เรามีงานประจำแล้วทุกเดือนจะได้เงินพิเศษเพิ่มเติมจากเงินเดือน ประมาณ10000บาท
ซึ่งเรากับแม่ตกลงกันว่าบัตรATM เงินพิเเศษให้แม่เอาไปกดใช้จ่ายได้เลย
แล้วทุกเดือนเราจะให้เงินแม่เพิ่มอีก10000บาท
มาช่วงหลังนี้แม่เราทำบ้านเช่า แม่เราเลยให้เราทำบัตรเครดิตโคกับเราอีกใบเอาไว้จ่ายค่าอุปกรณ์สร้างบ้าน ซึ่งใบนี้แม่รับปากว่าจะรับผิดชอบค่าใช้เอง
พอทำบ้านเช่าค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาก เพราะต้องจ้างคนมาเฝ้าบ้านเช่า ซึ่งพ่อให้ลูกน้องมาเฝ้าให้โดยต้องจ่ายค่ากินอยู่และค่าจ้างวันละ500บาท
พ่อเราก็มาขอเงินเราบ้างเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายลูกน้องคนนี้
ซึ่งตอนนี้เรากู้ซื้อบ้านให้คนเช่าได้ค่าเช่าเดือนละ4000บาท โดยเราต้องจ่ายค่ากู้บ้านเดือนละ6000บาท
แม่เป็นคนเก็บเงินค่าเช่าบ้าน ซึ่งแม่ก้เอาเงินส่วนนี้ไปลงทุนทำบ้านเช่าด้วย เราก็ไม่ได้พูดถึงเงินส่วนนี้
ปัจจุบันเราจะจ่ายเงินค่าบัตรเครดิคให้แม่เพิ่มเติมอีกเดือนละ10000 จากเงินในบัตรATM แล้วให้แม่เงินสดอีก10000 บาท
จนต้นเดือนสิงหานี้ แม่บอกให้เราจ่ายค่าบัตรเครดิตแม่ บัตรเครดิตที่โคกับเรา ค่าบ้านพี่พี่ชายเราเนื่องจากเดือนนี้พี่เราเงินเดือนไปพอจ่าย ทั้งหมดประมาณ40000บาท
แล้วเมื่อวานนี้พ่อเราขอเงิน 10000บาทไปคืนเพื่อน
เราจึงได้บ่นกับแม่เมื่อวานว่า เดือนนี้ยังไม่ถึงสิ้นเดือนเราจ่ายเเงินให้พ่อกับแม่ไปแล้ว 50000 เราไม่มีเงินเก็บเหลือแล้วไหนจะต้องจ่ายค่าบัตรเครดิตของเราอีก
แม่เราได้ยินก็โกดเรามาก บอกว่าเสียความรู้สึกที่ได้ยินเราพูดแบบนี้ แล้วแม่เราก็บอกว่าแม่จะไม่เอาเงินเราแล้ว ถ้าเรามาเสียดายเงินกับพ่อกับแม่แบบนี้ จะทำให้เราเปนบาป
เราเลยแย้งว่าตอนนี้เราไม่มีเงินก้อนเก็บไว้ ถ้าต้องใช้เงินจะทำยังไง แม่บอกว่าเราแถ แล้วตอนนี้แม่เราก็ไม่คุยกับเราเลย
คือเราไม่ได้รู้สึกเสียดายที่ต้องให้เงินแม่แต่แค่ตอนนี้เรารู้สึกว่าพ่อกับแม่เห็นเราเป็นที่พึ่งที่จะเอาเงินเราเท่าไรก้ได้โดยที่ไม่คิดเวลาใช้จ่าย เพราะเวลาต้องใช้เงินหรือยืมใครแล้วต้องคืนก้จะมายืมเราตลอด
ถามว่าการที่เราบอกว่าเสียดายเงินนี่เป็นสิ่งที่ผิดหรอ ที่ถูกเราควรจะบอกแม่เราว่ายังไง
เรานี่ถึงขั้นบาปมากเลยหรอที่บ่นเรื่องเงิน
แม่พูดเสมอว่าเราเป็นลูกที่ดีให้เงินแม่ตลอด ตอบแทนบุญคุณแม่ อยากทราบว่าเราต้องให้แม่เท่าที่แม่ขอจนไม่มีเงินเก็บติดตัวเลยหรือ
