ผมเริ่มรู้จักแฟนมาได้เกือบ 1 ปี แต่เริ่มคบกันจริงๆ ได้ 5 เดือน แต่เราอยู่คนละจังหวัด ผมชอบเธอตรงที่เธอเป็นคนเข้าใจในหลายๆ เรื่อง เช่น เวลาที่ผมมีงานเยอะ เธอก็จะไม่งอน เธอจะให้ผมทำงานเสร็จก่อน แล้วก็ค่อยคุยกัน.. บางที ผมมีเรื่องที่ต้องปรึกษาเธอทั้งเรื่องสำคัญและเรื่องไม่สำคัญ เธอก็จะให้คำปรึกษาด้วยดีมาตลอด นี่คือส่วนหนึ่งที่ผมประทับใจในตัวเธอ
ในชีวิตประจำวันปกติ เธอและผมก็จะคุยกันตลอดตั้งแต่ปลุก เวลาทำงานบ้างตามที่สะดวก ช่วงอาหารกลางวันนิดหน่อย และก็ช่วงเลิกงาน แต่เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อสองเดือนที่ผ่านมา ผมงานยุ่งมาก ทำงานทุกวัน ตั้งแต่เช้ายันค่ำเลย ผมยอมรับเลยที่ผมคุยกับเธอได้น้อยลง แต่เธอก็ไม่ได้ว่าอะไรผมเลย เธอเข้าใจผมดี และหลังจากงานผมเริ่มเบาลงบ้าง ผมก็เริ่มสนใจอยากซื้อมอเตอร์ไซด์คันใหญ่สักคัน และก็หาข้อมูลทั้งวัน สลับกับคุยกับเธอบ้าง และก็ปรึกษาเธอเรื่องการเลือกซื้อมอเตอร์ไซด์ด้วย และช่วง 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา ผมคุยกับเธอแต่เป็น Topic เรื่องมอเตอร์ไซด์เสียส่วนใหญ่ เธอก็ไม่อยากให้ผมซื้อเนื่องจากเธอมองว่ายังเป็นสิ่งของที่ฟุ่มเฟือย เธออยากให้เอาเงินไปใช้อย่างอื่นที่จำเป็นก่อน ผมเองก็เห็นด้วยกับเธอ แต่ใจนึงก็อยากได้เอาไว้ขับเพลินๆ หลังจากการทำงานที่เครียดมาตลอด 2 เดือนที่ผ่านมาและวาดฝันไว้ว่าเมื่อเวลาที่เธอมาเที่ยวหาผม ผมอยากพาเธอซ้อนไปเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติกัน ซึ่งผมก็เสริมเธอไปว่า ผมยังไงก็จะ Focus เงินไปเรื่องบ้านก่อนที่ใกล้จะต้องทำสินเชื่อแล้ว ส่วนเรื่องมอเตอร์ไซด์ คงผ่อนแบบนานหน่อยเนื่องจากเป็นดอกเบี้ย 3.5% แบบ fix ต่อปีอยู่แล้ว ผมก็บอกเธออีกว่า ยังไงก็ต้องเน้นผ่อนบ้านก่อน เพราะดอกเบี้ยบ้านวิ่งตลอด และก็ต้องกันเงินบางส่วนไว้ใช้เป็นภูมิคุ้มกันด้วย (ซึ่งใจจริงผมกันก้อนนี้ไว้เพื่อจะใช้แต่งงานกับเธอ แต่ผมยังไม่อยากบอกเหตุผลออกไป) และวันเกิดของเธอเอง คือ วันอาทิตย์ที่ 17 ส.ค. ซึ่งเธอก็ไม่ได้เตือนผม แต่ผมจำใส่ใจได้อยู่แล้ว ผมก็เลยแอบไปซื้อของขวัญโดยไม่บอกเธอ และคำนวณระยะเวลาการส่ง EMS ซึงทางไกลต้องใช้ 2 วัน และของขวัญก็ส่งถึงที่ทำงานเธอในวันศุกร์ที่ 15 ส.ค. พอดีตามที่ตั้งใจ เพราะเสาร์ อาทิตย์ ที่ทำงานเธอจะไม่มีใครมาเซ็นต์รับ และการที่จะส่งถึงที่พักของเธออาจจะเสี่ยงต่อพัสดุหายด้วย
