หลังจากมีกระแสอื้ออึงกับฟีดแบ็คในตอนของ ‘ภู’ ที่มีทั้งดี (บ้าง) และร้าย (มากกว่า) ผมก็อยากมาแชร์มุมมองของผมต่อตอนนี้เช่นกันครับ ถ้าผ่านมารบกวนช่วยอ่านด้วยนะครับ ในตอนนี้จะเป็นตอนของ ‘ภู’ ผู้ที่มาชิงตำแหน่งตำแหน่งสร้างกองแช่งดีเด่นแข่งกับวิน ซึ่งก็ทำได้ดี ใน 4 ตอนที่ผ่านมากองแช่งแซงหน้าวินไปเรียบร้อย (ฮา) อย่างไรก็ตาม เหล่าทีมเขียนบทได้บิวท์กันว่าในตอนนี้เราอาจจะต้องกลายมาเป็นฝ่ายที่สงสารภูบ้าง ซึ่งเป็นอย่างนั้นจริงหรือเปล่า เรามาหาคำตอบกันครับ
มันเริ่มต้นที่ภูนั้นมาง้อขอคืนดีเต้ย แต่กลับโดนเต้นบอกเลิก โดยไม่ทราบเหตุผล (ในมุมมองของภู) ตัวภูที่เสียศูนย์อยู่จึงได้ตัดสินใจเข้าร้านเหล้าเพื่อย้อมใจ และในที่นี้เอง ทำให้ภูได้พบเจอกับ ‘พี่บอม’
พี่บอมนั้นมีอะไรหลายอย่างคล้ายคลึงกับตัวของภูเป็นอย่างมาก เช่น ถูกแฟนทิ้งโดยไม่ทราบเหตุผลของการจากลา ซึ่งเช่นเดียวกับปมครั้งนี้ของภูที่เต้ยไม่ยอมให้เหตุผลว่า เพราะเหตุใดจึงได้เลิกกับภูอย่างไม่ไยดี (อยากให้เต้ยตะโกนเหตุผลใส่หน้าแกมั้ยละ) และพี่บอมเองก็เคยคบมาแล้วทั้งชายและหญิงเช่นเดียวกันกับภู เนื่องจากความคล้ายคลึงกันเหลือเกินของประสบการณ์ มาถึงตรงนี้เองภูถึงเลือกที่จะเปิดใจ บอกเล่าสาเหตุของการเลิกคบกันระหว่างคู่ ช - ช อย่างธีร์
ตัวภูเองไม่เคยรับรู้แม้เพียงเศษเสี้ยวว่าสิ่งที่ตัวเองทำกับผู้คนรอบข้างนั้นเลวร้าย ภูเองทำไปเพราะเพียงแค่ว่า ‘เชื่อในความรู้สึกของตัวเอง’ แต่ก็นั่นแหละ คนที่มาเตือนสติให้รู้ว่าเห้ย ที่แกทำมันผิดนะ ก็คือพี่บอม
‘อิเลว’
‘แกขี้โกง’
‘แกนอกใจ’
‘ถ้าภูโดนทำแบบนั้น ภูจะรู้สึกยังไง’
คำพูดเหล่านั้นได้กระเทาะจิตใจของภูให้เริ่มมองรอบข้างมากขึ้น และเริ่มรู้จักที่จะ ‘เอาใจเขามาใส่ใจเรา’
การที่ตัวละครอย่างภูกำลังจมดิ่งไปสู่จุดต่ำสุด การที่มีใครสักคนคอยฉุดเราขึ้นมา คอยให้คำปรึกษา คอยให้ความใส่ใจ นี่มันยิ่งกว่ายาชั้นเลิศขุมใดๆ ทำให้ตัวละครที่มี ‘จิตใจอ่อนไหวง่าย’ แบบภู ‘ตกหลุมรัก’ ได้ไม่ยาก แต่ทุกอย่างคงไม่ง่ายแบบนั้น เพราะสุดท้ายในตอนจบของเรื่องราว พี่บอมกลับเลือกทิ้งภูเพียงเพราะเจอคนที่ ‘ใช่กว่า’
และนี่เองเป็นดั่งเงาสะท้อนของภูเองในครั้งหนึ่ง ที่ภูเองก็ทิ้งธีร์ไปอย่างไม่ไยดี โดยทิ้งเหตุผลไว้เพียงว่า ‘ชั้นเจอคนที่ใช่กว่าแล้ว’ กระกระทำครั้งนี้ของพี่บอมเสมือนเป็นการ ‘ตบหน้า’ ภูให้รู้สำนึก ว่าการถูกกระทำแบบไร้เหตุผลนั้นเป็นเช่นไร
ตัวละครอย่าง “พี่บอม” ได้ถูกวางให้กลายเป็นตัวแทนของ “กระจก” บานใหญ่ ที่ได้สะท้อนเรื่องราวของภูออกมา เป็นกระจกบานนึง ที่ทำให้ภูได้รู้จักตัวเอง และสำรวจตัวเอง ว่าที่ผ่านมาตัวเองเป็นเช่นไร...
