[CR] เกาะหลีเป๊ะ หาดบันดาหยา 3วัน2คืน ที่ไปแล้วอยากไปอีก

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆห้องบลูทุกคน นี่เป็นรีวิวของดิฉันครั้งแรกอาจจะให้ข้อมูลไม่ครบถ้วนมากนะคะ เดินทางวันที่ 1 - 4 พ.ค. 57

สมาชิกที่ร่วมการเดินทางไปที่เกาะหลีเป๊ะ 4 คนค่ะ เราจองตั๋วบินของสายการบินแอร์เอเชีย

ทั้งไปและกลับค่าโดยสารที่ประมาณคนละ 3000 บาท



เครื่องลงจอดที่หาดใหญ่ โดยมีพ่อแม่ของแฟนมารับไปที่บ้านพักผ่อนตามอัธยาศัยในวันแรก

วันที่ 1 (1 พ.ค. 57)  เราไปเดินเล่นกินลมชมวิวที่หาดสมิหลาและค้างที่บ้านพ่อแม่แฟนคะ



หาดสมิหลาตอนพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน




เล่นทรายกันหาดสมิหลา



------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

วันที่ 2 (2 พ.ค. 57) พร้อมออกเดินทางจากตัวเมืองสงขลาสู่จังหวัดสตูล หลีเป๊ะรอการมาเยือนของเราอยู่ ฮ่าๆ

เริ่มออกเดินทางจากบ้านเวลา 8:00น. ด้วยรถกระบะของที่บ้านใช้เวลาเดินทางราวๆ 2 ชั่วโมงเนื่องจากเส้นทางไม่คุ้นมากนัก

และแล้วเราก็มาถึงฝั่งท่าเทียบเรือปากบารา ก่อนอื่นต้องหาที่รับฝากรถเราได้นายหน้ารับฝากรถอยู่ข้างๆซอยใกล้กับเซเว่น

คิดค่ารับฝากวันละ 100 บาท 2วัน 200 บาท  

รับตั๋วเรือที่เคาเตอร์ของรีสอร์ทบันดาหยาเรือสปีดโบทลำใหญ่บรรจุคนได้ราวๆ 80 คน

คิดค่าโดยสารทั้งไปและกลับ 1000 บาท/คนค่ะ

เตรียมพร้อมเดินทางค่ะหน้าตาของสมาชิกพร้อมลุย เสบียงพร้อม


เราเดินทางด้วยเรือลำนี้ค่ะทุกที่นั่งจะมีชูชีพให้เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร



เกาะแรกที่เรือจะหยุดให้ถ่ายภาพคือเกาะไข่ค่ะ สวยน้ำทะเลใส
ว่ากันว่าหากใครมีโอกาสพาหวานใจมาท่องเที่ยวทะเล จ.สตูล และอยากให้ความรักมั่นคงยืนยาวล่ะก็ ต้องพาหวานใจมาลอด
“ซุ้มรักนิรันดร (Lover’s Gate)” ที่ตั้งอยู่บน “เกาะไข่” สักครั้ง........ซึ่งไม่ว่าเรื่องราวเล่าขานดังกล่าวข้างต้น
จะมีมูลเหตุเท็จจริงประการใดก็ตาม ในปัจจุบันซุ้มประตูหินธรรมชาติแห่งนี้ก็ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ทางการท่องเที่ยวของ
จ.สตูล ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว cr.เว็บไซต์ท่องเที่ยวจังหวัดสตูล


เกาะที่ 2 คืออุทยานแห่งชาติตะรุเตา เกาะนี้ให้ลงไปเพื่อเก็บภาพ 15 นาที น้ำทะเลที่เกาะนี้ใสมากแถมยังเงียบสงบมาก




จากนั้นเราก็ออกเดินทางต่อรวม ๆ  เวลาที่อยู่บนสปีดโบทราว ๆ 2 ชม.ค่ะ ไกลพอสมควร

ตรงนี้เป็นจุดแรกที่สปีดโบทจะจอด เพื่อให้นักท่องเที่ยวลงและต่อเรือหางยาวที่ทางรีสอร์ทจัดเตรียมเพื่อมารับ

ส่วนของเราพักที่บันดาหยาก็เลยไม่ต้องต่อเรืออีก เค้าส่งถึงที่เลยค่ะหน้าหาดพัทยา(หาดบันดาหยา) สะดวกสุดๆ

แถมด้วยก่อนถึงหน้าหาดจะเรียกว่ากัปตันหรือคนขับเรือดี นั่นละค่ะ เค้าบอกให้จับแน่น ๆ แล้วเค้าก็พาเรือวนเป็นวงกลม

ซึ่งมันสนุกมากๆ แต่ก็เสี่ยงมากเหมือนกัน แต่ตอนนั้นเรามันส์ ฮ่าๆๆ เสียดายที่เก็บภาพไม่ได้ >.<




ในที่สุด เย้ๆๆๆๆๆ เราก็มาถึงหาดพัทยา(หาดบันดาหยา) จนได้ คือที่นี่ต้อนรับด้วยน้ำใสๆ หาดทรายขาวๆ

สมชื่อฉายา ทรายคอฟฟี่เมทค่ะ มองเห็นก็ประทับใจตั้งแต่แรกเลย รู้สึกเริ่มหลงรักที่นี่เข้าเต็มๆเลย



กระเป๋าเค้าก็ขนให้เรานะคะ บริการดีฝุดๆ รอรับกระเป๋าหน้าหาดค่ะ



มาถึงที่นี่เวลาประมาณ 14:30 น. วันนี้ก็เกือบจะหมดกับการเดินทางละ รู้สึกหายเหนื่อยเลยพอเข้าที่พัก

เราเช็คอินค่ะ ที่เราจองไว้คือ 2 หลัง ติดกัน



พอเปิดประตูเข้ามาในห้องพัก โอ้ย ง่วงทันที


จริงๆเราชอบที่พักสไตล์นี้มากๆ เป็นไม้ก็ดูเย็นแล้วค่ะ




ส่วนของห้องน้ำด้านในค่ะ




ห้องน้ำด้านนอกเป็น Out door ที่บรรยากาศฟินแต่ก็แอบกลัวว่าใครจะปีนมาดูเราแก้ผ้าอาน้ำหรือเปล่า ^^



วันนี้เราทานอาหารกันที่รีสอร์ทค่ะ อาหารที่นี่ทั้งสด รสชาติก็อร่อยใช้ได้เลย


ด้านหน้าของรีสอร์ท


เริ่มออกหาทริปสำหรับดำน้ำของวันพรุ่งนี้แล้ว เราไม่ได้จองล่วงหน้าทำให้หาเรือหางยาวยากมาก

เพราะช่วงที่ไปนักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ เรือถูกจองหมดแล้ว แต่โชคยังดีที่มีเรือสปีดโบทลำใหญ่ว่าง

ทริปดำน้ำของเราคนละ 700 บาท มีข้าวกลางวัลพร้อมน้ำและผลไม้ให้ทาน อุปกรณ์สำหรับดำน้ำด้วย ถือว่าโชคดีแหละค่ะ

ตรงนี้ไม่แน่ใจว่าที่เรียกกันว่า Walking Street หรือเปล่า



วันนี้ลาด้วยถาพนี้ค่ะ พระอาทิตย์ใกล้ตกดิน
ชื่อสินค้า:   เกาะหลีเป๊ะ สตูล บันดาหยารีสอร์ท
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่