉพาะหนีบัตรเครดิตอย่างเดียวก็รวมๆประมาณ 1,400,000 แล้ว ยังไม่รวม หนีอื่นๆที่กู้มาจากธนาคารอีก ใน ขณะที่เมื่อพ่อเกษียณจากงาน พ่อจะได้เงินมาประมาณ 2,000,000 กว่าๆได้ ซึ่งคงใช้หนี้หมดพอดี ผมเองก็อึ้งครับ ส่วนตัวรุ้ว่าพ่อเป็นหนีเยอะแต่ไม่คิดว่าจะเยอะขาดนี้ เพราะไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย ผมเดาไม่ออกเลยว่า พ่อของผมหมดเงินไปกับอะไรได้มากมายขนาดนี้ เพราะทางผม แม่ พี่สาวเองก็ไม่ได้ไปรบกวนอะไรเค้า นอกจากค่าบ้านที่กู้ซื้อธนาคารมาตั้งแต่ยังเป้นคราบครัวเดียวกัน ต้องผ่อนจ่านเดือนละ 4000 กว่าบาท ซึ่งตอนนี้บ้านหลุดแล้วและโอนเป็นชื่อพี่สาวเรียบร้อย แต่ส่วนตัวผมคิดว่า ยอดบ้างส่วนมันน่าจะมาจาก ดอกเบี้ยด้วยครับแต่ผมไม่รู้ยอดจริงๆว่าถ้าไม่ร่วมดอกเบี้ย พ่อเป็นหนีเค้าเท่าไร

ตอนนี้เลยคิดว่า หลังจากที่พ่อเกษียณจากงาน ถึงตอนนั้น พ่อของผมเค้าจะไม่มีรายได้เข้าธนาคารประจำเหมือนทุกเดือนแล้ว เลยคิดว่าจะปล่อยให้ธนาคารฟ้องครับ เพื่อให้กระบวนการเข้าสู่ชั้นศาล และจะขอจ่ายเฉพาะ ยอดเงินต้น แบบผ่อนจ่าย เพราะส่วนตัวผมคิดว่า ถ้าพ่อได้เงินก้อนออกมา แล้วใช้หนีหมดเท่ากับ พ่อผมจะไม่มีเงินเหลือใช้เลยหลังจากเกษียณ

เลยอยากสอบถามผู้รู้ครับว่าในกรณีของพ่อผม จะมีช่องทางอย่างไรได้บ้างครับ ย้ำนะครับว่า ไม่ต้องการให้พ่อหลบหนีหนี้ที่เป้นอยู่แต่อยากให้แกใช้หนี้ตามความเป็นจริง ซึ่งเชื่อว่า ในวงเงิน รวมทุกบัตรเครดิตที่พ่อเป็นหนี้ ประมาณ 1,400,000 เชื่อว่าคงเป็นส่วนของดอกเบี้ยไม่น้อยเลย และพ่อของผมก็จ่ายชั้นต่ำมาตลอด (ฟังจากที่พ่อบอกมา) อาจจะมีจ่ายช้าบ้าง แต่ก็พยายามหมุนจ่าย

รบกวนผู้รุ้ด้วยครับ ผมไม่ค่อยมีความรุ้เรื่องบัตรเครดิตเลย เพราะส่วนตัวไม่เคยทำไว้เลยซักใบ....

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 28
ติดต่อธนาคารขอผ่อนชำระเป็นงวด ในแต่บะยอดหนี้เพื่อให้ดอกเบี้ยไม่บานไปกว่านี้ อาจคิดเป็น flat rate ก็น่าจะดีค่ะ
ทีนี้เมื่อแต่ละบัตร ให้แบ่งจ่ายแล้ว ให้ยืดยอดหนี้ออกไปให้นานที่สุด ให้จ่ายน้อยยยยย ที่สุดต่อเดือน
ยกเลิกการใช้งานบัตรให้หมดค่ะ
จากนั้นทำการชำระตามยอดที่ต้องจ่ายไปเรื่อยๆ จนพ่อเกษียร ได้เงินก้อน ทำการโอนเงินก้อนนั้นและทรัพย์สินทั้งหมดไปเป็นของคนอื่นให้หมด
หลังจากนั้น ทำการหยุดจ่ายหนี้ ทุกใบ!!!!!!! ตรงนี้อาจใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะมีการติดต่อประนอมหนี้ ระหว่างนี้เมื่อถูกทวงต้องใจแข็งค่ะ ไม่มีไม่หนี ไม่จ่าย
หลังจากหยุดจ่าย 6เดือน จะมีบริษัททวงหนี้โทรมา โดยเขาจะต่อรองขอให้คุณชำระยอด โดยอาจทำการลดให้ 60-70% แล้วแต่ต่อรอง ส่วนใหญ่พวกนี้ไม่อยากขึ้นศาลหรอกค่ะเพราะนาน เสียเวลา เสียค่าทนาย เผลอสุดท้ายไม่ได้เงินอีกเพราะถ้าศาลเห็นว่ามีการคิดดอกเบี้ยตามจริง ศาลจะสั่งให้ลดหนี้ตามจริงซึ่งอาจได้น้อยมากๆค่ะ.

พอเขาเสนอมา ก็จ่ายตามตกลง สุดท้ายยอดหนี้ ล้านสี่อาจลด 50% เหลือ แสนเจ็ดเป็นอย่างน้อย (อาจเหลือน้อยกว่านี้ ขึ้นกับการต่อรองและเงื่อนไขแบงค์)

และ !!!! ห้ามก่อหนี้ใหม่เด็ดขาดค่ะ !!!!!!


ปล. ทั้งหมดนี้จากคำแนะนำของรุ่นพี่คนนึงที่เป็นหนี้เกือบล้านค่ะ สุดท้ายต้องใช้วิธีนี้เพราะจ่ายไม่ไหว
ปล2. อย่าคิดว่านี่คือคำแนะนำที่บอกให้โกง !!!!!! เพราะก่อนหน้านี้ พ่อ จขกท ถูกคิดดอกไปกล้วเท่าไร .... ระยะเวลา 10 ปียอด ล้านสี่ เราว่าเผลอๆ พ่อ จขกท จ่ายหนี้หมดไปนานแล้วค่ะ ที่เหลือคือดอ้วนๆ พวกนี้ดอกโหดมากกกกกกค่ะ ต้นทบดอก ต้นทบดอกไปเรื่อยๆ จากคำบอกเล่า จ่ายแค่ขั้นต่ำ ระยะเวลาหลายปี เราว่ายอดหนี้จริงๆ 5-6 แสนไม่น่าจะเกินนี้หรอกค่ะ (พี่ที่ให้คำแนะนำ กดเงินสด ยอด 4 แสน จ่ายขั้นต่ำ 4 ปี เจอดอกทบต้นไปสุดท้าย หนี้ 8 แสน คุณคิดว่าเกินกว่าเหตุไหม ยังจะเห็นใจพวกปล่อยเงินกู้อยู่เหรอคะ)
ปล.3 พวกนี้คิดดอกเบี้ยเกินจริงค่ะ ดอกเบี้ย 28% ต่อปี ต้นทบดอกคิดว่ายอดหนี้จริงๆจะเท่าไรคะ แม้มีกฏหมายออกมากำหนดอัตราดอกเบี้ย พวกนี้มักจะใช้ช่องโหว่ เพิ่มค่าธรรมเนียมเข้าไปค่ะ เช่น ดอกเบี้ย 15% ตามกฏหมายแต่มีค่าธรรมเนียมอีก 13% รวม 28% คุณคิดว่าควรเห็นใจพวกนี้อีกเหรอคะ ?????
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่