สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
ตัวอย่างงานช่างไม้ ที่ต้องคำนวณ เช่น
การประกอบแบบคานคอดิน ตัวคอนกรีตหนา 20 ซม.
คานลึก 40 ซม.
ช่างไม้ ต้อง ทำไม้ตงรองรับ ไม้กระดานแผ่นล่างสุด
ไม้กระดานแผ่นล่างสุด ไม่มีความกว้าง 20 ซม. ขายครับ
มีแต่ ไม้กระดานหน้า 8 " ( เดียวนี้ยังดี ที่ มีแบบสำเร็จรูปให้เช่า มีระยะ 20 ซม. ให้แล้ว)
ช่างไม้ ต้อง คำนวณขั้นพื้นฐานให้ได้ว่า จะต้องใช้ตงกี่ท่อน
จึงจะพอรองรับ น้ำหน้กคอนกรีตได้ ปกติ ก็จะเว้นระยะ 40 ซม.
หรือน้อยกว่า ดังนั้น ระยะความยาวคาน มี 3.6 เมตร จะต้องการตง 10 ท่อน
วางตงแล้ว ก็ปูกระดานแผ่นล่างสุด จากนั้น จึงประกอบแบบไม้ข้างคาน
ซึ่ง มักจะไม่มีไม้แบบที่กว้างถึง 40 ซม. ช่างต้องคิดอ่านเอาว่าต้องใช้ไม้อะไรบ้าง
เช่นใช้ไม้หน้า 6 จำนวนสามแผ่นต่อกัน จะได้ความกว้างรวม 18 นิ้ว
และ 18 นิ้วนี้ มันคือระยะประมาณ 45 ซม. ซึ่ง มันมากกว่าความลึกของคาน
ถ้าช่างไม่มีประสบการณ์ จะใช้ไม้กระดานหน้า 8 สองแผ่นต่อกัน ได้ 16 นิ้ว
ได้ ระยะประมาณ 40 ซม. พอดี
แต่อย่าลืมนะครับ ว่าไม้ข้างแบบของคานนั้น มันต้องวางบนตง
ดังนั้น ต้องคิดความหนาของกระดานแผ่นที่ปูอยู่เดิมอีกด้วย
ดังนั้น แบบที่กว้าง 40 ซม. พอดี มันไม่ work ครับ
ต้อง กว้างกว่านั้นนิดหน่อย
ช่างจึงเลือกใช้ไม้ หน้า 6 สามแผ่นต่อกันให้ได้ 45 ซม. ครับ
ทีนี้ พอประกอบแล้วข้างเดียว ก้อต้องวัดกัน(วัดความลึกภายในว่า มันควรลึกเท่าใด)
จากนั้น ก็ทำเครื่องหมายไว้ ขีดด้วยดินสอ
พอช่างเหล็กผูกเหล็กเสร็จ ก็ประกอบแบบข้างคานอีกข้างให้ครบ
แล้ว ทำเครื่องหมายความลึกของคานให้แน่นหนา
โดยการตอกตะปูเป็นแนว ห่างกันทุกๆ 1.0 เมตร
เพื่อให้ช่างปูนเห็นระดับแนวบนสุดของคานได้ชัด
เวลาเทคอนกรีตจะได้มีแนวอ้างอิง
ไม่งั้น มีสูงๆ ต่ำๆ ระดับหลังคานออกมาไม่เรียบ
ถ้าเป็นช่างชาวบ้าน ช่างไม้ กับช่างปูนมักจะเป็นกลุ่มเดียวกัน
ที่ผม เจอมา ช่างที่มีพื้นฐานมาจากช่างไม้
จะมีความคิดความอ่าน ความละเอียดรอบคอบ และหัวไว กว่าช่างปูน
เนื่องจาก งานไม้นั้น หากตัดไม้ผิดไปจะแก้ไขยากมาก
ทุกอย่าง เกิดจากการเรียนรู้เอาเอง หน้างาน
ทำงานวันแรกเป็นกรรมกร เป็นลูกน้องเดินตามลูกพี่
ลูกพี่ ก็สอนไม่เป็น นานๆ ก็บอกทีหนึ่ง
คนที่หัวดีแต่เกิดมายากจน ก็จะเรียนรู้ ถูกบ้างผิดบ้าง
นานๆ ไปก็เกิดความขำนาญ เห็นว่า อ้อทำอย่างนี้มันถูกมากกว่าผิด
นายช่าง(วิดวะคุมงาน) เขาไม่ว่ากระไร ก้อจดจำไปใช้