“พอผมคิดว่าเคยทำแบบนี้กับใครไว้บ้าง... ผมพูดไม่ออกเลย”
เซ็กซ์ และการสะท้อนสังคม ?
มาวิจารณ์กันบ้างดีกว่า จากเสียงด่าอันอื้ออึงสนั่นโลกโซเชียลว่าตอนนี้มัน ‘ไม่เห็นสะท้อนสังคมเลย’ และเต็มไปด้วยเรื่อง ‘เซ็กซ์’ อย่างฉาบฉวย ในประเด็นนี้ ผมเห็นด้วยบางส่วน และไม่เห็นด้วยบางส่วน โดยส่วนเนื้อเรื่องในตอนนี้ ผมมองว่าในตอนนี้มันเป็นแนว ‘Coming of Age’ แบบเดียวกันกับ EP.2 ของธีร์ คือเป็นการที่ตัวละครเจอเหตุการณ์บางอย่างในชีวิต และทำให้เค้า ‘เติบโต’ ขึ้น ภูได้รู้จักกับตัวเองและได้เข้าใจความผิดพลาดของตัวเอง และพร้อมที่จะเดินไปข้างหน้า แต่ถ้าถามว่ามันสะท้อนสังคมตรงไหน คงต้องตอบว่าเป็นการสะท้อนสังคมของวัยรุ่นคนหนึ่ง ที่ในช่วงเวลาหนึ่งของชีวิต เราอาจจะต้องเคยหลงทาง สับสน และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือเราจะกลับมาได้อย่างไร
และในส่วนของเรื่อง ‘เซ็กซ์’ นั้น ได้โดนข้อครหามากมายว่าใส่มาเกินความจำเป็น (โดยเฉพาะของไผ่) แต่หากจะพิจารณาให้ลึกลงกว่านั้น มันอาจจะแฝงอะไรอยู่ก็เป็นได้ เราจะสังเกตุได้ว่าในตอนนี้มี 2 คู่ที่มีเพศสัมพันธ์นั่นก็คือ ภู - พี่บอม และ ไผ่ - เฟิร์น เราจะสังเกตุได้อย่างชัดเจนว่า ‘เซ็กส์’ ของสองคนนี้มีบางอย่างที่เหมือนกันอยู่คือ ‘การมีเซ็กซ์อย่างฉาบฉวยโดยคนที่ไม่ได้รักกัน’ แต่ว่าผลหลังจากนั้นกลับต่างกันโดยสิ้นเชิง คู่ของภูกลับจบลงโดยที่ตัวละครสองตัวนี้แฮปปี้ดี คุยกันแบบปกติ แต่กลับกัน ตัวละครอีกตัวอย่างไผ่นั้นกลับเกิด ‘ความรู้สึกผิด’ ในการกระทำครั้งนั้น สำหรับเรา ไม่รู้สิ มันเหมือนกับการแสดงให้เห็นว่าแม้การกระทำแบบเดียวกัน ก็ไม่จำเป็นต้องส่งผลเหมือนกัน สุดท้ายมันก็ขึ้นอยู่กับความปัจเจกของบุคคลอยู่ดี
(อิภูมันใจง่าย อิภูมันเลว แกพึ่งเลิกกับเต้ยนะ กริ๊สสสสสสส !!)
