**เคยไหมเวลาเป็นโสดสักพักนึง เพื่อนจะหวังดี แนะนำเพื่อนของเพื่อนให้รู้จัก**

กระทู้คำถาม
คือ เราจะมีช่วงนึงในชีวิตที่เป็นโสด เพราะสองปีก่อนเลิกกับแฟนคนก่อน ก็ไม่ได้คบกับใครเลยหลังจากนั้นเกือบสองปี แต่ด้วยความที่วัย ควรจะมีแฟนหรือแต่งงานมีลูกได้แล้ว (มั้ง) 30+++++++แล้ว

ในช่วงที่เป็นโสดก็มักจะมีคน แนะนำเพื่อนของเพื่อนบ้างอะไรบ้าง แนะนำให้เรารู้จัก ขนาดมาต่างประเทศ เพื่อนทีทำงานรู้ว่าเป็นโสด ยังจะแนะนำญาติให้รู้จัก ตอนนั้นก็งง การเป็นโสดเนี่ย มันทำให้เราน่าเป็นห่วงขนาดนั้นเลยเหรอ ฮ่าๆ มาเล่าประสบการณ์ เพื่อนแนะนำเพื่อนให้รู้จัก

จากประสบการณ์ ที่ผ่านมา ก็หลายคน ที่เพื่อนแนะนำให้ แต่ไม่เคยประสบความสำเร็จเลยซักคน


1.คนแรก พี่โจ้ เป็นทหาร เป็นเพื่อนของสามีเพื่อนอีกที (สามีเพื่อนนี่เรารู้จักมายี่สิบปีแล้วตั้งแต่เด็กๆพร้อมเพื่อน)

คือคนนี้แบบเข้ามาแบบดุ่มๆเลย อยู่ดีๆมาแอ๊ดเฟสบุคเรา แนะนำตัวบอกมีเรื่องจะปรึกษา ตอนแรก ก็ไม่อะไรนะ
เพราะเห็นว่าเป็นเพื่อนกับสองคนนี้ เค้ามาปรึกษางานที่เราทำอยู่พอดี เลยคุย (ไม่งั้นก็ไม่คุยนะ) พี่เค้าก็อายุ พอควรแล้ว
แต่ดูเป็นคน คนละแนวกับเรา เราก็คุยธรรมดานะ ไม่เคยให้ความหวัง พี่เค้าก็ขอไลน์(อ้างว่าจะได้ส่งรูปง่ายกว่า facebook)
โอเค เราก็ให้ไลน์ไปนะ

คุยไปคุยมา ปกติเราไม่ค่อยคุยหรอก พี่เค้าจะเล่าเรื่องชีวิตประจำวันเค้าให้ฟังมากกว่า แล้วก็ชอบส่งรูปตัวเอง(ตอนแรก ส่งรูปปรึกษาเรื่องงานจริงอะไรจริง) เริ่มไลน์ถี่ขึ้น เป็นไลน์ทุกวัน เราเองก็งานยุ่งไง ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง
หลังจากนั้นเริ่มรุกหนัก พี่คิดถึงนะคะ ทานข้าวรึยัง (อ๊อกกกก) นอนรึยัง ฝันดีนะคะ เราก็ตอบว่า ขอบคุณ หรือส่งสติกเกอร์ไปเฉยๆ
บางวันยุ่งมากๆ ไม่ได้ตอบเลยทั้งวัน ..
พี่เค้างอนค่ะ ส่งข้อความตัดพ้อ .. ทำไมทำกับพี่แบบนี้ ข้อความขึ้นว่าอ่านแล้วทำไมไม่ตอบคะ

เซ็ง..มากกกกกกกก เลยไม่ตอบอีกเลย คือ ในหนึ่งเดือนที่คุยกันเราไม่เคยมุ้งมิ้งด้วยเลยนะ มีแต่พี่เค้ามุ้งมิ้งตลอด
เราก็เป็นพวกขี้รำคาญมุ้งมิ้งด้วยอ่ะ เลยตอบพี่เค้าไปตรงๆว่า

"ความเงียบ คือการปฏิเสธที่สุภาพ และเสียงดังที่สุดนะคะ "

อาจจะดูใจร้ายนะแต่เราว่า เราสุภาพมากแล้วอ่ะ เจอข้อความแบบนี้ทุกวันเราเสียสุขภาพจิต
(งานยุ่ง เปิดข้อความมา ยังเป็นข้อความชวนปวดหัวอีก) แล้วพี่เค้าก็เลย unfriend เราในเฟสบุคเลย

ทำให้เราเลิกสงสัยว่าพี่เค้าก็อายุ 40 หน้าที่การงานก็ดี หน้าตาก็ไม่ได้แย่ ทำไมถึงไม่มีแฟน!!!