อันไหน ที่ทำแล้ว ถูกด่า ว่าโง่เป็นควาย ก็จำไว้ว่า
กรุไม่อยากเป็นขี้ข้าเ-มิงดอก ที่กรุมาทำอยู่ให้เ-มิงด่านี่
ก็เพราะกรุจน กรุต้องเลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย
บางคนหัวไม่ดี เป็นได้อย่างมากก็ กรรกรอาวุโส อยู่กับเหล้าไปจนหมดแรง
ส่วนคนที่หัวดี ก็เป็นช่าง เป็นหัวหน้าช่าง เป็นผู้รับเหมารายย่อย
ประสบการณ์ ที่สั่งสมนั้น อย่างน้อยต้องใช้เวลา 10 ปีขึ้นไป
พวกเรา เรียนจบ ป.ตรี เราเรียนกันแค่ 4 ปี ก็ได้ กระดาษแผ่นหนึ่งแล้ว
พวกผู้รับเหมารายย่อย อย่างน้อย ต้องมี 10 ปี up
จุดเริ่มต้นของ คนที่เป็นกรรมกรก่อสร้างไม่ต่างกันมาก
ส่วนบั้นปลาย มีน้อยคนที่จะกลายร่างเป็นช่างรับเหมาได้
ชีวิตคนงานก่อสร้าง ก็เป็นแบบนี้แหละคับ
ต่อไป หากมีโอกาสใกล้ชิดเขา ก็อย่าว่ากล่าวเขาด้วยคำแรง
ขอเพียงมองเห็นเขาเป็นคนเสมอเรา เขาก็ดีใจแล้ว
ขอบคุณครับ
การประกอบแบบคานคอดิน ตัวคอนกรีตหนา 20 ซม.
คานลึก 40 ซม.
ช่างไม้ ต้อง ทำไม้ตงรองรับ ไม้กระดานแผ่นล่างสุด
ไม้กระดานแผ่นล่างสุด ไม่มีความกว้าง 20 ซม. ขายครับ
มีแต่ ไม้กระดานหน้า 8 " ( เดียวนี้ยังดี ที่ มีแบบสำเร็จรูปให้เช่า มีระยะ 20 ซม. ให้แล้ว)
ช่างไม้ ต้อง คำนวณขั้นพื้นฐานให้ได้ว่า จะต้องใช้ตงกี่ท่อน
จึงจะพอรองรับ น้ำหน้กคอนกรีตได้ ปกติ ก็จะเว้นระยะ 40 ซม.
หรือน้อยกว่า ดังนั้น ระยะความยาวคาน มี 3.6 เมตร จะต้องการตง 10 ท่อน
วางตงแล้ว ก็ปูกระดานแผ่นล่างสุด จากนั้น จึงประกอบแบบไม้ข้างคาน
ซึ่ง มักจะไม่มีไม้แบบที่กว้างถึง 40 ซม. ช่างต้องคิดอ่านเอาว่าต้องใช้ไม้อะไรบ้าง
เช่นใช้ไม้หน้า 6 จำนวนสามแผ่นต่อกัน จะได้ความกว้างรวม 18 นิ้ว
และ 18 นิ้วนี้ มันคือระยะประมาณ 45 ซม. ซึ่ง มันมากกว่าความลึกของคาน
ถ้าช่างไม่มีประสบการณ์ จะใช้ไม้กระดานหน้า 8 สองแผ่นต่อกัน ได้ 16 นิ้ว
ได้ ระยะประมาณ 40 ซม. พอดี
แต่อย่าลืมนะครับ ว่าไม้ข้างแบบของคานนั้น มันต้องวางบนตง
ดังนั้น ต้องคิดความหนาของกระดานแผ่นที่ปูอยู่เดิมอีกด้วย
ดังนั้น แบบที่กว้าง 40 ซม. พอดี มันไม่ work ครับ
ต้อง กว้างกว่านั้นนิดหน่อย
ช่างจึงเลือกใช้ไม้ หน้า 6 สามแผ่นต่อกันให้ได้ 45 ซม. ครับ
ทีนี้ พอประกอบแล้วข้างเดียว ก้อต้องวัดกัน(วัดความลึกภายในว่า มันควรลึกเท่าใด)
จากนั้น ก็ทำเครื่องหมายไว้ ขีดด้วยดินสอ
พอช่างเหล็กผูกเหล็กเสร็จ ก็ประกอบแบบข้างคานอีกข้างให้ครบ
แล้ว ทำเครื่องหมายความลึกของคานให้แน่นหนา