การกำกับและการเล่าเรื่อง
ผมว่าสิ่งที่ส่งผลกับฟีดแบ็คของตอนนี้ ส่วนใหญ่ๆเลยก็คงมาจากการเล่าเรื่องเป็นสำคัญ ประเด็นมันดี เพียงแต่ว่าการเล่าเรื่องทำให้ประเด็นมันดูเบาโหวงไปซะหมด เริ่มด้วยการใส่เรื่องของ ‘ชิ้นส่วนที่ขาดหาย’ แบบไม่เป็นธรรมชาติ ประหนึ่งกำลังฟังพี่อ้อยพี่ฉอด ประเด็นความรักของภูกับพี่บอลที่ดูเหมือน ‘ไม่มีน้ำหนัก’ เอาเสียเลย เรายังไม่รู้สึกเลยว่าตัวละครสองตัวนี้รักกัน นอกจากความผูกพันธ์ทางกาย ก็เห็นแต่ฉากที่ตัวครสองตัวนี้สร้างความสัมพันธ์แค่ตอนนั่งกินยา_อิ ? หรือมันเป็นเพียงแค่ ‘ความใจง่าย’ ของสองตัวละครนี่กันนะ
‘ใจง่ายเนอะ’
‘ที่ผ่านมามันดีมาก ?’
‘แต่พี่ทำแบบนี้ผมก็เจ็บอยู่ดี ?’
บอกเลยไม่อิน... แต่ถ้าถามว่าเข้าใจการกระทำของตัวละครไหม เข้าใจนะ แต่มันคนละส่วนกัน
และเหตุผลเดียวกันนี้ก็เกิดกับฉากที่ควรจะพีคมากอย่างฉากที่ภูทะเลาะกับแม่... แม่ที่เข้าใจลูกสุดๆแบบแม่ของภู กลับกลายเป็นแม่ที่ดูไม่มีเหตุผล ประโยคที่ว่า ‘ถ้าภูออกไป กลับมาไม่ต้องพูดกันอีก’ คือถามว่าเป็นไปได้ที่แม่ภูจะพูดคำนี้ คือมันเป็นไปได้นะ แต่จากเหตุการณ์ในตอนนี้ มันยังมากไม่พอให้เราจะเชื่อได้ว่าคนอย่างแม่ของภูหน่ะนะ... จะพูดคำนี้เพียงเพราะว่าลูกกลับบ้านดึกครั้งนึง และพยายามจะหนีออกไป
บางทีก็รู้สึกเป็นความตั้งใจของคนเขียนบทนะ ที่จะไม่เลือกให้ภูดาร์กเกินไป แต่พอมาเป็นบริบทที่ทะเลาะกับแม่ เหตุผลมันดูอ่อนไปมาก อย่างไรก็ตามผมก็ชอบนะในการที่ผู้เขียนบทเลือกที่จะเล่าเรื่องในมุมสว่าง เด็กวัยรุ่นไม่ต้องถึงกับเสียผู้เสียคนแล้วค่อยมาคิดได้ (แต่พิจารณาในความเป็นจริง เราจะเจอผู้หญิงแบบพี่บอมมั๊ยนะ เนื้อเรื่องอาจจะกลายเป็นสาวใหญ่มาอ้อยหลอกเด็ก ถถถถถถ)
การที่ซีรีย์เล่าไม่ชัดอาจจะเป็นเพราะใส่เนื้อเรื่องของคนอื่นเข้ามามากเกินไป จนไม่มีเวลาเล่าพระเอกของตอนอย่างภูเลย ความกลมกล่อมของการเล่าเรื่องตัวหลักมันหายไป การตัดต่อบางช่วงยังมีสิ่งที่รู้สึกแปลกๆ แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้ผมต้องของชื่นชมมาร์ชนะ มาร์ชแสดงได้ดีมาก โดยเฉพาะฉากขอเต้ยคืนดี โอ้โห มันดีมาก อินตามยังกะตอนนี้ธีร์ร้องให้ (T0T) แต่พอมานึกถึงความเลวที่อิภู cheated on เต้ยและทำร้ายจิตใจธีร์ แล้วแบบ...
