หลังจากสาว “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ” มีข่าวว่าเตรียมจะสละโสดกับ “ไฮโซแอมป์ พิธาน องค์โฆษิต” ในปีหน้า งานนี้เลยมีคนเม้าท์ว่าผู้จัดการอย่าง “เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร” ออกอาการหวง ไม่อยากให้แต่งงาน พอได้เจอ “เอ” ในงานน้ำหอม “Pretty Doll Perfume by Chompoo Araya” เจ้าตัวก็ชี้แจงว่า “กับน้องอั้มพี่เอก็มองว่าเป็นเด็กอยู่เสมอ แต่ใครจะมาขอก็ไม่เคยว่าเลย ก็เหมือนพ่อแม่มองลูก พี่เอก็เป็นเหมือนพี่ของอั้มตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยมาด้วยกัน จนมาเป็นเพื่อนในวงการบันเทิง เราก็รู้สึกว่าเขาเป็นเหมือนเด็กไม่ได้โต คือประสบการณืทำงานเขาอาจจะเยอะแต่ความรู้สึกของคนข้างตัวไม่เคยมองอั้มโตเลย พอถึงเวลาที่เขาจะแต่งงานเราก็ต้องมีความห่วงเขาบ้าง”
แปลว่าเรายังไม่อยากให้แต่งใช่ไหม
”คือเรื่องแต่งถ้าใครมาขออั้มแล้วอั้มชอบ พี่เอก็โอเค ไม่ได้ไม่อยากให้แต่งขนาดนั้น แต่ถ้าถามจริงๆ ทุกวันนี้พี่เออยู่กับอั้มก็มีความสุข เราก็เป็นเหมือนแฟนคลับอั้ม ก็กลัวว่าถ้าเขามีแฟนเขาจะรักเราน้อยลงไหม แต่งไปแล้วมีน้องแล้วจะมีเวลาให้เราไหม แต่อีกมุมหนึ่งเราก็เข้าใจว่าชีวิตคนเราต้องดำเนินต่อไป”
สำหรับแอมป์เรารู้สึกยังไง
”แอมป์เขาก็เป็นคนน่ารักมาก 2-3 ปีที่ได้ไปไหนกับแอมป์เขาก็เป็นผู้ใหญ่ เขามีความคิด เขาให้เกียรติและมีสัมมาคารวะทุกอย่าง เขาไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นใคร พี่เอว่าแอมป์มีจิตใจที่ดี (ไม่ได้หวงแค่ห่วงเฉยๆ) ใช่ครับ พี่ก็เหมือนน้องๆ ทุกคนที่เป้นห่วงเขาแหละครับ พี่เอก็อยากกั้นประตูเงินประตูทองของเขาอยู่นะ”
แปลว่าปีหน้าอาจจะมีข่าวดี
”อันนี้ก็เหมือนกับว่าเท่าที่พี่เอคุยกับอั้มบ้างเหมือนตัวอั้มเขาก็หวงความโสดเหมือนกัน ตัวเขาก็พูดว่าเขามีความสุขกับทุกวันนี้ พี่เอก็คิดแทนเขาว่าเขาคงอาจจะกลัวว่าชีวิตหลังแต่งงานมันจะไม่เหมือนกับตอนนี้ เขาก็คงกลัวว่าไม่มีความสุขเหมือนทุกวันนี้”
แอมป์เคยมาปรึกษาเราเรื่องนี้ไหม
”แซวกันไปมามากกว่า ส่วนใหญ่อั้มจะแกล้งแอมป์ ก็พูดกันว่าขอสิ ขอเลย แต่เป็นแบบเล่นกันครับ”
ก็ต้องรอว่าทั้งคู่จะมีข่าวดีเมื่อไร
