แผลเก่า (ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล,2014) คะแนน B
By Form Corleone
“ความรัก อมตะ ความเชื่อใจ” ว่าด้วยความรัก “ขวัญกับเรียม” สำหรับผมไม่มีความรู้เรื่องวรรณกรรมเรื่องนี้เลยครับ ไม่เคยดูเวอร์ชั่นไหนมาก่อนครับ แต่ติดตามหนังของ “หม่อมน้อย” เกือบทุกเรื่อง ไม่ใช่เพราะรสนิยมหนังติดเรทอะไร แต่หนังของหม่อนน้อยมีสาระสอนใจมากมายแฝงไว้ในเรื่อง รวมไปถึงการถ่ายภาพหรือหาพื้นที่โลเคชัน ได้สวยมาก และสำหรับทุ่งบางกะปิในเรื่อง ต้องบอกว่าสวยอีกตามเคยครับ การถ่ายภาพระยะไกลทำให้เราโฟกัสแสงที่ตกกระทบและบริบทของความเป็นบ้านนอกได้โดยแท้จริง สำหรับนักแสดง “ดาวิกา โฮร์เน่” รับบทเป็น “เรียม” และ “ชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ต” รับบทเป็น “ขวัญ” การแสดงของทั้งสองคนถือว่าผ่านในระดับที่สามารถส่งอารมณ์ให้คนดูรู้สึก “เห็นใจ เศร้าใจ สะเทือนใจ” ในระหว่างที่กำลังนั่งดูเรื่องราวสุดแสนจะอมตะเรื่องนี้!!

“ความรัก” แน่นอนที่สุดครับสำหรับหนังรักทุกเรื่องล้วนแล้วแต่มีเรื่องราว มีปม มีอดีต รวมไปถึง “การรอคอย” คำว่า “รอ” จำกัดอยู่ที่ “ความตั้งใจ” สำหรับในเรื่องการที่ “ขวัญ” ตั้งหน้ารอการกลับมาของ “เรียม” เป็นประเด็นที่น่าจับต้องในบริบทของความรักส่งผลต่อความเชื่อใจ ชีวิตความรักของทั้งสองคนถูกแบ่งแยกออกจากกันด้วยคำว่า “รอ” แม้สุดท้ายปลายทางของทั้งสองจะจบลงด้วยการไม่เข้าใจหรือความไม่เชื่อใจ สิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นหลังการรอคอย ความหมายของคนรัก คำสาบานต่อกัน หลายสิ่งถูกสะท้อนออกมาในรูปแบบของความ “ไม่เชื่อใจ” เมื่อหมดความเชื่อใจ เมื่อเรารอคอยมากจนเกินไป และเมื่อเราผิดหวัง ทุกสิ่งอย่างนำพาเราไปสู่ “การขาดซึ่งสติ” ความอารมณ์ร้อนของขวัญในเรื่องนั้น ส่งผ่านมาให้คนดูรู้สึกอึดอัด น่าสมเพช เวทนาสงสาร สิ่งเหล่านี้ถือเป็นการแสดงลักษณะพฤติกรรมของตัวละครได้อย่างชัดเจนเป็นบทบาทที่เตือนสติคนธรรมดาอย่างเราๆได้ดีครับ และสำหรับตัว “เรียม” ในใจเธอเองคงมีความรู้สึกผิดนึกคิดไม่แพ้ใคร เพราะความดีหรือสถานการณ์ ณ เวลานั้น บีบบังคับให้เธอต้องทำแบบนั้น แม้สุดท้ายตัวเธอเองเป็นคนเลือกชีวิต เลือกชะตากรรมของเธอเองก็ตามที โดยเกือบตลอดทั้งเรื่องจนจบตัวเธอเป็นคนลิขิตชีวิตเองทั้งสิ้น ตัวละครทั้งสองตัวมีเอกลักษณ์ที่น่า วิพากษ์วิจารณ์ รวมไปถึงแนวคิดระบบปกครองสมัยก่อนและยุคสมัยอดีตที่เคยผ่านมาสอดแทรกให้เราเห็นในเรื่องราว