ยังไงก็ขอจบลงตรงนี้แล้วกันนะครับ เขียนไปเขียนมายาวเฟื้อยเลย สุดท้ายนี้ขอฝากไว้ว่า ตอนนี้แม้ไม่ได้ทำให้รักตัวละคร ‘ภู’ มากขึ้นเหมือนตอนของคนอื่นๆ แต่ก็ทำให้เรารู้จัก และเข้าใจภูกันมากขึ้นนะครับ
กราบลาและสวัสดี

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้บทความนี้คัดลอกมาจากเว็ปไซต์ของผมเอง ไปเยี่ยมกันได้นะครับ
http://ibluetus.com/2014/08/18/review-hormones-the-series-ep-5/
http://ibluetus.com/
ส่วนนี่เป็น Facebook Fanpage นะครับ 
https://www.facebook.com/iBluetusRoom
หรือไปตามกันใน Twitter ก็ได้น้า 
https://twitter.com/FollowBluetus
ปล. กำลังว่าจะมีโปรเจคเขียนย้อนตอนของ ดาว-ก้อย อยู่ครับ มีประเด็นที่อยากเล่า อย่างไรอย่าลืมตามอ่านนะครับ
Edit - แก้คำผิดนะครับ ^ ^
Hormones วัยว้าวุ่น EP. 5 ‘ภู’ : “กระจกบานใหญ่ของนายภูเบศร์”
หลังจากมีกระแสอื้ออึงกับฟีดแบ็คในตอนของ ‘ภู’ ที่มีทั้งดี (บ้าง) และร้าย (มากกว่า) ผมก็อยากมาแชร์มุมมองของผมต่อตอนนี้เช่นกันครับ ถ้าผ่านมารบกวนช่วยอ่านด้วยนะครับ ในตอนนี้จะเป็นตอนของ ‘ภู’ ผู้ที่มาชิงตำแหน่งตำแหน่งสร้างกองแช่งดีเด่นแข่งกับวิน ซึ่งก็ทำได้ดี ใน 4 ตอนที่ผ่านมากองแช่งแซงหน้าวินไปเรียบร้อย (ฮา) อย่างไรก็ตาม เหล่าทีมเขียนบทได้บิวท์กันว่าในตอนนี้เราอาจจะต้องกลายมาเป็นฝ่ายที่สงสารภูบ้าง ซึ่งเป็นอย่างนั้นจริงหรือเปล่า เรามาหาคำตอบกันครับ
มันเริ่มต้นที่ภูนั้นมาง้อขอคืนดีเต้ย แต่กลับโดนเต้นบอกเลิก โดยไม่ทราบเหตุผล (ในมุมมองของภู) ตัวภูที่เสียศูนย์อยู่จึงได้ตัดสินใจเข้าร้านเหล้าเพื่อย้อมใจ และในที่นี้เอง ทำให้ภูได้พบเจอกับ ‘พี่บอม’
พี่บอมนั้นมีอะไรหลายอย่างคล้ายคลึงกับตัวของภูเป็นอย่างมาก เช่น ถูกแฟนทิ้งโดยไม่ทราบเหตุผลของการจากลา ซึ่งเช่นเดียวกับปมครั้งนี้ของภูที่เต้ยไม่ยอมให้เหตุผลว่า เพราะเหตุใดจึงได้เลิกกับภูอย่างไม่ไยดี (อยากให้เต้ยตะโกนเหตุผลใส่หน้าแกมั้ยละ) และพี่บอมเองก็เคยคบมาแล้วทั้งชายและหญิงเช่นเดียวกันกับภู เนื่องจากความคล้ายคลึงกันเหลือเกินของประสบการณ์ มาถึงตรงนี้เองภูถึงเลือกที่จะเปิดใจ บอกเล่าสาเหตุของการเลิกคบกันระหว่างคู่ ช - ช อย่างธีร์
ตัวภูเองไม่เคยรับรู้แม้เพียงเศษเสี้ยวว่าสิ่งที่ตัวเองทำกับผู้คนรอบข้างนั้นเลวร้าย ภูเองทำไปเพราะเพียงแค่ว่า ‘เชื่อในความรู้สึกของตัวเอง’ แต่ก็นั่นแหละ คนที่มาเตือนสติให้รู้ว่าเห้ย ที่แกทำมันผิดนะ ก็คือพี่บอม
‘อิเลว’
‘แกขี้โกง’
‘แกนอกใจ’
‘ถ้าภูโดนทำแบบนั้น ภูจะรู้สึกยังไง’
คำพูดเหล่านั้นได้กระเทาะจิตใจของภูให้เริ่มมองรอบข้างมากขึ้น และเริ่มรู้จักที่จะ ‘เอาใจเขามาใส่ใจเรา’
การที่ตัวละครอย่างภูกำลังจมดิ่งไปสู่จุดต่ำสุด การที่มีใครสักคนคอยฉุดเราขึ้นมา คอยให้คำปรึกษา คอยให้ความใส่ใจ นี่มันยิ่งกว่ายาชั้นเลิศขุมใดๆ ทำให้ตัวละครที่มี ‘จิตใจอ่อนไหวง่าย’ แบบภู ‘ตกหลุมรัก’ ได้ไม่ยาก แต่ทุกอย่างคงไม่ง่ายแบบนั้น เพราะสุดท้ายในตอนจบของเรื่องราว พี่บอมกลับเลือกทิ้งภูเพียงเพราะเจอคนที่ ‘ใช่กว่า’
และนี่เองเป็นดั่งเงาสะท้อนของภูเองในครั้งหนึ่ง ที่ภูเองก็ทิ้งธีร์ไปอย่างไม่ไยดี โดยทิ้งเหตุผลไว้เพียงว่า ‘ชั้นเจอคนที่ใช่กว่าแล้ว’ กระกระทำครั้งนี้ของพี่บอมเสมือนเป็นการ ‘ตบหน้า’ ภูให้รู้สำนึก ว่าการถูกกระทำแบบไร้เหตุผลนั้นเป็นเช่นไร
ตัวละครอย่าง “พี่บอม” ได้ถูกวางให้กลายเป็นตัวแทนของ “กระจก” บานใหญ่ ที่ได้สะท้อนเรื่องราวของภูออกมา เป็นกระจกบานนึง ที่ทำให้ภูได้รู้จักตัวเอง และสำรวจตัวเอง ว่าที่ผ่านมาตัวเองเป็นเช่นไร...