”ใช่ครับ พี่เอว่าช่วงชีวิตของคนการแต่งงานไม่ใช่เป็นคำตอบสุดท้ายของชีวิตคู่ ถ้าหากตอนนี้เขามีความสุขก็ใช้ชีวิตแบบนี้ไป เป็นได้ทั้งเพื่อน พี่ คนที่ห่วงใยและดูแลกัน แต่ถ้าวันหนึ่งรู้สึกเขาเบื่อกับชีวิตตรงนี้ อยากมีชีวิตครอบครัว อันนี้ก็จะเป็นอีกสเต็ปหนึ่งครับ”
ได้ยินว่าจะเป็นผู้จัดละคร
”ตอนนี้ก็เป็นอยู่ ตอนนี้ที่เราทำคือละครเรื่อง “อรุณสวัสดิ์” ก็กำลังจะออนแอร์วันที่ 31 ส.ค.นี้ พี่เอทำให้ค่ายโมโน ก็ต้องบอกก่อนว่าบริษัทเรามีหลายองค์กร ถ้าโซนอาหารและโซนเอนเตอร์เทน ตอนนี้ก็อยู่ในระหว่างรอละครบางเรื่องจากบางช่องที่เข้ามาถ้ามีละครบางช่องเข้ามาก่อนเราก็จะให้พนักงานทำส่วนนั้นก่อนเพื่อเป็นการให้พนักงานไม่ว่างงานเพราะจ่ายเงินเดือนเป็นหลักล้านเหมือนกันสำหรับพนักงานจุดที่ผลิตละคร ตอนนี้ก็เพิ่งทำของค่ายโมโนเสร็จไป ซึ่งจริงๆ ตอนแรกเราคิดว่าจะออกอากาศปลายปีแต่เห็นเขาจะให้ออกอากาศ 31 ส.ค.นี้แล้ว ส่วนที่มีอีกเรื่องก็คือเรื่อง “เพลิงดาว” ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับดาวของเราๆ นี่แหละ ได้คนถ่ายทอดความเป็นดาวก็คือ “พี่มาช่า”, “แตงโม ภัทรธิดา” และได้ “บอม ธนา” มาเล่นเป็นพระเอก”
ชวนมาช่ามาเล่นกับเรายากไหม
”จริงๆ พี่มาช่าเขาเป็นคนน่ารักนะครับ ตอนไปคุยเราก็นำบทให้เขาและเสนออะไรนิดหน่อยเขาก็โอเค (แต่เขาห่างละครมานานแล้ว) คือในเรื่องนี้นางเอกคนหนึ่งคือดาวค้างฟ้าที่อยู่วงการนี้มา 20-30 ปี พี่มาช่าก็เหมาะเป้นคนแทนของคนๆ นี้ในบทละคร ส่วนอีกคนก็เป็นรุ่นน้องที่เข้ามาหลังประมาณ 10 ปีก็มาชิงดีชิงรักกันแบบนี้แหละครับ”
นำเหตุการณ์จริงมาสร้างด้วยหรือเปล่า
”ไม่ครับ เรื่องนี้เป็นบทประพันธ์อยู่แล้วครับ มีเป็นหนังสือ แต่บางทีในหนังสือก็เหมือนเขียนมาจากชีวิตจริงของใครหลายๆ คน คือวงการบันเทิงเวลาทำอะไรนิดหน่อยก็จะมีคนถามว่าเราไปเอาเรื่องของใครเขามาหรือเปล่า จริงๆ ก็เป็นทุกวงการแหละ ก็ยกตัวอย่างเวลาเราอกหักแล้วเราดูละครทำไมถึงรู้สึกว่ามันคล้ายตัวเรา ก็บอกตรงนี้ก่อนเลยว่าไม่ได้เอาเรื่องของใครมากนะครับ”
เห็นแตงโมเล่นข้ามช่องแบบนี้จะมีปัญหาอะไรไหม