จากนั้นผมมีโอกาสได้ไปงานกีฬาที่ กทม. ของบริษัท ซึ่งพึ่งจัดไปวันเสาร์ที่ 16 ส.ค. ซึ่งเป็นงานวันเดียว ผมเดินทางไปถึง กทม. ตั้งแต่ 15 ส.ค. และจองตั๋วกลับในค่ำวันที่ 16 เลย เนื่องจากผมเป็นคนตื่นสาย หากจองตั๋วกลับวันที่ 17 ช่วงเช้า เกรงว่าขี้เซาเกินเหตุ แฟนผมถามผมว่าทำไมรีบกลับ รีบไปหาใครหรือเปล่า ซึ่งผมไม่ได้คบกับใครนอกจากแฟน ผมเลยตอบว่า อยากมีเวลาเหลือวันอาทิตย์สบายๆ และจะได้ไปดูรถมอเตอร์ไซด์ ทันทีที่ผมพูดแบบนี้ไป เธอก็ให้ข้อคิดผมชุดใหญ่ว่า ทำไมถึงคิดเองไม่ได้ว่าควรใช้เงินกับเรื่องสำคัญก่อน และเธอก็ตัดพ้อว่า เบื่อที่จะเตือนแล้ว และเธอก็น้อยใจที่ผม Focus ที่เรื่องนี้โดยที่สนใจเธอน้อยลง ซึ่งผมเองก็ยอมรับในจุดนี้ และ Status ใน Line เธอก็ขึ้นว่า "สนใจบางสิ่ง จนลืมบางอย่าง รู้ตัวอีกทีก็เสียมันไป"
พอผมรู้แบบนี้ ผมก็เริ่มมีสติกลับมา และเริ่มหาตั๋วที่จะบินไปหาเธอ เพราะผมไปหาเธอล่าสุดตั้งแต่ 1 ก.ค. ซึ่งก็เกือบจะสองเดือนแล้ว แต่ผมก็เคยบอกเธอแล้วว่าช่วงเดือน 6-7-8 งานผมจะมะรุมมะตุ้มมากๆ ตัดภาพกลับมา ณ วันที่ผมเดินทางกลับจาก กทม. พอผมมาถึงที่พักที่จังหวัดที่ผมอยู่ ผมก็โทรศัพท์ไปหาเธอ แล้วบอกว่ากำลังดูตั๋ว ซึ่งในใจคิดว่าเธอน่าจะดีใจที่ผมจะไปหา แต่เธอตอบผมว่า มาทำไม ผมก็บอกว่า ก็อยากไปหาเธอ เธอก็พูดว่า ไม่ต้องมาหรอก มัวแต่สนใจรถอยู่นั่นแหละ และจากนั้นเธอก็จัดชุดใหญ่ให้ผมอีก และเธอก็ย้ำว่า "ถ้าไม่เตือนนี่ก็คงไม่รู้เนาะ" และจากนั้นเราก็วางหูไป และผมก็นับเวลาถอยหลัง Countdown และโทรไปอวยพรวันเกิดเธอตอน 0.00 พอดี และก็ Good Night กัน
พอถึงวันอาทิตย์ที่ 17 เป็นวันเกิดเธอ ผมก็คุยใน Line กับเธอตลอดเหมือนที่จีบกันใหม่ๆ พอตกเย็น เธอมาบอกผมว่า มีคนมาจีบเธอ เข้ามาจีบได้ 7 วันแล้ว เป็นเพื่อนสมัยเรียนมัธยมด้วยกัน และคนนี้ก็มารับเธอไปกินข้าวได้สัก 5 ครั้งแล้ว รวมถึงมื้อเที่ยงวันเกิดเธอด้วย ผมได้ยินก็รู้สึกเสียใจ ซึ่งวันที่ 19 เธอก็พึ่งไปทานอาหารเย็นกับคนๆ นี้ด้วย ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง ผมก็ขอโทษเธอแล้วที่ผมสนใจบางเรื่องเยอะไปหน่อย และผมก็บอกเธอว่าสิ้นเดือนนี้จะไปหานะ เธอก็ตัดพ้อท่าเดียวเลย เธอบอกว่า ถ้าผมมาหาเธอ เธอจะไม่ขอเจอ และบอกให้ผมดูแลตัวเองละกัน ผมไม่รู้จะทำยังไงกับเรื่องนี้ ทั้งๆ ที่ ผมก็ไม่ได้มีผู้หญิงอื่นเลย .. ผมก็ได้แต่ยอมรับผิดในสิ่งที่เธอไม่พอใจต่างๆ และก็ได้แต่ยืนยันด้วยใจว่าผมรักเธอและอยากมีครอบครัวที่อบอุ่นกับเธอ ผมก็รู้สึกเสียใจที่เธอเปิดโอกาสให้คนอื่นเข้ามา ผมไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ ครับ เสียใจที่ผมพยายามขอโทษเธอแล้ว แต่เธอยังไม่เข้าใจผมเลย ผมจริงจังกับเธอมากครับ และหวังว่าเธอจะให้โอกาสผม... ผมรักเธอเสมอครับ
