เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาได้เป็นหนึ่งในผู้โชคดีของทางคลื่นกรีนเวฟ 106.5 เดินทางไปร่วมกิจกรรม Simplelife Sukhothai ที่จังหวัดสุโขทัย 3 วัน 2 คืน ได้ทำกิจกรรมดี ๆ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายกันเลยทีเดียว ถือว่าโชคดีจริง ๆ แถมยังมีศิลปินร่วมทริปมาร้องเพลงเพราะ ๆ ให้ฟังอีก (ครั้งนี้เป็นโรส ศิรินทิพย์)



ออกเดินทางกันตั้งแต่เช้าตรู่โดยบริการของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ไปลงที่สนามบินสุโขทัย ที่สุโขทัยจะมีแค่บางกอกแอร์เท่านั้นที่ให้บริการ น่าจะเนื่องมาจากสนามบินที่นี่เป็นของบางกอกแอร์






ที่สนามบินสุโขทัยอาคารผู้โดยสารเป็นลักษณะทรงไทย คล้ายศิลปะสุโขทัย อาคารเปิดโล่ง






ครั้งนี้ได้พักกันที่โรงแรมสุโขทัยเฮอริเทจ อยู่ในพื้นที่เดียวกันกับสนามบิน น่าจะเป็นเครือเดียวกันด้วยเพราะว่าเป็นหนังสือของบางกอกแอร์อยู่ในห้อง ได้ห้องพักชั้น 1 เปิดประตูออกไปด้านหลังจะถึงสระน้ำเลย (ใครอยู่ชั้นสองก็กระโดดลงมาละกัน ^^)












กิจกรรมแรกวันนี้ได้ไปกันที่พิพิธภัณฑ์ผ้าทองคำบ้านหาดเสี้ยว ที่นี่มีจัดผ้าทอลายโบราณของชาวไทยพวน ข้าวของเครื่องใช้ของชาวไทยพวนในอดีต ได้เจอกับคุณลุงสาธร ผู้เป็นเจ้าของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ด้วย ได้ความรู้ต่าง ๆ มากมาย คุณลุงยังสอนให้รู้จักภาษาไทยพวนอีก




ผ้าทองคำที่ใช้ทองคำทอ








มีการสอนทอผ้าตีนจกด้วยไปยืนดูใกล้ ๆ แล้ว จะบอกว่าไม่ง่ายเลยเรื่องทอผ้าเนี่ย








เสร็จจากที่แรกแล้วเราก็จะไปกินข้าวเปิ๊บที่บ้านนาต้นจั่นกันต่อ คุณป้าเสงี่ยมให้การต้อนรับพวกเราเป็นอย่างดี แถมยังมีพิธีบายศรีต้อนรับกันอีกด้วย แล้วก็ชมวิธีการทำผ้าหมักโคลน ที่บ้านนาต้นจั่นยังเปิดให้บริการโฮมสเตย์ด้วย ใครสนใจลองติดต่อคุณป้าเสงี่ยมได้ที่เบอร์ 089 885 1639






หลังจากพิธิบายศรีเสร็จเราก็ได้ลองลิ้มชิมรสข้าวเปิ๊บกันแล้ว ข้าวเปิ๊บเป็นอาหารท้องถิ่น คำว่าเปิ๊บ แปลว่า พับ ทำคล้าย ๆ ข้าวเกรียบปากหม้อ มีวุ้นเส้น ผัก ใส่ลงไปแล้วก็พับ พับ พับ แต่งหน้าด้วยไข่ ราดน้ำซุปรสกลมกล่อม อร่อยจริง ๆ รีวิวไปน้ำลายสอไปอยากกินอีก ทางคุณป้าเสงี่ยมเตรียมอาหารไว้เยอะแยะทั้งคาวหวาน กินกันอิ่มหนำ อันนี้เป็นอาหารมื้อแรกที่เราได้ทานร่วมกัน เลยสงบเสงี่ยมไม่ค่อยเติมกันเท่าไหร่ แต่มื้อถัดไปนี่เรียกว่าซัดไม่เหลือเลยดีกว่า ฮ่า ฮ่า






พอดีวันที่ไปเป็นใกล้จะเข้าพรรษาแล้วคุณป้าเตรียมต้นเทียนไว้ให้แห่ไปทำบุญกันด้วย มีขบวนกลองจากน้อง ๆ ด้วย สนุกสนานกันไป เดินไปทำบุญที่วัดนาต้นจั่น ระหว่างทางมีคุณย่า คุณยาย ที่กำลังทำผมอยู่เดินออกมาจากร้านร่วมขบวนรำวงไปทำบุญที่วัดด้วย มีความสุขกันมากมาย อิ่มท้องแล้วอิ่มบุญกันอีกด้วย




เสร็จสิ้นจากที่นี่ก็กลับที่พัก ระหว่างรออาหารมื้อเย็นก็ได้เวลาพักผ่อน เอาจักรยานที่โรงแรมปั่นไปสนามบิน ที่นี่มีทางสำหรับจักรยานโดยเฉพาะเลยนะ ระหว่างทางวิวสวยงามเต็มไปด้วยทุ่งนา ใครชอบปั่นชิลล์ ๆ น่าจะชอบแบบนี้




เสาไฟฟ้าที่นี่ทุกต้นใช้พลังงานแสงอาทิตย์นะ






จุดหมายปลายทางของการปั่นคือสนามบิน ในนั้นมีสวนสัตว์ด้วย พี่ผู้ดูแลบอกว่าที่นี่ได้จดทะเบียนขอเป็นสวนสัตว์เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ยังไม่เสียค่าเข้าชมแต่อย่างใด เป็นสวนสัตว์เล็ก ๆ ไม่ใหญ่มากเท่าไหร่ วันหยุดคนในพื้นที่ก็จะพาลูกหลานมาเที่ยวชมเยอะเหมือนกัน

