คือแบบนี้นะคะ แฟนของพี่สาวซื้อรถให้พี่สาว โดยรถและเล่มทะเบียนเป็นชื่อของพี่สาวทั้งหมด แล้วทีนี้ทะเลาะกันฝ่ายชายต้องการรถคืน พี่สาวก็ได้ทำเรื่องโอนลอยให้ โดยไม่ได้จะให้รถคืนจริงๆ แค่อยากให้เรื่องมันจบๆไป ไม่อยากจะมีปัญหากันก็แค่นั้น สุดท้ายกลับมาดีกัน เพราะฝ่ายชายเอารถไป แต่ไม่ยอมไปแก้ไขข้อมูลในเล่มรถเป็นชื่อของตัวเอง พี่สาวกลัวว่าเค้าจะเอารถไปก่อเหตุหรือกลั่นแกล้ง จึงยอมคืนดี แล้วผู้ชายก็เอารถมาคืนให้ แต่ไม่ยอมคืนเล่มรถ ซึ่งในเล่มรถก็ยังเป็นชื่อพี่สาว แล้วสุดท้ายก็เลิกกัน เพราะพี่สาวทนนิสัยของฝ่ายชายไม่ได้ และฝ่ายชายก็ยังไม่ยอมคืนเล่มรถให้ พี่สาวเลยไปแจ้งหายที่ขนส่ง เพื่อขอทำเล่มรถใหม่ ก็ทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทีนี้ฝ่ายชายก็เอาหลักฐานการโอนลอยที่พี่สาวเคยเซ็นต์ให้พร้อมกับเล่มรถตัวจริงไปที่ขนส่งแล้วไปแจ้งความว่าพี่สาวแจ้งความเท็จ ขนส่งก็ติดต่อมาว่าทางเราได้มีการแจ้งความเท็จ ข้อมูลที่เราได้แจ้งไปทั้งหมดนั้นจะถือว่าเป็นโมฆะ บอกให้เราไปคุยกับทางฝ่ายชาย ไปตกลงกันว่าจะเอายังไง อยากจะทราบว่าเราจะมีทางไหนบ้างคะ ? ที่เราจะได้รถครอบครองโดยถูกต้อง เพราะตอนนี้รถอยู่กับพี่สาวตลอด แล้วใบโอนลอยก็เขียนไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว
และอีกอย่างฝ่ายชายเป็นตำรวจ และชอบดูถูกทางบ้านของเรา เห็นว่าเราเรียนมาน้อย ชอบข่มขู่ เอากฏหมายมาอ้างอยู่เรื่อย ทางครอบครัวเราสุดจะทนกับนิสัยของฝ่ายชายมากๆค่ะ ถึงเราจะเรียนมาน้อย นั่นไม่ได้หมายความว่าเราไม่รู้อะไรเลย ทางบ้านมีหนูอยู่คนเดียวที่เรียนจบ ป.ตรี นอกนั้นจบแค่ ม.3 หรือ ม.6 เพราะพ่อแม่ไม่มีเงินส่งเรียนค่ะ มีหนูคนเดียวที่เรียนจบ เพราะหนูส่งตัวเอง พยายามเต็มที่เพื่อลบคำสบประมาทของคนอื่น ทำให้เค้าเห็นว่าเราก็ทำได้ !!
มีปัญหาอยากสอบถามเกี่ยวกับการโอนรถยนต์ค่ะ ช่วยหน่อยนะคะ
และอีกอย่างฝ่ายชายเป็นตำรวจ และชอบดูถูกทางบ้านของเรา เห็นว่าเราเรียนมาน้อย ชอบข่มขู่ เอากฏหมายมาอ้างอยู่เรื่อย ทางครอบครัวเราสุดจะทนกับนิสัยของฝ่ายชายมากๆค่ะ ถึงเราจะเรียนมาน้อย นั่นไม่ได้หมายความว่าเราไม่รู้อะไรเลย ทางบ้านมีหนูอยู่คนเดียวที่เรียนจบ ป.ตรี นอกนั้นจบแค่ ม.3 หรือ ม.6 เพราะพ่อแม่ไม่มีเงินส่งเรียนค่ะ มีหนูคนเดียวที่เรียนจบ เพราะหนูส่งตัวเอง พยายามเต็มที่เพื่อลบคำสบประมาทของคนอื่น ทำให้เค้าเห็นว่าเราก็ทำได้ !!