เซ็กซ์ และการสะท้อนสังคม ?
มาวิจารณ์กันบ้างดีกว่า จากเสียงด่าอันอื้ออึงสนั่นโลกโซเชียลว่าตอนนี้มัน ‘ไม่เห็นสะท้อนสังคมเลย’ และเต็มไปด้วยเรื่อง ‘เซ็กซ์’ อย่างฉาบฉวย ในประเด็นนี้ ผมเห็นด้วยบางส่วน และไม่เห็นด้วยบางส่วน โดยส่วนเนื้อเรื่องในตอนนี้ ผมมองว่าในตอนนี้มันเป็นแนว ‘Coming of Age’ แบบเดียวกันกับ EP.2 ของธีร์ คือเป็นการที่ตัวละครเจอเหตุการณ์บางอย่างในชีวิต และทำให้เค้า ‘เติบโต’ ขึ้น ภูได้รู้จักกับตัวเองและได้เข้าใจความผิดพลาดของตัวเอง และพร้อมที่จะเดินไปข้างหน้า แต่ถ้าถามว่ามันสะท้อนสังคมตรงไหน คงต้องตอบว่าเป็นการสะท้อนสังคมของวัยรุ่นคนหนึ่ง ที่ในช่วงเวลาหนึ่งของชีวิต เราอาจจะต้องเคยหลงทาง สับสน และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือเราจะกลับมาได้อย่างไร
และในส่วนของเรื่อง ‘เซ็กซ์’ นั้น ได้โดนข้อครหามากมายว่าใส่มาเกินความจำเป็น (โดยเฉพาะของไผ่) แต่หากจะพิจารณาให้ลึกลงกว่านั้น มันอาจจะแฝงอะไรอยู่ก็เป็นได้ เราจะสังเกตุได้ว่าในตอนนี้มี 2 คู่ที่มีเพศสัมพันธ์นั่นก็คือ ภู - พี่บอม และ ไผ่ - เฟิร์น เราจะสังเกตุได้อย่างชัดเจนว่า ‘เซ็กส์’ ของสองคนนี้มีบางอย่างที่เหมือนกันอยู่คือ ‘การมีเซ็กซ์อย่างฉาบฉวยโดยคนที่ไม่ได้รักกัน’ แต่ว่าผลหลังจากนั้นกลับต่างกันโดยสิ้นเชิง คู่ของภูกลับจบลงโดยที่ตัวละครสองตัวนี้แฮปปี้ดี คุยกันแบบปกติ แต่กลับกัน ตัวละครอีกตัวอย่างไผ่นั้นกลับเกิด ‘ความรู้สึกผิด’ ในการกระทำครั้งนั้น สำหรับเรา ไม่รู้สิ มันเหมือนกับการแสดงให้เห็นว่าแม้การกระทำแบบเดียวกัน ก็ไม่จำเป็นต้องส่งผลเหมือนกัน สุดท้ายมันก็ขึ้นอยู่กับความปัจเจกของบุคคลอยู่ดี
(อิภูมันใจง่าย อิภูมันเลว แกพึ่งเลิกกับเต้ยนะ กริ๊สสสสสสส !!)
