เห็นมีกระแสพูดถึงตอนนี้ในด้านไม่ชอบกันเยอะ ผมเลยขอสวนกระแสมาพูดถึงในมุมมองของตัวเองบ้าง อันนี้เป็นบทวิเคราะห์สั้นๆที่อยากเอามาแชร์ครับ เป็นครั้งแรกเลยที่ตั้งกระทู้ ยังไงก็แนะนำกันได้นะครับ
Hormones Season 2 Ep.5 "ภู"
"เราอาจแสวงหาความจริง ได้จากความลวง"
"Pinocchio" คือชื่อร้านเหล้าที่ภูได้พบกับพี่บอม Pinocchio คือตัวละครหุ่นไม้ที่พูดโกหกแล้วจมูกจะยืดยาวออกมาเพราะคำสาปจากนางฟ้า Pinocchio จึงเป็นตัวประหลาดที่เมื่อแสดง "ความลวง" แต่กลับมีอาการของ "ความจริง" ปรากฏออกมา
ความสัมพันธ์ของภูกับพี่บอมอาจเป็นภาพลวงเพียงชั่วครู่ยามตามที่ป้ายร้านบอกไว้ เป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ยั่งยืนและราวกับว่าผู้กำกับตั้งใจให้เราที่เป็นผู้ชมจดจำชื่อร้านนี้ได้ แต่ถึงแม้ความสัมพันธ์ที่งดงาม(สำหรับภู)ครั้งนี้จะเป็นเพียงความสัมพันธ์ฉาบฉวยเพียงชั่วคราว แต่ภูกลับได้ความจริงที่หาไม่ได้จากคนอื่นจากความสัมพันธ์นี้
เพียงคำพูดสั้นๆ "อิเลว" คำเดียว คำนี้ที่คงมีคนที่รักภูถึงสองคนอยากจะพูดมันออกมาแต่ไม่ยอมทำ ด้วยความรัก เลยทำให้ภาพลวงเกิดขึ้นและบดบังความผิดไปจากหัวใจของภูเอง แม้ภูจะรู้สึกผิด แต่ก็ไม่เคยได้เผชิญกับความผิดตรงๆเลยสักครั้ง ในทางตรงกันข้าม ความสัมพันธ์ลวงๆของพี่บอมกลับทำให้ภูได้เผชิญหน้ากับความจริงในความผิดของตัวเอง เหมือนกับพินอคคิโอ้ที่พูดโกหกแล้วมองเห็นจมูกที่ยืดยาวออกมา จะว่าไปพี่บอมอาจจะเป็นนางฟ้าที่ส่งมาสาปให้ภูมองเห็นความผิดของตัวเอง เพราะกับคนอื่นๆความผิดที่ภูทำเหมือนเป็นจมูกที่ภูรู้ว่ามี "แต่มองไม่เคยเห็น"
ก็ตลกดี แต่ผมเชื่อว่าตัวละครภูจะพัฒนาจากตอนนี้นะครับ และนี่อาจจะเป็น Climax ของตัวละครนี้เลยก็ได้
อีกนัยหนึ่งผมว่าเราอาจตีความถึงโลกละครกับโลกแห่งความจริง ในขณะที่ละครกำลังแสวงหาหนทางไปสู่ความจริงทั้งในระดับจิตสำนึกและจิตใต้สำนึก แต่โลกแห่งความจริงกลับพยายามปกปิดความสกปรกของชีวิตจริงเหล่านั้น ในขณะที่ละครนำเสนอความสัมพันธ์ที่เป็นจริง แต่คนดูบางส่วนกลับต่อว่าและรังเกียจความจริงที่ถูกถ่ายทอดออกมา นั่นก็แปลกดีนะครับ แหะๆ
เราควรยอมรับไม่ใช่เหรอครับว่าความสัมพันธ์แบบภูกับพี่บอม เป็นความสัมพันธ์ที่มีอยู่จริงบนโลก เราควรยอมรับไม่ใช่เหรอครับว่าหนึ่งชีวิตนี้ เราย่อมต้องเคยมี Sex กับคนที่เราไม่ได้รู้สึกรักอยู่บ้างเหมือนกัน เราควรยอมรับไม่ใช่เหรอครับว่าพฤติกรรมของเยาวชนสมัยนี้มีจริงอย่างที่ละครนำเสนอ แล้วทำไมคนในโลกแห่งความเป็นจริงอย่างเราๆถึงได้พยายามผละหนีจากความจริงเหล่านี้เหลือเกิน ราวกับพินอคคิโอ้ที่อยากพูดโกหกโดยที่รังเกียจจมูกที่ยาวออกมา
ส่วนตัวผมชอบตอนนี้จังครับ และชอบคำว่า "Pinocchio" ที่ถูกเอามาใช้ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ แต่ผมคิดว่าเป็นความตั้งใจ ที่ดีและงดงาม
"ในทุกความลวงนั้น สะท้อนภาพความจริงที่แท้จริงเสมอ"