”อันนี้ก็ต้องขอบพระคุณผู้ใหญ่ที่ช่อง 7 ผู้ใหญ่ก็อนุญาต พี่เอก็ทำจดหมายเรียบร้อย (แปลว่าไม่ได้ย้ายค่าย) ไม่เลยครับ ผมทำเป็นจดหมายให้ผู้ใหญ่เรียบร้อย”
ทำไมไม่ให้เด็กเราเล่น
”คิวเต็มหมดครับ(หัวเราะ) จริงๆ ก็เต็มกันทุกคนแหละ พี่มาช่าก็คิวเต็ม คือเด็กบางทีคนที่ตรงกับคาแรคเตอร์นี้จริงๆ ไม่มีหรือไม่ก็ติดงานกันอยู่ แต่คนที่เลือกมาแสดงพี่เอว่าน่าจะเหมาะสมอยู่นะครับ”
ตอนเราลงรูปฟิตติ้งละครก็มีกระแสวิจารณ์มาว่าไม่น่าเอาคนนั้นมาเล่นเลย
”มันก็นานาจิตตังนะครับ พี่เอว่าทุกวันนี้ที่พี่เอยืนอยู่ได้เพราะมีคนให้โอกาสพี่เอ พี่เอก็พอจะนึกออกนะว่าน้องๆ หมายถึงใครพี่เอก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่พี่ว่าเราลองมองมุมกลับกัน ถ้าเราเข้าใจเขาและโอกาสที่เรายื่นให้เขาประสบความสำเร็จพี่เอว่าสิ่งนี้มันจะเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์มากเลยครับ (ไม่กลัวละครโดนกระแสแอนตี้) พี่เอว่ากว่าจะเป้นพี่เอตอนนี้ก็คงไม่ต้องกลัวอะไรแล้วแหละ ล้มลุกคลุกคลานมาเยอะ แต่ถ้าจะเกิดอะไรขึ้นเราก็ต้องยอมรับในความเป็นไป สิ่งที่พี่เอพอจะทำได้ก็คือขอให้น้องๆ ทุกคนให้โอกาส ก็ให้กำลังใจเราในจุดนี้ด้วยนะครับ(ยิ้ม)”
เห็นเราบินไปหาเด็กหน้าใหม่หลายประเทศ
”ตอนนี้ก็มีโปรเจกต์ปั้นน้องใหม่ขึ้นมา ถ้าทุกคนได้ดูอินสตาแกรมพี่เอจะเห็นว่าพี่เอนั่งเครื่องเพื่อไปหาคนไทยที่เป็นคนไทยแท้ๆ ในประเทศต่างๆ คนก็ไม่รู้หรอกว่าพี่เอบินไปเพื่ออะไรแต่จริงๆ แล้วมันคือการทำงานและพี่ก็ไปพูดคุยกับพ่อแม่ของเขาในประเทศต่างๆ พี่ก็บอกเขาว่าเดี๋ยวปี 57 ช่วง ก.ย. พี่จะรวมพล 5 คนที่พี่เดินทางไปหาเขาทั่วโลกเอามาอยู่ที่บ้านเพื่อที่จะได้จ้างครูสอนทีเดียว ก็เอา 5 คนมาอยู่ด้วยกันและลองมาเรียนรู้แล้วก็ดูว่าคนไหนมีโอกาสและหน่วยก้านดี พี่ก็บอกพ่อแม่เขานะว่าน้องทุกคนอาจจะมีโอกาสดังได้ไม่เท่ากัน แล้วแต่ตัวของน้อง แต่พี่เอรับรองว่าใน 5 คนนี้อย่างต่ำในสายตาพี่ต้องมี 3 คนดังแน่นอน”
ไปหาเด็กลูกครึ่งในประเทศต่างๆ เหรอ
”ไม่ใช่ลูกครึ่งเลยครับ เป็นคนไทยแท้ๆ แต่พูดได้คนละ 3-5 ภาษาบ้าง คือประเทศของเราเริ่มเป็นสากล จริงๆ ก็สากลมาตั้งนานแล้วแต่เราอยากให้นักแสดงของเราพูดได้หลายๆ ภาษา ก็ตั้งแต่พี่มีณเดชน์ เจมส์มาร์ หรือคนอื่นๆ เขาก็พูดภาษาอังกฤษกันได้ พี่ว่าไม่แน่อนาคตเราอาจจะมีคอนเสิร์ตไปจัดที่ประเทศเพื่อนบ้านก็ได้”