การกำกับและการเล่าเรื่อง
ผมว่าสิ่งที่ส่งผลกับฟีดแบ็คของตอนนี้ ส่วนใหญ่ๆเลยก็คงมาจากการเล่าเรื่องเป็นสำคัญ ประเด็นมันดี เพียงแต่ว่าการเล่าเรื่องทำให้ประเด็นมันดูเบาโหวงไปซะหมด เริ่มด้วยการใส่เรื่องของ ‘ชิ้นส่วนที่ขาดหาย’ แบบไม่เป็นธรรมชาติ ประหนึ่งกำลังฟังพี่อ้อยพี่ฉอด ประเด็นความรักของภูกับพี่บอลที่ดูเหมือน ‘ไม่มีน้ำหนัก’ เอาเสียเลย เรายังไม่รู้สึกเลยว่าตัวละครสองตัวนี้รักกัน นอกจากความผูกพันธ์ทางกาย ก็เห็นแต่ฉากที่ตัวครสองตัวนี้สร้างความสัมพันธ์แค่ตอนนั่งกินยา_อิ ? หรือมันเป็นเพียงแค่ ‘ความใจง่าย’ ของสองตัวละครนี่กันนะ
‘ใจง่ายเนอะ’
‘ที่ผ่านมามันดีมาก ?’
‘แต่พี่ทำแบบนี้ผมก็เจ็บอยู่ดี ?’
บอกเลยไม่อิน... แต่ถ้าถามว่าเข้าใจการกระทำของตัวละครไหม เข้าใจนะ แต่มันคนละส่วนกัน
และเหตุผลเดียวกันนี้ก็เกิดกับฉากที่ควรจะพีคมากอย่างฉากที่ภูทะเลาะกับแม่... แม่ที่เข้าใจลูกสุดๆแบบแม่ของภู กลับกลายเป็นแม่ที่ดูไม่มีเหตุผล ประโยคที่ว่า ‘ถ้าภูออกไป กลับมาไม่ต้องพูดกันอีก’ คือถามว่าเป็นไปได้ที่แม่ภูจะพูดคำนี้ คือมันเป็นไปได้นะ แต่จากเหตุการณ์ในตอนนี้ มันยังมากไม่พอให้เราจะเชื่อได้ว่าคนอย่างแม่ของภูหน่ะนะ... จะพูดคำนี้เพียงเพราะว่าลูกกลับบ้านดึกครั้งนึง และพยายามจะหนีออกไป
บางทีก็รู้สึกเป็นความตั้งใจของคนเขียนบทนะ ที่จะไม่เลือกให้ภูดาร์กเกินไป แต่พอมาเป็นบริบทที่ทะเลาะกับแม่ เหตุผลมันดูอ่อนไปมาก อย่างไรก็ตามผมก็ชอบนะในการที่ผู้เขียนบทเลือกที่จะเล่าเรื่องในมุมสว่าง เด็กวัยรุ่นไม่ต้องถึงกับเสียผู้เสียคนแล้วค่อยมาคิดได้ (แต่พิจารณาในความเป็นจริง เราจะเจอผู้หญิงแบบพี่บอมมั๊ยนะ เนื้อเรื่องอาจจะกลายเป็นสาวใหญ่มาอ้อยหลอกเด็ก ถถถถถถ)
การที่ซีรีย์เล่าไม่ชัดอาจจะเป็นเพราะใส่เนื้อเรื่องของคนอื่นเข้ามามากเกินไป จนไม่มีเวลาเล่าพระเอกของตอนอย่างภูเลย ความกลมกล่อมของการเล่าเรื่องตัวหลักมันหายไป การตัดต่อบางช่วงยังมีสิ่งที่รู้สึกแปลกๆ แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้ผมต้องของชื่นชมมาร์ชนะ มาร์ชแสดงได้ดีมาก โดยเฉพาะฉากขอเต้ยคืนดี โอ้โห มันดีมาก อินตามยังกะตอนนี้ธีร์ร้องให้ (T0T) แต่พอมานึกถึงความเลวที่อิภู cheated on เต้ยและทำร้ายจิตใจธีร์ แล้วแบบ...
ยังไงก็ขอจบลงตรงนี้แล้วกันนะครับ เขียนไปเขียนมายาวเฟื้อยเลย สุดท้ายนี้ขอฝากไว้ว่า ตอนนี้แม้ไม่ได้ทำให้รักตัวละคร ‘ภู’ มากขึ้นเหมือนตอนของคนอื่นๆ แต่ก็ทำให้เรารู้จัก และเข้าใจภูกันมากขึ้นนะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้