ชวนให้คิดถึงแนวคิดของ Pirandello นักการละครชาวอิตาลี จะว่าไปก็ฟังคล้ายๆ Pinocchio นะครับ
Hormones Season 2 Ep.5 "ภู"
Hormones Season 2 Ep.5 "ภู"
"เราอาจแสวงหาความจริง ได้จากความลวง"
"Pinocchio" คือชื่อร้านเหล้าที่ภูได้พบกับพี่บอม Pinocchio คือตัวละครหุ่นไม้ที่พูดโกหกแล้วจมูกจะยืดยาวออกมาเพราะคำสาปจากนางฟ้า Pinocchio จึงเป็นตัวประหลาดที่เมื่อแสดง "ความลวง" แต่กลับมีอาการของ "ความจริง" ปรากฏออกมา
ความสัมพันธ์ของภูกับพี่บอมอาจเป็นภาพลวงเพียงชั่วครู่ยามตามที่ป้ายร้านบอกไว้ เป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ยั่งยืนและราวกับว่าผู้กำกับตั้งใจให้เราที่เป็นผู้ชมจดจำชื่อร้านนี้ได้ แต่ถึงแม้ความสัมพันธ์ที่งดงาม(สำหรับภู)ครั้งนี้จะเป็นเพียงความสัมพันธ์ฉาบฉวยเพียงชั่วคราว แต่ภูกลับได้ความจริงที่หาไม่ได้จากคนอื่นจากความสัมพันธ์นี้
เพียงคำพูดสั้นๆ "อิเลว" คำเดียว คำนี้ที่คงมีคนที่รักภูถึงสองคนอยากจะพูดมันออกมาแต่ไม่ยอมทำ ด้วยความรัก เลยทำให้ภาพลวงเกิดขึ้นและบดบังความผิดไปจากหัวใจของภูเอง แม้ภูจะรู้สึกผิด แต่ก็ไม่เคยได้เผชิญกับความผิดตรงๆเลยสักครั้ง ในทางตรงกันข้าม ความสัมพันธ์ลวงๆของพี่บอมกลับทำให้ภูได้เผชิญหน้ากับความจริงในความผิดของตัวเอง เหมือนกับพินอคคิโอ้ที่พูดโกหกแล้วมองเห็นจมูกที่ยืดยาวออกมา จะว่าไปพี่บอมอาจจะเป็นนางฟ้าที่ส่งมาสาปให้ภูมองเห็นความผิดของตัวเอง เพราะกับคนอื่นๆความผิดที่ภูทำเหมือนเป็นจมูกที่ภูรู้ว่ามี "แต่มองไม่เคยเห็น"
ก็ตลกดี แต่ผมเชื่อว่าตัวละครภูจะพัฒนาจากตอนนี้นะครับ และนี่อาจจะเป็น Climax ของตัวละครนี้เลยก็ได้
อีกนัยหนึ่งผมว่าเราอาจตีความถึงโลกละครกับโลกแห่งความจริง ในขณะที่ละครกำลังแสวงหาหนทางไปสู่ความจริงทั้งในระดับจิตสำนึกและจิตใต้สำนึก แต่โลกแห่งความจริงกลับพยายามปกปิดความสกปรกของชีวิตจริงเหล่านั้น ในขณะที่ละครนำเสนอความสัมพันธ์ที่เป็นจริง แต่คนดูบางส่วนกลับต่อว่าและรังเกียจความจริงที่ถูกถ่ายทอดออกมา นั่นก็แปลกดีนะครับ แหะๆ
เราควรยอมรับไม่ใช่เหรอครับว่าความสัมพันธ์แบบภูกับพี่บอม เป็นความสัมพันธ์ที่มีอยู่จริงบนโลก เราควรยอมรับไม่ใช่เหรอครับว่าหนึ่งชีวิตนี้ เราย่อมต้องเคยมี Sex กับคนที่เราไม่ได้รู้สึกรักอยู่บ้างเหมือนกัน เราควรยอมรับไม่ใช่เหรอครับว่าพฤติกรรมของเยาวชนสมัยนี้มีจริงอย่างที่ละครนำเสนอ แล้วทำไมคนในโลกแห่งความเป็นจริงอย่างเราๆถึงได้พยายามผละหนีจากความจริงเหล่านี้เหลือเกิน ราวกับพินอคคิโอ้ที่อยากพูดโกหกโดยที่รังเกียจจมูกที่ยาวออกมา
ส่วนตัวผมชอบตอนนี้จังครับ และชอบคำว่า "Pinocchio" ที่ถูกเอามาใช้ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ แต่ผมคิดว่าเป็นความตั้งใจ ที่ดีและงดงาม
"ในทุกความลวงนั้น สะท้อนภาพความจริงที่แท้จริงเสมอ"
ชวนให้คิดถึงแนวคิดของ Pirandello นักการละครชาวอิตาลี จะว่าไปก็ฟังคล้ายๆ Pinocchio นะครับ