สอบถามค่ะ ตอนนี้ทะเลาะกับแม่เรื่องเงินที่ให้แม่ทุกเดือน
ซึ่งเรากับแม่ตกลงกันว่าบัตรATM เงินพิเเศษให้แม่เอาไปกดใช้จ่ายได้เลย
แล้วทุกเดือนเราจะให้เงินแม่เพิ่มอีก10000บาท
มาช่วงหลังนี้แม่เราทำบ้านเช่า แม่เราเลยให้เราทำบัตรเครดิตโคกับเราอีกใบเอาไว้จ่ายค่าอุปกรณ์สร้างบ้าน ซึ่งใบนี้แม่รับปากว่าจะรับผิดชอบค่าใช้เอง
พอทำบ้านเช่าค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาก เพราะต้องจ้างคนมาเฝ้าบ้านเช่า ซึ่งพ่อให้ลูกน้องมาเฝ้าให้โดยต้องจ่ายค่ากินอยู่และค่าจ้างวันละ500บาท
พ่อเราก็มาขอเงินเราบ้างเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายลูกน้องคนนี้
ซึ่งตอนนี้เรากู้ซื้อบ้านให้คนเช่าได้ค่าเช่าเดือนละ4000บาท โดยเราต้องจ่ายค่ากู้บ้านเดือนละ6000บาท
แม่เป็นคนเก็บเงินค่าเช่าบ้าน ซึ่งแม่ก้เอาเงินส่วนนี้ไปลงทุนทำบ้านเช่าด้วย เราก็ไม่ได้พูดถึงเงินส่วนนี้
ปัจจุบันเราจะจ่ายเงินค่าบัตรเครดิคให้แม่เพิ่มเติมอีกเดือนละ10000 จากเงินในบัตรATM แล้วให้แม่เงินสดอีก10000 บาท
จนต้นเดือนสิงหานี้ แม่บอกให้เราจ่ายค่าบัตรเครดิตแม่ บัตรเครดิตที่โคกับเรา ค่าบ้านพี่พี่ชายเราเนื่องจากเดือนนี้พี่เราเงินเดือนไปพอจ่าย ทั้งหมดประมาณ40000บาท
แล้วเมื่อวานนี้พ่อเราขอเงิน 10000บาทไปคืนเพื่อน
เราจึงได้บ่นกับแม่เมื่อวานว่า เดือนนี้ยังไม่ถึงสิ้นเดือนเราจ่ายเเงินให้พ่อกับแม่ไปแล้ว 50000 เราไม่มีเงินเก็บเหลือแล้วไหนจะต้องจ่ายค่าบัตรเครดิตของเราอีก
แม่เราได้ยินก็โกดเรามาก บอกว่าเสียความรู้สึกที่ได้ยินเราพูดแบบนี้ แล้วแม่เราก็บอกว่าแม่จะไม่เอาเงินเราแล้ว ถ้าเรามาเสียดายเงินกับพ่อกับแม่แบบนี้ จะทำให้เราเปนบาป
เราเลยแย้งว่าตอนนี้เราไม่มีเงินก้อนเก็บไว้ ถ้าต้องใช้เงินจะทำยังไง แม่บอกว่าเราแถ แล้วตอนนี้แม่เราก็ไม่คุยกับเราเลย
คือเราไม่ได้รู้สึกเสียดายที่ต้องให้เงินแม่แต่แค่ตอนนี้เรารู้สึกว่าพ่อกับแม่เห็นเราเป็นที่พึ่งที่จะเอาเงินเราเท่าไรก้ได้โดยที่ไม่คิดเวลาใช้จ่าย เพราะเวลาต้องใช้เงินหรือยืมใครแล้วต้องคืนก้จะมายืมเราตลอด
ถามว่าการที่เราบอกว่าเสียดายเงินนี่เป็นสิ่งที่ผิดหรอ ที่ถูกเราควรจะบอกแม่เราว่ายังไง
เรานี่ถึงขั้นบาปมากเลยหรอที่บ่นเรื่องเงิน
แม่พูดเสมอว่าเราเป็นลูกที่ดีให้เงินแม่ตลอด ตอบแทนบุญคุณแม่ อยากทราบว่าเราต้องให้แม่เท่าที่แม่ขอจนไม่มีเงินเก็บติดตัวเลยหรือ