ขอกำลังใจให้น้องบารมีกับคุณแม่ปองด้วยค่ะ.....เรื่องมันมีอยู่ว่าเมื่ออาทิตย์ก่อนเราต้องพาลูกสาวไปเช็คสุขภาพที่โรงพยาบาลมหาราชเชียงใหม่ ปกติก็จะแอดมิดเข้าห้องพิเศษเพื่อรอการตรวจเช็คในวันรุ่งขึ้น แต่วันนั้นไม่รู้เป็นอะไรทั้งๆที่จองห้องมาก็ตั้งนานแต่ดันห้องไม่ว่างเราสามคนพ่อแม่ลูกก็เลยได้ไปอยู่ที่วอร์ดเด็กเล็กของโรงพยาบาลแทน ที่นั่นก็เหมือนห้องรวมทั่วๆไปนั่นแหล่ะมีเตียงสำหรับเด็กเรียงๆกันอยู่บรรดาแม่หรือพ่อก็นั่งเฝ้าลูกกันไป แต่เราดันไปสะดุดตากับเตียงอยู่เตียงหนึ่งไม่รู้ว่าน้องป่วยเป็นอะไรตุ่มเต็มตัวให้สายออกซิเจนโดยมีกล่องสี่เหลี่ยมครอบหัวอยู่โดยมีแม่ของน้องนั่งเฝ้าอยู่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นเราก็แอบชำเรืองมองน้องเขากะแม่เขาอยู่ตลอดเวลาแทบจะไม่สนใจลูกตัวเองเลยว่างั้น....ปล่อยสามีดูลูกไปคนเดียว เพราะในสายตาเราน้องเขาตัวเล็กมากเลยอยากรู้ว่าน้องเขาเป็นอะไรแต่ก็ไม่กล้าเข้าไปถามแม่เขา คิดไว้ในใจอีกสักชั่วโมงค่อยเดินเรียบๆเคียงๆเข้าไปคุยกะแม่ของน้องเขาดู แต่หลังจากนั้นไม่ถึงครึ่งชั่วโมงหมอก็มาบอกกะเราว่าถ้าไม่อยากนอนก็กลับบ้านก็ได้แล้วพรุ่งนี้ค่อยเข้ามาใหม่เราและสามีก็เลยพาลูกกลับบ้าน ก็เลยอดเข้าไปคุยกะแม่ของน้องเขาเลย สันนิษฐานเอาเองว่าทั้งห้องนั้นมีแต่เด็กที่เป็นเนื้องอกหรือไม่ก็มะเร็งก็เลยคิดว่าน้องน่าจะเป็นเหมือนๆลูกเราเนี้ยแหล่ะไม่เนื้องอกก็มะเร็ง....ถ้าได้คุยกันกับแม่เขาวันรุ่งขึ้นก็จะแนะนำแม่ของน้องว่าจะต้องดูแลลูกยังไงบ้าง....หลังจากที่เราพาลูกไปตรวจเสร็จเราต้องไปรอฟังผลอยู่ที่เดิมแล้วก็ได้อยู่เตียงข้างกันกับน้องเขาเลย....แม่เขาก็ยิ้มแล้วก็ทักมาหลังจากนั้นแม่ทั้งสองเลยได้คุยกันค่ะ ระหว่างที่คุยกันเรารู้สึกตื้อๆในใจนั่งมองทั้งลูกตัวเองแล้วก็ลูกเขาไปน้ำตาก็พาลจะไหล เราเคยคิดว่าเราสู้มาเยอะสภาพจิตใจแย่มาเยอะกับการที่เห็นลูกป่วยกับการที่ลูกต้องเข้าผ่าตัดตั้งแต่ตัวยังเล็กๆ แต่กลับไม่ได้ครึ่งนึงของการต่อสู้ของแม่ลูกคู่นี้เลย...แม่ปองเล่าว่าเขาเป็นคนลาวเดินทางมาที่นี่เพื่อเอาน้องบารมีมาหาหมอซึ่งหมอบอกว่าน้องเป็นมะเร็ง ตอนเกิดน้องน้ำหนักสามโลกว่าดูเป็นเด็กแข็งแรงไม่น่าจะเจ็บป่วยอะไร แต่หลังจากเดือนแรกผ่านไปน้องก็เริ่มมีผื่นขึ้นตามตัวแล้วก็แตกและมีหนองแม่ปองก็คิดว่าน้องเป็นผื่นแพ้ทั่วๆไปก็เลยพาลูกไปรักษาตามคลินิกและโรงพยาบาลตามบ้านไป