ได้ฟังคุณนิพิฏฐ์พูดถึงเรื่อง สปช.แล้วผมได้แต่สมเพช

กระทู้สนทนา
สมเพชที่คุณนิพิฏฐ์ยังกล้าออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องการสรรหา สนช.ว่าจะทำให้ระบบข้าราชการแข็งแกร่ง ระบบการเมืองอ่อนแอ เพราะแนวคิดในการปฏิรูปประเทศส่วนใหญ่มาจากฝ่ายข้าราชการฝ่ายเดียว ทำให้ขาดความหลากหลายในแนวคิดของการปฏิรูป

โถๆๆ จะไม่ให้สมเพชได้อย่างไรกันครับ ก็พวกคุณนิพิฏฐ์ที่เป็นนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตย กลับพากันออกมาเล่นการบนถนน ทั้งๆที่การปฏิรูปประเทศ ทางรัฐบาลก็พยายามเสนอแนวทางให้ทุกฝ่ายเสนอความคิดเห็น เปิดกว้างสำหรับคนทุกเหล่า ทุกอาชีพ แล้วเป็นอย่างไรครับคุณนิพิฏฐ์ เคยคิดสนับสนุนบ้างหรือเปล่าครับ

เมื่อนักการเมืองไม่ศรัทธาในระบบรัฐสภา เมื่อนักการเมืองไม่มั่นใจคุณภาพของพลเมือง และเมื่อนักการเมืองหวังผลแค่ชนะการเลือกตั้ง โดยไม่สนใจกับความไม่ปกติที่จะเกิดขึ้นในภายหลัง แล้วคุณนิพิฏฐ์จะมาแสดงความคิดเห็นในวันนี้ มันสายเกินไปแล้วครับ

คุณนิพิฏฐ์กับพวกอาจคิดว่า การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น คงจะคล้ายกับเมื่อปี 49 ที่มีความพยายามจะสร้างรัฐธรรมนูญที่กดหัวอีกฝ่าย แล้วเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคของคุณนิพิฏฐ์ จนนำพรรคให้ชนะการเลือกตั้งให้จงได้นั้น คุณนิพิฏฐ์ คงเห็นแล้วใช่ไหมครับ มันไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะที่คุณนิพิฏฐ์ ต้องการชนะนั้น คือ ชนะใจประชาชนต่างหากครับ ไม่ใช่การชนะตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ

ดังนั้นตราบใดที่พรรคของคุณนิพิฏฐ์ ไม่สามารถชนะใจประชาชนด้วยผลงาน ต่อให้ใช้รัฐธรรมนูญฉบับไหน พรรคคุณนิพิฏฐ์ ก็ยากที่จะชนะได้นะครับ

ด้วยเหตุผลข้อนี้ต่างหากครับ จึงทำให้มีความจำเป็นต้องสร้างระบบข้าราชการให้แข็งแกร่ง เพื่อรักษาฐานอำนาจไว้ เพราะอะไรรู้ไหมครับ ก็เพราะทุกคนเขาหมดหวังกับพรรคคุณนิพิฏฐ์ไงครับ รู้ไว้เสียด้วย

และต่อให้พรรคคุณนิพิฏฐ์ จับพลัดจับผลูได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลก็ตาม ด้วยระบบพรรคการเมืองที่อ่อนแอ คุณนิพิฏฐ์กับพวกก็คงไม่สามารถบริหารอะไรได้เลย นี่จึงเข้าตำรา “ทำนาให้นก”อย่างแท้จริง น่าสมน้ำหน้าไหมล่ะคุณนิพิฏฐ์

การเมืองเป็นเรื่องของการชิงความศรัทธาจากประชาชน ไม่ใช่การทำลายศรัทธาประชาชน แต่เมื่อฝ่ายหนึ่งไม่มีความอดทนพอที่จะสร้างความศรัทธา แล้วใช้วิธีการนอกระบบ หวังล้มล้างรัฐบาล เพื่อรอ “มะม่วงหล่นใส่” ด้วยการก่อความวุ่นวาย เพื่อให้เกิด “รัฐล้มเหลว” แล้วเป็นไงบ้างล่ะคุณนิพิฏฐ์ สุดท้าย “ตาอยู่ก็คว้าพุงปลาไปกิน” สบายใจเฉิบ น่าสมเพชไหมล่ะคุณนิพิฏฐ์

คุณนิพิฏฐ์ครับ เป็นพรรคการเมืองที่มีเงินสนับสนุนพรรคจากภาษีของประชาชน แทนที่จะรักษาระบบให้คงอยู่ กลับพยายามที่จะให้การเมืองเข้าสู่ทางตัน ใช้ประชาชนที่สนับสนุนไม่เพียงพอ เพราะเป็นเพียงเสียงส่วนน้อย ดังนั้นจึงพยายามสร้างสรรค์โอกาสให้สถานการณ์เป็นแบบนี้ มันก็เหมือนกับการ “ชักศึกเข้าบ้าน” แล้วจะมารำพึงรำพันอะไรกันอีกเล่าครับ

ก็อย่างนี้ไม่ใช่หรือครับ ที่คุณนิพิฏฐ์ อยากได้คนดีเข้ามาบริหารประเทศ
ก็อย่างนี้ไม่ใช่หรือครับ ที่คุณนิพิฏฐ์ อยากให้มีนักการเมืองคุณภาพมาอยู่ในสภา
ก็อย่างนี้ไม่ใช่หรือครับ ที่คุณนิพิฏฐ์ หวังปฎิรูปประเทศก่อนการเลือกตั้ง

และเมื่อเรามี “คนดี” สรรหา “คนดี”ด้วยกันเข้ามาทำหน้าที่ เพื่อเดินหน้าประเทศไทยตามความต้องการของพวกคุณนิพิฏฐ์แล้วมิใช่หรือ แล้วทำไมจึงมีแต่พวกของคุณนิพิฏฐ์ ออกมาตีโพยตีพายกันเล่าครับ

หรือว่า ยังคงทำไม่ได้ดังใจตามที่ฝันถึง
หรือว่า เสียใจที่ไม่ได้รับผลตอบแทนกลับมาบ้าง
หรือว่า ไม่ต้องการแบบนี้ เพียงต้องการให้พรรคการเมืองที่ไม่สามารถชนะได้ย่อยยับเท่านั้นเอง

ถ้าเป็นแบบนี้แล้ว พรรคคุณนิพิฏฐ์ จะมีความแตกต่างในเรื่องความดีจากอีกพรรคได้อย่างไรกันครับ

สุดท้ายแค่อยากบอกว่า คุณนิพิฏฐ์  เมื่อไม่สามารถอดทนรอให้ถึงวันที่อีกพรรค คะแนนนิยมเสื่อมถอย แล้วค่อยเข้ามาเป็นรัฐบาลด้วยความหวังของประชาชนแล้วไซร้ คุณนิพิฏฐ์และพวกอาจจำเป็นต้องทนรอต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่สามารถใช้ปากเป็นอาวุธ ไม่สามารถใช้แง่มุมทางกฎหมาย และไม่สามารถใช้เล่ห์ทางการเมืองตามถนัด มันจึงต้องเอวังด้วยประการฉะนี้แล
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่