เราอยากได้ภาษาจากเขา
”ใช่ครับ ก็อยากได้ภาษาด้วย อยากได้แบบมีเรื่องราวด้วย คือมันดูสนุกดี เพราะถ้าเกิดบังเอิญเจอมันก็คงไม่สนุกสักเท่าไร”
ตอนนี้ที่มีคือคนไทยทั้งหมด
”เป็นคนไทยทั้งหมด ก็ไปเจอที่อเมริกา 1 คน ที่แคนาดาหลายคนเลย แล้วก็ที่ออสเตรเลียอีก 1 คน ตอนนี้ก็กำลังอยู่ในขั้นตอนฝึกอยู่ พี่เอยังไม่ให้เด็กหาช่องถ้าแอคติ้งเขายังไม่ดี หน้าตาเขายังไม่พร้อม หรือบุคลิคเขายังไม่ได้ พี่เอก็จะเก้บเขาไว้ที่บ้านก่อน ถ้าจะเก็บไว้ 5 ปีพี่เอก็เก็บได้ไม่เสียดายหรอก เพียงแต่ไปแล้วขออย่าให้คนกลับมาด่าว่านี่เด็กเอเหรอ แสดงได้แค่นี้เหรอ แบบนี้ไม่เอาหรอก”
ปั้นเด็กรอบนี้เซ็นสัญญารัดกุมกว่าเดิมหรือเปล่าเพราะเราก็ลงไปเยอะเหมือนกัน
”(หัวเราะ)ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าเขาจะกลับประเทศก็ไม่เป็นไร ถือว่าทำบุญ”
ข่าวจาก : รักดารา
http://www.rakdara.net/home/?p=79662
“เอ”รับห่วง”อั้ม”แต่ไม่ได้ห้ามแต่งงาน เล็งดึง”มาช่า-แตงโม”ลงละคร
หลังจากสาว “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ” มีข่าวว่าเตรียมจะสละโสดกับ “ไฮโซแอมป์ พิธาน องค์โฆษิต” ในปีหน้า งานนี้เลยมีคนเม้าท์ว่าผู้จัดการอย่าง “เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร” ออกอาการหวง ไม่อยากให้แต่งงาน พอได้เจอ “เอ” ในงานน้ำหอม “Pretty Doll Perfume by Chompoo Araya” เจ้าตัวก็ชี้แจงว่า “กับน้องอั้มพี่เอก็มองว่าเป็นเด็กอยู่เสมอ แต่ใครจะมาขอก็ไม่เคยว่าเลย ก็เหมือนพ่อแม่มองลูก พี่เอก็เป็นเหมือนพี่ของอั้มตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยมาด้วยกัน จนมาเป็นเพื่อนในวงการบันเทิง เราก็รู้สึกว่าเขาเป็นเหมือนเด็กไม่ได้โต คือประสบการณืทำงานเขาอาจจะเยอะแต่ความรู้สึกของคนข้างตัวไม่เคยมองอั้มโตเลย พอถึงเวลาที่เขาจะแต่งงานเราก็ต้องมีความห่วงเขาบ้าง”
แปลว่าเรายังไม่อยากให้แต่งใช่ไหม