สำหรับนักแสดงคนอื่นอาทิเช่น พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง รับบทเป็น “ผู้ใหญ่เขียน” พ่อของขวัญ เป็นสิ่งที่สะเทือนใจที่สุดสำหรับผมครับ โดยเฉพาะช่วงท้ายเรื่องเป็นการแสดงภาวะของคนเป็นพ่อ รวมไปถึงความตั้งใจและจุดจบของตัวละครตัวนี้ก็สะเทือนใจในแบบเฉพาะที่ไม่แพ้ความรักของ “ขวัญกับเรียม” เลยแม้แต่น้อย ประโยคที่แสนง่ายแต่แฝงไปด้วยความรักที่ว่า “ถ้าลูกตายแล้วพ่อจะอยู่คนเดียวยังไง” เป็นบทสนทนาที่สะเทือนใจมากครับ ผนวกกับการแสดงที่เยี่ยมยอดอยู่แล้วยิ่งส่งผลต่อสภาพจิตใจเข้าไปอีก ตัวละครอีกหนึ่งตัวที่เด่นไม่แพ้กันคือ ศักราช ฤกษ์ธำรงค์ รับบทเป็น “กำนันเรือง” พ่อของเรียม เป็นพ่อที่ไม่มีลูกคนไหนต้องการ เป็นพ่อที่ยอมขายลูกตัวเอง และแม้ว่าตัวละครจะออกไปในแนวตัวร้าย แต่ในจิตใต้สำนึกก็ยังมีความเป็นพ่อคนอยู่ดี ตัวละครตัวสุดท้ายที่จะกล่าวถึงคือ “คุณหญิงทองคำเปลว” รับบทโดย สินจัย เปล่งพานิช ที่ซื้อเรียมมาจากกำนันเรือง ไม่ว่าด้วยเหตุบังเอิญหรือฟ้าลิขิต หน้าตาของเรียนกับคล้ายคลึงลูกสาวของคุณหญิงที่ตายไปแล้ว ทำให้คุณหญิงปฏิบัติต่อเรียมเหมือนลูกแท้ๆ แม้ท้ายสุดความรักที่คุณหญิงมอบให้เรียมจะเป็นเพียง สัญลักษณ์แทนค่าลูกสาวของตัวเองที่ตายจากไป ถึงกระนั้นแล้ว ความรักที่คุณหญิงให้อาจเป็นความรักที่บริสุทธิ์แต่มันก็แทนค่าไม่ได้กับความรักที่แม่แท้ๆมีให้กับเรียมได้เช่นกัน

แม้การตัดฉากจะดูเร็วเกินไป บางช่วงก็ดูขัดตา แต่ด้วยเรื่องราวที่เป็น อมตะอยู่แล้ว ก็ส่งให้ “ไดอะล็อก” ของเรื่องนั้นดีมากในระดับที่กินใจได้เลยสำหรับใครหลายคน แม้บางฉากจะเป็นเทคนิคไทยแลนโอลี่ แต่ก็สามารถมองข้ามไปได้หลายส่วน เรื่องราวช่วงต้นเรื่องอาจดูกระชับมากเกินไปแต่ช่วงกลางเรื่องและท้ายเรื่องเป็นช่วงบีบหัวใจบวกด้วยความอึกอัด จนตัวบิดได้เลยครับ บทสรุปส่งท้าย “สะเทือนใจ” น้ำตาซึมกันได้ง่ายๆ สำหรับสิ่งที่ตลกมากคือการเห็นเหล่านักแสดงเดอะสตาร์เกือบครบองค์ มากันเยอะไปไหมครับ!! เห็นดาวเต็มเลย!! มีมุขตลกขบขันแทรกเข้ามาได้ดี ถือเป็นงานที่ถ้าจะจัดลำดับหนังของหม่อมน้อย “แผลเก่า” คงเป็นผลงานที่ดีเยี่ยมลำดับต้นๆ และเป็นเรื่องที่ผมชอบครับ

สุดท้าย “แผลเก่า” คือ ภาพยนตร์ที่สะท้อนเรื่องราวความรักในรูแบบหลายมิติ ไม่ได้จำกัดที่คนหนุ่มสาว แต่รวมไปถึงความรัก ความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัว มีแนวคิดที่แอบแฝงอยู่ในเรื่องมากมายตามแบบฉบับของหม่อมน้อย แม้ว่าบทภาพยนตร์จะดีอยู่แล้ว แม้เรื่องราวของ “ขวัญกับเรียน” ณ ทุ่งบางกะปิ จะเป็น “อมตะ” เคียงข้างคลองแสนแสบ ส่งทอดเรื่องเล่าให้คนรุ่นหลัง ถึงความรักทั้งสองจะจบลงด้วยความโศกเศร้า รอยแผลที่ทั้งสองคนได้ทิ้งไว้ มันคงไม่เก่าเลยถ้ามีใครสักคนหยิบเรื่องราวมาเล่าใหม่ >< ขอให้มีความสุขกับการดูหนังครับ
อ่านเรื่องอื่น
http://moviesdelightclub.blogspot.com/