แฟนผมไม่เข้าใจผม
ในชีวิตประจำวันปกติ เธอและผมก็จะคุยกันตลอดตั้งแต่ปลุก เวลาทำงานบ้างตามที่สะดวก ช่วงอาหารกลางวันนิดหน่อย และก็ช่วงเลิกงาน แต่เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อสองเดือนที่ผ่านมา ผมงานยุ่งมาก ทำงานทุกวัน ตั้งแต่เช้ายันค่ำเลย ผมยอมรับเลยที่ผมคุยกับเธอได้น้อยลง แต่เธอก็ไม่ได้ว่าอะไรผมเลย เธอเข้าใจผมดี และหลังจากงานผมเริ่มเบาลงบ้าง ผมก็เริ่มสนใจอยากซื้อมอเตอร์ไซด์คันใหญ่สักคัน และก็หาข้อมูลทั้งวัน สลับกับคุยกับเธอบ้าง และก็ปรึกษาเธอเรื่องการเลือกซื้อมอเตอร์ไซด์ด้วย และช่วง 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา ผมคุยกับเธอแต่เป็น Topic เรื่องมอเตอร์ไซด์เสียส่วนใหญ่ เธอก็ไม่อยากให้ผมซื้อเนื่องจากเธอมองว่ายังเป็นสิ่งของที่ฟุ่มเฟือย เธออยากให้เอาเงินไปใช้อย่างอื่นที่จำเป็นก่อน ผมเองก็เห็นด้วยกับเธอ แต่ใจนึงก็อยากได้เอาไว้ขับเพลินๆ หลังจากการทำงานที่เครียดมาตลอด 2 เดือนที่ผ่านมาและวาดฝันไว้ว่าเมื่อเวลาที่เธอมาเที่ยวหาผม ผมอยากพาเธอซ้อนไปเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติกัน ซึ่งผมก็เสริมเธอไปว่า ผมยังไงก็จะ Focus เงินไปเรื่องบ้านก่อนที่ใกล้จะต้องทำสินเชื่อแล้ว ส่วนเรื่องมอเตอร์ไซด์ คงผ่อนแบบนานหน่อยเนื่องจากเป็นดอกเบี้ย 3.5% แบบ fix ต่อปีอยู่แล้ว ผมก็บอกเธออีกว่า ยังไงก็ต้องเน้นผ่อนบ้านก่อน เพราะดอกเบี้ยบ้านวิ่งตลอด และก็ต้องกันเงินบางส่วนไว้ใช้เป็นภูมิคุ้มกันด้วย (ซึ่งใจจริงผมกันก้อนนี้ไว้เพื่อจะใช้แต่งงานกับเธอ แต่ผมยังไม่อยากบอกเหตุผลออกไป) และวันเกิดของเธอเอง คือ วันอาทิตย์ที่ 17 ส.ค. ซึ่งเธอก็ไม่ได้เตือนผม แต่ผมจำใส่ใจได้อยู่แล้ว ผมก็เลยแอบไปซื้อของขวัญโดยไม่บอกเธอ และคำนวณระยะเวลาการส่ง EMS ซึงทางไกลต้องใช้ 2 วัน และของขวัญก็ส่งถึงที่ทำงานเธอในวันศุกร์ที่ 15 ส.ค. พอดีตามที่ตั้งใจ เพราะเสาร์ อาทิตย์ ที่ทำงานเธอจะไม่มีใครมาเซ็นต์รับ และการที่จะส่งถึงที่พักของเธออาจจะเสี่ยงต่อพัสดุหายด้วย