แต่น้องก็ไม่หายแม่ปองบอกว่าตอนนั้นน้องเป็นผื่นมีน้ำหนองเต็มตัวจนไม่สามารถใส่เสื้อผ้าได้ต้องให้นอนกะใบตองพยายามรักษาทุกวิถีทางน้องก็ไม่หายจนตามง่ามแขนและขาเป็นแผลลึกเข้าไปจนถึงกระดูกท้องของน้องก็บวมขึ้นมาอย่างผิดปกติ ตอนนั้นแม่ปองเลยตัดสินใจหอบลูกวัยประมาณห้าเดือนกว่าๆเดินทางโดยรถโดยสารที่ใช้เวลาเป็นวันกว่าจะมาถึงเชียงใหม่เพราะที่เชียงใหม่มีตาของน้องอยู่ที่นี่ พอมาถึงโรงพยาบาลน้องก็อาการหนักมากแล้วเพราะตับโต ม้ามโต เลยต้องเข้าไอซียู เพื่อรักษาอาการที่ว่ามาก่อนหน้านี้และตรวจเช็คดูให้แน่ว่าน้องเป็นอะไร แม่ปองเล่าว่าน้องอยู่ในไอซียูเกือบสามเดือนถึงได้ออกมาอยู่ที่วอร์ดเด็กเพื่อทำคีโม....เราสะอึกทัทีที่ได้ยินคำวาคีโม....ทำคีโมในเด็กสิบเดือน....ขนาดคนโตๆอย่างเราทำกันยังทรมานจะตายแต่ในเด็กตัวแค่นี้....น้องบรามีเก่งมากจริงๆ คุยกันไปแม่ปองก็เปิดผ้าห่มที่ห่มน้องให้ดูน้องตัวเล็กมาก ตุ่มเล็กๆเต็มตัว เล็บมือเล็บเท้าดำหมดเหมือนจะหลุดออกมา ผมก็ไม่ค่อยจะมี กินนมทางสายยาง ให้ออกซิเจน นอนดูดจุกนมตลอดเวลา ตรงนี้ใครที่เคยงดข้าวงดน้ำให้ลูกในโรงพยาบาลจะรู้ดีว่าจุกนมมันเป็นยังไง และคนเป็นแม่จะทรมานแค่ไหนที่เห็นลูกร้องงอแงแต่กินอะไรไม่ได้นอกจากดูดจุกนม...แม่ปองบอกว่าเรื่องร้องไห้นี่ร้องจนไม่รู้จะร้องยังไงแล้ว ทำยังไงได้ถ้ายังรักษาที่ลาวน้องคงเสียไปแล้วยังไงๆก็ต้องรักษาลูกให้ถึงที่สุด แม่ปองและน้องบารมีไม่ใช่คนไทยดังนั้นจึงไม่มีสิทธิอะไรใดๆทั้งสิ้นแม่ปองต้องจ่ายเองทั้งหมด...โชคดีที่หมอและพยาบาลที่นี่ดูแลน้องเป็นอย่างดี.... มาถึงตรงนี้เราเลยขอตัวเดินออกมาที่เตียงลูกเราซึ่งห่างกันเพียงสามสี่ก้าวเท่านั้นแหล่ะแอบมานั่งซับน้ำตาแล้วก็คิดว่าจะช่วยพวกเขายังไงดี ในหัวก็นึกภาพแม่ลูกอ่อนคนนึงหอบลูกที่ทั้งเลือดทั้งน้ำหนองเต็มตัวนั่งรถข้ามวันข้ามคืนมาบ้านเราจะหมดเงินหมดทองเท่าไหร่ก็ช่างมันผู้เป็นแม่ผู้นี้ไม่สนใจ มาปูเสื่อผืนเล็กๆผ้าห่มผืนบางๆนอนอยู่ข้างเตียงลูกโดยหวังว่าจะได้พาลูกที่หายป่วยกลับบ้านเกิดตัวเอง ตัวน้องบารมีเองก็ใจสู้มากๆโดนมาสารพัดน้องก็ผ่านมันมาได้หมด ก่อนกลับบ้านเราก็เลยขนของใช้ที่พอจะให้น้องบารมีได้ให้ไปทั้งหมดและขอถ่ายรูปน้องเอาไว้เผื่อจะช่วยอะไรน้องได้บ้าง....หากเพื่อนๆคนไหนหรือหน่วยงานไหนอยากให้ความช่วยเหลือน้องบารมีและแม่ปองไม่ว่าจะด้านไหนเรายินดีมากเลยค่ะมาช่วยเพื่อนมนุษย์ด้วยกันนะค่ะเราไม่อยากให้แม่ปองและน้องบารมีสู้กันเพียงลำพังอย่างน้อยถ้าใครอยู่ใกล้ไปให้กำลังใจหรือพูดคุยกับแม่ปองเฉยๆก็ได้ค่ะ แม่ปองจะได้มีแรงสู้ต่อไป....
มาช่วยกันให้กำลังใจ น้องบารมี ให้ผ่านพ้นมันไปด้วยกันนะค่ะ