review:แผลเก่า (ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล,2014)
By Form Corleone
“ความรัก อมตะ ความเชื่อใจ” ว่าด้วยความรัก “ขวัญกับเรียม” สำหรับผมไม่มีความรู้เรื่องวรรณกรรมเรื่องนี้เลยครับ ไม่เคยดูเวอร์ชั่นไหนมาก่อนครับ แต่ติดตามหนังของ “หม่อมน้อย” เกือบทุกเรื่อง ไม่ใช่เพราะรสนิยมหนังติดเรทอะไร แต่หนังของหม่อนน้อยมีสาระสอนใจมากมายแฝงไว้ในเรื่อง รวมไปถึงการถ่ายภาพหรือหาพื้นที่โลเคชัน ได้สวยมาก และสำหรับทุ่งบางกะปิในเรื่อง ต้องบอกว่าสวยอีกตามเคยครับ การถ่ายภาพระยะไกลทำให้เราโฟกัสแสงที่ตกกระทบและบริบทของความเป็นบ้านนอกได้โดยแท้จริง สำหรับนักแสดง “ดาวิกา โฮร์เน่” รับบทเป็น “เรียม” และ “ชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ต” รับบทเป็น “ขวัญ” การแสดงของทั้งสองคนถือว่าผ่านในระดับที่สามารถส่งอารมณ์ให้คนดูรู้สึก “เห็นใจ เศร้าใจ สะเทือนใจ” ในระหว่างที่กำลังนั่งดูเรื่องราวสุดแสนจะอมตะเรื่องนี้!!
“ความรัก” แน่นอนที่สุดครับสำหรับหนังรักทุกเรื่องล้วนแล้วแต่มีเรื่องราว มีปม มีอดีต รวมไปถึง “การรอคอย” คำว่า “รอ” จำกัดอยู่ที่ “ความตั้งใจ” สำหรับในเรื่องการที่ “ขวัญ” ตั้งหน้ารอการกลับมาของ “เรียม” เป็นประเด็นที่น่าจับต้องในบริบทของความรักส่งผลต่อความเชื่อใจ ชีวิตความรักของทั้งสองคนถูกแบ่งแยกออกจากกันด้วยคำว่า “รอ” แม้สุดท้ายปลายทางของทั้งสองจะจบลงด้วยการไม่เข้าใจหรือความไม่เชื่อใจ สิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นหลังการรอคอย ความหมายของคนรัก คำสาบานต่อกัน หลายสิ่งถูกสะท้อนออกมาในรูปแบบของความ “ไม่เชื่อใจ” เมื่อหมดความเชื่อใจ เมื่อเรารอคอยมากจนเกินไป และเมื่อเราผิดหวัง ทุกสิ่งอย่างนำพาเราไปสู่ “การขาดซึ่งสติ” ความอารมณ์ร้อนของขวัญในเรื่องนั้น ส่งผ่านมาให้คนดูรู้สึกอึดอัด น่าสมเพช เวทนาสงสาร สิ่งเหล่านี้ถือเป็นการแสดงลักษณะพฤติกรรมของตัวละครได้อย่างชัดเจนเป็นบทบาทที่เตือนสติคนธรรมดาอย่างเราๆได้ดีครับ และสำหรับตัว “เรียม” ในใจเธอเองคงมีความรู้สึกผิดนึกคิดไม่แพ้ใคร เพราะความดีหรือสถานการณ์ ณ เวลานั้น บีบบังคับให้เธอต้องทำแบบนั้น แม้สุดท้ายตัวเธอเองเป็นคนเลือกชีวิต เลือกชะตากรรมของเธอเองก็ตามที โดยเกือบตลอดทั้งเรื่องจนจบตัวเธอเป็นคนลิขิตชีวิตเองทั้งสิ้น ตัวละครทั้งสองตัวมีเอกลักษณ์ที่น่า วิพากษ์วิจารณ์ รวมไปถึงแนวคิดระบบปกครองสมัยก่อนและยุคสมัยอดีตที่เคยผ่านมาสอดแทรกให้เราเห็นในเรื่องราว