โดยการตอกตะปูเป็นแนว ห่างกันทุกๆ 1.0 เมตร
เพื่อให้ช่างปูนเห็นระดับแนวบนสุดของคานได้ชัด
เวลาเทคอนกรีตจะได้มีแนวอ้างอิง
ไม่งั้น มีสูงๆ ต่ำๆ ระดับหลังคานออกมาไม่เรียบ
ถ้าเป็นช่างชาวบ้าน ช่างไม้ กับช่างปูนมักจะเป็นกลุ่มเดียวกัน
ที่ผม เจอมา ช่างที่มีพื้นฐานมาจากช่างไม้
จะมีความคิดความอ่าน ความละเอียดรอบคอบ และหัวไว กว่าช่างปูน
เนื่องจาก งานไม้นั้น หากตัดไม้ผิดไปจะแก้ไขยากมาก
ทุกอย่าง เกิดจากการเรียนรู้เอาเอง หน้างาน
ทำงานวันแรกเป็นกรรมกร เป็นลูกน้องเดินตามลูกพี่
ลูกพี่ ก็สอนไม่เป็น นานๆ ก็บอกทีหนึ่ง
คนที่หัวดีแต่เกิดมายากจน ก็จะเรียนรู้ ถูกบ้างผิดบ้าง
นานๆ ไปก็เกิดความขำนาญ เห็นว่า อ้อทำอย่างนี้มันถูกมากกว่าผิด
นายช่าง(วิดวะคุมงาน) เขาไม่ว่ากระไร ก้อจดจำไปใช้
อันไหน ที่ทำแล้ว ถูกด่า ว่าโง่เป็นควาย ก็จำไว้ว่า
กรุไม่อยากเป็นขี้ข้าเ-มิงดอก ที่กรุมาทำอยู่ให้เ-มิงด่านี่
ก็เพราะกรุจน กรุต้องเลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย
บางคนหัวไม่ดี เป็นได้อย่างมากก็ กรรกรอาวุโส อยู่กับเหล้าไปจนหมดแรง
ส่วนคนที่หัวดี ก็เป็นช่าง เป็นหัวหน้าช่าง เป็นผู้รับเหมารายย่อย
ประสบการณ์ ที่สั่งสมนั้น อย่างน้อยต้องใช้เวลา 10 ปีขึ้นไป
พวกเรา เรียนจบ ป.ตรี เราเรียนกันแค่ 4 ปี ก็ได้ กระดาษแผ่นหนึ่งแล้ว
พวกผู้รับเหมารายย่อย อย่างน้อย ต้องมี 10 ปี up
จุดเริ่มต้นของ คนที่เป็นกรรมกรก่อสร้างไม่ต่างกันมาก
ส่วนบั้นปลาย มีน้อยคนที่จะกลายร่างเป็นช่างรับเหมาได้
ชีวิตคนงานก่อสร้าง ก็เป็นแบบนี้แหละคับ
ต่อไป หากมีโอกาสใกล้ชิดเขา ก็อย่าว่ากล่าวเขาด้วยคำแรง
ขอเพียงมองเห็นเขาเป็นคนเสมอเรา เขาก็ดีใจแล้ว
ขอบคุณครับ
ความคิดเห็นที่ 6
เริ่มต้นก็ทำตามคำสั่ง แต่พอได้ทำซ้ำไปซ้ำมาก็จะได้ความชำนาญตามมา จะเห็นได้ว่าช่างหลายๆคนสามารถแก้ปัญหางานระบบหรือแก้สถานการณ์นอกเหนือคำสั่งได้ง่ายๆเลยครับ
ผมเคยเจอตำแหน่งช่องชาร์ฟมันเดินท่อไม่ได้ แล้วคนออกไอเดียแก้ปัญหาไม่ใช่วิศวกรคุมงาน แต่เป็นไอเดียจากช่างเดินท่อน้ำ ทำเอาอึ้งกันมาแล้วครับ คือแกไม่ได้รู้เรื่องหลักโยธาอะไรหรอก แกแนะนำเพราะแกรู้ว่าโครงสร้างแบบไหนมันถึงจะเดินท่อได้เท่านั้นเอง
คนเราเรียนรู้ได้ทุกคน ความรู้หลายๆเรื่องจากการทำงานจริงมันดีและถูกต้องมากกว่าความรู้ตามตำราด้วยซ้ำไปครับ