”คือเรื่องแต่งถ้าใครมาขออั้มแล้วอั้มชอบ พี่เอก็โอเค ไม่ได้ไม่อยากให้แต่งขนาดนั้น แต่ถ้าถามจริงๆ ทุกวันนี้พี่เออยู่กับอั้มก็มีความสุข เราก็เป็นเหมือนแฟนคลับอั้ม ก็กลัวว่าถ้าเขามีแฟนเขาจะรักเราน้อยลงไหม แต่งไปแล้วมีน้องแล้วจะมีเวลาให้เราไหม แต่อีกมุมหนึ่งเราก็เข้าใจว่าชีวิตคนเราต้องดำเนินต่อไป”
สำหรับแอมป์เรารู้สึกยังไง
”แอมป์เขาก็เป็นคนน่ารักมาก 2-3 ปีที่ได้ไปไหนกับแอมป์เขาก็เป็นผู้ใหญ่ เขามีความคิด เขาให้เกียรติและมีสัมมาคารวะทุกอย่าง เขาไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นใคร พี่เอว่าแอมป์มีจิตใจที่ดี (ไม่ได้หวงแค่ห่วงเฉยๆ) ใช่ครับ พี่ก็เหมือนน้องๆ ทุกคนที่เป้นห่วงเขาแหละครับ พี่เอก็อยากกั้นประตูเงินประตูทองของเขาอยู่นะ”
แปลว่าปีหน้าอาจจะมีข่าวดี
”อันนี้ก็เหมือนกับว่าเท่าที่พี่เอคุยกับอั้มบ้างเหมือนตัวอั้มเขาก็หวงความโสดเหมือนกัน ตัวเขาก็พูดว่าเขามีความสุขกับทุกวันนี้ พี่เอก็คิดแทนเขาว่าเขาคงอาจจะกลัวว่าชีวิตหลังแต่งงานมันจะไม่เหมือนกับตอนนี้ เขาก็คงกลัวว่าไม่มีความสุขเหมือนทุกวันนี้”
แอมป์เคยมาปรึกษาเราเรื่องนี้ไหม
”แซวกันไปมามากกว่า ส่วนใหญ่อั้มจะแกล้งแอมป์ ก็พูดกันว่าขอสิ ขอเลย แต่เป็นแบบเล่นกันครับ”
ก็ต้องรอว่าทั้งคู่จะมีข่าวดีเมื่อไร
”ใช่ครับ พี่เอว่าช่วงชีวิตของคนการแต่งงานไม่ใช่เป็นคำตอบสุดท้ายของชีวิตคู่ ถ้าหากตอนนี้เขามีความสุขก็ใช้ชีวิตแบบนี้ไป เป็นได้ทั้งเพื่อน พี่ คนที่ห่วงใยและดูแลกัน แต่ถ้าวันหนึ่งรู้สึกเขาเบื่อกับชีวิตตรงนี้ อยากมีชีวิตครอบครัว อันนี้ก็จะเป็นอีกสเต็ปหนึ่งครับ”
ได้ยินว่าจะเป็นผู้จัดละคร
”ตอนนี้ก็เป็นอยู่ ตอนนี้ที่เราทำคือละครเรื่อง “อรุณสวัสดิ์” ก็กำลังจะออนแอร์วันที่ 31 ส.ค.นี้ พี่เอทำให้ค่ายโมโน ก็ต้องบอกก่อนว่าบริษัทเรามีหลายองค์กร ถ้าโซนอาหารและโซนเอนเตอร์เทน ตอนนี้ก็อยู่ในระหว่างรอละครบางเรื่องจากบางช่องที่เข้ามาถ้ามีละครบางช่องเข้ามาก่อนเราก็จะให้พนักงานทำส่วนนั้นก่อนเพื่อเป็นการให้พนักงานไม่ว่างงานเพราะจ่ายเงินเดือนเป็นหลักล้านเหมือนกันสำหรับพนักงานจุดที่ผลิตละคร ตอนนี้ก็เพิ่งทำของค่ายโมโนเสร็จไป ซึ่งจริงๆ ตอนแรกเราคิดว่าจะออกอากาศปลายปีแต่เห็นเขาจะให้ออกอากาศ 31 ส.ค.นี้แล้ว ส่วนที่มีอีกเรื่องก็คือเรื่อง “เพลิงดาว” ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับดาวของเราๆ นี่แหละ ได้คนถ่ายทอดความเป็นดาวก็คือ “พี่มาช่า”, “แตงโม ภัทรธิดา” และได้ “บอม ธนา” มาเล่นเป็นพระเอก”