เห็นยีราฟมั๊ย ไกลเชียว








ช่วงค่ำเราก็ทานอาหารเย็นกันพร้อมฟังมินิคอนเสิร์ตจากโรส เคลิบเคลิ้มกันซะ อาหารก็อร่อย เพลงก็เพราะ บรรยากาศก็ดี มีความสุขกันถ้วนหน้าฝันดีกันไป


กิจกรรมในเช้าวันรุ่งขึ้นที่เรารอคอยกันเราเริ่มกันแต่เช้าหลังทานข้าววันนี้เราจะต้องเปลี่ยนเป็นชุดม่อฮ่อมลงแปลงปลูกข้าว เก็บไข่เป็ด ปลูกผัก เก็บผัก ขี่ควาย ได้ลองดำนาในแปลงสาธิตกันทุกคน กิจกรรมนี้เราเข้าไปที่โครงการเกษตรอินทรีย์สนามบินสุโขทัยด้วยรถบริการสุดประทับใจ




มาถึงโครงการได้รับการต้อนรับด้วยของว่างคือมั่นโถใบข้าว มั่นโถฟักทอง ฯลฯ จิ้มกับสังขยาไม่ก็น้ำพริกเผา พร้อมเครื่องดื่มชาใบข้าวเตรียมพร้อมก่อนเริ่มทำกิจกรรม


จากข้อมูลที่ได้รับจากวิทยากร พื้นที่นี้เริ่มปลูกข้าวโดยไม่ใช้สารเคมีมาด้วยพื้นที่เล็ก ๆ แล้วเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เป็นประมาณ 200 ไร่ ใน 6 ปีถัดมา และมีการขยายการทำเกษตรแบบอินทรีย์เพิ่มขึ้นทั้งปลูกข้าว ทำสวน แปลงผัก บนพื้นที่กว่า 800 ไร่ ผลผลิตก็มีจัดจำหน่ายให้กับผู้สนใจ รวมทั้งผลผลิตบางส่วนได้นำปรุงอาหารที่โรงแรม (แปลงนาที่นี่อยู่เรียบรันเวย์นะคะ) ที่เราไปลัดเลาะอีแต๋นเข้าชมนี่แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น
















เสร็จสิ้นกิจกรรมต่าง ๆ อาหารกลางวันจะเป็นผลผลิตจากโครงการทั้งหมด คือไม่ได้ถ่ายรูปอาหารมาเท่าไหร่นะ เพราะหิว 555 เอารายการเมนูไปก่อนละกันอร่อยทุกอย่างเติมกันไม่รู้กี่เที่ยว


กินข้าวเสร็จกลับที่พักอาบน้ำอาบท่าเตรียมตัวออกไปเที่ยวรอบบ่ายกัน ตอนบ่ายได้รับเกียรติจากอาจารย์สมชาย เดือนเพ็ญ พาพวกเราไปท่องเที่ยวและให้ความรู้ตามสถานที่ต่าง ๆ ในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่แรกที่เราไปคือหอพระพุทธสิริมารวิชัย ที่นี่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระราชินี ทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา อาคารสร้างตามแบบสถาปัตยกรรมสมัยสุโขทัย


วัดศรีชุม วัดนี้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ซึ่งมีนามว่า "พระอจนะ"




อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย วันที่เดินทางไปตรงกับวันที่มีการแสดงแสง สี เสียง เลยคึกคักเป็นพิเศษ ใครสนใจลองดูตารางนี้ได้








สำหรับมื้อค่ำครั้งนี้ได้รับการต้อนรับจาก ททท. สำนักสุโขทัย จัดอาหารเจ้าอร่อยจากอำเภอกงไกรลาสมาให้ได้ลองลิ้มชิมรสกัน อร่อยเดินเติมหลายรอบกันอีกแล้ว






และแล้วก็เดินทางมาถึงวันสุดท้ายที่เราจะท่องเที่ยวกันในสุโขทัยกัน ความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอ เสียดายจริง ๆ รู้สึกยังเที่ยวไม่จุใจเลย ยังชิมของอร่อยไม่ครบเลย วันสุดท้ายอาจารย์สมชายพาไปเที่ยวชมเตาเผาโบราณ และอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย เพิ่มพูนความรู้มาอีกเยอะเลย








วันนี้ตอนบินกลับได้เห็นหัวใจจากบนฟ้าด้วยที่นี่เป็นโครงการแก้มลิง ทุ่งทะเลหลวง เวลาบินมาจากกรุงเทพฯจะอยู่ซ้ายมือ เวลาบินกลับกรุงเทพฯจะอยู่ขวามือ เลือกที่นั่งกันดี ๆ เผื่อใครอยากเห็น


ทริปนี้เสียดายอย่างเดียวคือกล้องแบตหมด ต้องใช้มือถือช่วยถ่าย เลยเก็บรูปมาไม่ค่อยจุใจเท่าไหร่ แต่ก็เป็นทริปที่สนุกสนาน ได้มิตรภาพ ได้เพื่อนใหม่ ได้ความรู้ ได้อะไรหลาย ๆ อย่าง
ภาพปิดท้ายเป็นภาพรวมสมาชิกร่วมทริปทั้งหมดที่ขอนำมาจาก Fanpage นิตยสาร Barefoot ค่ะ