ผมเคยเจอตำแหน่งช่องชาร์ฟมันเดินท่อไม่ได้ แล้วคนออกไอเดียแก้ปัญหาไม่ใช่วิศวกรคุมงาน แต่เป็นไอเดียจากช่างเดินท่อน้ำ ทำเอาอึ้งกันมาแล้วครับ คือแกไม่ได้รู้เรื่องหลักโยธาอะไรหรอก แกแนะนำเพราะแกรู้ว่าโครงสร้างแบบไหนมันถึงจะเดินท่อได้เท่านั้นเอง
คนเราเรียนรู้ได้ทุกคน ความรู้หลายๆเรื่องจากการทำงานจริงมันดีและถูกต้องมากกว่าความรู้ตามตำราด้วยซ้ำไปครับ
ความคิดเห็นที่ 20
แรงงานก็มีชั้นของความเชี่ยวชาญนะคะ
พี่ชายเราตอนนี้เป็นผู้รับเหมารายย่อยค่ะ
จบ ป.6 เองค่ะ แต่อ่านแบบเป็นเลยสามารถรับงานรับเหมาก่อสร้างได้
กว่าจะออกมารับงานเองเป็นลูกน้องเค้า 10 กว่าปี
พี่ชายเราเริ่มจากเด็กแบกปูนตั้งแต่ อายุ 14 ปี
ค่อยๆเรียนรู้ ครูพักลักจำ ประกอบกับเป็นคนมีระเบียบวินัย อดทน
ขยัน ค่อยๆขยับขึ้นมาเรื่อยๆ เป็นช่างก่อ ช่างฉาบ ช่างปูกระเบื้อง ช่างไฟ
นานๆไป เจ้านายเริ่มใช้งานที่ไม่ใช่งานกรรมกร
เช่นรับเช็ค พาไปช่วยตีราคาค่าก่อสร้าง คุมคนงาน อ่านแบบ
สุดท้ายเริ่มรับภาระ มากเกินค่าจ้างแล้ว ความกดดันสูง
ประกอบกับเบื่อที่จะเป็นลูกน้องแล้วเลยกลับมาอยู่บ้าน
มอไซค์ 1 คัน รถเข็นมาพ่วง รับงานเล็กแบบเหมาค่าแรง
เก็บเงินซื้อเครื่องมือช่างต่างๆ เช่นโม่ปูน เครื่องตัดเหล็ก ตัดกระเบื้อง
ซื้อรถปิ๊กอัพอายุ 20 ปี เริ่มรับเหมาสเกลใหญ่ขึ้น มีลูกน้องซึ่งก็ญาติกัน
เค้าถามนิดเดียวพล่ามซะยาว
ขอโทษทีค่ะ พอดีซาบซึ้ง และปลื้มกับะชายตัวเองมากๆ
พี่ชายเราตอนนี้เป็นผู้รับเหมารายย่อยค่ะ
จบ ป.6 เองค่ะ แต่อ่านแบบเป็นเลยสามารถรับงานรับเหมาก่อสร้างได้
กว่าจะออกมารับงานเองเป็นลูกน้องเค้า 10 กว่าปี
พี่ชายเราเริ่มจากเด็กแบกปูนตั้งแต่ อายุ 14 ปี
ค่อยๆเรียนรู้ ครูพักลักจำ ประกอบกับเป็นคนมีระเบียบวินัย อดทน
ขยัน ค่อยๆขยับขึ้นมาเรื่อยๆ เป็นช่างก่อ ช่างฉาบ ช่างปูกระเบื้อง ช่างไฟ
นานๆไป เจ้านายเริ่มใช้งานที่ไม่ใช่งานกรรมกร
เช่นรับเช็ค พาไปช่วยตีราคาค่าก่อสร้าง คุมคนงาน อ่านแบบ
สุดท้ายเริ่มรับภาระ มากเกินค่าจ้างแล้ว ความกดดันสูง
ประกอบกับเบื่อที่จะเป็นลูกน้องแล้วเลยกลับมาอยู่บ้าน
มอไซค์ 1 คัน รถเข็นมาพ่วง รับงานเล็กแบบเหมาค่าแรง
เก็บเงินซื้อเครื่องมือช่างต่างๆ เช่นโม่ปูน เครื่องตัดเหล็ก ตัดกระเบื้อง
ซื้อรถปิ๊กอัพอายุ 20 ปี เริ่มรับเหมาสเกลใหญ่ขึ้น มีลูกน้องซึ่งก็ญาติกัน
เค้าถามนิดเดียวพล่ามซะยาว
ขอโทษทีค่ะ พอดีซาบซึ้ง และปลื้มกับะชายตัวเองมากๆ
แสดงความคิดเห็น
คนงานเขาสร้างบ้าน สร้างสิ่งต่างๆ กันได้ยังไงครับ