สำหรับนักแสดงคนอื่นอาทิเช่น พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง รับบทเป็น “ผู้ใหญ่เขียน” พ่อของขวัญ เป็นสิ่งที่สะเทือนใจที่สุดสำหรับผมครับ โดยเฉพาะช่วงท้ายเรื่องเป็นการแสดงภาวะของคนเป็นพ่อ รวมไปถึงความตั้งใจและจุดจบของตัวละครตัวนี้ก็สะเทือนใจในแบบเฉพาะที่ไม่แพ้ความรักของ “ขวัญกับเรียม” เลยแม้แต่น้อย ประโยคที่แสนง่ายแต่แฝงไปด้วยความรักที่ว่า “ถ้าลูกตายแล้วพ่อจะอยู่คนเดียวยังไง” เป็นบทสนทนาที่สะเทือนใจมากครับ ผนวกกับการแสดงที่เยี่ยมยอดอยู่แล้วยิ่งส่งผลต่อสภาพจิตใจเข้าไปอีก ตัวละครอีกหนึ่งตัวที่เด่นไม่แพ้กันคือ ศักราช ฤกษ์ธำรงค์ รับบทเป็น “กำนันเรือง” พ่อของเรียม เป็นพ่อที่ไม่มีลูกคนไหนต้องการ เป็นพ่อที่ยอมขายลูกตัวเอง และแม้ว่าตัวละครจะออกไปในแนวตัวร้าย แต่ในจิตใต้สำนึกก็ยังมีความเป็นพ่อคนอยู่ดี ตัวละครตัวสุดท้ายที่จะกล่าวถึงคือ “คุณหญิงทองคำเปลว” รับบทโดย สินจัย เปล่งพานิช ที่ซื้อเรียมมาจากกำนันเรือง ไม่ว่าด้วยเหตุบังเอิญหรือฟ้าลิขิต หน้าตาของเรียนกับคล้ายคลึงลูกสาวของคุณหญิงที่ตายไปแล้ว ทำให้คุณหญิงปฏิบัติต่อเรียมเหมือนลูกแท้ๆ แม้ท้ายสุดความรักที่คุณหญิงมอบให้เรียมจะเป็นเพียง สัญลักษณ์แทนค่าลูกสาวของตัวเองที่ตายจากไป ถึงกระนั้นแล้ว ความรักที่คุณหญิงให้อาจเป็นความรักที่บริสุทธิ์แต่มันก็แทนค่าไม่ได้กับความรักที่แม่แท้ๆมีให้กับเรียมได้เช่นกัน
แม้การตัดฉากจะดูเร็วเกินไป บางช่วงก็ดูขัดตา แต่ด้วยเรื่องราวที่เป็น อมตะอยู่แล้ว ก็ส่งให้ “ไดอะล็อก” ของเรื่องนั้นดีมากในระดับที่กินใจได้เลยสำหรับใครหลายคน แม้บางฉากจะเป็นเทคนิคไทยแลนโอลี่ แต่ก็สามารถมองข้ามไปได้หลายส่วน เรื่องราวช่วงต้นเรื่องอาจดูกระชับมากเกินไปแต่ช่วงกลางเรื่องและท้ายเรื่องเป็นช่วงบีบหัวใจบวกด้วยความอึกอัด จนตัวบิดได้เลยครับ บทสรุปส่งท้าย “สะเทือนใจ” น้ำตาซึมกันได้ง่ายๆ สำหรับสิ่งที่ตลกมากคือการเห็นเหล่านักแสดงเดอะสตาร์เกือบครบองค์ มากันเยอะไปไหมครับ!! เห็นดาวเต็มเลย!! มีมุขตลกขบขันแทรกเข้ามาได้ดี ถือเป็นงานที่ถ้าจะจัดลำดับหนังของหม่อมน้อย “แผลเก่า” คงเป็นผลงานที่ดีเยี่ยมลำดับต้นๆ และเป็นเรื่องที่ผมชอบครับ
สุดท้าย “แผลเก่า” คือ ภาพยนตร์ที่สะท้อนเรื่องราวความรักในรูแบบหลายมิติ ไม่ได้จำกัดที่คนหนุ่มสาว แต่รวมไปถึงความรัก ความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัว มีแนวคิดที่แอบแฝงอยู่ในเรื่องมากมายตามแบบฉบับของหม่อมน้อย แม้ว่าบทภาพยนตร์จะดีอยู่แล้ว แม้เรื่องราวของ “ขวัญกับเรียน” ณ ทุ่งบางกะปิ จะเป็น “อมตะ” เคียงข้างคลองแสนแสบ ส่งทอดเรื่องเล่าให้คนรุ่นหลัง ถึงความรักทั้งสองจะจบลงด้วยความโศกเศร้า รอยแผลที่ทั้งสองคนได้ทิ้งไว้ มันคงไม่เก่าเลยถ้ามีใครสักคนหยิบเรื่องราวมาเล่าใหม่ >< ขอให้มีความสุขกับการดูหนังครับ
อ่านเรื่องอื่น http://moviesdelightclub.blogspot.com/