จากนั้นผมมีโอกาสได้ไปงานกีฬาที่ กทม. ของบริษัท ซึ่งพึ่งจัดไปวันเสาร์ที่ 16 ส.ค. ซึ่งเป็นงานวันเดียว ผมเดินทางไปถึง กทม. ตั้งแต่ 15 ส.ค. และจองตั๋วกลับในค่ำวันที่ 16 เลย เนื่องจากผมเป็นคนตื่นสาย หากจองตั๋วกลับวันที่ 17 ช่วงเช้า เกรงว่าขี้เซาเกินเหตุ แฟนผมถามผมว่าทำไมรีบกลับ รีบไปหาใครหรือเปล่า ซึ่งผมไม่ได้คบกับใครนอกจากแฟน ผมเลยตอบว่า อยากมีเวลาเหลือวันอาทิตย์สบายๆ และจะได้ไปดูรถมอเตอร์ไซด์ ทันทีที่ผมพูดแบบนี้ไป เธอก็ให้ข้อคิดผมชุดใหญ่ว่า ทำไมถึงคิดเองไม่ได้ว่าควรใช้เงินกับเรื่องสำคัญก่อน และเธอก็ตัดพ้อว่า เบื่อที่จะเตือนแล้ว และเธอก็น้อยใจที่ผม Focus ที่เรื่องนี้โดยที่สนใจเธอน้อยลง ซึ่งผมเองก็ยอมรับในจุดนี้ และ Status ใน Line เธอก็ขึ้นว่า "สนใจบางสิ่ง จนลืมบางอย่าง รู้ตัวอีกทีก็เสียมันไป"
พอผมรู้แบบนี้ ผมก็เริ่มมีสติกลับมา และเริ่มหาตั๋วที่จะบินไปหาเธอ เพราะผมไปหาเธอล่าสุดตั้งแต่ 1 ก.ค. ซึ่งก็เกือบจะสองเดือนแล้ว แต่ผมก็เคยบอกเธอแล้วว่าช่วงเดือน 6-7-8 งานผมจะมะรุมมะตุ้มมากๆ ตัดภาพกลับมา ณ วันที่ผมเดินทางกลับจาก กทม. พอผมมาถึงที่พักที่จังหวัดที่ผมอยู่ ผมก็โทรศัพท์ไปหาเธอ แล้วบอกว่ากำลังดูตั๋ว ซึ่งในใจคิดว่าเธอน่าจะดีใจที่ผมจะไปหา แต่เธอตอบผมว่า มาทำไม ผมก็บอกว่า ก็อยากไปหาเธอ เธอก็พูดว่า ไม่ต้องมาหรอก มัวแต่สนใจรถอยู่นั่นแหละ และจากนั้นเธอก็จัดชุดใหญ่ให้ผมอีก และเธอก็ย้ำว่า "ถ้าไม่เตือนนี่ก็คงไม่รู้เนาะ" และจากนั้นเราก็วางหูไป และผมก็นับเวลาถอยหลัง Countdown และโทรไปอวยพรวันเกิดเธอตอน 0.00 พอดี และก็ Good Night กัน
พอถึงวันอาทิตย์ที่ 17 เป็นวันเกิดเธอ ผมก็คุยใน Line กับเธอตลอดเหมือนที่จีบกันใหม่ๆ พอตกเย็น เธอมาบอกผมว่า มีคนมาจีบเธอ เข้ามาจีบได้ 7 วันแล้ว เป็นเพื่อนสมัยเรียนมัธยมด้วยกัน และคนนี้ก็มารับเธอไปกินข้าวได้สัก 5 ครั้งแล้ว รวมถึงมื้อเที่ยงวันเกิดเธอด้วย ผมได้ยินก็รู้สึกเสียใจ ซึ่งวันที่ 19 เธอก็พึ่งไปทานอาหารเย็นกับคนๆ นี้ด้วย ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง ผมก็ขอโทษเธอแล้วที่ผมสนใจบางเรื่องเยอะไปหน่อย และผมก็บอกเธอว่าสิ้นเดือนนี้จะไปหานะ เธอก็ตัดพ้อท่าเดียวเลย เธอบอกว่า ถ้าผมมาหาเธอ เธอจะไม่ขอเจอ และบอกให้ผมดูแลตัวเองละกัน ผมไม่รู้จะทำยังไงกับเรื่องนี้ ทั้งๆ ที่ ผมก็ไม่ได้มีผู้หญิงอื่นเลย .. ผมก็ได้แต่ยอมรับผิดในสิ่งที่เธอไม่พอใจต่างๆ และก็ได้แต่ยืนยันด้วยใจว่าผมรักเธอและอยากมีครอบครัวที่อบอุ่นกับเธอ ผมก็รู้สึกเสียใจที่เธอเปิดโอกาสให้คนอื่นเข้ามา ผมไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ ครับ เสียใจที่ผมพยายามขอโทษเธอแล้ว แต่เธอยังไม่เข้าใจผมเลย ผมจริงจังกับเธอมากครับ และหวังว่าเธอจะให้โอกาสผม... ผมรักเธอเสมอครับ