ชวนมาช่ามาเล่นกับเรายากไหม
”จริงๆ พี่มาช่าเขาเป็นคนน่ารักนะครับ ตอนไปคุยเราก็นำบทให้เขาและเสนออะไรนิดหน่อยเขาก็โอเค (แต่เขาห่างละครมานานแล้ว) คือในเรื่องนี้นางเอกคนหนึ่งคือดาวค้างฟ้าที่อยู่วงการนี้มา 20-30 ปี พี่มาช่าก็เหมาะเป้นคนแทนของคนๆ นี้ในบทละคร ส่วนอีกคนก็เป็นรุ่นน้องที่เข้ามาหลังประมาณ 10 ปีก็มาชิงดีชิงรักกันแบบนี้แหละครับ”
นำเหตุการณ์จริงมาสร้างด้วยหรือเปล่า
”ไม่ครับ เรื่องนี้เป็นบทประพันธ์อยู่แล้วครับ มีเป็นหนังสือ แต่บางทีในหนังสือก็เหมือนเขียนมาจากชีวิตจริงของใครหลายๆ คน คือวงการบันเทิงเวลาทำอะไรนิดหน่อยก็จะมีคนถามว่าเราไปเอาเรื่องของใครเขามาหรือเปล่า จริงๆ ก็เป็นทุกวงการแหละ ก็ยกตัวอย่างเวลาเราอกหักแล้วเราดูละครทำไมถึงรู้สึกว่ามันคล้ายตัวเรา ก็บอกตรงนี้ก่อนเลยว่าไม่ได้เอาเรื่องของใครมากนะครับ”
เห็นแตงโมเล่นข้ามช่องแบบนี้จะมีปัญหาอะไรไหม
”อันนี้ก็ต้องขอบพระคุณผู้ใหญ่ที่ช่อง 7 ผู้ใหญ่ก็อนุญาต พี่เอก็ทำจดหมายเรียบร้อย (แปลว่าไม่ได้ย้ายค่าย) ไม่เลยครับ ผมทำเป็นจดหมายให้ผู้ใหญ่เรียบร้อย”
ทำไมไม่ให้เด็กเราเล่น
”คิวเต็มหมดครับ(หัวเราะ) จริงๆ ก็เต็มกันทุกคนแหละ พี่มาช่าก็คิวเต็ม คือเด็กบางทีคนที่ตรงกับคาแรคเตอร์นี้จริงๆ ไม่มีหรือไม่ก็ติดงานกันอยู่ แต่คนที่เลือกมาแสดงพี่เอว่าน่าจะเหมาะสมอยู่นะครับ”
ตอนเราลงรูปฟิตติ้งละครก็มีกระแสวิจารณ์มาว่าไม่น่าเอาคนนั้นมาเล่นเลย
”มันก็นานาจิตตังนะครับ พี่เอว่าทุกวันนี้ที่พี่เอยืนอยู่ได้เพราะมีคนให้โอกาสพี่เอ พี่เอก็พอจะนึกออกนะว่าน้องๆ หมายถึงใครพี่เอก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่พี่ว่าเราลองมองมุมกลับกัน ถ้าเราเข้าใจเขาและโอกาสที่เรายื่นให้เขาประสบความสำเร็จพี่เอว่าสิ่งนี้มันจะเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์มากเลยครับ (ไม่กลัวละครโดนกระแสแอนตี้) พี่เอว่ากว่าจะเป้นพี่เอตอนนี้ก็คงไม่ต้องกลัวอะไรแล้วแหละ ล้มลุกคลุกคลานมาเยอะ แต่ถ้าจะเกิดอะไรขึ้นเราก็ต้องยอมรับในความเป็นไป สิ่งที่พี่เอพอจะทำได้ก็คือขอให้น้องๆ ทุกคนให้โอกาส ก็ให้กำลังใจเราในจุดนี้ด้วยนะครับ(ยิ้ม)”