2. พี่ชาย ลูกชายเพื่อนแม่ (คนนี้ จีบเราประมาณ เจ็ดปีได้) เรารู้จักกับพี่เค้าตั้งแต่สิบปีก่อน ตอนที่เราเป็นโสด
เป็นลูกชายเพื่อนแม่ อายุมากกว่าเราสองปี ที่บ้านเป็นกิจการ จิวรี่
ส่วนตัวพี่ชาย จบสัตวแพทย์ แต่ไม่ได้เป็นสัตวแพทย์ มาช่วยกิจการที่บ้าน จริงๆพี่เค้าเป็นคนจีนเหมือนเรานะ คือขาวๆ อวบๆ น่าจะเสป็คคนส่วนหนึ่งเลยทีเดียว ขาวๆ สูงๆ บ้านรวย
เปลี่ยนรถทุกครั้งที่มารับ จีบเราตั้งแต่ เมื่อสิบปีก่อน ตอนแรกๆ จีบแบบมาหาทุกเสาร์อาทิตย์เลย พาไปกินอาหารหรูๆ
แบบไฮโซ ชอบอวดรวย (ทำให้เราหมั่นไส้และไม่ชอบเท่าไหร่)

แต่เป็นลูกชายเพื่อนแม่ ก็คุยเป็นเพื่อนไป ซักพัก เราก็จะมีแฟนไปอะไรไป พอพี่เค้ารู้เค้าก็จะหายไปนะ แต่บางทีเค้าก็จะโทรมาคุย (แบบเพื่อน)
เวลาเราเลิกกับแฟน พี่เค้าก็จะกลับมา (พี่คุยกับแม่ตลอด เพราะแม่สนิทกับพี่สาวเค้า)
มีช่วงนึงพี่เค้าไปบวชรอบแรก เราก็เอ่อดีนะ สึกมาพี่เค้าคงเลิกจีบเราหละมั้ง
พี่เค้าหายไปหกเดือนกลับมาจีบใหม่อ่ะ ทำเหมือนเดิมเปี๊ยบเลย แต่เค้าก็ไม่เคยทำไม่ดีกับเราเลยนะ แต่เนื่องจากนิสัยแบบ เข้ากันได้ยาก
แล้วเราก็ไม่ได้รักด้วยหล่ะ เลยคบเป็นเพื่อนแบบขำๆ คบๆหายๆ จีบๆหายๆแบบนี้ เจ็ดปี

ตอนนี้พี่เค้าไปบวชเป็นพระแล้วค่ะ เราไม่ได้ไปนมัสการเลย น่าจะบวชได้ประมาณสามสี่ปีแล้ว


3.ชื่อพี่นิก เนี่ยก็เป็นอีกคนที่เพื่อนแนะนำให้รู้จักเพราะพี่เค้าเพิ่งเลิกกับแฟน Profile ดี ทำงานรับราชการอยู่โคราช นิสัยดี เป็นคนติดดิน
พี่นิกอายุมากกว่าเราสองปี เรียนจบปริญญาโท สถาบันดัง ทำงานรับราชาการหน้าตาโอเค แต่งตัวดี ผิวแบบคนไทยแท้

นั่นไม่ใช่ประเด็น .. ประเด็นคือ คุยกันแล้ว แรกๆ ก็โอเค นะ มันยังแบบอยากทำความรู้จักกัน พอเริ่มออกไปทานข้าวด้วยกัน โอ้วแม่เจ้า
พี่เ่ค้ายกขาขึ้นมาบนเก้าอี้ ค่ะคุณ !!!! เราก็อร๊ายยย เราสนิทกันตั้งแต่เมื่อไหร่คะ ... ที่บ้านเราสนิกกันมากยังไม่มีใครยกเท้าขี้นมาบนเก้าอี้โต๊ะอาหารเลย
แรกๆเราก็พยายาม มองข้ามบ้างอะไรบ้าง จุดนี้ไป แต่เฮ้อ พอมี What'sapp เท่านั้นหล่ะ พี่เค้าเริ่มคิดว่าเราเป็นแฟน
(( ถามกันก่อนเหอะ )) ส่งข้อความตลอดเวลาอีกคนนึงแล้ว (เฮ้ยยย ไม่ได้ว่างทั้งวันค่ะ ทำงานยุ่งมากช่วง 8.00-14.00)

สอนหนังสือไง เวลาจะเปิดโทรศัพท์ไม่มี รับสายเฉพาะสายสำคัญ  พอปิด Notification เป็นเรื่องค่ะ
โทรมาตีอกชกหัว ... ลาก่อนค่ะพี่


เราไม่ได้บอกว่า สามคนข้างต้นเป็นคนไม่ดีนะคะ แต่เค้าเป็นคนที่เข้ากับเราไม่ได้เท่านั้นเอง 555

สุดท้ายคือเราก็เจอกับแฟนด้วยความบังเอิญ (หลังจากที่โสดมาสองปี) หน้าร้านอาหารอินเดียในเมือง บอสตัน เป้นคนที่เรารู้สึกว่าใช่เลย
ก็คบกันไป เค้าก็ถามเรื่องอนาคต ขอให้เราลาออกจากราชการที่เมืองไทย และมาอยู่ด้วยกัน แต่สุดท้ายเราไม่ตกลงค่ะ
เลิกกันแต่ยังคุยเป็นเพื่อนกันอยู่ (เจ็บแต่เข้าใจค่ะ) เรายินดีปล่อยเค้าไปเจอคนอื่น

พอรุ่นน้องที่สนิท เค้ารู้ว่าเราเลิกกับแฟน ...

จะแนะนำคุณหมอให้รู้จักค่ะ !!! รุ่นน้องก็เป็นคุณหมอ และสามีรุ่นน้องก็เป็นคุณหมอ และคุณหมอคนนี้ก็เป็นคนดีมากๆ ใจเย็นอายุน่าจะเท่าๆกับเรา !! ไม่จุกจิกไม่มี Mode ฟรุ้งฟริ้ง(ก็แน่สินะ เป็นหมอนี่หน่า)
คุณหมอไม่มีแฟน เพราะทำงานเยอะ ต้องการคนที่เข้าใจและพร้อมจะเคียงข้าง

เพื่อนๆ ว่า "เราควรจะลองคุยกับคุณหมอไหม????"
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่