เห็นเราบินไปหาเด็กหน้าใหม่หลายประเทศ
”ตอนนี้ก็มีโปรเจกต์ปั้นน้องใหม่ขึ้นมา ถ้าทุกคนได้ดูอินสตาแกรมพี่เอจะเห็นว่าพี่เอนั่งเครื่องเพื่อไปหาคนไทยที่เป็นคนไทยแท้ๆ ในประเทศต่างๆ คนก็ไม่รู้หรอกว่าพี่เอบินไปเพื่ออะไรแต่จริงๆ แล้วมันคือการทำงานและพี่ก็ไปพูดคุยกับพ่อแม่ของเขาในประเทศต่างๆ พี่ก็บอกเขาว่าเดี๋ยวปี 57 ช่วง ก.ย. พี่จะรวมพล 5 คนที่พี่เดินทางไปหาเขาทั่วโลกเอามาอยู่ที่บ้านเพื่อที่จะได้จ้างครูสอนทีเดียว ก็เอา 5 คนมาอยู่ด้วยกันและลองมาเรียนรู้แล้วก็ดูว่าคนไหนมีโอกาสและหน่วยก้านดี พี่ก็บอกพ่อแม่เขานะว่าน้องทุกคนอาจจะมีโอกาสดังได้ไม่เท่ากัน แล้วแต่ตัวของน้อง แต่พี่เอรับรองว่าใน 5 คนนี้อย่างต่ำในสายตาพี่ต้องมี 3 คนดังแน่นอน”
ไปหาเด็กลูกครึ่งในประเทศต่างๆ เหรอ
”ไม่ใช่ลูกครึ่งเลยครับ เป็นคนไทยแท้ๆ แต่พูดได้คนละ 3-5 ภาษาบ้าง คือประเทศของเราเริ่มเป็นสากล จริงๆ ก็สากลมาตั้งนานแล้วแต่เราอยากให้นักแสดงของเราพูดได้หลายๆ ภาษา ก็ตั้งแต่พี่มีณเดชน์ เจมส์มาร์ หรือคนอื่นๆ เขาก็พูดภาษาอังกฤษกันได้ พี่ว่าไม่แน่อนาคตเราอาจจะมีคอนเสิร์ตไปจัดที่ประเทศเพื่อนบ้านก็ได้”
เราอยากได้ภาษาจากเขา
”ใช่ครับ ก็อยากได้ภาษาด้วย อยากได้แบบมีเรื่องราวด้วย คือมันดูสนุกดี เพราะถ้าเกิดบังเอิญเจอมันก็คงไม่สนุกสักเท่าไร”
ตอนนี้ที่มีคือคนไทยทั้งหมด
”เป็นคนไทยทั้งหมด ก็ไปเจอที่อเมริกา 1 คน ที่แคนาดาหลายคนเลย แล้วก็ที่ออสเตรเลียอีก 1 คน ตอนนี้ก็กำลังอยู่ในขั้นตอนฝึกอยู่ พี่เอยังไม่ให้เด็กหาช่องถ้าแอคติ้งเขายังไม่ดี หน้าตาเขายังไม่พร้อม หรือบุคลิคเขายังไม่ได้ พี่เอก็จะเก้บเขาไว้ที่บ้านก่อน ถ้าจะเก็บไว้ 5 ปีพี่เอก็เก็บได้ไม่เสียดายหรอก เพียงแต่ไปแล้วขออย่าให้คนกลับมาด่าว่านี่เด็กเอเหรอ แสดงได้แค่นี้เหรอ แบบนี้ไม่เอาหรอก”
ปั้นเด็กรอบนี้เซ็นสัญญารัดกุมกว่าเดิมหรือเปล่าเพราะเราก็ลงไปเยอะเหมือนกัน
”(หัวเราะ)ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าเขาจะกลับประเทศก็ไม่เป็นไร ถือว่าทำบุญ”
ข่าวจาก : รักดารา
http://www.rakdara.net/home/?p=79662